Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ตัวละครหลุดคาร์แรคเตอร์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
คือผมพยายามละ มันไม่เป็นธรรมชาติ จะไม่ช่วยก็ไม่เป็นไรครับ คือผมเข้าใจแหละ

คือด้วยความที่กำหนดมาให้เป็นคนเงียบๆ พระเอกผมเลยไม่ค่อยยุ่งกับใคร แล้วในสมัยเด็ก พ่อบุญธรรมก็ขอให้เด็กชายอีกสองคนมาเป็นเพื่อนช่วยดูแล แต่ผ่านไปสิบกว่าปีก็ยังไม่ค่อยรู้ใจกัน มารักกันก็ตอนโตครับ มันออกจะปุปปับไปหน่อย แบบ

พระเอกพูดกับเพื่อนคนแรกว่า เราไม่ใช่เพื่อนกัน ไม่เคยขอ อึดอัด อยากไปอยู่คนเดียวเงียบๆ แล้วพระเอกผมก็...

ฮาซิมปลีกตัวออกมาด้วยความรู้สึกอึดอัด เขาไม่ชอบอยู่กับคนอื่นๆ และใช่ ข่านคือคนแปลกหน้าสำหรับฮาซิม เพราะเขาไม่เคยมีเพื่อน และไม่รู้ว่าเพื่อนหมายถึงอะไรหรือมีไปทำไม เขาไม่รู้จริงๆ

แต่ความไม่รู้นั้นกลับทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมาตลอด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นั่นเป็นเพราะตัวของฮาซิมเอง ชายหนุ่มรู้ถึงความหวังดีของข่าน แต่ฮาซิมก็ไม่รู้ว่าจะปฎิบัติต่ออีกฝ่ายอย่างไรดี จนบางครั้งเขาก็ถอยออกมา ด้วยเผลอคิดไปว่าท่าทีตีสนิทของข่านนั้นเป็นการสร้างปัญหา ทั้งที่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ลึกๆ แล้วชายหนุ่มก็รู้สึกเจ็บปวดที่เขาไม่สามารถแสดงความรู้สึกออกมาได้ มันเจ็บปวดมากเสียจนบรรยายไม่ถูก

2. ก็เขียนจดหมายขอโทษ

"อะไรของเจ้าน่ะข่าน หน้าตาดูไม่ได้เลย" เป็นมูซานั่นเอง เขาคือชายรูปร่างสูงใหญ่แข็งแรง มีหนวดเคราหรอมแหรมเหมือนคนเถื่อน และพละกำลังของเขาก็มากพอที่จะเหวี่ยงข่านจนปลิว "หรือว่าเจ้ารู้ตัวว่ากำลังจะตาย? โอ้ไม่นะ ข้าดีใจจังเลย"

"..." ข่านเงียบ "ก็ฮาซิมน่ะสิ มีอะไรก็ในใจไม่ยอมพูดเลย แถมยังหนีข้าอีก นี่เราอยู่ด้วยกันจริงหรือเปล่า"

มูซานั่งลงข้างๆ ข่าน เหงื่อโทรมกายเพราะการฝึกดาบ "ช่างเถอะ เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าคำสั่งคือช่วยเหลือ ไม่ใช่ตีสนิท" มูซาตอบตรงๆ "ถ้าเขาไม่อยากเป็นมีใครก็ไม่ต้องมีสิ เขาอาจจะคิดว่าเราไม่มีค่าก็ได้ เจ้าก็รู้"

"สำหรับข้า สายสัมพันธ์ของพวกเราไม่ใช่เรื่องตลกนะ เราต่างเติบใหญ่มาด้วยกัน เจ้าพูดได้ยังไง!" ข่านขึ้นเสียง สำหรับเขาแล้ว สายสัมพันธ์เป็นเรื่องลึกซึ้งและมีความหมายมากที่สุด "เจ้าคิดว่าเขาไม่มีความรู้สึกหรือยังไง ข้าเชื่อนะ ว่าอย่างน้อยๆ เขาก็ต้องคิดอะไรบ้าง เขาอาจกังวลที่จะต้องแบกรับตำแหน่งลูกผู้นำภาคีจนไม่อยากพูดอะไรออกมาก็ได้ ทั้งที่เราคือพี่น้อง เรากลับช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย!"

"ข่าน ใจเย็น อย่าใช้อารมณ์" มูซาเสียงอ่อนลง "ขออภัย เมื่อครู่ข้าอาจจะพูดแรงไป"

"..."

"หืม? นั่นมันฮาซิมนี่" ข่านมองตามมูซา "เหลือเชื่อ เจ้านั่นกำลังเดินมาหาเรา"

ฮาซิมใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าของทั้งสอง จากนั้นก็นั่งลงกับพื้นหญ้าแห้งกรัง เขาไม่พูดอะไรออกมา แต่ส่งแผ่นกระดาษยับๆ ให้กับข่านและมูซาดู

'ข้าไม่ใช่คนพูดเก่งนัก แต่อยากจะให้เจ้ารู้เอาไว้ ข้าขอโทษกับสิ่งที่พูดออกไป นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าควรพูดกับ พี่น้อง ของตน อา...น่าอายจริงๆ ข้านี่มันไม่รู้อะไรเลย การเขียนคือทางเดียวที่จะบอกให้เจ้ารู้ได้

เจ้าคือพี่น้องคนสำคัญ ได้โปรด อย่าถือสาข้าเลย จากนี้พวกเรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้หรือไม่ เหมือนกับเราไม่เคยรู้จักกัน

ตั้งแต่วันที่ท่านอาจารย์บอกให้เราดูแลกันดั่งพี่น้อง เจ้าสองคนก็เคียงข้างข้ามาตลอดไม่ว่าจะเป็นสุขหรือทุกข์ยาก แต่ข้ากลับไม่เคยเป็นหนึ่งในพวกเจ้าเลย ซ้ำยังถอยห่างจากความหวังดีเสมอ ข้าอยากบอกให้รู้เหลือเกิน ว่ามันยากแค่ไหนที่จะบอกความรู้สึกออกไป และข้าก็ไม่รู้เลยว่าควรทำตัวยังไงกับพวกเจ้า เพราะแบบนั้นข้าจึงไม่อยากพูดอะไร

ข่าน ข้าเสียใจเหลือเกินเมื่อหวนนึกถึงสายตาของเจ้า แต่ข้าเองก็เจ็บปวดไม่ต่างกัน และมันทำให้ข้าตัดสินใจ ว่าต้องบอกกับเจ้าให้ได้ อย่าเสียใจเลยนะ

ข้าคิดว่าเราไม่ใช่เพื่อนกัน และไม่เคยเป็นมาตลอดสิบกว่าปี นี่คือคำสารภาพของข้า เราเพียงแค่ผูกพันด้วยคำสั่งและหน้าที่เท่านั้น

ทว่าจากนี้ ข้าจะถือว่าเราเป็นพวกเดียวกัน แก้ปัญหาด้วยกัน พึ่งพาอาศัยกัน แต่อย่ามาคุกคามข้านะ มันทำให้ข้าอึดอัดแปลกๆ'

"ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้ง...สหายข้า" ฮาซิมฝืนจนดูไม่เป็นธรรมชาติ "ข้าฮาซิม อิบึน อิบราฮิม"

"ยินดีที่ได้รู้จักอะไรเล่า เขียนซะวกวน แถมยังเขียนปิดได้ห่วยอีก ฮาๆ ข้าว่าแค่พูดก็เกินพอแล้วนะ" มูซาหลุดขำ ส่วนข่านก็ทำสีหน้าแปลกๆ ก่อนถูกร่างใหญ่ผลักจนตัวเอน "งั้นไปหาอะไรใส่ปากดีกว่า แบบนั้นพวกเราคงจะคุยกันง่าย"

"อืม ไว้ข้าจะฝึกเขียนความในใจให้มากขึ้น" ฮาซิมรับคำและลุกขึ้น ชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือให้ข่าน "มาด้วยกันสิ ไม่โกรธข้าใช่ไหม"

"ข้าไม่เคยโกรธเจ้า" ข่านจับมือตอบและดึงตัวเองขึ้น พอเจอแบบนี้เขาก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน "แค่ง่วงกับยานอนหลับของเจ้า"

"นึกว่ารอให้ข้าแบกเจ้าไปเสียอีก" มูซากล่าวติดตลก "เห็นด้วยกับคำว่ายานอนหลับ"

"ไม่ล่ะ เจ้าเก็บกล้ามเหี่ยวๆ นั่นไว้ดูเล่นเถอะ" ข่านกวน "แน่นอน ข้าพูดเก่งอยู่แล้ว ใครๆ ก็ชมข้าแบบนี้"

"ฮึๆ" ฮาซิมพยายามหัวเราะ แต่มันไม่แนบเนียนเอาเสียเลย "ตลกเหลือเกิน"

"ไม่ต้องฝืนหรอก เจ้าแค่ภาวนาให้เราเข้ากันได้ก็พอ" มูซาออกเดินนำ "และจงอย่ากลัวที่จะพูดเลย ฮาซิม มันไม่แย่หรอก เกิดวันนึงเจ้าหลงรักใครขึ้นมา ถ้าไม่พูดเขาก็ไม่รู้หรอก"

"นั่นสินะ...ข้าต้องพูดอยู่แล้ว ก็ทำตามอาจารย์บอกไปก่อน" ฮาซิมก้มหน้านิ่ง คอยเดินตามเพื่อนช้าๆ "ที่ข้าไม่พูดก็เพราะไม่อยากมีปัญหากับใคร แต่ข้าจะพยายามแล้วกัน"

"แล้วก็อย่าเชื่ออาจารย์ให้มาก ใช้สมอง เจ้าไม่จำเป็นต้องกลมกลืน" มูซาพูดตามประสาคนเถรตรง

"กล้าจังเลยขอรับ ข้าเริ่มถูกใจแล้วสิ บางทีการออกมาครั้งนี้ก็ได้อะไรดีๆ มากกว่าที่ข้าคิดนะ" ฮาซิมตอบ "คืนนี้ขอรบกวนทีนะขอรับ คืนนี้ไม่มีที่ให้นอนน่ะ"

"ไม่เบียดก็พอ" มูซาตอบ

"ไปกันเลย อย่าช้าล่ะ!" ข่านวิ่งผ่านทั้งสองไป จากนั้นมูซาและฮาซิมก็หยุดฝีเท้า "ใครไม่วิ่งเป็นหมัน!"

"ช่วยไม่ได้นะ...เจ้าไม่ควรท้าข้าเลย" ฮาซิมออกตัวด้วยความปราดเปรียว ดวงตาฉายแววซุกซน เพิ่มความเร็วจนไล่ทันข่าน "ข้าตามมาทันแล้วนะ ข่าน!"

"รอข้าด้วย!"

แสงตะวันที่สาดลงมายังหมู่บ้านร้อนแรงยิ่งขึ้น เหมือนกับเมฆหมอกในหัวใจของฮาซิมที่เริ่มผ่านพ้นไป

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

ปล่อยอึ่ง 4 มิ.ย. 62 เวลา 19:57 น. 2

ง่ายที่สุดคือการไม่ต้องกำหนดคาร์แรคเตอร์ จะเป็นยังไงก็ให้มันเป็นไป แล้วมันจะกลายเป็นคาร์แรคเตอร์ที่ "ยังไงก็ได้หรือเปล่าวะ" คราวนี้แหละ ยิ่งหลุดเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นตัวเองเท่านั้น


มันจะคล้ายๆ กับการเลียนแบบน่ะ หลายคนมองว่าการเลียนแบบก็คือการเป็นคนอื่น แต่เปล่าเลย ถ้าเขาเลียนแบบแบบนั้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วมันจะกลายเป็นตัวตนของเขา เขาคือคนที่ไม่ว่ายังไงก็ต้องเลียนแบบให้ได้ และไม่มีใครหน้าไหนสามารถเลียนแบบเขาได้อีกด้วย

4
เป็ดน้อยตัวนั้นช่างน่ากิน 4 มิ.ย. 62 เวลา 20:49 น. 2-4

ไม่ค่ะ เราหมายถึงที่ความเห็นสองเขาพิมพ์มา

ส่วนเนื้อหากระทู้ ถ้ากลัวหลุดคาร์ก็ลองเขียนออกมาหลายๆ แบบก็ได้ค่ะ แบบไหนเข้าท่าสุดก็เลือกอันนั้น



0
Gaoth 4 มิ.ย. 62 เวลา 20:47 น. 3

เป็นเรื่องดีนะคะที่มีการกำหนดคาแร็กเตอร์ชัดเจน ถถถ ตัวละครก็จะมีความเป็นตัวของตนเอง มีแนวทางที่ชัดเจน(เช่นว่ารสนิยม อะไรเทืองนี้) ส่วนเรื่องว่ามารักกันเลยปุบปับไปไหมอันนี้ต้องดูคาแร็กเตอร์อีกฝ่ายด้วยมั้งคะ ถ้าอีกฝ่ายเข้าใจตัวพระเอกดี อาจจะมองว่าเรียงความฉบับนั้นเป็นความพยายามอย่างหนัก(หรือเปล่า?)ของพระเอกในการจะเปิดใจรับตนเองเข้าไป และเริ่มคำนึงถึงความรู้สึกคนอื่นเป็นครั้งแรก


ไม่รู้ในคำแนะนำถูกเรื่องไหม เราว่าประมาณนี้แหละ ถถถ

2