(ขอคำแนะนำ)ถ้าเขียนด้วยมุมมองบุรุษที่ 1 แล้วต้องการซ่อนปม
ตั้งกระทู้ใหม่
รบกวนขอคำแนะนำค่ะ
9 ความคิดเห็น
ทุกอย่างที่ตัวเอกบอกเล่าออกมาไม่ต้องบอกสิ่งที่รู้ทั้งหมด กั๊กไว้บ้างก็ได้
อีกอย่างที่เล่นกันในฐานะผู้บรรยายคือ 'ผู้บรรยายที่ไม่น่าเชื่อถือค่ะ'
(แบ่งปัน) ทริคการเขียนหลอกผู้อ่านด้วย “unreliable narrator”
https://www.dek-d.com/board/view/3879687/
ผู้บรรยายเรื่องผู้ไม่น่าเชื่อถือ
https://www.dek-d.com/board/view/3920314/
น่าสนใจมากๆเลยค่ะคุณมิรัน เรือนแก้วก็กำลังลองเขียนแบบ pov1 พอดี น่าจะเก็บไปใช้ในตอนอื่นๆได้ :)
ขอบคุณนะคะ
ลองคิดตามก็รู้สึกว่ายากจังค่ะ 555
ลองเปลี่ยนมาใช้บุรุษที่สามดีมั้ยคะ ให้เป็นมุมมองของตัวเอกอีกคนไปเลยทั้งเรื่อง เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องราวใด ๆ และจะค่อย ๆ รู้ตามเรื่องราวที่ค่อย ๆ เฉลย
ผมชอบเรื่องที่เขียนอย่างตรงไปตรงมา อะไรที่ตัวเอกรู้คนอ่านต้องรู้ ที่ยอมรับได้ก็คือการเล่าเรื่องยังไม่ได้โฟกัสสิ่งสำคัญที่ต้องการปิดบัง หรือยังไม่แน่ใจ ยังสับสน
อย่างงานของ มินะโตะ คะนะเอะ เขียน คำสารภาพ น่าจะเป็นตัวอย่างแบบนั้นได้
https://www.amarinbooks.com/authorname/kanae-minato/
ให้พระเอกอยู่กับปัจจุบันครับ เลี่ยงการคิดถึงอดีต เพราะ เรื่องที่พระเอกรู้คืออดีต สำหรับผม POV1 เล่นลูกเล่นเชิงความลับได้เยอะมาก ครับ
(แต่งสด)นี่มันอะไรกันน่ะ? พลังอำนาจและแสงสีอันเย้ายวนนั่น แอปเปิ้ลแห่งอีเดน? ไอซู? ทั้งหมดนี่มันคืออะไรกันแน่ เขาปิดบังอะไรเราไว้!?
แอปเปิ้ลฉายแสงทองนวล พลังอำนาจซึมซาบเข้าสู่กายของฮาซิม กำลังวังชากลับมสเต็มเปี่ยมอีกครั้ง เครื่องจักรแห่งอดีตกาล คนแบบไหนกันที่สร้างมันขึ้นมา ชายหนุ่มสงสัย ทั้งวัตถึทรงกลมสีทองในมือ และภูมิปัญญากับความสามารถการชักพาหายนะของมัน
"ถ้าจำไม่ผิด มันคือสิ่งที่ท่านอัลตาอีรและเอซิโอ้ค้นหาสินะ ช่างน่ากลัวจริงๆ"
ไรงี้ครับ555
ส่วนตัวเคยเจอเรื่องหนึ่งคือ The Magic Thief ของ Sarah Prineas ค่ะ เรื่องนี้แนะนำจริงๆ สำหรับคนที่อยากเริ่มอ่านนิยายภาษาอังกฤษ เพราะภาษาง่ายๆ ตัวอักษรโต ประโยคไม่ยาว อ่านเข้าใจง่าย
พระเอกเป็นเด็กล้วงกระเป๋าที่มีอดีตเกี่ยวข้องกับเจ้าพ่อมาเฟียของเมือง
คนเขียนจะให้พระเอกบรรยายน้อยๆ บอกสั้นๆ แค่ว่า “ฉันไปหาเหยื่อที่อื่นไม่ได้ เพราะเจ้าพ่อออกประกาศจับฉันอยู่ ลูกกระจ๊อกของเขามีอยู่ทุกที่”
No luck that day for my quick, pocket-pick hands, and I hadn’t managed to filch my supper or a bit of copper to buy it with. I was hollow with hunger. I might have tried somewhere else, except that the Underlord had a word out on me, and his minions would beat the fluff out of me if they could.
-The Magic Thief, Sarah Prineas
พูดแค่นั้น แล้วมุ่งความสนใจไปที่เหตุการณ์ในเรื่องตอนนั้นแทน คือ พระเอกกำลังรอให้คนเดินผ่านมาจะได้ล้วงกระเป๋าเอาเงินไปหาซื้อข้าวกิน คนอ่านจะสงสัยนิดหน่อย ว่าทำไมเจ้าพ่อถึงประกาศจับพระเอก แต่ก็จะสนใจมากกว่าว่า พระเอกจะไปล้วงกระเป๋าใคร ดังนั้นเราก็ปล่อยให้เขาสงสัยแล้วก็ลืมๆ มองข้ามไปก่อน รู้แค่นี้เราก็ดำเนินเรื่องต่อไปได้แล้ว
ต่อมากลางเรื่อง พ่อมดที่เป็นเจ้านายของพระเอกก็ถามเรื่องแม่ของพระเอก
เราก็จะได้รู้เพิ่มว่าแม่ถูกเจ้าพ่อจับไปทรมานจนตาย พระเอกเลยต้องเป็นเด็กข้างถนน
“Luck and thievery didn’t raise you from a baby. Who did?”
Oh.
“My mother,” I said. (....)
“Well, boy? Tell me about her.”
And he called me nosy!
“Her name was Black Maggie,” I said. “She had black hair and black eyes, and she taught me how to pick locks.” (....)
“She’s dead?”
I nodded. Killed dead. Crowe had done it. Not himself, he paid minions to do it, to break Maggie’s legs so she couldn’t walk and then, after a while, she had died. I wasn’t going to mention Crowe to Nevery, though, because I didn’t want Nevery putting me and Crowe together in the same thought.
“How long ago?” Nevery asked.
-The Magic Thief, Sarah Prineas
ตรงที่เจ๊ดขีดเส้นไว้เป็นส่วนสำคัญที่บอกถึงนิสัยพระเอกว่า โคตรลึกลับ โคตรพูดน้อย ขนาดเจ๊ดต้องใส่ จุดจุดๆ หลายที่เพราะจริงๆ แล้วกว่าพระเอกจะพูด คือต้องโดนกระทุ้งให้พูดน่ะค่ะ แล้วขนาดนี้แล้วก็ยังกั๊กไว้อีกเพราะ ไม่อยากให้พ่อมดเนเวอรี่สงสัยแล้วถามซอกแซกจนรู้ความจริง แม้แต่กับคนอ่านก็แทบไม่ได้บอกอะไร พูดกั๊กๆ ถ้าต้องพูดก็เบี่ยงประเด็นไปมาจนเราได้รู้แค่ที่เขาอยากบอก ไม่ได้บอกว่าทำไมแม่ถึงโดนฆ่า ปล่อยให้งงกันต่อไป
ที่สุดยอดมากๆ ของเรื่องนี้คือ พระเอกเป็นคนโกหกไม่เป็นเลย ดังนั้นจะอาศัยการไม่บอก ไม่พูด เบี่ยงประเด็นซะมากกว่า ถ้าไม่ถามยิงตรงๆ แบบ เยส? โน? โกหกไม่ได้ จับเฮียไม่ได้หรอก 555+
พอถึงจุด climax ท้ายเรื่องโน่นเลย ถึงเฉลยแบบหักมุมโคตรๆ ว่าจริงๆ แล้ว พระเอกเป็นใคร
(นี่อยากบอกมากแต่เดี๋ยวสปอยล์ 555)
พูดง่ายๆ คือ เราสามารถทิ้งปม แล้วปล่อยให้คนอ่านสงสัยหรือปล่อยผ่านไปก่อน จากนั้นก็หยอดเพิ่มอีกทีละนิด จนกว่าจะถึงเวลาที่มันสำคัญกับพล็อต (ส่วนมากก็คือช่วง climax) จึงค่อยหักมุม เปิดเผยทุกอย่าง
การบรรยายแบบบุคคลที่ 1 สำหรับเจ๊ดรู้สึกว่ายากที่สุด เพราะ
1. ถูกจำกัดด้วยมุมมองของคนบรรยาย
2. ถ้า “เสียง” ของคนบรรยายไม่น่าดึงดูด เรื่องจะน่าเบื่อไปเลย ดังนั้นก่อนอื่นต้องรู้จักเสียงของตัวบรรยายเราก่อน ปกติเป็นคนช่างพูดมั้ย พูดยังไง พูดดีๆ หรือชอบเหน็บแนม หรือตลก?
อีกอย่างคือ ปกติคนเราคิดอะไรในหัว คงไม่คิดย้อนอดีตคร่ำครวญเป็นย่อหน้าตลอดเวลา เพราะเรารู้ของเราอยู่แล้ว ไม่ค่อยต้องบรรยายละเอียด บรรยายเยอะไปจะดูไม่สมจริง ยิ่งตัวละครที่มีปมในใจ ความทรงจำที่ไม่อยากนึกถึง อย่างพระเอกเรื่องที่ยกมา ยิ่งไม่พูดใหญ่ ดังนั้นเอาตรงนี้มาใช้ซ่อนปมของเรื่องได้ค่ะ
ส่วนตัวเจ๊ดเองยังไม่เมพถึงขั้นนั้นเลยใช้วิธีเปลี่ยนผู้บรรยายเป็นอีกคน เพราะขนาดเรื่องระดับดังขนาดนี้ ยังมีนักวิจารณ์บ่นเลยว่าพระเอกเจ้าความลับเกินไปจนดูน่าเบื่อเพราะไม่มีบุคลิกเลย ดังนั้นต้องเขียนอย่างระมัดระวังจริงๆ ค่ะตัวเอกแบบนี้
ลิ้งค์ของคุณคห 1 ค่อนข้างเคลียร์แล้วค่ะ เลยอยากแนะนำหนังสือที่ปกปิดข้อมูลได้ดีโดยเป็น POV 1 ค่ะ เรื่อง “The Murder of Roger Ackroyd” (ไม่แน่ใจชื่อแปลไทยเพราะหลายเวอร์ชั่นมาก) เป็นเรื่องสืบสวนของอกาธา คริสตี้ เจ้าของสายตา POV1 รู้ข้อมูลสำคัญของการฆาตกรรมแต่หลีกเลี่ยงที่จะบอกคนอ่านค่ะ
ภาษาไทยหน้าปกแบบนี้ค่ะ สนุกมาก เล่าผ่าน POV 1 อย่างแนบเนียน
คนเราสามารถโกหกใครก็ได้
คนเราสามารถเข้าใจผิดแล้วนำไปบอกต่อก็ได้
คนเราสามารถลืมเลือนหรือสับสนข้อมูลที่ถูกต้องแล้วบอกต่อแบบผิดๆ ก็ได้
ง่ายจะตายไปครับ
พูดถึงลืมแล้วพูดนี่ใช่ค่ะ บางคนพอผ่านหรือประสบเหตุการณ์บางอย่างกลไกป้องกันตัวเองจะทำงาน บางทีก็ลืมเรื่องนั้นไป แล้วอาจจะสร้างความเข้าใจผิดทับอีกทีค่ะ หนังฝรั่งหลานเรื่องก็มีเล่นจุดนี้ค่ะ ทำเอาคนเข้าใจผิด
เข้าใจผิดทั้งคนดูทั้งตัวละครเลยล่ะครับ
ทำไมนึกถีง "ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน" ตอนที่โคนันคิด แล้วก็..."อ๋อ มันเป็นแบบนี้สินะ" แต่ไม่ยอมคิดให้คนดูฟังต่อ ให้พวกเราค้างไว้แบบนั้น แล้วต้องไปตามดูเฉลยครึ่งหลัง
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?