[คุย]ผมไม่คิดจะขายนิยายตอนนี้เลยครับ
ตั้งกระทู้ใหม่
อีกอย่างนิยายที่เขียนก็เป็นเรื่องแรกด้วย อยากให้คนสามารถอ่านได้และติชมแบบฟรีๆมากกว่า
มีใครคิดว่า ไม่อยากจะขายนิยายตัวเองบ้างหรือเปล่าครับ? หรืออยากจะขาย แต่ไม่เคยขายมาก่อนบ้างครับ?
10 ความคิดเห็น
สำหรับคนมีงานประจำอยู่แล้ว และยอดผู้อ่านผู้ติดตามไม่ได้มากมายอะไร ขายไปค่ากาแฟแมงดาวสักแก้วจะได้ไหมนี่ ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องรีบขายค่ะ ว่างเมื่อไรค่อยทำ เพราะการรวมขายมันควรจะทำให้ดีมากกว่าอ่านฟรีอย่างน้อยคำผิดก็ควรจะมีให้น้อยที่สุด ไม่ใช่ขายไปแล้วเจอคนซื้อขอคืนเงินในความชุ่ยของงาน คำผิดบาน (ทำได้จริงๆ นะสำหรับ e-book) ยิ่งถ้าของนอก พล็อตห่วยแตกสามารถทำเรื่องคืนเงินได้ในกี่วันก็ว่าไปค่ะ
ส่วนเรื่องนิยายยังไม่ดีพอ ก่อนลงเราตรวจทาน 5-6 รอบค่ะ บางอันนี่ดองไว้นานก่อนจะลงจริง ถ้าไม่แน่จริงเราไม่ลงให้เสียชื่อค่ะ ดังนั้นเราก็มีความมั่นใจมาในระดับหนึ่ง
เราเป็นคนหนึ่งนะ ที่ไม่คิดจะเขียนนิยายขาย หรือแม้แต่ส่งตีพิมพ์เป็นเล่ม เพราะเรามองว่าการเขียนคือ 'งานอดิเรก' อย่างหนึ่งในชีวิตเท่านั้น
และอาจารย์ที่เรานับถือ ท่านเคยบอกว่า
"อย่าให้งานอดิเรกกลายมาเป็นงานประจำ เพราะคุณจะไม่เหลือสิ่งให้ทำยามว่างอีกเลย"
ซึ่งเราเห็นด้วยกับอาจารย์ในจุดนี้ คือเมื่อเรามองว่า เราเขียนเป็นงานอดิเรกนะ ไม่ได้เขียนเพราะอยากให้คนอ่านคนเมนท์เยอะๆ หรือเขียนเพราะอยากให้ตีพิมพ์เป็นเล่มนะ เจ้าพวกความกดดันทั้งหลาย เช่น กังวลว่าคนอ่านจะชอบมั้ย จะเมนท์ให้รึเปล่า ยอดวิวจะขยับหรือไม่ ความรู้สึกพวกนี้มันทำอะไรเราแทบจะไม่ได้เลย
มันก็มีที่เจ็บนิดๆ แต่เจ็บเสร็จก็จบ ไม่เก็บไว้เป็นตะกอนบั่นทอนจิตใจตัวเอง เพราะระลึกได้เสมอ ว่า...มันเป็นงานอดิเรกของเรา เราไม่ได้เขียนเพื่อให้ใครมารักมาชอบมาซื้องานเรา เราเขียนเพราะเราว่าง...เราอยากจะเขียน แค่นั้น
เป็นความสบายใจจนพาลจะพาให้ดองนิยายตามความสบายใจอีกแน่ะ โธ่ถังกะลังไห...
เรื่องที่เราเขียนเกินครึ่งให้อ่านฟรีค่ะ พอใจจะขายก็ขาย พอใจให้อ่านฟรีก็เปิดให้อ่าน ไม่มีอะไรต้องคิดมากนี่คะ
ถ้ารู้สึกว่ามันไม่ดีพอก็ให้อ่านฟรีไป แล้วมุ่งมั่นกับเรื่องใหม่ เรียกความมั่นใจให้ได้มากพอค่อยเปิดขายก็ได้ค่ะ
เรื่องขายเป็นสิทธิ์ของนักเขียนนะ
แรกเริ่มเราก็ไม่ได้จะตั้งจุดประสงค์ไว้เพื่อขาย แค่อยากเขียน
แต่ถ้าเขียนจบก็อยากได้เป็นงานอดิเรกได้เงินด้วยก็โอเค
มีความคิดแบบนี้เมื่อไหร่ก็เปลี่ยนจุดประสงค์ได้ค่ะ
เพื่อไม่ให้คิดว่าทำอะไรเสียเปล่าด้วย
มีคนที่เราเคยเจอ ด่านักเขียนทำไมชอบทวงคอมเม้นต์ ปัจจุบันเขาก็ยังกระตือรือร้นที่จะเขียนนิยายขายจัดจ้านเลยค่ะ 5+55555555+
งานเขียนคืองานอดิเรกในตอนแรกค่ะ
ภาษาเขียนเราเองก็ไม่ได้ดีด้วย ไม่ใช่ว่าไม่พยายามนะคะ แต่เราทำงานประจำ ต้องอ่านงาน คิดงาน คือเหนื่อยกับการใช้สมอง มาแต่งนิยายเลยขอแบบพักผ่อนสบาย ๆ เถอะพลีสสสส
ผู้อ่านจะชอบหรือไม่ชอบก็สุดแล้วแต่เพราะเรื่องเราเปิดให้อ่านฟรี รับฟังคำติชมมาเอามาแก้ไข
พอเพื่อนชวนให้เอานิยายของเราแปลเป็นจีนแล้วไปเปิดขายเป็นตอน ๆ ฝั่งโน่นเราก็เออดีเหมือนกันอยากลองดู เพราะเพื่อนก็จะช่วยดูภาษาให้ส่วนหนึ่ง หากโอเคก็จะแบ่งกันอะไรอย่างนี้ค่ะ
เราแต่งของภาษาจีนไปได้ ๘ บท ไมเกรนบุกถี่มากจ้า
ดีที่ยังไม่เอาไปลงค่ะ
พอไมเกรนขึ้นต้องไปหาหมอซื้อยามาอีก โชคดีที่เราไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายไม่งั้นคงสลบไปเลยค่ะ
สุดท้ายกลับมาตายรังคำว่า งานเขียนคืองานอดิเรกดีกว่า เราทำสบาย ๆ ไม่เร่งตัวเอง เพราะเราไม่ได้หวังเงินจากตรงนี้และไม่คิดส่งสำนักพิมพ์ ส่งไปก็คงโดนปฏิเสธค่ะฮ่า ๆ
ทุกเรื่องที่เราเขียน เราอยากเห็นเป็นเล่ม เราอยากวาดปก ส่วนจะขายได้หรือไม่ได้ก็เป็นผลพลอยได้อีกที แต่ก่อนอื่นเลยก็ต้องไปเขียนให้จบก่อน 555
จริงค่ะ เอาง่ายๆ สนองนี๊ดตัวเองว่าฉันอยากเห็นมันในรูปแบบหนึ่งน่ะค่ะ แถมเวลาวาดปกเองจะดีใจเป็นพิเศษ
ดั่งใจต้องการ อิๆ กิเลสล้วนๆ
กำลังคิดอะไรแบบนี้อยู่เหมือนกัน
อย่าว่าแต่คุณภาพไม่ดีพอที่จะเปิดขายเลย
แค่จะอัพเดตลงเว็บนี่ก็คิดแล้วคิดอีก
เรื่องอยากที่ไม่คิดจะขายเพราะพึงพอใจกับการเปิดให้อ่านฟรี มันก็เป็นความตั้งใจที่ดีของนักเขียน
ส่วนประเด็นที่ไม่คิดจะขายเพราะงานยังไม่ดีพอ อันนี้คิดว่าก็พยายามขัดเกลางานเขียนไปเรื่อยๆ ได้นะคะ ไม่มีใครเขียนต้นฉบับร่างแรกแล้วมันออกมาดีไม่มีที่ติหรอก เขาก็ต้องรีไรท์ซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่อยากจะบอกให้ท้อ มีเพื่อนนักเขียนท่านหนึ่งใส่ใจกับคุณภาพของชิ้นงาน อ่านทวนงานทั้งเล่มไม่ต่ำกว่า 50 รอบ คำผิด คำซ้ำ คำซ้อนไม่มีเหลือในเลย สำนวนก็ตัดหั่นสั้นกระชับ นิยายของเขาอ่านสนุกลื่นไหลมากค่ะ...พี่ทำไม่ได้อย่างเขานะ 25 รอบพี่ก็คงนิพพานไปแล้วล่ะ 555
พี่ก็เป็นคนหนึ่งที่ยังไม่เคยขายงานตัวเอง ไม่ใช่เพราะไม่อยากขายค่ะ แต่เพราะรู้สึกว่ายังไม่พอใจผลงานตัวเอง ถ้าเราที่เป็นนักเขียนยังไม่พอใจผลงาน มันยังต้องปรับยังต้องแก้ไขจนได้ระดับมาตรฐานที่ตัวเองยอมรับได้ก่อน ถึงตอนนั้นก็จะขายค่ะ
เขียนต่อไปเถิด...สู้ๆ นะคะ
เราไม่เคยคิดที่จะขายเลยฮะ เพราะรู้สึกว่านยายที่เขียนคุณภาพมันยังไม่ดีพอที่จะขายให้ใครอ่านได้ฮะ เอาง่ยๆคือนิยายที่เราเขียนมันกากเกินไปที่จะขายฮะ
เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกแบบนั้นครับ...
ก่อนหน้านี้ผมก็ชั่งใจอยู่นานว่านิยายเกมออนไลน์ภาคสุดท้าย (ไตรภาค) เขียนแล้วจะเปิดแพ็คขายดีมั้ย? เพราะถ้ามองย้อนไปสองภาคก่อนหน้าก็เปิดให้อ่านฟรีมาเยอะแล้ว คุ้มค่าสำหรับคนอ่านแล้ว ผมมองว่าอย่างนั้นนะ...
สุดท้ายเลยตัดสินใจว่าภาคสุดท้ายนี้ก็จะเปิดให้อ่านฟรีเช่นเดิม แต่ผมจะใช้เวลาในการฟูมฟักมันมากขึ้น ตั้งใจเขียนให้มากยิ่งขึ้น เอาให้อยู่ในระดับที่เปิดขายได้ไม่อายใคร และขอดูกระแสตอบรับว่าดีหรือไม่ดี ถ้ามันดีจะได้เขียนเรื่องถัดไปด้วยคุณภาพที่ใกล้เคียงกันแล้ววางขายได้อย่างสบายใจ (ฮา)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?