Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขอระบายความรู้สึกของตัวเอง เมื่อแม่ไม่เข้าใจ และอยากให้เราติดแพทย์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรานะคะ เราเป็นเด็กม.6 สายวิทย์คณิต (Dek63) อีกไม่กี่เดือน..ต้นปีหน้า เราก็ต้องเตรียมสอบ o-net / 9 วิชาสามัญ / GATPAT และถ้า เราผ่าน O-net 60% ทุกวิชาเราต้องสอบ กสพท. และอย่างแรกเรา เราไม่ได้เรียนเก่ง ก่อนหน้านี้เราเละเทะมาก เราพึ่งมาคิดได้ตอนม.6 เรามีความเครียดกับตัวเองสูงมาก โดยเราจะขอเล่ารายละเอียดนะคะ อาจจะยาวไปหน่อย หรือ ออกทะเล นะคะ คือ เราโดนกดดันจากครอบครัว ญาติ เพื่อน และ ตัวเอง ความจริงเราชอบศิลปะ และ คอมพิวเตอร์ แต่เราก็คิดว่าเอาไว้ทำเป็นอดิเรก อยากเรียนพวกทางด้านคอมพิวเตอร์ แต่พอไปบอกที่บ้าน ที่บ้านไม่เข้าใจเรา คุณพ่อบอกว่าอยากเรียนอะไรก็เรียนไปเถอะ แต่คุณแม่อยากให้เข้าแพทย์ คุณแม่กำหนดเส้นทางชีวิตมาให้เราเดินตามแล้ว บอกว่า แพทย์เงินเดือนดี แถมจะได้ไม่โดนญาติดูถูก เพราะที่บ้านเราฐานะปานกลาง แต่ญาติคนอื่นๆฐานะร่ำรวย เวลาไปพบญาติในงานต่างๆก็จะชอบมีหัวข้อบทสนทนาในการอวดลูกสาวอวดลูกชาย ซึ่งเราในตอนนั้นไม่ได้เรียนดี แต่ก็ไม่ถึงขั้นแย่ อยู่ในปานกลาง แต่ญาติเขาได้เกรด4ทุกตัว ชอบมาคุยกับแม่ แม่เราก็จะเครียด เพราะ ลูกตัวเองทำไม่ได้แบบนั้น เมื่อ กลับบ้านมาก็จะมากดดัน เล่าให้เราฟัง ชอบมาเปรียบเทียบลูกคนอื่นๆที่เรียนดีให้เราฟังบ่อยๆ ทำให้เราท้อ เรารู้สึกว่า แต่ละคนความสามารถ ความถนัดไม่เหมือนกัน ทำไมถึงตัดสินที่เกรด ทั้งที่เรียนคนละสายการเรียน คนละรร. ด้วยซ้ำ บางรร.ก็ปล่อยเกรด บางรร.ก็กดเกรด ไม่เห็นจะมีความเท่าเทียมกันตรงไหน บางคนอาจจะถนัดวาดรูป มากกว่า วิชาการก็ได้ เราไฟต์เรื่องนี้กับที่บ้านตั้งแต่ม.4 ก็ยังแพ้อยู่เหมือนเดิม แต่สมัยก่อนเราติดเล่น ติดเพื่อนไม่มีกระจิตกระใจในการอ่านหนังสือ ซึ่งมองดูตัวเองตอนนั้นก็รู้สึกเลยว่าเป็นคนที่เละเทะมาก แต่พอมาปัจจุบันเราก็เปลี่ยนตัวเอง เปลี่ยนความคิด และ ทะเลาะกับเพื่อนจนเรามีกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดิม แต่ เรารู้สึกไม่สนิทเหมือนเมื่อก่อน ด้วยความที่ว่า เรารู้สึกว่าเพื่อนๆเราหลายคนดูความคิดเด็ก (โกรธตัวเองจริงๆไปว่าเขาแบบนั้นได้ไง!) เพราะว่า ด้วยความที่เราไม่มีความรักกับใครอยู่แล้ว เราไม่เคยมีแฟน เวลาเพื่อนมาพูดเรื่องนี้ เราก็จะเมินๆไปเลย เพราะ เรารู้สึกว่า ทำไมถึงรีบมีกันจัง มันยังไม่ถึงวัยสักหน่อย แถมบางทีเราก็ให้คำปรึกษาอย่างดิบดี แต่ไม่นานเพื่อนก็ไปชอบคนใหม่ วนลูป จนเรารู้สึกว่า ทำไมไม่เอาเวลาไปตั้งใจเรียน? เอาเวลาไปซื้อของให้ผช.ทำไม ทำไมไม่เอาเงินนั้นเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็น หรือ ซื้อของี่ตัวเองอยากได้ แถมมาบอก ชอบเขา รักเขา แต่ไม่นานก็เปลี่ยนคน ทำให้เรามีความผิดใจกับเพื่อนในเรื่องนี้บ่อยๆ นอกจากนั้นก็ยังมีด้านงานกลุ่ม ที่เวลาเราแบ่งหน้าที่ แต่กลับไม่มีใครทำและมาโยนงานให้เราทำคนเดียว ทำให้เราเครียดเรื่องงานกลุ่มเช่นกัน ตั้งแต่ม.4จนถึงปัจจุบัน ทำให้เราเลิกเปิดใจให้เพื่อนๆ เลิกไปเที่ยวกับเพื่อนในวันหยุด หรือ คุยกับเพื่อนเล่นเกมกับเพื่อนในเวลาว่างของวันหยุด แต่ในวันหยุดเราจะอยู่กับครอบครัวแทน เพราะที่ผ่านมาเวลาเราท้อ เราเครียด เราทะเลาะกับเพื่อน คนที่คอยอยู่กับเราในยามเราท้อ และ ยามต่างๆ คือ พ่อกับแม่ ที่เราไฟต์ และ ดื้อมาจนถึงทุกวันนี้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ ม.6 เราเปลี่ยนตัวเอง ความคิดเราดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นในบางครั้ง แต่เราก็เปลี่ยนไป สำหรับเรา เราไปโรงเรียนเพื่อเรียนเท่านั้น ไม่เคยคิดว่า อยากจะเจอเพื่อนอีกเลย แต่ก็มีเพื่อน ยังมีสังคม ตามปกติ แต่แค่เราจะคุย รู้จักอย่างพอประมาณ ไม่เล่าอะไรมากจนเกินไป อาจจะแค่คุยสนุกเฉยๆ ทำให้มีคนต่างบอกว่า เมื่อก่อนเราร่าเริง แต่เดี๋ยวนี้ดูเป็นคนเงียบๆ ซึ่งเราก็คิดว่าเดี๋ยวนี้เราเงียบ เรายิ้มน้อยลง แต่เราก็ยังคงเฮฮากับพ่อแม่ครอบครัวอยู่เหมือนเดิม เราเคยไปปรึกษากับอาจารย์ว่า แม่อยากให้เรียนแพทย์ แต่เราไม่รู้ว่าจะลองดีไหม เพราะตอนนี้เราก็ไม่ได้อยากเข้าคณะไหน (เมื่อก่อนเราไฟต์กับแม่ แม่จะบอกว่ามันไม่ดี บลาๆ เราเลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะเข้าคณะพวกนั้น + เราไม่เด็ดขาดพอทำให้เราเปลี่ยนใจง่ายตามที่คุณแม่บอก) อาจารย์เลยบอกว่า ในเมื่อเราเข้าสายการเรียนวิทย์คณิตเพื่อแม่ แล้วทำไมถึงไม่ลองเข้าแพทย์ให้แม่ดู ตั้งแต่นั้นเราเลยตั้งใจว่าจะต้องสอบติดแพทย์ให้ได้ เพื่อพ่อแม่ แต่เราก็กลัว เพราะ เราเรียนได้แค่ปานกลางๆในห้อง ไม่กล้าบอกใครอีกว่าจะสอบแพทย์ เพราะเราเคยบอกคนอื่นๆว่าจะลองแพทย์ดู แต่ก็จะมีแต่คนบอกว่า ไม่ติดหรอก อย่าพยายามเลย หรือไม่ก็มาหัวเราะเยาะเรา แล้วบอกว่า ถ้าไม่ใช่หัวกระทิในห้องก็อย่าหวังเลยว่าจะติด ทำให้เราเครียด และ กดดันตัวเองมากขึ้นกว่าเดิม จากคนไม่ค่อยอ่านหนังสือ กลายเป็น คนที่วันๆเอาแต่อ่านหนังสือ ลบเกมในคอมพิวเตอร์ และ โทรศัพท์ทิ้งให้หมด เพราะ กลัวว่าจะกลับไปติดแล้วเสียการเรียน นอกจากนั้น เราไม่ได้เรียนพิเศษ เพราะ การเรียนพิเศษมันแพงเกินไป เราไม่อยากให้พ่อแม่เราต้องมาจ่ายค่าใช้จ่ายด้านนี้ เราจึงต้องคอยขยันอ่านเอง เวลาเรียน ถ้าไม่เข้าใจเรามักจะไปห้องพักครู ถามอาจารย์ให้อาจารย์ช่วยสอน และ กลับบ้านมาเราก็จะเอาแต่อ่านหนังสือจนถึง ตี1-2 ถ้าวันหยุดเสาร์อาทิตย์ เราก็จะอ่านยันตี3 แต่ถ้าไม่ไหวง่วง เราก็จะนอนแล้วตื่นมาตี4อ่านหนังสือ 6โมงไปรร. ก็มี พอสอบเก็บคะแนนเราก็จะดีใจว่าตัวเองคะแนนดีขึ้น พ่อแม่ก็จะคอยชม พออ่านมาถึงตรงนี้อาจจะแบบ มาตั้งกระทู้ทำไม ก็ดีอยู่แล้วนิ? แต่มันหลังจากนี้ค่ะ คือ บางทีคะแนนเราไม่ได้เต็ม อีก 1-2คะแนน เราก็จะโดนว่า บอกว่าไม่ตั้งใจเรียน เวลาเราอ่านหนังสือที่บ้านก็มักจะโดนใช้นู่นนี่ บางทีก็ไม่มีสมาธิ พอจะไปอ่านที่อื่นก็จะโดนว่าหาว่า ออกไปเที่ยวเล่นวันๆไม่อ่านหนังสือ เราไม่มีห้องส่วนตัว เรานอนรวมกับพ่อแม่ เราเลยจะอ่านตรงห้องนั่งเล่น แต่เวลาตกดึก พ่อแม่ก็จะอยู่ข้างบนเขาไม่เห็นว่าเราอ่านหนังสือ พอแม่โดนทักว่า เนี่ยวันๆลูกไม่อ่านหนังสือหรอ ไม่เห็นแชร์เกี่ยวกับการเรียน แชร์แต่อนิเมะในเฟส แม่เราก็มาด่าหาว่า เราไม่อ่านหนังสือ แล้วมันอยู่ในจุดที่เราท้อแท้ และ เศร้าง่ายมาก เราเลยรู้สึกเหมือนมีอะไรมาแทงใจเรา เพราะประโยคนั้น พอแม่เห็นเราร้องไห้ แม่ก็จะด่าเราว่า สำออย ตอแ-ล และคำหยาบอื่นๆอีกมากมาย เราเริ่มรู้สึกท้อ จนล่าสุด เราอ่านหนังสืออยู่ แม่ก็เห็น แต่เขาบอกว่า วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่นั่งเล่นไปวันๆ คือเราร้องไห้เลย เรารู้สึกว่าที่พยายามมามันไม่มีค่า การที่อ่านหนังสือแทบตาย แต่โดนบอกว่า นั่งเล่นเกมเอย นั่งเล่นเอย หรือ ออกไปเที่ยวเล่นตอนที่เราไปอ่านหนังสือนอกบ้านเอย เรารู้สึกท้อมากอ่ะ ในเมื่อเราอยากให้เขาภูมิใจ อยากให้เขาเอาคะแนนเราไปอวดให้ญาติคนอื่น อยากติดแพทย์ เพราะ แม่จะได้ไม่ต้องโดนญาติดูถูก แต่เหมือนแม่เราทำให้เราเศร้าตลอดเวลา เรารู้สึกไม่เหมือนเดิม เราแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ แต่เราก็รู้ดีว่า เราต้องอยู่เพื่อพ่อแม่ เขาอุส่าห์ส่งเสียมาตั้งเท่าไร เลี้ยงดูมาตั้งเท่าไร แต่เรายังไม่ได้ดูแลเขาเลย ยังไม่ได้ตอบแทน ทำให้เรามีชีวิตต่อจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าเราจะโดนด่าว่า ขีเกียจ วันๆไม่ทำอะไร ทำตัวไร้สาระ ไม่มีใครเขาใจเขา บลาๆทั้งหลาย แต่เราก็ยังสู้ต่อไป แต่ณ.วันนี้ วันที่เราตั้งกระทู้ คือ เราไม่ไหวแล้ว เราโดนแบบนี้มาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นแล้วด้วยซ้ำ มันยังมีมากกว่าที่เราตั้งกระทู้ เรารู้สึกไม่ไหว ท้อแท้ อยากให้พ่อ และ แม่เข้าใจ แต่เขาก็ไม่เคยเข้าใจเลย เราลองไปอธิบายไม่ว่าจะยังไงเขาก็จะหาว่าเถียง นอกจากนั้นทุกครั้งที่ทะเลาะอารมณ์เหมือน พ่อแม่ไม่มีสิทธิผิด ต้องถูกเสมอ ฝ่ายลูกเท่านั้นที่ผิด ทั้งที่บางทีมันก็ไม่ใช่เลย เราไปอธิบาย(ไม่ได้ตะคอกนะคะ น้ำเสียงเรายังปกติอยู่) เขาก็ไม่เข้าใจเรา จนเราเลิกอธิบาย เขาจะคิดยังไงก็คิด เราเลือกที่จะเงียบ แต่พอเราโดนทุกครั้งๆ เราก็เหมือนจะเก็บกด ตั้งเป้ากับตัวเองไว้สูงว่า ไม่เป็นไร ถ้าเราสอบติด แม่ต้องเข้าใจเราแน่ๆ ชีวิตมันต้องดีกว่านี้ เราจะไม่ต้องโดนกดดัน แต่เรื่อยๆเราไม่ไหวเลยมาขอตั้งกระทู้ระบายนะคะ ;w; เครียดจนปวดหัวบ่อยๆ บางทีก็อ่านหนังสือจนไปเรียนไม่ไหวก็มี...

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

อังคาร 13 ก.ค. 62 เวลา 08:31 น. 1

คิดผิดแล้วนะ ติดแพทย์ไม่สำคัญเลย อย่าเรียนเพื่อแม่ ให้เรียนเพื่อตัวเอง เราต้องอยู่กับเราไปทั้งชีวิต เรียนหนังสือไม่ใช่เรื่องสนุก ยิ่งเรียนในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ชอบจะยิ่งเหนื่อยจนหมดแรง แม่จะกดดันอย่างไงก็ไม่ต้องสนใจ อนาคตเราสำคัญกว่า พอน้องโตเป็นผู้ใหญ่กว่านี้จะเข้าใจ เลือกใหม่เหอะ

0
Ttt 17 เม.ย. 64 เวลา 07:29 น. 2

สู้ๆนะคะ ที่บ้านเราก็เป็นเหมือนกันกดดันมาก เป็นกำลังใจให้น้าาา

0