เกิดอาการโฮมซิค แล้วรู้สึกว่ามันไม่ไหวแล้วจริงๆ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
11 ความคิดเห็น
พ่อแม่โอเค ก็กลับไปดีกว่าค่ะ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจ แบบหาทางออก หรือตกผลึกว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร แนะนำให้โทรสายด่วนสุขภาพจิต หรือหาจิตแพทย์ก่อนค่ะ แล้วค่อยหาคำตอบต่อไป ไม่ต้องกลัวทางตัน เพราะพ่อแม่เราโอเคอยู่
ขอบคุณค่ะ
ลาออกทันทีครับ แล้วเตรียมดูหนังสือเลย
ชีวิตจะมีความสุขทันที ไม่งั้นเดี๋ยวจะเป็นโรคเครียด วิตกกังวล ฟุ้งซ่าน
ตามด้วยซึมเศร้า นอนในหอก็หลับตาไม่ลง จนหลับไปเองแบบตัวแข็ง ๆ ทุกคืนครับ
เครียดและจิตตกมากค่ะตอนนี้ หาอะไรฮีลตัวเองแล้วก็ไม่ดีขึ้นเลย คิดว่าถ้ากลับบ้านไปคงจะมีความสุขกว่านี้
พี่แนะนำให้น้องซิ่วนะคะ นอกจากจะเป็นปัญหาเรื่อง homesick แล้ว เรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนก็สำคัญเช่นกัน น้องบอกว่าเป็นหลักสูตร inter ใช่ไหมคะ? ถ้าค่าเทอมมันเกินกำลังที่ครอบครัวจะจ่ายไหว พี่ว่าเรามาแก้ไขดีกว่า ทางเลือกที่ดีอีกทางนึงก็คือ ลาออกเพื่อมาสอบใหม่
ส่วนเรื่องกลัวที่บ้านผิดหวัง พี่ว่าคงไม่น่ามีปัญหานะคะ เนื่องจากน้องบอกเองว่าพ่อแม่ก็โอเค ถ้าจะกลับไปเรียนแถวบ้าน ฉะนั้นน้องต้องกล้าที่จะยอมรับความจริง แล้วมาวางแผนเริ่มต้นใหม่ค่ะ
ปัญหาของน้องตอนนี้ อยู่ที่ "กลัว" หรือ "กล้า" เท่านั้นเอง กล้าที่จะตัดสินใจมาเริ่มใหม่แล้วไม่ทำให้ทางบ้านเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายมากนัก แล้วน้องเองก็จะมีความสุขขึ้นด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ หนูต้องคุยกับที่บ้านแบบจริงจัง เพราะตอนนี้ไม่มีความสุขเลย
เราก็เป็น เราเป็นเด็กใต้ที่ไปเรียนที่กรุงเทพเเต่อยู่ได้ไม่นาน เราไม่โอเคเลย เป็นแบบนี้เเหละโฮมซิก อยากกลับบ้านร้องไห้ตลอด ไม่ค่อยคุยกับเพื่อนๆ กังวล เราไม่ค่อยโอเคกับเรื่องสังคมด้วยเพราะเราเป็นมุสลิม เพื่อนๆก็คุยอะแหละแต่เรารู้สึกอึดอัดมากๆ เราเลยตัดสินซิ่ว เเล้วกลับบ้านทันทีเลย ก็โอเคมากกว่าเดิม แต่ก็มีความกังวลว่าเราจะติดไหมนี่สิ ตอนนี้เครียดมาก
สังคมอยู่ยากด้วยสำหรับเรา คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก เราไม่ค่อยเหมือนคนอื่นด้วย เรา/ม่ค่อยพูด สู้ๆไปด้วยกันนะ
เราเป็นคนใต้ได้โควต้าเชียงใหม่มันไกลมากๆต้องเผชิญอะไรคนเดียวและเราก็ทนสังคมที่นั่นไม่ได้เราเลยต้องซิ่วกลับมาเรียนแถวบ้านถามว่าเสียดายไหมก็เสียดายนะแต่คือมันไม่ไหวอะไรหลายๆอย่างเรากลับบ้านได้แค่ปีละครั้งคิดถึงบ้านสุดๆ เลยมาเรียนแถวบ้านเริ่มต้นใหม่ตอนดรอปใหม่ๆเราเหมือนเป็นโรคซึมเศร้้าเลยหล่ะคิดมากไปหมด
ถ้าอยู่ที่ไหนเราสบายใจมันจะดีกว่านะ พี่ว่า
น้องซิ่วแล้วหาที่เรียนใหม่ดีกว่าเอาที่ไม่เกินกำลังครอบครัวเกินไปและเป็นสิ่งที่น้องอยากเรียน สู้ๆ
ครั
เราก็มาเรียนไกลบ้านเหมือนกัน เข้าใจเลยย เรากำลังขึ้นปี2 ตอนปี1เศร้ามากโทรไปร้องไห้กับบ้านทุกวัน นอนก็ไม่ค่อยหลับ แต่มันจะค่อยๆดีขึ้นนะ เราอาศัยพยายามกลับบ้านถ้ามีเวลา แล้วก็คอลหาที่บ้านบ่อยๆ นึกถึงอนาคตแล้วก็คนที่อยู่ข้างๆเราไว้ แต่ถ้ามีปัญหาด้านการเงินเราก็ว่าซิ่วอาจจะเป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากโฮมซิกแล้วก็จะเครียดเรื่องเงินด้วย ถ้าพ่อแม่เข้าใจเราว่าก็ซิ่วเลยไม่ต่องกลัวเค้าผิดหวังหรอก เรามีทางเดินตั้งหลายทาง ทางที่เลือกใหม่อาจจะดีและมีความสุขกว่าก็ได้ สู้ๆนะคะ ส่งกำลังใจให้ค่ะ
เรามีอาการโฮมซิคตอนย้ายจากบ้านไปอยู่หอแรกๆ คือร้องไห้ คิดถึงบ้าน คิดถึงคนที่บ้าน แต่เราใช้วิธีกลับบ้านบ่อยๆ ไม่อยู่ห้องตลอดเวลา ไปกับเพื่อน ไปกินข้าวนอกห้อง เรียนเสร็จก็ไม่กลับห้องทันที เราดีขึ้นจนหายจากอาการโฮมซิคเลยค่ะ
อยากบอกว่าเราเป็นแบบนี้เลยค่ะ ติด ม.ในกรุงเทพ แต่พออยู่หอแล้วคิดถึงบ้านมากกกโทรไปร้องไห้กับแม่ และบวกกับรู้สึกเรียนไปแล้วมันไม่ใช่ เลยขอพ่อกับแม่ซิ่ว ก็ทะเลาะกันตามระเบียบ แต่สุดท้ายเขาก็ยอม ตอนนี้เราเรียนแถวบ้าน มีความสุขมาก จขกท ลองคุยกับพ่อแม่ดูนะคะถ้าไม่ไหวจริงๆ
ตอนเข้าหอใหม่ๆเราก็โฮมซิกนะ คือเราเป็นเด็กเหนือแล้วเข้ามาเรียนในกทม.เรารู้สึกว่าสังคมมันต่างจากที่บ้านเรามากเลย ทั้งรถติด ต้องตื่นเช้ามากๆเพื่อรอรถไปเรียน จนร้องไห้โทรหาแม่ทุกวันแบบไม่ไหวแล้วอยากกลับบ้าน แต่พอเปิดเทอมอาการพวกนี้ก็หายไปเฉยเลย พอเริ่มมีเพื่อนก็เริ่มรู้สึกสนุกขึ้น พวกเรื่องรถติดนี่ก็คือรู้สึกปลงไปละ ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นภายในสองสัปดาห์ 5555 ที่เล่ามาก็ไม่มีอะไรก็อยากให้จขกท.ลองพยายามปรับตัวอีกซักครั้งนึง ถ้ามันไม่ได้จริงๆก็กลับบ้านไปชาร์จพลังเถอะเนอะ สู้ๆจ้า
ตอนแรกเห็นหัวข้อนึกว่ากรณีเดียวกับพี่ซะอีก ถ้าเป็นเรื่องโฮมซิคนะ ตอนย้ายไปอยู่หอแรกๆพี่ก็เป็น ร้องไห้อยากกลับบ้านก็หลายครั้ง พี่เป็นคนติดบ้านด้วยแหละ แล้วพี่ก็แก้ปัญหาด้วยการกลับมันทุกอาทิตย์เลย แรกๆมันก็เหนื่อยหน่อยนะเพราะมันเป็นการเปลี่ยนแปลงของชีวิตจากเด็กน้อยที่อยู่กับครอบครัวตลอด ต้องมาเผชิญโลกที่กว้างขึ้น แต่พออยู่สักพักเราก็จะปรับตัวได้เองจริงๆนะ ปีสองถึงปีสี่นี่นานๆกลับบ้านทีเลย เพราะในกรณีกลับกันพอเราอยู่หอนานๆ เราจะรู้สึกเป็นอิสระมากกว่า ถ้าเป็นแค่กรณีโฮมซิคพี่ว่าอยากให้ลองปรับตัวดูก่อน
แต่พออ่านทั้งหมดที่มีเรื่องค่าเทอมมาด้วย จริงๆพี่คิดว่าเรื่องพวกนี้น่าจะคำนวนก่อนที่จะตัดสินว่าจะเรียนที่นี่แล้ว เพราะค่าใช้จ่าย ค่าเทอมและเวลาทั้งหมดที่เสียไปแล้วมันเอาคืนไม่ได้ ถึงมีเวลาน้อยแต่ก็อยากให้คิดดีๆก่อนจริงๆ อันนี้แนะนำไปเผื่อถึงคนอื่นๆด้วย ยิ่งเรื่องค่าใช้จ่ายยิ่งต้องคำนวนดีๆ ว่าที่บ้านไหวมั้ย ต้องกู้เรียนหรือทำงานไปด้วยหรือเปล่า ตอนนี้ก็อยากให้น้องคิดดีๆก่อนจะตัดสินใจอะไร อย่างแรก สิ่งที่น้องเรียนอยู่น้องชอบหรือเปล่า ถ้าคำตอบคือไม่ ไม่ว่าจะมีเงินเรียนหรือไม่มีพี่ก็อยากให้น้องซิ่วไปเรียนสิ่งที่ชอบมากกว่า แต่ถ้าชอบ ก็ต้องถามต่ออีกว่าชอบขนาดไหน ชอบขนาดจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เรียนหรือเปล่า มีเพื่อนพี่หลายคนที่ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย พี่คิดว่าถ้าเราชอบและอยากเรียนจริงๆ เราจะยอมเหนื่อยกว่าคนอื่น แต่จากที่พี่อ่านพี่คิดว่าน้องอาจจะไม่อยากเรียนที่นี่แล้วหรือเปล่า? ถ้าเป็นแบบนั้นพี่ว่าซิ่วไปเรียนสิ่งที่ชอบอาจจะดีกว่า
พี่คงแนะนำอะไรไม่ได้มาก เพราะไม่รู้ว่ามีปัจจัยอื่นๆอีกหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นแค่เรื่องปรับตัวพี่ก็อยากให้ลองดูก่อน เพราะไม่ว่าจะไปเรียนที่ไหนยังไงก็หนีไม่พ้นเรื่องปรับตัวให้เข้ากับคนอื่น แต่ถ้าไม่ใช่เรื่องนี้พี่ก็คิดว่าย้ายไปเรียนสิ่งที่เราชอบน่าจะดีกว่า อย่าลืมตัดสินใจดีๆก่อนแล้วกันว่าจะเรียนที่ไหนยังไงค่าใช้จ่ายเท่าไหร่จะได้ไม่พลาดอีก
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?