(ชวนคุย) ว่าด้วยการศึกษาของตัวละคร เรียนจบอะไรกันมาบ้าง
ตั้งกระทู้ใหม่
มาคุยกันครับ ตัวละครจบอะไรมา
ท่านได้กำหนดไว้หรือไม่ เพราะอะไร และส่งผลอย่างไรครับ
ส่วนผม เพราะเคยอยากเป็นครู (ครูแนะแนวไม่ก็สังคม) แต่นางเอกเป็นคนติสท์ๆ ศิลปศึกษาก็โอนะ ครูศิลปะไง55
(ป.ล. เสริมเรื่องนิสัยคนเป็นครูช่วยผมก็ดีนะครับ พลีส555)
ปล. 2 ชอบครูแบบไหน
17 ความคิดเห็น
ของทางนี้เคยสร้างตัวละครให้เป็นหมอแล้วหาข้อมูลประกอบในมุมของหมอไม่ค่อยได้ มีแต่คำแนะนำสำหรับคนไข้ สุดท้ายเลยไปเรียนหมอค่ะ--
ทุ่มเทจังเลยครับ^^
อันนี้พูดเล่นค่ะ 555 จริงๆ มีหลายเหตุผลที่เลือกเรียน ไม่ใช่แค่เรื่องนิยายอย่างเดียว XD
ของเรามีหลายสาขาอาชีพ
จะให้เราเอาอาชีพไหนมาตอบดีล่ะ
ก็ คัดตัวที่ชอบมาครับ
ตัวละครชายหลายคนซึ่งมีทั้ง
กลุ่มที่ 1 มาจากเรื่องเดียวกัน มาจากต่างเรื่อง และมีเนื้อหาเชื่อมโยงกัน
กลุ่มที่ 2 มาจากต่างเรื่อง แต่อยู่ในซีรีส์ชุดเดียวกันและเป็น Theme โลกอนาคต
เรียนจบจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่คนละสาขาวิชา
ทุกคนในกลุ่มที่ 1 เรียนจบวิศวะโยธาและทำงานอยู่ในอู่ต่อเรือ บนเรือ
แต่เรามาตกม้าตายตรงที่เรากลัวการเดินทางโดยสารทางเรือและกลัวการลงเล่นน้ำ
เราขอเดินเล่นเอาเท้าแช่น้ำแถวริมชายหาดก็พอ
เวลามีคนถามว่าทำไมไม่ลงเล่นน้ำ
เราจะตอบว่าเราว่ายน้ำไม่เป็น
ซึ่งมันก็เป็นความจริง เพราะเราว่ายน้ำไม่เป็นจริงๆ
หลังจากที่เราได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเรือไททานิกและได้ดู Titanic จนจบ
แล้วเราเอาไปนอนฝันว่าได้ขึ้นเรือไททานิกและเรือไปชนภูเขาน้ำแข็ง
ไม่ทันจะได้รู้ว่าเรา(ในฝัน)จะรอดหรือตายเป็นผีเฝ้ามหาสมุทรก็ตื่นขึ้นมาซะก่อน
ก่อนหน้าที่เราจะมารู้จักเรือไททานิก
เราเฉยๆกับการเดินทางโดยสารทางเรือและคิดว่าจะหัดว่ายน้ำ
มีอยู่สามคน (กลุ่มที่ 2) ที่มาแปลกที่ทำงานไม่ตรงกับสาขาวิชาที่เรียนจบ
คนแรกเรียนจบวิศวะคอม แต่เลือกที่ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการไร่ข้าวโพดที่บ้าน
เป็นนักเดินทางข้ามกาลเวลา
คนที่ 2 เรียนจบวิศวะโยธา แต่เลือกที่จะทำงานเป็นผู้จัดการไร่ข้าวโพดที่บ้าน
เป็นนักแอตแลนติสวิทยา นักจานบินวิทยา
เจ้าของไร่ข้าวโพด (เป็นผู้หญิง) เรียนจบคณะมนุษยศาสตร์ สาขาวิชาประวัติศาสตร์
เป็นนักแอตแลนติสวิทยา นักจานบินวิทยา
นักแอตแลนติสวิทยา (ศึกษาเกี่ยวกับนครแอตแลนติสและนครที่สาบสูญ)
นักจานบินวิทยา (ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวและ UFO)
เป็นอาชีพที่มีอยู่จริงและส่วนใหญ่จะเป็นคนต่างชาติที่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว
เราเป็นคนไทยส่วนน้อยที่ศึกษาและสนใจเรื่องราวพวกนี้
คนที่ 3 เรียนจบวิศวะไฟฟ้า
แต่เลือกที่จะทำงานอยู่ในฟาร์มปศุสัตว์ ธุรกิจของพ่อแม่บุญธรรม
โห งานดีทั้งนั้น555
ตอนเราออกแบบและตั้ง Setting ตัวละคร จะมาเป็นชุดๆ สอดคล้องกันอยู่แล้วค่ะ
อย่างที่ @คุณคนหล่อฯ เห็นในเพจเราอะเนาะ 555
เอธัสเป็นหนุ่ม SEAL ยศเรือเอก
การศึกษา โรงเรียนนายเรือ
การเรียนในโรงเรียนนายเรือจะหล่อหลอมลักษณะนิสัยแบบทหารอยู่แล้วค่ะ
นิสัยทหารส่วนใหญ่จะค่อนข้างมีกฎ ระเบียบ รักพวกพ้อง รักศักดิ์ศรี
ถ้าแต่งกาย รองเท้าต้องเงาแว้บแบบส่องหน้าได้ เข็มขัดก็ต้องเงาขัดวับ เสื้อผ้าถ้างานพิธีการต้องเป๊ะว่าใช้แบบไหน (ยิ่งเป็นทหารเรือ... พวกระเบียบเครื่องแต่งกายเยอะมาก)
สังกัดหน่วย SEAL แนวหน้าต้องเป็นหนุ่มขาลุยทั้งน้ำ-ฟ้า-ฝั่ง มั่นใจสูง รักษาภารกิจยิ่งชีพ
พระเอกเราก็เป็นอย่างนั้นทั้งหมด เพิ่มเติมคือความ "เพีี้ยน" (?) เท่านั้นค่ะ ฮ่าาา
(จากการหาข้อมูลของหนุ่มซีลตัวจริงแต่ละคน ...ส่วนใหญ่เป็นพวกพูดน้อยต่อยหนัก เถื่อนๆ นิดหนึ่ง บ้าพลัง จะขี้เล่นแบบพี่ "ใบเตย" ในภารกิจถ้ำหลวงนั้นไม่ค่อยมีค่ะ บางคนเป็นซีลเก่งศิลปะ เก่งงานช่างด้วย เราเห็นผลงานเขาแล้ว เฮ้ยยย!! สะท้อนใจพลเรือนอย่างเรา // )
คิดถึงเฮียเอสผู้พกพากล้ามหน้าท้องมาพร้อมความตลกโปกฮา555
อ้อ ช่วยเสริมเรื่องครูนะคะ เรามีทั้งเพื่อน พี่ และญาติสนิท เป็นคุณครูเยอะค่ะ
เอาลักษณะเด่นของคนเป็นครูก่อนเนอะ -- เหตุผลนำหน้ามาก่อนเลยค่ะ ชอบอธิบายแนะนำนั่นนี่โน่น ทุกๆ เรื่อง (ส่วนมีจิตวิทยาที่ดีในการสอนหรือไม่นั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง) มั่นใจว่าตนเองมีความรู้ในสิ่งที่สอน
ข้อเสียคือ เปลี่ยนแปลงความคิดยากค่ะ ถ้าเชื่อว่าถูกต้องแล้วมักไม่ค่อยเปลี่ยน คนที่จะเปลี่ยนความคิดคนแนวครูได้ ต้องข้อมูลแน่นเป๊ะจนเถียงหรือค้านไมไ่ด้ ต้องจำนนด้วยหลักฐานอะไรแบบนี้
ถ้าเป็นเพื่อน เวลาเพื่อนคนนี้จะเตือนใครนี่ นางจะอธิบายยาวเหยียดว่าทำไม เพราะอะไร ผลลัพธ์คืออะไร ฟันธงลงมาเลย เรา(คนถูกเต่ือน) ก็ได้แต่มองตาปริบๆ ค่ะ
เพื่อนที่เป็นครูศิลปะ จะออกแนวเป็นตัวของตัวเองสูงค่ะ เป็นคนชัดเจนในความคิดของตัวเอง หาได้แคร์สายตาใครถ้ามั่นว่านี่คือฉัน เห็นภายนอกแกร่งแต่ภายในอ่อนไหว (คิดมาก) ชอบอะไรสวยๆ งามๆ แปลกๆ มีสไตล์
สิ่งที่เห็นจากเพื่อนชัดมาก / เพื่อนเคยสอนศิลปะเด็กเล็กค่ะ นางรักเด็ก มีความอดทนสูงกับเด็ก แต่อดทนต่ำกับผู้ใหญ่ไม่มีเหตุผล ^^' ...ถ้างัดได้ นางงัดนะคะ
เก่งงานประดิษฐ์ (หรือเพราะต้องทำสื่อการสอน? ฮา) เก่งทำของแฮนด์เมด ทำของเล่น งานฝีมืออย่างโปร จนลาออกจากการเป็นครูแล้ว ไปต่อยอดทำงานฝีมือได้เลยอะค่ะ
โอ้โห555
ส่วนตัวเรียนอาร์ต (ศิลปกรรมศาสตร์) งานเขียนทุกเรื่องจะมีความอาร์ตสูงมาก ประมาณว่ามีความเรียลมากกว่าปกติ เช่นการพูดการจาที่เหมือนคนคุยกันจริงๆ (จากการอ่านนิยาย จากการดูหนัง ดูละคร ดูซีรีส์ ฟังเพลงทุกแนว จากการพูดคุยกับเพื่อนสน เพื่อนสนิท เพื่อนไม่สนิท เพื่อนเฉยๆ คุยกับคนแปลกหน้าที่เจอระหว่างเดินทางท่องเที่ยว พี่ช่างซ่อมรถ บลาๆ) การบรรยายความรู้สึกของตัวละครเอก (ส่วนใหญ่เป็นนางเอก เราชอบเล่าฝั่งนางเอกฝั่งเดียว) บรรยายบรรยากาศโดยรอบ พวกสถานที่ (ได้เปรียบมากตรงที่เรียนอาร์ตแล้วมีเพื่อนอยู่'ถาปัตย์เยอะ) พอมาผนวกกับ settings ใดๆของตัวละคร เรียนอะไร พื้นเพครอบครัวเป็นยังไง แต่ละวันเจออะไรมาบ้าง มันเลยดูกลมกล่อม รึอาจจะมากเกินปกติไปด้วยซ้ำ เหมือนเราเขียนไดอารี่มากกว่าเขียนนิยาย
ด้วยความที่เรามีเพื่อนเยอะด้วยมั้ง จะว่าเฟรนด์ลี่ก็ไม่ถึงขนาดนั้น คือถ้าจะเขียนอะไรที่เราไม่เก็จ ที่เราไม่รู้และไม่มีข้อมูลเยอะพอ เราก็จะทำการบ้านหนักมาก เช่น วิศวะเรียนกันยังไง? ก็ถามเพื่อน เพื่อนอธิบายไม่เข้าใจก็แอบเข้าไปเรียนกับมันสักคาบ (นี่เข้าวิชาแคลฯมา (วิชาคณิตศาสตร์สำหรับวิศวกรรมศาสตร์) ปวดหัวมากกกกก รู้เลยว่าทำไมเรียนอาร์ต เลขไม่เข้าหัวเลย) หมอทำงานยังไง? เรียนอะไรบ้าง? ก็ถามพ่อ ถามแม่ที่เป็นอดีตพยาบาล ถามพี่ชาย ถามแฟนเก่า ตอนนี้เขียนให้นางเอกเป็นเชฟ ทริคใดๆที่เห็นในนิยายก็มาจากแม่ที่ทำร้านอาหารตามสั่งอยู่ มีเพื่อนเรียนการโรงแรม ทำงานอยู่แผนกบริการอาหารก็ถามมัน...
นิยายสำหรับเราเรื่องหนึ่งเลยให้มากกว่าความภูมิใจหลังเขียนจบไปในแต่ละตอนแล้วมีคนอ่าน คนคอมเมนท์ ถึงนักอ่านจะไม่รู้ว่าเราทุ่มเทมากแค่ไหน เราก็ยังตั้งใจที่จะเขียน และพราวทูพรีเซนต์มาก
ช่วยผมเรื่องการเป็นครูศิลปะได้ไหมครับ (ศึกษาศาสตร์ อย่างน้อยก็น่าจะมีความคล้ายที่สาขาศิลปศึกษา) ถึงจะคนละคณะ แต่ช่วยอบรมความติสท์แบบเด็กศิลป์ให้ผมที เด็กศิลป์มีมุมที่ทำตัวหรือใช้ชีวิตแบบ 'เฉพาะเด็กศิลป์ยังไง'
ถ้าให้พูดถึงเด็กอาร์ตที่เป็นสายอาร์ตจริงๆ...เถื่อนนะ ทุกคนห้าวมาก พูดจาตรงๆ โผงผางเสียงดัง แอบเน่าใน(ซักแห้งบ่อย) มองปราดเดียวจะรู้เลยว่าเรียนอาร์ตมา จากการแต่งตัวที่เหมือนจะแมทก็ไม่แมทกัน กล้าใช้สีสัน ตัวเขา(ต่อให้เป็นผู้หญิง)ก็จะมีกลิ่นเหล้าบุหรี่ผสมกลิ่นสี กับกลิ่นอะไรที่ต้องใช้กับสี เช่น สายอาร์ตเพียว พวกเพ้นท์ ภาพพิมพ์ คนนั้นทำงานด้วยสีน้ำมันก็ติดกลิ่นทินเนอร์ กลิ่นน้ำมันสน อาร์ตเพียวสายปั้น พวกแกะสลักไม้ ปั้นดิน ปั้นเซรามิค ข้อมือจะใหญ่และมือแห้ง ชนิดต่อให้เป็นสาวสวยสายหวาน ประโคมครีมแพงๆ มือก็ยังกร้าน ตัวอย่างเช่น อาจารย์คลาสเซรามิคคณะเราตัวเล็กมาก สูงไม่ถึงร้อยหกสิบเลย แต่ยกดินปั้นหนักเกือบสิบโลได้ - o -
สายมีเดีย ทำงานกราฟิก ภาพถ่าย รวมถึงสายแฟชั่นก็จะคล้ายกับเด็กนิเทศ เริ่ดหรูไฮโซ การแต่งตัวเซอร์ไม่ใช่ทางของสายนี้ แต่งหน้าแต่งตัวเก่ง
ถามถึงครูศิลปะ เราก็เป็นครูศิลปะนะ >\\\< เวลาสอนก็เหมือนครูสอนวิชาปกติทั่วไปเลย มีระเบียบแบบแผน อาจจะมากกว่าครูทั่วไปหน่อยตรงที่จะกล้าใช้สีในการแต่งตัว แบบสีที่ปกติคุณครูเขาจะไม่กล้าใส่ มีเครื่องประดับแฮนด์เมดบ้าง นั่งเฉยๆก็จะชอบวาดรูปวาดเขียน หนักเข้าหน่อยก็มีสักรอยตามตัว
ขอบคุณครับ นึกอะไรออกเสริมได้เสมอน้า^^
สำหรับเรา เราไม่ค่อยเจอครูศิลปะที่จบสายครูมาอ่ะ
ส่วนใหญ่จะจบอาร์ตมาก่อนค่อยต่อโทครู (เรียนทำแผนการสอน ฝึกสอนแล้วค่อยสอบบรรจุ) ไม่ก็ต่อโทอาร์ตก่อนมาเป็นอาจารย์มหาลัย รึไม่ก็จบอาร์ตใบเดียวแล้วเป็นครูเลย อย่างเรา อย่างครูศิลปะสมัยเรียนมัธยมของเรา
นี่ๆๆๆ เม้าท์ๆๆๆ เหตุการณ์สดๆร้อนๆเลยเธอเอ้ย~
แฟนเก่าเราเป็นหมอ เลิกกันไปนานแล้ว ตอนนี้นางไปทำงานต่างจังหวัด นางกลับบ้านมาเยี่ยมแม่ (เพื่อนแม่เราเอง บ้านอยู่ใกล้กัน) นางรื้อห้องเก็บของแล้วเจองานศิลป์สมัยตอนคบกัน เอามาอวดว่าเก็บอยู่ >///<
น่ารัก/// อยากรีเทิร์นอ๊ะป่าว //แอบนึกถึงหมอตูน //เป็นงานแบบไหนเหรอครับ
เอ่อเนาะ แอบเอ๊ะๆแล้วนะว่าเอาเรื่องเรากับแฟนเก่าเราไปเขียนหรือเปล่า?? //หยอกๆ
เป็นภาพดรออิ้งพอร์ตเทรดเขาครึ่งตัวค่ะ จำได้ลางๆว่าวาดตอนเขาอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด (เวลาเขาอ่านหนังสือจะชอบนั่งท่าเดิมนานๆ เลยนิ่งเป็นแบบได้) วาดลงร้อยปอนด์ขนาดเอ4 ด้านหลังเขียนให้กำลังใจเขา ลงวันที่ก่อนวาเลนไทน์มั้ง น่าจะเป็นปีแรกที่คบกัน (คือเราเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมาก่อน เปลี่ยนเป็นแฟนก็ไม่ค่อยมีอะไรพิเศษเท่าไหร่)
โห555555
เป็นหมอxครูศิลปะเหมือนกันด้วย// (ตอนนี้ดินผันตัวมาเป็นนักวาดอิสระ ถ้าตรงอีกนี่omgเลยนะ555)
เราเลิกสอนไปเมื่อต้นปีค่ะ กลับบ้านมาช่วยงานที่บ้านดีกว่า อิสระกว่า รับวาดอยู่บ้าง ส่วนใหญ่เขียนนิยาย แต่...หมอคงไม่น่าใช่แผนกเดียวกันหรอกม้าง หมอออโธหรอ?
หมอเด็กครับ //ถ้าตรงอีกนี่แปลกละนะ ตรงเกินครึ่งละ555
คนละแผนกค่ะ ^_^ เขาอยู่ออโธฯ
หมอเด็ก กะ ครูศิลปะ ไปกันรอดนะกว่า 80% นะ หมอเด็กอ่อนโยนกว่าหมอทุกแผนกอยู่แล้ว ครูศิลปะก็มีความอาร์ต อะไรก็ได้ไม่เรื่องมาก แต่ไม่เข้าใจทำไมดินตูนถึงเลิกกัน -__-'
ตูนไม่มีเวลาครับ ดินก็ขี้เหงา ตูนก็ระแวง สุดท้ายบ้านแตก(?)
ตูนเคยเป็นผู้ชายน่าเบื่อ มนุษย์ตรรกะ ความรักและเวลาที่เคยมีเหมือนตอนวัยรุ่นก็ลดลงไป ทำให้ดินมองหาคนอื่น ส่วนดินก็เป็นผู้หญิงที่เจ้าชู้ ช่างฝันและเอาแต่ใจเกินไป อยากให้แฟนใส่ใจ ให้เวลา แบบนั้นแบบนี้ ความสัมพันธ์เลยจบไม่สวย
แต่เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งสองต่างเรียนรู้ที่จะเติบโตและเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น ตูนลดความใจร้อนและเจ้าระเบียบ ไม่น่าเบื่อ จัดจ้าน(?) หัดเป็นคนที่ตลก ทำให้คนอื่นสบายใจมากขึ้น
ส่วนดิน เธอลดความเอาแต่ใจและเห็นแก่ความรู้สึกตัวเองลง ยอมรับว่าตูนมีหน้าที่ มีชีวิตคนไข้ต้องดูแล รวมถึงอารมณ์เย็นขึ้น รอบนี้เลยไปกันง่าย
รู้แล้วว่าอะไรที่เรารู้สึกไม่คลิ๊ก หมอตูนไม่น่าใช่หมอที่เรารู้จักในชีวิตจริงอ่ะ พ่อเรา พี่ชายเราสองคน (แม่ที่เป็นอดีตพยาบาลด้วย) ไหนจะแฟนเก่าที่เป็นหมอ เพื่อนเป็นหมออีกขโยง นอกเวลางาน คุณหมอเหล่านี้...บ้าและหลุดโลกมาก ไม่มีใครพาความเครียดออกจากที่ทำงานเลยสักคน เจอของหวาน อาหารอร่อยๆก็ลืมไปเลยว่าพรุ่งนี้มีเวรกับวอดเช้ามากกกก! เว้นซะแต่จัดการความเครียดไม่ได้จริงๆ พอพาความเครียดออกมาด้วย เขาก็จะมาคุยกับเรา ห้านาที สิบนาทีก็ว่าไป ความจริง...เราที่เรียนอาร์ตมาก็เหมือนหมอนะ หมอที่รักษาด้วยสุนทรียะ เอ๊ะ?? หรือเพราะเราบ้า คุยกับเราเลยคลายเครียดไป -__-'
ตอนนี้ตูนเลิกติดเครียดละครับ สมอายุ555
ตัวละครเรามีหลายสาขาอาชีพมากค่ะ แต่ไม่ได้เน้นในเชิงลึกเท่าไหร่แต่ข้อมูลพื้นฐานอาชีพนั้นๆเราก็ต้องซึ่งศึกษามาพอสมควร อย่างตัวละครที่เป็นทนายความเพราะเราเรียนกฏหมายมาหลายตัวเลยพอเข้าใจว่าบุคลิกคนที่เรียนทางนี้มาต้องเป็นยังไง? คนที่สามารถกลับขาวเป็นดำกลับดำเป็นขาวได้เขามีระบบความคิดยังไง? เขาต้องนิ่งสุขุม พูดเก่ง โน้มน้าวใจคนเก่ง ที่สำคัญต้องยึดมั่นในสิ่งเชื่อ มีความเป็นผู้นำ แต่ทุกสาขาอาชีพเวลางานกับเวลาส่วนตัวก็ไม่จำเป็นต้องเอามาปนกันเวลางานอาจจะเป็นแบบหนึ่ง เวลาส่วนตัวก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นการแสดงออกของตัวละครของเราก็จะเป็นไปตามบริบทนั้นๆของเรื่องมากกว่า
ส่วนนิสัยของคนเป็นครูเป็นยังไง? ถ้าตามบทบาทหน้าที่ถึงติสท์แตกแค่ไหนครูก็คือครูอะค่ะ หมวดจริงจังก็ต้องมีบ้าง เวลาอยู่กับนักเรียนก็ต้องรู้จักวางตัวใจดีได้แต่จะให้นักเรียนมาเล่นหัวไม่ได้ เวลางานต้องเอาเด็กให้อยู่ ต้องมีความเชี่ยวชาญในสาขานั้นๆจริงๆนะคะ เพราะงั้นคุณก็ศึกษาสาขาที่ตัวละครเรียนจบมาเบื้องต้นให้เข้าใจแค่นี้ก็น่าจะได้แล้วมั้งคะ? พยายามเข้าค่ะ สู้ๆ เชื่อว่าต้องเขียนออกมาได้ดีแน่ๆถ้ากำหนดคาแรคเตอร์ตัวละครออกมาชัดเจนแล้ว! :)
ขอบคุณครับผม^^
นางเอกยังเรียนไม่จบเลย คิดว่าจะให้นางเรียนบริหารค่ะ
พระเอกอยู่ในเกมค่ะถ้าเรื่องการศึกษา พี่ใหญ่ก็น่าจะสมุนไพร พี่รองเรียนการต่อสู้ พี่สามเรียนเวทมนตร์ น้องสี่การสงคราม น้องห้าการต่อสู้ประชิด และทุกๆคนนั้นเรียนการเมืองการปกครองมาค่ะ
มาจากบางระจันอ๊ะเปล่าครับ555
ฉ...ฉันเดาถูกได้ไงว่าคนหล่อเป็นคนตั้งกระทู้นี้!!!!
(ถ้าซื้อหวยแล้วเป็นแบบนี้บ้างคงดี...แค่กๆๆ)
ตอบคำถามด้วยสิครับ555
ปล.นายเอกเรียนจบป.ตรีจากสวีเดนแล้วไปต่อโทที่อเมริกา พระเอกจบป.ตรีไทย แล้วทำงานเลย
(ไม่มีนางเอก แบบนี้ได้ไหม? 555)
ใจเย็นๆสิเพร่ พิมพ์อยู่ววว
แล้วข้อมูลครูล่ะ555 ชอบครูแบบไหน คิดว่าครูศิลปะต้องเป็นยังไง
ครูศิลปะเราสมัยประถม ใจดีมั่ก;-; ใจดีจนหลงรักต้องเอามาเป็นพระเอกนิยาย(ซึ่งก็ยังคงดองอยู่ถึงทุกวันนี้ ถถถ) เค้าสอนพื้นฐานดี อธิบายละเอียด และคอยช่วยเราอยู่เสมอ
//หลายๆครั้งก็แอบอ่อย บั่บ...บอกว่าวาดไม่ได้แล้วครูก็จะมาช่วยวาดให้พร้อมกับอธิบาย เราก็ไม่ได้ฟังที่ครูพูดหรอก เอาแต่จ้องหน้าครูอย่างเดียว (ทั้งๆที่ลูกชายครูนั่งข้างๆกันนั่นละ)
นิสัยลูกครูต่างกับครูราวฟ้ากับนรกเลยนะ ลูกครูออกแนวกวนบาทา ชอบทำอะไรที่ขัดใจจนทะเลาะตบตีกันบ่อยๆ แต่แปลกที่สุดท้ายก็แอบชอบเค้า(และยังคงไม่สารภาพรักมาจนถึงทุกวันนี้) อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นเราเป็นวัยรุ่น ชอบเพศตรงข้ามง่าย แต่ทุกวันนี้ก็หาใครที่ทำให้รู้สึกรักแบบนั้นไม่ได้เลยสักคนอะ
ปล.ฉันเล่ามาถึงนี่ได้อย่างไร 555
รักทั้งพ่อรักทั้งลูกเลยแฮะ555
กรี๊ดดดด อย่าเอาความจริงมาพูดอย่างเน้~~
พวกตัวเอกยังเรียนไม่จบ 555555
แฟนตาซีงะเลยไม่ค่อยจะมีเรื่องเรียนจบทะไหร่เลย
ภาค 1 มีครูประจำชั้น แต่จบ...จบอะไรมาฟระ เขียนไว้แต่จำไม่ได้ 5555 มีหน้าที่แนะแนวอะ ในเรื่อง
ส่วนอ.ศิลปะสมัยอยู่โรงเรียน ห้ามเอางานกลับบ้าน + ชอบเปิดเพลงยุคเก่า + พูดไม่รู้เรื่อง + คนที่จะทำงานแล้วได้ A หาตัวจับยากมาก วาดแทบตายก็ได้แค่ B+
นางเอก ว่าจะต่อเวชศาสตร์ฉุกเฉิน แต่ก่อนจะได้เรียนต่อ ขอเคลียร์ปัญหาในเรื่องก่อน พระเอก < เรายังไม่รู้เลยมันเรียนไร แค่เขียนว่ามีเรียน แล้วก็มีสกิลอะไร...( ̄ ̄;) พระรอง < ศาสตร์แห่งการช่วงชิง พี่ชายพระรอง < ศาสตร์แห่งการสันดาบ (เอาจริงคนเขียนก็ไม่รู้หรอก มันเรียนอะไรกัน ฮะ ๆ ๆ ๆ ) อ่อ มีพวกจบปกติเหมือนกันนะ แบบ จิตแพทย์ (นี่ก็เรียนอยู่ววว) วิศวะโยธา, เคมีมนตรา, สายพลังมนตรา, บลา ๆ ๆ แฟนซี ๆ 5555 อ่อ มีเรียนไม่จบ ติดคุกผู้เยาว์แล้วออกมาไปก่อร่างสร้างตัวในตลาดมืดด้วย 55555
ป.ล.2 ชอบแบบที่สอนรู้เรื่อง ไม่งี่เง่า มีจรรยาบรรณมีความเป็นครูกันหน่อย จะด่าเด็กจะว่าจะตีอันนี้ไม่เกี่ยง ขอคนดี คนจริง ให้สมกับที่ได้ถูกเรียกว่า "ครู" แบบนี้อะชอบ
พูดไม่รู้เรื่องนี่ยังไงเหรอครับ555
ถามอย่างตอบอย่าง เหมือนได้ยินแค่ที่อยากได้ยิน ตอบแค่ที่อยากตอบ 555555
โคตรอินดี้55555
เราเรียนอักษรอยู่มหาลัยศิลปะ ตัวเอกส่วนใหญ่จบคณะจิตรกรรม คณะมัณฑนศิลป์ คณะดุริยางคศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ แต่จิตรกรรมจะเยอะที่สุดเพราะเราชอบเขียนให้ตัวละครเอกเป็นพวกศิลปิน ชอบวาดรูป เป็นพวกลึกซึ้งกับชีวิต วน ๆ อยู่แค่นี้แหละ จะมีบ้างที่ตัวละครจบจากเมืองนอก (เป็นสาขาที่ไม่เปิดในไทย)
ฟังดูแนวจัง555
พระเอกจบด้านโปรแกรม แต่ผันตัวมาเป็นนีกเขียนการ์ตูนเพราะใจไม่รัก ส่วนนางเอก...ฮ่าๆ เป็นชินโซ(เตรียมขึ้นตำแหน่งโออิรันหรือโสเภณี)ฮ่าๆ อ่านผิดไหม๊? เอ่อ..ไม่ผิดหรอก นางต้องจบอะไรดี อ่อ...นางเรียนนะเรียนศิลปะการร่ายรำ เรียนดนตรี เรียนวาดรูป ศาสตร์สำหรับปรนเปรอผู้ชาย ฮ่าๆ
ปล.ข้ามไปเถอะเราอาจโหดร้ายกับนางเอกเกินไปฮ่าๆ
ใจร้าย555
1. นางเอกเรียนจบไฮสคูลแล้ว Gap กับพระเอกหนีออกมาก่อนจบไฮสคูล
2.นางเอกเป็นพยาบาลอยู่วอร์ดหลังคลอด พระเอกจบศิลปศาสตร์ เป็นผู้ประกาศข่าว
3. นักศึกษาคณะวิทย์ทั้งคู่ นางเอกสาขาพฤกษศาสตร์ พระเอกสาขาชีววิทยา (ใช้กระบองเพชรเดินเรื่องเลยอยากได้ความเด็กวิทย์ติสต์ๆ หน่อย)
4. หมอสูกับผดุงครรภ์ เรื่องนี้มีแกนอยู่แล้ว แต่จะรอรีไรท์ตอนทำงาน อยากได้ประสบการณ์จริงเยอะๆ ก่อน แต่เน้นเคส ไม่ได้เน้นพระนางเท่าไหร่
Gap???
พระเอกเป็นผู้จัดการร้าน จบการบริหารค่ะ
เลยถามเพื่อนที่เป็นรองผู้จัดการว่าเขาทำกันยังไง
โห ดีจัง
ส่วนใหญ่เป็นเเนว ประถม มัธยม กินเด็กครับ----เเค่ก
อาชีพไม่พนักงานบริษัทก็นักเขียน ประมาณนั้น
5555555
พระเอก Colours of The Dark - กำลังศึกษาอยู่เกรต 9 (ประมาณม.3) ฝาแฝดเรื่องกลางสายชลเชี่ยว - กำลังเรียนปีหนึ่งมหาลัย แฝดพี่เรียนวิศวะ แฝดน้องเรียนหมอ พระเอกในโปรเจคร่างเรื่องหนึ่ง - เป็นขุนพลน้อยคอยติดตามท่านพ่อออกรบ
ส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยกำลังเรียนครับ (อยู่ในช่วง ม.6-มหาลัย)
แต่ความรู้ส่วนใหญ่ที่จะให้พระเอกใช้ จะเป็นความรู้ที่พระเอกหาจากอินเตอร์เน็ตมากกว่าในโรงเรียนครับ (เช่น อนิเมะ เรื่อง Dr.Stone ใครจะไปคิดล่ะว่าเปลือกหอยสามารถทำดินปืนได้)
ตัวละครเราเรียนโฮมสคูล(ที่ไม่ใช่บ้าน)ค่ะ นิยายเรา เน้นจินตนาการ(และอาจจะมีกาว) มีความรู้อยู่บ้าง แต่ถ้านิยายแบบความรู้เพียวๆ ไม่ต้องอ่านนิยายแล้ว ไปอ่านความรู้ตรงๆเลย
ตัวเราชอบตั้งให้มันแหวกจากสิ่งที่มันควรจะเป็นอ่ะค่ะ555
ยกตัวอย่าง น้องโฮชิ คณะแพทยศาสตร์ละกัน(อันนี้เราอยากเป็นหมอด้วยแหละ)
คือปกติพูดถึงหมอคนก็ต้องนึกถึงพวกเด็กเนิร์ด อ่านหนังสือตลอดเวลา ไม่มีเวลาเที่ยว ต้องใจดีๆ ต้องดูมีความหัวหมอๆ แต่น้องโฮชิคือแบบ...ไม่เลย Noหมอสุดๆ คือน้องจะ มีความหยิ่ง เอาแต่ใจนิดหน่อย ชอบพูดเยอะ กวนตีน ด่าเก่ง (มีฉากนึงน้องด่าเด็กแว๊นที่ขับมาชนตัวเอง ด่าเละอ่ะ ฮาสุด555) ตามนี้เลยแต่ก็ยังมีความหมออยู่นะ
ตัวอย่างอีกสักคน พี่แอสโทร์ คณะสถาปัตย์ ตัวละครตัวนี้ตอนออกแบบ เขียนคาเรคเตอร์มั่วมาก เด็กคณะนี้ควรจะ เซอร์ๆติสๆ ทำแต่งาน ดูเป็นพวกอดหลับอดนอน ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่พี่แอสโทร์คือ หล่อ เท่ห์ นิ่งๆ เงียบๆมีเหตุมีผล แต่ไม่มีความเซอร์ ไม่มีความนักออกแบบ ไม่มีความหัวศิลป์เลย คือตอนแต่งบางทีก็งงนะ นางมาอยู่คณะนี้ได้ไงวะ555 โอเคจบๆก็ตัวละครเราก็ประมาณนี้ เหมือนมาบ่นเลย555 ขอบคุณที่อ่านค่าา
คร้าบ^^
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?