นักเขียนควรทำอะไรสักอย่างบ้างนะคะ
ตั้งกระทู้ใหม่
Ps. นักอ่านบางท่าน เปลี่ยนชื่อเรื่องนิยายนะคะ นั่นคือสิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดแล้ว กระทู้นี้ไม่ได้เจตนาทำร้าย แค่อยากให้นักเขียนทุกท่าน ได้รับรู้เอาไว้ค่ะ
11 ความคิดเห็น
เคยมีกระทู้ที่ถกไปอยู่นะคะ แต่บางทีนักเขียนก็ไม่ทราบเลยค่ะว่าโดนเอาไปทำแบบนี้ มีแต่ที่เราตัดปัญหาวางโครงการว่าจะ อ่านเองอัพเอง อย่างบทความเรามีคนขอไปอ้างถึงใน Padcast เขามาขออนุญาตอยู่ แต่กรณีเอาไปไม่บอกไม่กล่าวนี่ไม่ปลื้มจริง ๆ ค่ะ
คิดอย่างไรกับนิยายเสียงในยูทูป
https://www.dek-d.com/board/view/3908184/
นักเขียนหลายคนอาจจะยังไม่ทราบ เพราะว่ามีการเปลี่ยนชื่อเรื่องด้วยค่ะ ถ้าเสิร์ชหาตาม Google ก็จะไม่เจอ พอดีเราเป็นนักอ่านอยู่แล้ว ก็เลย รู้มาว่าบางเรื่องเปลี่ยนชื่อ
อ่านเองเลยค่ะ ถ้าเห็นรายได้แล้ว อาจจะบอกว่า ขายดีกว่าอีบุ๊คอีกนะคะ เพราะยอดวิวคนเข้าไปฟังเยอะมาก สังเกตได้แต่ละชาแนล ต่อให้เสียงเป็นยังไงก็ตาม คนติดตามเป็นพันค่ะ
ทางที่ดีคือ ถ้าคุ้นว่านิยายเรื่องไหนควรแจ้งนักเขียนล่ะค่ะ เป็นเราไปค้นเองก็คงยากเพราะตอนนี้นิยายเสียงมีเยอะมาก
เรื่องถึงถึงอยากทำก็ทำอะไรไม่ได้มากนะครับ แต่วิธีก็ใช่ว่าจะไม่มีถ้าพบเห็นเจ้าของเรื่องสามารถใช้lcได้ขอเป็นส่วนแบ่งรายได้หรือปิดช่องไปเลยก็ได้ครับ ส่วนใหญ่พวกนี้ถ้าจะทำแบบถูกต้องต้องมีหนังสือยินยอมถ้าไม่มีก็เล่นได้ครับ แต่ส่วนใหญ่นักเขียนก็จะไม่รู้ แต่ถ้ามองว่าถ้าว่ามันคนละกลุ่มเป้าหมายกันจะปล่อยไปก็จะครับ เพราะยังไงพวกที่ชอบอ่านมีน้อยคนที่จะชอบฟัง เพราะพวกสายเทามันก็มีผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ดนะครับ จัดการตัวนี้ไปตัวอื่นก็มาแทน มีแค่วิธีแก้อย่างเช่นเราเอาเรื่องของเราทำเอาลงเอาไว้ก่อนเองเลย ถ้าใครจะมาทำซ้ำก็เปิดสร้างรายได้ได้ยากแล้วครับ
นี้แหละครับถึงเรียกว่าสายเทา อันที่จริงyoutubeก็พยายามออกมาตราการมาจัดการนะครับ ออกกฎใหม่มาทำให้youtuberหลายคนรู้สึกเหนื่อยเพื่อจะจัดการพวกนี้ แต่ก็ยากนะครับ มันมีวิธีทางที่จะเล่นเพื่อสร้างรายได้ อย่าว่าแต่โดนกอปงานเขียนนะครับ คลิปของyoutuberด้วยกันยังโดนเลย พวกนี้หาช่องว่างได้เสมอแหละครับ วิธีเดี่ยวที่ต้องทำมีแค่ ถามเห็นก็แจ้ง
ขอท้วงนิดนึงนะ
ผมไม่รู้นะว่าตอนนี้มันแก้หรือยัง แต่คนทำยูทูปเขาเคยบอกว่าเว็ป socialblade มันจะมั่วเรื่องค่าเงิน ประมาณว่าค่าโฆษณาไทยที่จริงได้เรตต่ำ (รายได้จริงแค่พันสองพัน) แต่มันจะไปเหมาว่าเป็นเรตเดียวกับฝรั่งซึ่งดูค่าเงินแล้วสูงโอเวอร์ (ในเว็บบอกเป็นแสนเป็นล้าน)
อันนี้ก็ไม่แน่ใจค่ะ เพราะว่าแฟนทำ YouTube อยู่ แต่อยู่ที่ยุโรป เรทลบไปประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ก็ได้ยอดมาตามจริงนะคะ ของไทยน่าจะลงไปประมาณ 50 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์หรือเปล่า เราไม่ได้ทำ YouTube ก็เลยบอกไม่ได้ค่ะ
เรื่องจริงครับของไทยเรทต่ำติดดินมากกก ถ้าเทียบกับต่างชาติ ถ้ายุโรจหรือเมกาจะเยอะครับ จากใจคนเคยทำyoutube
แต่ไม่ใช่แค่ลงก็จะขึ้นนะครับมันก็ยากอยู่เหมือนกันที่จะทำให้youtubeติดได้ แล้วไหนจะตัดต่อไหนจะพากที่ต้องใช้โทนเสียงที่คนจะเข้าใจ การcashbookไม่ใช่ทำง่ายๆเหมือนกันนะครับ บางคนก็มองเป็นการตลาดทำให้คนรู้จักหนังสือเพิ่มขึ้น ถามว่าจะช่วยอะไรมากมั๊ย มันก็ไม่มากนะครับ เพราะมันคนละกลุ่มเป้าหมายกัน แต่ที่พวกเขาผิดคือการไม่ขออนุญาติอันนี้ยังไงก็ผิดเต็มๆ youtubeจึงจะสามารถให้แจ้งlcได้นะครับ ปล.สำหรับเจ้าของเรื่องที่เจอนะ ผมก็ไม่ชอบพวกดูดคลิปพวกนี้เหมือนกัน
ขอบคุณมากค่ะเรื่องรายได้ YouTube ถือว่าเป็นความรู้ใหม่ หลายคนอาจจะบอกว่านี่เป็นการ Castbook แต่สำหรับเรา คือการขโมยนิยายของคนอื่นมาอ่านตั้งแต่ต้นเรื่องยันจบเรื่อง อ่านตามตัวทุกอักษร ไร้การคิดและวิเคราะห์ ไม่เป็น Professional อัดจากมือถือมาอ่านก็มี แค่หน้าปกยังไม่ Professional เลยค่ะ แถมยังติด โฆษณาหารายได้ คุณซื้อหนังสือมาไม่กี่ร้อยบาท อ่านฟรีไม่ติดโฆษณา ยังว่าผิดแล้ว แต่มาทำนาบนหลังคนอื่น อันนี้เราไม่เห็นด้วยค่ะ
การ castbook ต้องมีการคิดวิเคราะห์ การให้เครดิต การสอบถามความสมัครใจของผู้เขียน อย่างนั้นถือว่าวินวินทั้งคู่ค่ะ
ในกรณีของเราถ้าถูกเอาไปทำแบบนี้โดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายแน่นอนค่ะ เพราะไม่เคยปลื้มอะไรแบบนี้เลยจริง ๆ
ผมมองว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะกลัว เพราะ "ให้ตายก็หนีไม่พ้น" เราทำอะไรไม่ได้นอกจากผู้อ่านจะรักและภักดีกับนักเขียนจนเขาอยากมาช่วยสนับสนุน/ปกป้องด้วยตัวเอง เพราะในท้ายที่สุดแล้วทุกผลงานจะถูกละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งก็ตาม
อยากแชร์เรื่องนึงให้ฟัง ไม่นานมานี้ผมมีโอกาสได้ไปนั่งฟังนักวางกลยุทธ์ที่เป็นคอนเซาท์ของสามบริษัท(ปตx ซีx เอสซีx)สอนวิธีคิดให้รุ่นน้อง แล้วเขาพูดถึงเรื่องลิขสิทธิ์ว่าให้เราลองไปดูกรณีของ 'เพลงลูกทุ่ง' ที่ก่อนหน้านี้ปกป้องลิขสิทธิ์อย่างเต็มที่เพราะกลัวเสียรายได้ เลยสั่งห้ามไม่ให้ร้านอาหาร คอนเสิร์ต หรือธุรกิจต่างๆเปิดเพลงค่ายตัวเองจนกว่าจะจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ผลก็คือ 'เจ๊ง' ไม่มีใครง้อ ยูทูปก็มี...ทุกคนสามารถแต่งเพลงแล้วเอาไปร้องที่ไหนกันก็ได้ ค่ายเพลงเลยได้ภาพลักษณ์แย่ๆไปแล้วต้องมาพยายามซื้อใจคนฟังอีกรอบ
พี่เขาบอกว่ายุคนี้เราต้อง 'ให้' เขาไปก่อน...ประมาณว่าดึงให้เขามาเป็นพวกเดียวกับเรา ถ้าเป็นการสรุปในความเห็นของผมก็คือ เราห้ามมองนักอ่านหนังสือเสียงพวกนี้เป็นศัตรู แต่ต้องเห็นใจเขาแล้วทำให้เรากลายเป็นพันมิตรกันให้ได้ อย่างเช่นเราอาจจะเขียนในนิยายไปเลยว่า 'อนุญาตให้นำไปทำหนังสือเสียง' ซึ่งจะยอมแค่ไหนก็แล้วแต่หัวคิดและความใจกล้าของเรา (อย่างน้อยที่สุดมันก็ไม่เปลี่ยนชื่อเรื่องแล้วฮุปเป็นของตัวเองอะนะ) พวกผู้ผลิตเกมเน้นเนื้อเรื่องที่คนเอามาทำคลิปจนเฉลยหมดไส้หมดพุงเขาก็เริ่มหันมาใช้วิธีนี้แล้ว (เกม Judgment เขาอนุณาตให้ยูทูปเบอร์นำมาทำคลิปได้จนถึงบทที่ 7)
สรุปคือถ้าเรางก ห่วงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง เราจะเจ๊ง เพราะการตลาด 4.0 เขาก็เล่นเรื่อง Co-op ช่วยเหลือกันระหว่างคนขายกับคนซื้อเพื่อป้องกันเรื่องนี้กันมาตั้งนานแล้ว (ตอนนี้ 5.0 ยุคของ AI)
ป.ล. เรื่องกลยุทธ์เราไม่มาเถียงกันว่าใครผิดใครถูก...ไม่ต้องมาด่าผม อย่างเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์นี่มันผิดเต็มๆ แต่เราไม่มีทางไปไล่ปราบมันได้หมด เพราะงั้นเราต้องคิดหาทางรอด ไม่ใช่มัวมานั่งน้อยใจ
เราได้คุยกับพี่นักเขียนคนหนึ่งค่ะ ที่โดนละเมิดลิขสิทธิ์ ถามว่ายอดขายเพิ่มขึ้นไหม ยอดวิวเพิ่มขึ้นไหม พี่เขาตอบว่าเท่าเดิมค่ะ แถมยังต้องเขียนหนังสือไปเรื่อย เพราะว่ากลัวแฟนคลับจะหนี เดี๋ยวนี้นักเขียนหน้าใหม่เกิดขึ้นเยอะมาก เราก็กำลังเชียร์ให้พี่เขาอ่านหนังสือลง YouTube อยู่ หนังสือใครใครก็รักค่ะ กว่าจะเขียนมาแต่ละเรื่อง ใช้พลังงานเยอะมาก คงไม่อยากให้คนอื่นเอาไปหาผลประโยชน์ฟรีๆ ต่างคนต่างคิดนะคะ มุมมองความคิดแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกค่ะ
ผมถามหน่อย ถ้าเขาเอาของเราไปโดยไม่อนุญาต ไม่ให้เครดิต
แล้วสมมติว่าวันหนึ่งมีคนมาเห็นนิยายที่เราเขียน แล้วหาว่าเราลอกนิยายเสียงล่ะ?
เป็นคุณยังจะอยากญาติดีกับเขาไหม?
ผมย้ำแล้วนะครับ ว่าการคิดกลยุทธ์มันไม่เสียเวลามาหาว่าใครผิดใครใครถูก มัวมาน้อยใจทหารตายเกลี้ยงกันพอดี คำถามคือจะวางแผนรับมือยังไง?
ผมไม่ได้เป็นคนโดน ไม่ได้เป็นคนเสียหาย ผมพูดแทนเจ้าตัวไม่ได้ แค่พิมพ์บอกว่ามันมีวิธีนี้อยู่ด้วย จะมาอารมณ์เสียอะไรกับความคิดเห็นนี้ก็ไม่มีประโยชน์ ผมแค่มาเพิ่มตัวเลือก ไม่ได้บอกว่าคุณต้องคิดแบบนี้ โอเคนะ?
(ผมพิมพ์ย้ำไว้เพราะรู้ว่ายังไงซะจะมีคำถามแบบนี้โผล่มาอยู่แล้ว ผมเองก็ถามได้ แต่ถามไปก็มีแต่เกลียดกันและไม่เกิดผลประโยชน์ครับ)
แค่กลยุทธ์ก็ตีความมั่วแล้วคุณน่ะ
ถ้าคนมันมีใจอยากจะแชร์ผลประโยชน์ด้วยจริง มันส่งข้อความมาคุยละครับ คงไม่ก็อปไปหน้าด้านๆแล้วเปลี่ยนชื่อหรอก
น้อยใจ ทหารตายหมด แปลว่าอะไร? ถ้าอยู่เฉยๆไม่ได้อะไร ดีไม่ดีโดนกล่าวหาว่าลอกนิยายเสียง แต่ถ้าฟ้องยังอาจจะได้ค่าเสียหาย แล้วทหารตายหมดยังไงไม่ทราบ?
แล้วเอาเรื่องค่ายเพลง เอาเรื่องเกมมาเป็นตัวอย่างประกอบนี่มันคนละเรื่องเลย คนเอาเพลงไปเปิด เอาเกมไปแคสต์ ถึงค่ายจะไม่ได้ค่าแผ่น แต่คนก็รู้อยู่ดีว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เป็นใคร
ตลกดี เหมือนมีโจรปล้นบ้านทุกวัน แทนที่จะหาทางป้องกัน หรือช่วยกันผลักดัน มีพลังเสียงอะไรซักอย่าง กลับบอกให้ไปปักป้ายบอกโจรไว้หน้าบ้านว่าเชิญหยิบได้เลยจ๊ะ แต่เหลือไว้ให้เจ้าของบ้านบ้างนะ จับโจรไปก็ไม่ได้อะไรหรอกเดี๋ยวคนใหม่ก็มา บลาๆๆ
ผมยอมแพ้ครับ
4-2 เรามีหลักฐานว่าผลิตก่อนไงครับ
คราวนี้ก็บอกให้เขาให้เครดิต
ทีนี้ชื่อเสียงก็จะมาตกที่นามปากกาของผู้แต่ง
เป็นปัญหาสำหรับนักเขียนชั้นเซียน น่าโมโหอยู่เหมือนกัน
ลองเอานิยายผมไปลงสักรอบหนึ่ง ไม่เจ๊งก็ปิดชาแนลทิ้ง 55
จับมือครับ ได้ปิดช่องแน่
เหมือนโดนแช่งยังไงก็ไม่รู้ 55
ก็จะดูก่อนว่าผู้ติดตามเยอะไหม ถ้าเกิน 1000 คน เข้าหลักเกณฑ์สร้างรายได้ อันนี้เราจะขอยูทูปแบ่งรายได้ได้ แต่ถ้าไม่ถึงพันคน ก็รอดูไป ถึงเมื่อไหร่ค่อยจัด อิอิ
ปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์มันคือปัญหาโลกแตกครับ ขนาดนิยายจีนมันยังโผล่มาเลยครับ ผมเคยพิมพ์ชื่อเรื่องนิยายจีนปรากฏว่าการค้นหาของ Google ทางข้างล่างสุดมีตัวเลือกมาให้บานเลย แถมมีคำต่อท้ายด้วยว่า ดาวน์โหลดไฟล์ PDF ฟรี ไม่แน่ว่านิยายของคนไทยอาจไปอยู่ที่เมืองนอกแล้วก็ได้ ขนาดตัวผมเองยังโดนเลย เอาผลงานของผมไปวางขายบนหน้าเว็บไซต์โดยที่ตัวผมไม่ได้ตังค์ แต่ตอนนี้ถูกสั่งเก็บไปเรียบร้อยแล้ว เพราะไม่ใช่แค่ผลงานของผมคนเดียวยังรวมถึงของคนอื่นด้วย แต่ไม่ได้วางขายที่เมืองนอกนะ มันวางขายที่ประเทศไทยนี่แหละครับ
วิธีแก้... ก็ทำตามมาตรฐานนั่นแหละครับ เพราะมันไม่มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกแล้ว ขนาดทุกวันนี้แผ่นผีซีดีเถื่อนยังวางขายที่ตลาดนัดเลยครับ
ปรึกษาทนาย
แล้วถ้าดำเนินคดีได้ ก็ฟ้องร้องให้ถึงที่สุด
จบ .....
พูดมากเจ็บคอ
เรารู้จักพี่อยู่คนนึง ทำงานที่เดียวกัน นางตำแหน่งใหญ่โตเงินเดือนเยอะอยู่
แต่เวลาจะอ่านนิยายนางไม่ซื้อ ใช้วิธีโหลดฟรีเอาจากโฟร์แชร์
ที่รู้เพราะวันนั้นคุยกันเรื่องนิยายจีน พี่อีกคนนึงเค้าก็จะยืมหนังสือเรา พี่คนแรกก็บอกว่าเค้าไม่ซื้อหนังสือหรอก เค้าโหลดโฟร์แชร์เอา ...
คนไทยยังไม่เข้าใจเรื่องของลิขสิทธิ์ และสิทธิของคนอื่นอยู่มากค่ะ คงอีกนาน
บางคนต่อให้รู้เขาก็ไม่สนหรอกค่ะ
จริงๆเราว่าเค้ารู้นะ คือพอเค้าเห็นเราทำหน้าแบบไม่โอเคใส่ เค้าก็รีบบอกเลยนะว่า "จริงๆมันก็ไม่ดีหรอก" เราก็คิดในใจ (ไม่ดีแล้วทำทำไมน่ะ)
เห้อ
ยอมรับนะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมก็ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเกี่ยวกับพวกนี้ เมื่อมาเป็นนักเขียนด้วยตัวเองแล้ววางขายผลงาน เจอคนพูดแบบนี้ รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เพราะว่ามันเหมือนเห็นเป็นผลงานของตัวเองที่ถูกละเมิดลิขสิทธิ์
มีใครรู้สึกเหมือนกับผมบ้างมั้ยเนี่ย
@คุณ white cane เราว่านักเขียนที่โดนละเมิดส่วนใหญ่ก็จะรู้สึกแบบนี้กันหมดนั่นแหละค่ะ กว่าจะสร้างสรรผลงานออกมาได้แต่ละเรื่องไม่ใช่ง่าย ยิ่งพอต้องมาเจอคนพูดอะไรแบบนี้ในระยะเผาขนก็เจ็บแปลบกันไป ยิ่งกรณีของเราคือไม่มีใครรู้ว่าเขียนนิยายด้วย ถ้าเจอพูดอะไรแบบนี้ตรงหน้าคงจะขำไม่ออก
ไปห้ามคงไม่ไหว
แต่ขออย่างเดียว
เวลาขโมยผลงานคนอื่นไปแล้ว
พอโดนขโมยคืนบ้าง ก็อย่ามาโวยวายละกัน
หนังสือสมบัติผู้ดีในตู้เก็บหนังสือที่บ้านกำลังสั่น
คนที่ทำควรจะมาขอนุญาตนักเขียนก่อนไม่ใช่เหรอคะ
ทำแบบนี้ได้ยังไง
นักเขียนกว่าจะเขียนได้สัก 1 เรื่องต้องใช้ความพยายามมากขนาดไหน
คนไทยสมัยนี้ไร้มารยาท ไม่มีกาลเทศะ ชอบเอาเปรียบคนอื่นกันมากขึ้น
บางทีประเทศไทยควรจะบรรจุวิชาสมบัติผู้ดีลงไปในหลักสูตรการศึกษา
ตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับปริญญาเอก
ไม่ต้องห่วงงานผมแม้แต่คนอ่านยังบ่มีคนก๊อปจะหาจากไหน แถมไม่ใช่แนวกระแสอีกเฮ้อ...
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?