Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แชร์ประสบการณ์และวิธีการเตรียมตัวสอบ TU-GET (800 คะแนน)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีทุกคน วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์และวิธีการเตรียมตัวสอบ TU-GET ของเราให้ทุกคนได้อ่านกัน

การสอบ TU-GET เป็นการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษที่จัดขึ้นโดยสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจะจัดสอบทุกเดือน เดือนละครั้งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยมีค่าสมัครสอบ 500 บาท

ข้อสอบมีทั้งหมด 100 ข้อ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Structure (25 ข้อ), Vocabulary (25 ข้อ) และ Reading (50 ข้อ) มีเวลาสอบ 3 ชม. (เราใ้ช้เวลาทำ 2.30 ชม. อีก 30 นาทีทบทวน) โดยเราไปสอบมาเมื่อเดือนส.ค. 2019 ซึ่งมีวิธีการเตรียมตัว ดังนี้

• หนังสือที่ใช้เตรียมสอบมี 3 เล่ม คือ TU-GET ของสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (VOL. 1 & 2) ซึ่ง 2 เล่มนี้ถือว่า ยากมากกว่าข้อสอบจริงอีก แต่ละเล่มก็มีข้อสอบเล่มละ 6 ชุด รวมเป็น 12 ชุด เราทำจนหมดทุกชุด คะแนนออกมาก็ 600-700 ประมาณนี้ ทำแล้วต้องตรวจ เมื่อตรวจแล้วผิด ต้องทำความเข้าใจข้อนั้น ๆ ให้แจ่มแจ้ง โดยเช็กจากเฉลย (ละเอียด) เพื่อให้เรารู้จุดบกพร่องของเรา แล้วพยายามแก้ไขให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะไวยากรณ์ (Grammar) ถ้าเห็นว่าผิด อย่าปล่อยผ่าน ต้องทำความเข้าใจเรื่องนั้น ๆ เลยทันที และอีกเล่ม TU-GET UPDATE ของสถาบัน TGRE เล่มนี้มีทั้งสรุปเนื้อหาและข้อสอบ แต่ง่ายกว่า 2 เล่มที่กล่าวไปก่อนหน้านี้

• Structure (Grammar): ส่วนนี้เราได้ไป 220/250 คะแนน (ผิด 3 ข้อ) เทคนิคที่เราใช้ คือ การตัดส่วนขยายของประโยคออก แล้วจะเห็น Subject กับ Verb แท้ของประโยคชัด ทีนี้เราก็จะไล่เช็กตั้งแต่ Subject-Verb Agreement, Participle ว่าสอดคล้องกันไหม การตัดส่วนขยายออกช่วยทำ Error Identification ได้มาก ๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่อง If-Clause ที่เราคิดว่า ต้องออกแน่นอน แล้วก็ออกมาจริง ๆ ข้อแรกเลย เพราะในหนังสือ 2 เล่มที่กล่าวไปมีเรื่องนี้อยู่แทบทุกชุดเลย อีกเรื่องที่ขาดไม่ได้ คือ Connectors (ทั้ง Conjunction และ Preposition 2 เรื่องนี้ก็ออก) ก่อนสอบเราพกสมุดที่จดสรุปไวยากรณ์ที่เรียนมาไปด้วย เพื่อ recap จุดที่เราเน้นอีกทีหน้าห้องสอบ

• Vocabulary: เราได้ 190/250 คะแนนในส่วนนี้ (ผิด 6 ข้อ) ท่องศัพท์ให้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ จดความหมายของทุกคำที่ไม่รู้ แล้วบันทึกลงสมุดศัพท์ของตัวเอง เราท่องวันละ 50 คำเป็นอย่างต่ำ ควรสะสมศัพท์ให้ได้มากที่สุด เพราะในข้อสอบส่วนนี้จะถาม Synonym โดยตรงเลย มี Context Clues ไม่มากเท่าไร แต่พวกรากศัพท์ก็พอช่วยได้บ้างเล็กน้อย ดังนั้น ทางที่ดี ท่องศัพท์ไปเยอะ ๆ เลย คำศัพท์ออกไม่ยากเวอร์ 

• Reading: เราได้ 390/500 คะแนน (ผิด 11 ข้อ) ในข้อสอบมี 6 บทความ แต่ละบทความมีเนื้อหาแตกต่างกันไป เช่น ธุรกิจ, การแพทย์ คำศัพท์ก็กลาง ๆ ไม่ยากเกินไป แต่เราแนะนำว่า ควรฝึกโจทย์ Reading ไปให้มากที่สุด เพราะมันจะทำให้เราคุ้นชินกับแนวโจทย์ จนมี sense ตัดตัวเลือกผิดออกได้เอง ตอนเราทำ เราจะไปกวาดตามองโจทย์แต่ละข้อก่อน แล้วเราจะแบ่งข้อสอบเป็น 2 จำพวก คือ พวกที่ทำได้ก่อน อย่าง Vocabulary กับ Reference (รีบไปมองใน passage เลยว่า คำนี้ควรหมายความว่าอะไร (ในกรณีที่ไม่รู้ศัพท์ ใช้ context clues ช่วย แต่ถ้ารู้ ก็ตอบได้เลย) คำนี้ควรอ้างอิงถึง Noun คำไหน) แล้วก็พวกที่ถาม Details หรือ True/ False พวกนี้เสียเวลาหน่อย แต่เราควรจับ Keyword ในโจทย์ (เช่น ชื่อเฉพาะ, ค.ศ.) แล้วไปกวาดตาหาในบทความ แล้วมาตอบเลย และพวกที่ต้องทำทีหลัง อย่าง Title, Main Idea และ Conclusion เราต้องรู้ภาพรวมของบทความก่อน จึงจะตอบได้ แต่ก็มีบางตัวเลือกที่ดู exaggerating หรือกว้าง แคบไป พวกนี้เราก็ตัดออกไปก่อนเลย (คนที่ทำโจทย์มาในระดับหนึ่ง จะพอมี sense ตัดตัวเลือก)

ปล. ก่อนไปสอบคืนหนึ่งเราฟัง Memolody Medley ของ Enconcept ครบทุกเมดเลย์ก่อนไปสอบ แล้วก็มีคำศัพท์ที่ออกมาจริง ๆ ด้วย (คำศัพท์ที่เรียนกับที่นี่ไปก็ออกเยอะอยู่ โดยเฉพาะใน Reading) แล้วเราก็ฟังพี่แนนสรุป Grammar ในคอร์ส GAT INSIGHT ไปด้วย ออกมาค่อนข้างตรงเลยแหละ

ภาพรวม: ครั้งแรกของเรา ได้ 800 เท่านี้ก็ภูมิใจมากแล้ว อย่าไปกลัวที่จะเริ่มทำโจทย์ แม้เราจะได้คะแนนไม่สูงตอนฝึก ทำไปเรื่อย ๆ มันจะค่อย ๆ พัฒนาไปเอง

แสดงความคิดเห็น

1 ความคิดเห็น