Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เด็กซิ่วเปลี่ยนใจจะเข้าม.เอกชน?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ต้องเกริ่นก่อนว่า เราอยากทำงานเกี่ยวกับออกแบบภายใน ออกแบบนิทรรศการ ออกแบบคอนเสิร์ต อะไรทำนองนี้

เรายื่นสอบเข้าคณะออกแบบภายใน ม.ชื่อดัง แต่เราไม่ติด แล้วคะแนนมันเฉียดฉิวมากๆๆๆๆ เราเลยตัดสินใจรอปีหน้า เพื่อยื่นคะแนนอีกครั้ง

เราซิ่วเพื่อจะรอสอบอีกปี เพราะไม่ติดคณะออกแบบภายใน มหาลัยที่หวัง แต่ไปๆมาๆ อยากเข้าคณะอีเว้นท์ ม.กรุงเทพเพราะน่าจะเป็นที่ต้องการของตลาด และตรงกับสายงานที่อยากทำแต่เปลี่ยนจากการออกแบบ เป็นการจัดการและครีเอทีฟแทน(ออกแบบก็ต้องครีเอทีฟเหมือนกัน) 

 ระหว่างที่รอ1ปีเราเรียนวาดรูป ทำพอร์ตต่างๆ เรียนภาษาอังกฤษเพิ่ม เตรียมตัวที่จะเข้าออกแบบภายในมาตลอดเลยค่ะ รู้สึกหวิวๆเหมือนกันถ้าต้องทิ้งมันไป เพราะเราก็คิดว่าคราวนี้เราต้องติดแน่ๆ แต่อีกใจเราก็อยากลองเสี่ยงเข้าอีเว้นท์ ม.กรุงเทพดู ด้วยความที่มันพึ่งเปิดไม่กี่ปี มันเลยไม่เป็นที่รู้จักและใหม่มาก แต่เราคิดว่ามันตอบโจทย์กับสิ่งที่เราอยากเรียน และทำงานทางสายนี้ในอนาคต แล้วคนที่มาให้ความรู้ดันเป็นคนที่เรานับถือเป็นไอดอลในการทำงานสายนี้ ทำยังไงดีคะ ที่บ้านไม่มีปัญหาเลย แต่เรายังกลัวความคิดคนอื่นที่มองมาอยู่ค่ะ ไม่ได้อยากแคร์สายตาคนอื่นนะ แต่มันก็อดไม่ได้ เราเป็นเด็กวิทย์-คณิต โรงเรียนดัง เหมือนสังคมก็คาดหวังให้เข้าจุฬา ธรรมศาสตร์ ถ้าสายศิลปะก็ลาดกระบัง แล้วเราก็ซิ่วเพราะค่านิยมนี้แหละค่ะ;______;

ตอนนี้คนอ่านมองมายังไงบ้างคะ

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

ตอน อวสาน 10 ต.ค. 62 เวลา 15:17 น. 1

ชีวิตมักจะมีเส้นทางให้กับเราเสมอ บางทีที่เราต้องเสียเวลารอหนึ่งปี อาจเป็นเพราะมันถูกกำหนดให้ต้องรอหนึ่งปี เพื่อที่จะให้เรารู้ใจตัวเอง ทุกอย่างมันเป็นบททดสอบให้รู้ใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ


เราก็ซิ่วมาเหมือนกัน ในตอนแรกเราชอบศิลปะมาก ตอนแรกก็สอบไม่ติด ก็ตัดสินใจเอาว่ะ ลงเรียนคณะอื่นก็ได้ แต่พอเรียนดูแม้สังคมจะโครตดีเพื่อนเยอะ แต่อีกหนึ่งปีต่อมาเราก็ตัดสินใจเลือกเข้าคณะศิลปะที่ชอบอยู่ดี.. และตอนนี้ก็ได้เรียนมัน หลังจากเรียนมันไปได้หลายปี เราก็ได้รับรู้ว่าพรสวรรค์​ของเราไม่ใช่การวาดแม้จะทำได้ แต่พรสวรรค์ของเราคือความคิด หลังจากทดลองทำหลายๆแบบดู ก็มาจบลงที่การเขียน เพราะมันบรรยายสิ่งที่เราคิดได้ดีที่สุด... กว่าเราจะค้นพบก็หลายปี แต่ละอย่างมันเป็นแบบทดสอบให้เรารู้ว่าเราชอบอะไรที่สุด และพอรู้แล้วมันจะเหมือนปลดล็อคเลยล่ะ


แม้ตอนนี้การเขียนจะยังไม่ประสบความสําเร็จ​ แต่มันก็เป็นอีกเส้นทาง ที่ให้เราได้ทดลองใจตัวเองดู อีกหลายๆปีข้างหน้า เราอาจจะกลายเป็นอย่างอื่นไปอีกก็ได้


แต่ลองเถอะ ลองทำสิ่งที่คิดดูเพื่อกลั่นกรองสิ่งที่ไม่ใช่

0