Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

พออ่านนิยายมากขึ้น ทำให้รู้ว่าสกิลเทพทรูคือตัวสร้างปัญหาเนื้อเรื่องเลย

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ช่วงนี้ได้อ่านนิยายมากขึ้นครับ แล้วจุดเหมือน ๆ กัน คือพระเอกมันจะต้องมีสกิลจำเพาะอะไรซักอย่างได้เปรียบชาวบ้านเขาเสมอ ตอนแรกมันก็สนุกดีอยู่หรอกนะครับ แต่พอดำเนินเรื่องมาซักพักกลายเป็นพระเอกเทพเกินไปจนกลายเป็น แมรี ซู เรื่องเลยไม่ไปโฟกัสที่เป้าหมายชีวิตหรือภารกิจสำคัญแล้ว ยิ่งเนื้อเรื่องซีเรียสด้วยจะเห็นชัดแจ่วยิ่งกว่าน้ำยาล้างจาน

สกิลเทพ ๆ ที่เจอก็มีประมาณนี้

1. สกิลเทพตั้งแต่เกิด พวกพระเอกที่ตายตอนอายุ 30 กว่า ๆ มาเกิดใหม่ในโลกแฟนตาซีนี่มีทุกคน คือเรียนรู้เร็วกว่าชาวบ้าน ทันเกมตัวร้ายจนทะลุปรุโปร่ง เอาใจสาว ๆ เก่งตั้งแต่เด็ก ประสบการณ์ระดับล้นทะลัก ไม่รู้ทำไมต้องไปเกิดโลกที่ล้าหลังกว่าโลกเดิมด้วยหว่า

2.สกิลได้รับพลังเทพตั้งแต่ต้น คืออยู่ ๆ พอเริ่มเรื่องพระเอกก็มี หรือได้รับพลังอะไรซักอย่างจนพวกเซียนเต๋าจีนยังอิจฉาตาร้อน ฝึกเป็นเซียนมาพันปีหมื่นปี ทำไมต้องแพ้พระเอกที่เทพกว่าเซียนทั้งที่ฝึกแค่ไม่ถึงสัปดาห์ สะกิดทีเดียวก็ตายทั้งกองทัพ กลายเป็นว่าแทนที่เนื้อเรื่องจะไปสำรวจที่อื่น ๆ ที่อาจสร้างปัญหาให้พระเอกและพวกพ้อง ดันกลายเป็นพล๊อตที่ต้องสาธยายความเทพเกินพิกัดของพระเอก เทพไม่บันยะบันยัง จะเทพไปไหน ไม่มีอุปสรรคอะไรจะคุกคามพระเอกอีกแล้ว มาเมื่อไร ตัวร้ายเตรียมจองวัดได้เลย แบบนี้ไม่เรียกว่านิยายผจญภัยสุดอลังการแล้ว บ้านเราเรียกว่านิยายจูนิเบียว

3.สกิลก๊อปปี้มหากาฬ ถ้าโลกนี้สามารถก็อปความสามารถคนอื่นได้ ไม่ต้องเรียนหนังสือตลอดชั้นปีหรอก ก็อปปี้นักเรียนท็อประดับชาติ ไม่สิ ท็อประดับโลก O.NET A.NET กี่ครั้งยังไงได้เต็มตลอด พระเอกจะได้รับพลังจากสัตว์ประหลาดหรืออะไรซักอย่าง จนได้รับความสามารถใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่มีขีดจำกัด กินมังกรได้ไฟมังกร กินหมีได้เล็บหมี กินเทพได้พลังเทพ ปกติก๊อปปี้พลังได้ก็เทพพออยู่แล้วนะ นี่ยังก๊อปปี้แบบไม่มีขีดจำกัดอะไรอีกต่างหาก แล้วใครมันจะไปสู้อะไรพระเอกมันได้ฮะ

ผมว่าปัญหาที่ทำให้นิยายไม่เป็นที่สนใจ ทั้งที่เขียนตามกระแสอยู่แล้ว น่าจะเป็นเพราะคนเขียนใส่องค์ประกอบพวกนี้เข้ามา เข้าใจว่าคงใส่มาสนองความต้องการของคนอ่านให้เกิด impression ช่วงต้นเรื่องให้มากที่สุด และไม่ได้เผื่อระยะยาวว่าจะรักษาฐานคนอ่านยังไง พอพลังพระเอกมันเทพเกินไปจนไม่มีใครต่อกรอีกแล้ว วิธีแก้ปัญหาข้างต้นกลับเป็นทิ้งจุดประสงค์หลักไปซะงั้น บางเรื่องมักง่ายไปสร้างฮาเร็ม สโลวไลฟ์บ้าง หรือลูปนรกแบบนิยายจีน 1000+ ตอน ไม่ต้องเดินเรื่อง สุดท้ายก็อยู่ที่ความอดทนของคนเขียนอย่างเดียว เพราะความเทพของพระเอกกำลังทำร้ายคนเขียนซะเอง ทำกับตัวเองล้วน ๆ ถ้ามุ่งพล็อตหลักอย่างเดียวอาจจะจบไม่กี่เล่มก็ได้ ยังดีกว่าหมดไฟจนดองไม่มีวาระกำหนด

จริง ๆ ก็เห็นใจคนเขียนนะครับ เพราะรสนิยมของคนเขียนกับคนอ่านไม่ค่อยจะเป็นเคมีเข้าหากัน แต่ผมก็มองตามเนื้อผ้าน่ะนะ ว่าปัญหามันมาจาก

1 ต้องการเรียกร้องให้คนสนใจในช่วงแรกมากเกินไปหน่อย เลยใส่ความสามารถให้พระเอกซะเวอร์เกิน พอพ้นช่วงแรกไป คนเขียนหลงทาง

2 ไม่อยากให้เรื่องหลักมันจบเร็ว เพราะการจะคิดเรื่องหลักต่อเนื่องมันยาก เลยต้องทู่ซี้เล่นประเด็นตลาด ๆ ที่มันขายได้ชัวร์ ๆ เพื่อยืดเรื่องมันออกไป

3.ถ้าเขียนจบ ฐานะลูกค้าอาจจะหนีไป ได้แฟนคลับจริงน้อยนิด เกิดขายจริงอาจจะไม่คุ้มกำไร ความนิยมพวกท็อปเท็นจะตกหล่นไป เพราะมีเรื่องอื่นเบียดดันทุกวัน

ผมสรุปได้ประมาณนี้แหละครับ ซึ่งมาจากการอ่านทั้งไทยและนิยายแปลของนอก ถ้าเห็นว่าผิดก็แย้งได้เลยครับ อาจเป็นไปได้ว่าหลัง ๆ สกิลที่ว่าเทพ ๆ ของพระเอกมันอาจจะเทพไม่พอจะสู้บอสอะไรพวกนี้ ซึ่งผมไม่รู้เพราะยังอ่านไม่ถึง

แสดงความคิดเห็น

>

20 ความคิดเห็น

ELVHA 14 ต.ค. 62 เวลา 04:18 น. 1

ลืมความจริงที่สำคัญไปนะ


และผมว่านี่น่าจะเป็นสิ่งที่ตรงกับความเป็นจริงพอ ๆ หรือเผลอ ๆ ก็มากกว่าเหตุผลทางการตลาดด้วย



4. คนเขียนจูนิเบียว เมากาว


หมกหมุ่นคลั่งไคล้หลงไหลเรื่องแนวพระเอก/นางเอก แกรี่สตู /แมรี่ซู เข้าขั้นอาการหนัก


ตัวละครเอกอ่อนด้อยโดนศัตรูหรือตัวร้ายสะกิดไม่ได้ คนเขียนจะดิ้นทุรนทุรายเหมือนจะขาดใจตาย เลยเอาแต่เขียนตัวเอกให้ออกมาเป็นแบบนั้น




5. คนเขียนเซลฟ์ อินเสิร์ท


ตอนเขียนคงเขียนไปมโนเพ้อฝันเป็นตุเป็นตะ เอาตัวเองใส่ลงไปเป็นตัวละครเอกที่เทพ ๆ เสียเอง


พอเขียนให้ตัวละครเทพ ๆ โชว์เทพ โชว์เหนือที ก็ฟินน้ำแตกแทบจะขึ้นสวรรค์ชั้น 7


ว่า อาาาา "This is it!!"


ฉันนี่แหละเทพ ทุกคนยกย่องฉัน ชื่นชมฉัน ศรัทธาฉัน เคารพยำเกรงฉัน


เหนือฟ้า ใต้หล้า ฉันนี่แหละที่เทพกว่าผู้ใดในสามภพหรือห้วงจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลเหนือล้ำจินตนาการ


เพราะงั้นแหละ ต้องเขียนให้เทพเวอร์ ๆ อีก เพื่อที่ตัวเอก (ตัวคนเขียน) จะได้รับการชาบู ๆ กราบไหว้บูชาหรือปลาบปลื้มปิติศรัทธา ฟินเสียจนทวารทั้งเก้าเปิด




อืม ก็อะไรทำนองนี้ล่ะนะ


หาดูได้ไม่ยากครับ ตามแถว ๆ นี้แหละ


มากจนหาเรื่องที่ไม่ใช่แบบนั้นนี่ยากกว่าราว ๆ งมเม็ดฝุ่นสักเม็ดในมหาสมุทรเลย



0
จูนิ 14 ต.ค. 62 เวลา 04:48 น. 2

"ผมว่าปัญหาที่ทำให้นิยายไม่เป็นที่สนใจ ทั้งที่เขียนตามกระแสอยู่แล้ว น่าจะเป็นเพราะคนเขียนใส่องค์ประกอบพวกนี้เข้ามา" อันนี้ไม่จริง ถ้าใส่เข้ามาคนอ่านเพียบ ทั้งวิวทั้งเฟบโตเร็วมาก

1
จูนิ 14 ต.ค. 62 เวลา 04:50 น. 2-1

พอเทพจนเริ่มมีคนบ่นก็เปลี่ยนมา ฮาเร็ม สโลวไลฟ์ ช้ามากไปก็กลับมาวนลูปนรกไปเอาชนะดินแดนใหม่ซักหนึ่งรอบแล้วกับมาปลูกผักต่อ

0
ตัวpน้อย 14 ต.ค. 62 เวลา 06:07 น. 4

ถ้าพระเอกมันเทพเกินก็แต่งมาได้แล้วแบบนะครับ ผมว่า อย่างแรกก็ปล่อยให้มันเทพไป แล้วดำเนินเรื่องแบบไซตามะ


หรือเอาที่ง่ายกว่านั้น คือวางโครงตัวร้ายที่เพิ่มความน่ากลัวมาให้ทันเทีนมกับพระเอก และเพิ่มบทของตัวละครอื่นเข้าไปเรื่อย ๆ กลายเป็นฟามหมู่ อะไรแบบนี้ก็ได้ครับ

และยังมีอีกหลายทางออกเลย แต่จะยิ่งง่ายท่าวางปมมาตั้งแต่ตอนแรกแล้ว อย่างผมก่อนแต่งจะคิดฉากจบที่ต้องการก่อนเลย หรือแต่งไปก่อน แต่มีการปูเรื่องถึงลาสบอสเอาไว้แล้ว

0
MR. T-Man 14 ต.ค. 62 เวลา 06:11 น. 5

ผมเองก็แต่งนิยายแนวพระเอกเทพนะ(เป็นเทพจริงว่าที่เทพธิดา)


แต่จากประสบการณ์ก็รู้ดีว่าขืนเทพแบบนี้ต่อไปมีหวังอะไรๆ​ มันจะง่ายเกิด ไม่มีให้ลุ้นโครงเสียหมด​ เเละเพราะพึ่งเริ่มเรื่องไม่กี่ตอน​ เลยตัดสินใจให้แนวมันออกมาคล้ายแบบนารูโตะน่ะ​ คือการใส่ข้อจำกัดพลัง​ ใส่ตัวร้ายที่ส่อแววโกงกว่าพระเอกเข้ามา


เหมือนกับนารูโตะช่วงแรกที่ขโมยคำภีร์​ต้องห้ามคาถาแยกเงาพันร่างจนเทพ​ แยกเป็นพันร่างดูโกงดี​ แต่ใช่ว่าต่อจากนั้นจะชนะไรง่ายๆ​ เพราะก็ใส่ตัวละครที่เก่งกว่าตัวเอกเข้ามาเงี้ย

2
ตัวpน้อย 14 ต.ค. 62 เวลา 06:30 น. 5-1

สำหรับผมนะ ผมไม่เคยมองนารูโตะตอนเด็กเก่งเลย จนมันได้กระสุนวงจักร 5555

0
ปล่อยอึ่ง 14 ต.ค. 62 เวลา 06:34 น. 6

-ข้อ 3 เนี่ยนะ

จะช้าจะเร็ว สุดท้ายแล้วมันก็ต้องเขียนให้จบอยู่ดีหรือเปล่า จบแล้ว สุดท้ายคนอ่านก็จะหนีไปอยู่ดี แล้วท็อบก็ต้องตกลงไปเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วไม่ใช่เรอะ

1
Neko_BloodTypeY 5 ก.พ. 64 เวลา 10:49 น. 6-1

เราว่าไม่จริงค่า ดูตัวอย่างนิยายที่ทุกวันนี้ก็ยังมีคนอ่าน มีคนรู้จักอยู่อย่าง แฮร์รี่ พอตเตอร์ นิยายสมัยรุ่นพ่อจนตอนนี้ก็ยังมีคนตามเรื่อยๆ ถ้าเกิดเขียนเนื้อเรื่องดีจริงๆล่ะก็ จะกี่ปีเรื่องก็ไม่หล่นท็อปหรอกค่ะ

0
winidira 14 ต.ค. 62 เวลา 06:50 น. 7

มันขึ้นอยู่กับนักเขียนมากกว่า ไม่ว่าตัวละครมันจะเทพเเค่ไหน ถ้านักเขียนเก่งพอ นักอ่านก็จะสนุกกับมัน เช่น ไซตามะ ซุปเปอร์เเมน เเละ พี่เทพเทนโด หล่อเเละเท่ทุกกระบวนท่า

เเต่ถ้านักเขียนไม่เก่งพอ วางเเผนไม่ดี เนื้อเรื่องมันจะเริ่มออกทะเล -ตัวเทพจะเริ่มน่ารำคาญ อย่างที่จขกทบอก

2
14 ต.ค. 62 เวลา 10:01 น. 7-1

ไซตามะนีสุดๆครับเรื่องความเทพ หมัดเดียวจอด แต่ดันกลายเป็นฮีโร่คลาสCซะงั้น

0
ปล่อยอึ่ง 14 ต.ค. 62 เวลา 18:05 น. 7-2

วัน พันช์ แมนนั่นมันอยู่ในฐานะที่ว่า "คอเมดี้" จะกาก จะโกงก็ช่าง เอาฮาไว้ก่อน มันเลยเขียนได้


ถ้าจะเน้นจริงจังน่ะ แบบนี้มันไปไม่รอด

0
แอลลิเกเตอร์ผึ่งพุง & หงส์จีน 14 ต.ค. 62 เวลา 09:27 น. 9

ลองมาอ่านดูครับ TopUp Now!! จงเติมเงินซะสิ แล้วเจ้าจะเก่งขึ้น

พระเอกเทพช้าจนคนอ่านบ่นกัน ฮ่วยยย

https://writer.dek-d.com/cloudsovercast/story/view.php?id=2005094


3
popu07 14 ต.ค. 62 เวลา 11:20 น. 9-1

ผมเป็นแฟบนิยายคุณแล้ว รู้ตัวบ้างมั๊ย *-*

0
yurinohanakotoba 14 ต.ค. 62 เวลา 09:34 น. 10

นิยายพระเอกเทพเราว่ามันเสียเพราะคนเขียนดัน Self-insert พอเอาความเก่ง(ที่ตัวเองคิดว่าเก่งสุด ๆ ไม่มีใครชนะ)มาครอบเรื่องมันไม่ได้แสดงความขัดแย้ง ถ้าถอยห่างออกจากตัวเองได้ และมุ่งไปที่โลก มุ่งไปที่ตัวละคร มันมีแง่มุมที่นำเสนออยู่อย่าง chrome shelled regios นี่ก็เห็นเลยว่าพระเอกเก่งใช่ว่าจะพามนุษยชาติรอดพ้นภัยพิบัติ หรือ ถ้าดังหน่อยก็ เทพประยุทธ์เซียนกลอรี่ พระเอกเทพแต่เป้าหมายของเขามันไปด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ มีความขัดแย้ง ในเกมส์พระเอกไร้พ่ายเก่งเทพ แต่นอกเกมก็เป็นแค่วัยรุ่นตอนปลายที่เฟ้อฝันเรื่องเดิมตั้งแต่เด็ก ก็ทำให้เกิดความสนใจน่าติดตาม มีมุมที่ให้เอาใจช่วย


แต่ความ Self-insertion ก็เป็นจุดขายของนิยายประเภทนี้ถ้าดึงคนอ่านลงไปได้เขาก็อยู่กับมันได้ ไม่ว่าเรื่องมันจะซ้ำซากน่าเบื่อขนาดไหน

0
14 ต.ค. 62 เวลา 09:58 น. 11

อยู่ที่ตััวคนเขียนด้วยครับ หากเขียนเป็นไม่กาวและไม่เข้าข้างพระเอกเกินก็สนุกได้ครับ

0
ponasd 14 ต.ค. 62 เวลา 10:06 น. 12

*หนึ่งในปัญหาของพระเอกเทพแล้วเนื้อเรื่องทุกอย่างจะจบลงที่พระเอก ตั้งแต่ลูกกระจ๊อกไปยันลาสบอสโดยไม่แบ่งให้ตัวละครรองได้มีบทได้มีโอกาศแก้ปัญหาเลย(แม้ให้ตัวรองลองสู้ด้วยพลังเต็มที่แล้วแพ้ก็ยังไม่มี) เนื้อเรื่องแบบนี่มันจะตันเร็วมากกก เพราะพระเอกเทพอยู่แล้วการพัฒนาตัวละครด้านพลังแทบไม่มี(ต้องเน้นด้านความสัมพันอย่างเดียว)

0
ผมเอง เวอร์ชั่น อิอิ 14 ต.ค. 62 เวลา 10:14 น. 13

รำคาญที่สุดคือ พระเอกเปิดตัวมาแบบหายใจใส่ก็ตายครึ่งทวีป


แล้วก็เขียนเนิฟพระเอกให้กาก เจอแบบนี้เลิกอ่านทันที

4
MR. T-Man 14 ต.ค. 62 เวลา 10:40 น. 13-1

เดี๋ยวนะหายใจตายครึ่งทวีปมันมีด้วยเรอะ!??

0
WriterA 14 ต.ค. 62 เวลา 10:43 น. 13-2

เรื่องไรครับบอกลิงค์หน่อย ดูเวอร์ดี

0
ผมเอง 14 ต.ค. 62 เวลา 11:24 น. 13-3

เปรียบเปรยเฉยๆ

คือ จะเขียนแมรี่ซู ก็ไปให้สุด หยุดที่ออกทะเลไปเลย แต่มาเนิฟตัวละคร อ่านแล้วมันสะดุด เหมือนกับว่า จะเนิฟตัวละครทำไม

0
WriterA 14 ต.ค. 62 เวลา 13:10 น. 13-4

อย่างกับเกมเลยนะครับเห็นคนนั้นคนนี้เล่นเทพเกินไปประมาณอัตราชนะ 100% ไรงี้ ตัวละครที่ผู้เล่นคนนั้นเล่นก็โดนเนิฟทันที

0
popu07 14 ต.ค. 62 เวลา 11:19 น. 14

มาอ่านนิยายแฟนตาซีตลกของเราแก้เครียดหน่อยป่าว พระเอกไม่เก่งมาก แต่ลากเทพมาด้วย

ชื่อเรื่องตกงานทั้งที ไปเอาดีที่โลกแฟนตาซีดีกว่า


https://writer.dek-d.com/popu07/writer/view.php?id=2009542

0
Eliche 14 ต.ค. 62 เวลา 11:46 น. 15

ปัญหา - เลยเหรอ


เป็นปัญหาของใครกัน ใครบ้างที่คิดว่ามันเป็นปัญหา

หรือจริงๆแล้วมันไม่ใช่ปัญหา

มันเป็นแค่เพียงว่า มันไม่ถูกกับรสนิยมของคุณ


สมมติว่าคุณเป็นคนไม่กินเนื้อไก่ แต่คนอีก60%กิน

แล้วเลยมีคนเปิดร้านขายไก่จำนวนมาก

ร้านขายไก่จำนวนมากนี้เป็นปัญหาของคุณหรือเปล่า


1

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

mavelman 14 ต.ค. 62 เวลา 14:18 น. 17

ตัวเอกในเรื่องของผม กากตั้งแต่ต้นเรื่องเลย คนอื่นๆจะเก่งกว่าหมด จนใกล้จะจบแล้วยังพัฒนาสกิลขึ้นมาได้นิดหน่อยเอง สิ่งสำคัญที่ผมเน้นคือพัฒนาการด้านความคิด ความกล้า เน้นการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ต่างๆ มากกว่า จะรับพลังเทพๆแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

0
小芥蓝 14 ต.ค. 62 เวลา 17:16 น. 18

กากเกินไปก็ไม่ชอบ เทพทรูเกินไปเราก็ไม่ชอบ


น่าจะมีเรื่องเทพทรูประเภทเก่งแต่จิตใจอ่อนแอ บอบบางกว่าสาวน้อย เห็นเลือดแล้วเป็นลม เห็นเข็มแล้วเป็นลม เห็นศพแล้วสลบไปเจ็ดวัน เป็นพวกมีความ emotional สูง อินกับชาวบ้านทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องตัวเอง




กับพวกกากแล้วชอบเสนอหน้าไปตาย แต่ก็ไม่ตาย เอ้ยแนวนี้เยอะละ

0
darkius 14 ต.ค. 62 เวลา 19:36 น. 19

ก็จริง แรกๆสนุกมาก ตื่นเต้น แต่หลังๆคนจะเริ่มเบื่อ เพราะชนะอย่างเดียว ดังนั้นคนแต่งจึงต้องสร้างอะไรมากลบจุดนี้ ซึ่งผมมองว่ายาก


คนที่เก่งพอก็จะแต่งต่อไปให้ได้ยาวเรื่อยๆ รักษาฐานคนอ่านหรือลูกค้าต่อไปได้เรื่อยๆ แต่ถ้าคนเขียนหมดมุขเมื่อไหร่ นิยายก็เตรียมโดนดองยาวได้เลย

2
TunKoB 15 ต.ค. 62 เวลา 01:17 น. 19-1

จริงๆมันไม่มีหมดมุขหรอก ถ้าหมดมุขก็ตัดจบหรือหาจุดจบให้เรื่องของเราแบบสวยๆก็ได้แต่ปัญหาคือนิยายมันยังขายได้นักเขียนก็เลยเลือกจะยืดตอนขาย ซึ่งจะมากจะน้อยมันก็ขึ้นอยู่กับนักเขียนแต่ละคนแต่ยิ่งฝืนยิ่งยืดยิ่งยื้อคนอ่านมันก็จะน้อยลงแหละเพราะนักอ่านเขารู้และสัมผัสได้

อย่างเรื่องแรกของผมที่พลาดไปเยอะก็จะตัดจบแบบสวยๆก็ได้แต่ผมเลือกจะหยุดเอาไว้แล้วจะมารีไรท์ใหม่ให้มันโอเคกว่าเดิมเพราะผมยังรักในตัวละครและนิยายเรื่องนั้น ท่าน darkius รีไรท์ไปถึงไหนแล้ว เห็นช่วงนี้ตั้งกระทู้บ่อยคงกำลังตันๆหรือสับสนอยู่สินะ สู้ๆนะครับ ผมเองคงอีกสักสองสามเดือนแหละถึงจะเริ่มเรื่องแรก [โดนคนอ่านตามด่าตามบ่นตลอด ที่พีทสุดคือผมแอบไปเล่นเกมแล้วไปเจอนักอ่านที่เป็นแฟนตัวยงเขารู้ว่าเป็นผมแล้วมาบ่นใส่ 555]


0
darkius 15 ต.ค. 62 เวลา 04:17 น. 19-2

รีไรท์ได้แค่ 20% เองจ้า เครียดน่ะ เลยพักสมองมาอ่านกระทู้หน่อย วันไหนอ่านและตอบบ่อยๆคือวันนั้นตัน 555

0
TunKoB 15 ต.ค. 62 เวลา 00:53 น. 20

อ่านหลายคอมเม้นแล้วผมมองว่าหลายคนกำลังเข้าใจอะไรผิดและมองผิดทาง


พระเอกเทพทรูมันไม่ได้ทำให้นิยายกากหรือน่าเบื่อ ถ้านักเขียนเก่งและเข้าใจในนิยายของตัวเองมากพอว่าเจาะกลุ่มนักอ่านแบบไหนและคุมโทนของเรื่องได้ นิยายมันปังยอดอ่านไม่มีตกเป็นพันตอนได้อยู่แล้วแต่สำหรับนักเขียนที่ประสบปัญหาความสับสนในตัวเอง ยังไม่เข้าใจนิยายของตัวเองดี ก็จะเจอปัญหายอดตกวูบนั่นแหละ


โดยส่วนมากไม่ว่านิยายอะไรมันต้องมีความพอดี เก่งไปก็น่าเบื่อ อ่อนไปก็อ่านแล้วหงุดหงิด โดยหลักจิตวิทยาแล้ว นักอ่านที่เข้ามาอ่านนิยาย อ่านเรื่องของตัวเอกเขาจะจินตนาการไปว่าตัวเองเป็นตัวเอกและคอยเอาใจช่วยตัวเอกอยู่เสมอ << นี่คือที่มาของความสนุก เพราะนิยายคือการอ่านแล้วอินไปกับมัน ถ้านักเขียนไม่เข้าใจในจุดนี้ เขียนยังไงก็ไม่ปังเข้าถึงคนอ่านไม่ได้ นักเขียนหลายคนในเว็บ Dek d นี้ ผมเห็นการใช้ภาษา การพิมพ์วรรคตอนดูแน่นและเป๊ะกว่าผมมาก คำผิดแถบไม่เจอแต่นิยายคนอ่านน้อยก็อาจจะเพราะสาเหตุนี้

และจากสาเหตุข้างต้น ถ้านักอ่านอินไปกับนิยาย มันจะมีใครอยากให้ตัวเอกในนิยายกากเดน ทำอะไรไม่ประสบความสำเร็จ เจอใครก็โดนตบดิ้น ? ดังนั้นพระเอกเทพทรูมันคือการเข้าถึงความต้องการของนักอ่านอีกรูปแบบหนึ่ง


ถ้าวิเคราะห์จากสิ่งที่ผมอธิบายให้เข้าใจไปแล้วทีนี้ก็จะเข้าใจว่าทำไม นิยายแนวต่างโลก หรือแนวนีทที่ไม่มีอะไรดีชีวิตล้มเหลวแล้วได้ไปเทพต่างโลกมันถึงขายดี มันเพราะนิยายแนวนี้มันทำให้นักอ่านที่เป็นนีทหรือไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จในเรื่องต่างๆเขาอ่านแล้วเขาอิน มันเป็นเรื่องของโอกาสที่สองที่เขาอยากให้มันเกิดกับตัวเองแต่มันทำไม่ได้เขาก็เลยเอาความหวังนี้ไปลงกับนิยาย อ่านแล้วเป็นความสุขเล็กๆน้อยๆ



ทีนี้กลับมาเรื่องเทพทรู เทพทรูไม่ผิดถ้าคุมโทนของเรื่องและดึงเนื้อหาส่วนอื่นเข้ามาผสมปนเปให้มันน่าติดตามเช่นในเรื่องต้องมีปมต้องมีเป้าหมาย คนเขียนต้องมีสติและคุมโทนของเรื่องไม่ให้มันออกทะเลเกินไปหรือไม่ให้มันรีบเร่งจนเกินไป มีจุคพีค มีจุดผ่อน รู้ว่าเขียนแบบไหนนักอ่านจะติด เขียนแบบไหนนักอ่านจะชิวๆ


คนเขียนเซลฟ์ อินเสิร์ท ไม่ผิด ไม่ใช่แค่ไม่ผิดถ้าท่านทำอย่างถูกวิธีมันจะทำให้การเขียนไหลลื่นและทำให้การกระทำของตัวละครดูเป็นธรรมชาติด้วยซ้ำ การที่นักเขียนจำลองไปว่าตัวเองเป็นตัวละครในเรื่องนั้นๆ ยิ่งจำลองและนึกเห็นภาพได้ใกล้ความจริงมากเท่าไหร่การเขียนงานมันก็จะง่ายและสะดวกมากขึ้นเท่านั้น




สุดท้ายพิมพ์อธิบายไปคงไม่เห็นภาพ ก็คงบอกได้อย่างเดียวว่าความพยายามเท่านั้นจะทำให้เข้าใจถึงความจริง ต้องลองไปอ่านงานที่เขียนแล้วยอดนักอ่านตกวูบ [20 ตอนแรกหลักหมื่น 50 ตอนหลังเหลือหลักร้อยหลักสิบมาเปรียบกับงานที่เขียนไปหลายร้อยตอนแล้วนักอ่านยังหลักพันเหนียวแน่นแทบไม่ตกเลยดูแล้วจะเข้าใจ] โดยส่วนตัวกว่าที่ผมจะเข้าใจและทำให้ยอดนักอ่านคงที่ได้เป็นร้อยๆตอนก็ใช้เวลาเรียนรู้นายเหมือนกันครับ




ปล.อยากจะให้นักเขียนตระหนักรู้ไว้ว่าความชอบของคนมันมีหลายประแบบ บางคนชอบพระเอกเก่งเฉยๆ บางคนชอบพระเอกแบบเทพทรูมหาโครตเทพ บางคนก็ชอบแบบค่อยเป็นค่อยไป นักเขียนต้องเลือกเองว่าจะเน้นกลุ่มนักอ่านแบบไหนแล้วคุมโทนเรื่องไม่ให้หลุดออกจากเส้นเรื่อง ถ้าทำได้ก็จะประสบความสำเร็จมียอดนักอ่านเข้ามาเรื่อยๆ การเขียนนิยายความสนุกมันไม่ได้มีอยู่แค่ความเก่งเทพและการตบเกรียนของพระเอก ความสนุกมันมีมาได้หลายรูปแบบ ทั้งการลุ้นว่าตัวเอกจะเก่งขึ้นแบบไหน ได้ความสามารถอะไรมาใหม่ ตัวร้ายมันจะเลวได้ขนาดไหน แกล้งพระเอกยังไง พระเอกจะจีบนางเอกยังไง ปมของเรื่องคืออะไร เขียนได้หมด ถ้าจัดโทนเนื้อหาและเหตุการณ์ได้โอเคเขียนไป 300 ตอนก็ไม่ต้องวนหลูบ สุดท้ายมันอยู่ที่ประสบการณ์ของนักเขียนล้วนๆ



ผมเองก็เป็นนักเขียนคนหนึ่งที่เขียนแนวพระเอกเก่ง พระเอกทุกเรื่องของผมต้องเก่ง [แต่ผมก็กำลังพัฒนาตัวเองอยู่เหมือนกันในการคุมโทนความเก่งของพระเอกไม่ให้มัน Op เกิน] และสุดท้ายจริงๆ นักเขียนท่านไหนที่ว่างอยู่ หรือหาอะไรทำแก้เบื่อ ผมแนะนำความบรรเทิงขั้นสุดในเว็บ Fictionlog ในเว็บนี้มันมีระบบรีวิวนิยายที่ถือได้ว่าโอเค คือคอมเม้นกับรีวิวจะต่างกันนะและในเว็บนักนักอ่านเขาจะชอบรีวิว อย่างอ่านแล้วชอบก็จะมารีวิว อ่านแล้วไม่ชอบก็จะมารีวิวแบบสับเละเหมือนกัน ดังนั้นถ้าท่านนักเขียนว่าง ผมขอเชิญไปเสพประสบการณ์อ่านรีวิวนิยายของคนอื่นซึ่งถือว่าบรรเทิงพอสมควรและได้ความรู้ด้วย [ความรู้คือเราจะได้รู้ว่านิยายเขียนยังไงถึงโดนด่า ทำไมถึงโดนด่า นิยายเรื่องนั้นที่โดนด่าเยอะๆมันเป็นจริงแบบที่นักอ่านเขาด่าไหม อ่านแล้วก็เอามาปรับใช้กับนิยายของเราได้ครับ]

0