Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

​เจอผีจะจะ!! : มิติลี้ลับสัมผัสสยอง

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

 
ชาติมีอาชีพขับแท็กซี่เขามักจะขับในช่วงกลางคืนเพราะ รถไม่ติด แดดไม่ร้อน แถมลูกค้ายังให้ทิปง่ายกว่าขับในช่วงกลางวันอีกด้วย ปกติ เขาไม่ค่อยกลัวผีเพราะก่อนที่จะเข้ากรุงเทพมาขับแท็กซี่นั้นเขาได้บวชเรียนมาหลายพรรษา และที่สำคัญเขายังไม่เคยเจอกับเรื่องลี้ลับแบบจะๆ เลยทำให้ไม่เชื่อว่าผีนั้นมีอยู่จริง
 
            แต่เมื่อ 5 ปีที่แล้วชาติก็ได้เจอเรื่องราวชวนขนหัวลุกกับตัวเองเข้าอย่างจัง เพราะมีอยู่คืนหนึ่งราวๆ เที่ยงคืน ชาติได้รับผู้โดยสารเป็นหญิงสาวคนหนึ่งบริเวณตรงข้ามสนามบินดอนเมือง เรียกให้ไปส่งที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ชาติตอบตกลงจะไปส่งเมื่อหญิงสาวก้าวขึ้นรถก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายกลิ่นดดอกไม้
           
            ในระหว่างที่ชาติขับรถไปนั้นก็สังเกตเห็นว่าผู้โดยสารสาวมีสีหน้าที่เศร้าหมองอย่างมาก เขาคิดในใจว่าหญิงสาวคงอกหัก หรือไม่ก็ทะเลาะกับแฟนแน่นอน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรเพราะเกรงว่จะเสียมารยาท จึงทำให้บรรยากาศในรถนั้นเงียบมากจนชาติแทบจะลืมไปเลยว่ามีผู้โดยสารบนรถ
 
            หลังจากที่ขับรถไปได้ซักพักชาติก็เปิดวิทยุเพื่อรอฟังรายการผีที่เขาติดตามฟังอยู่ทุกคืน แต่ยังไม่ทันที่เพลงเปิดรายการจะจบลง หญิงสาวก็ถามกับชาติว่า “พี่ฟังเรื่องผีตอนกลางคืนแบบนี้ไม่กลัวหรอ” น้ำเสียงของเธอนิ่งและเย็นมากทำเอาชาติสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตอบไปด้วยความมั่นใจว่าเขานั้นเป็นคนไม่กลัวผี ตอนอยู่บ้านนอกก็ออกไปเที่ยวงานวัดกับเพื่อนบ่อยๆ ต้องเดินผ่านวัดยังไม่รู้สึกกลัวเลย หญิงสาวถามกลับมาอีกครั้งว่า “แล้วพี่เคยเจอผีไหม” ชาติก็บอกไปว่าตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเจอเหมือนกันได้ยินแต่ผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง หลังจากสิ้นสุดคำตอบของชาติหญิงสาวก็กลับไปนั่งนิ่งเงียบตามเดิมเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น
 
            เมื่อไร้คำถามจากผู้โดยสารสาวชาติก็ขับรถต่อไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงจุดหมายจึงถามหญิงสาวถึงซอยที่จะให้เข้าไปส่งเธอ เธอเงียบซักพักแล้วบอกให้ชาติเลี้ยวซ้ายตรงแยกข้างหน้า ชาติก็เลี้ยวตามที่หญิงสาวบอกเมื่อขับไปก็พบว่าถนนเส้นนี้ค่อนข้างมืดและเปลี่ยวพอสมควร ไฟถนนมีเป็นระยะแต่ก็ไม่ได้สว่างมากนัก แถมมีป่าหญ้าและต้นไม้ขึ้นอยู่เกือบตลอดแนวสองข้างทาง แต่ด้วยความเป็นคนที่ไม่กลัวอะไรก็ขับเข้าไปเรื่อยๆ ตามที่ผู้โดยสารบอก ชับไปได้ซักพักหนึ่งก็เจอกับทางเข้าหมู่บ้านตามที่ผู้โดยสารบอกเอาไว้
 
            ชาติเลี้ยวเข้าไปตามป้ายบอกทางหมู่บ้านจนเกือบจะถึงหน้าหมู่บ้านหญิงสาวได้บอกซอยและบ้านเลขที่ให้กับชาติ เขารับคำและขับรถเข้าไปที่ป้อม รปภ. หน้าหมู่บ้านแลกบัตรเพื่อเข้าหมู่บ้าน ชาติสังเกตเห็นว่าหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านเก่าแต่ก็มีขนาดใหญ่พอสมควร
 
            ชาติขับรถไปเรื่อยๆ ก็พบกับซอยที่หญิงสาวบอกเอาไว้ในตอนแรก เขาจึงพยายามมองหาบ้านเลขที่ที่หญิงสาวบอกเอาไว้จึงค่อยๆ ขับรถช้าๆ ไล่ไปเรื่อยๆ จนพบว่าบ้านเลขที่นั้นเป็นบ้านหลังสุดท้ายในซอย เขาขับรถไปจอดที่หน้าบ้านแล้วสังเกตว่าบ้านหลังนั้นปิดไฟมืดมีแค่แสงไฟจากโคมไฟหน้าบ้านเท่านั้น ผู้โดยสารสาวก็ยื่นเงินมาจ่ายพร้อมบอกชาติว่าไม่ต้องทอนพร้อมกับเปิดประตูรถและก้าวลงไปยืนที่หน้าบ้านแต่ก็ไม่เปิดประตูบ้านเข้าไปซักที จนเขากลับรถและเตรียมตัวจะขับรถออกไป ชาติจึงเปิดกระจกตะโกนถามหญิงสาวว่าทำไมถึงไม่เข้าบ้าน แต่ก็ไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา เขาจึงตัดสินใจขับรถออกจากซอยนั้นมา
 
            แต่ยังไม่ทันที่จะออกพ้นซอยเขาก็เจอกับ รปภ. ของหมู่บ้านที่ขี่จักรยานมาตรวจตามปกติ จึงแจ้ง รปภ. ไว้ว่ามีผู้หญิงยืนอยู่หน้าบ้านหลังนั้นไม่ยอมเข้าบ้าน ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไรรึเปล่า เมื่อ รปภ. ถามย้ำถึงเลขที่บ้านชาติก็ยังย้ำเลขที่บ้านตามที่เขาบอกในตอนแรกพร้อมกับหัวไปชี้ให้ รปภ. ดู แต่ก็ไม่พบหญิงสาวแล้ว เขาคิดในใจว่าเธอคงเข้าบ้านไปแล้ว ในขณะที่ชาติกำลังจะออกรถไปต่อ รปภ. ก็บอกกับชาติว่า “พี่ขับไปรอผมที่ป้อมก้อนนะผมมีอะไรจะบอก”
 
            ชาติขับรถไปจอดรอที่ป้อมตามคำที่ รปภ. บอกไว้ ตอนนั้นเค้าคิดว่าไปทำอะไรผิดกฎเข้ารึเปล่า รปภ. ถึงได้ให้มาหยุดรอที่ป้อม เมื่อ รปภ. ปั่นจักรยานตามมาที่ป้อมก็เรียกให้เพื่อนในป้อมอีกสองคนให้ออกมาที่รถของชาติ พร้อมถามเขาว่าเข้าไปส่งใครที่บ้านหลังนั้น ชาติก็บอกลักษณะของหญิงสาวที่เขาขับเข้าไปส่ง นั่นทำให้ รปภ.  ทั้งสามคนมองหน้ากันงงๆ พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าบ้านหลังนั้นลูกสาวเค้าเพิ่งจะเสียชีวิตไปได้ไม่กี่สัปดาห์ เห็นว่าโดนรถไฟชนแถวๆ ดอนเมือง ตอนที่ชาติแลกบัตรเข้าไปก็ไม่คิดว่าจะเป็นบ้านหลังนั้น แต่พอปั่นจักรยานตามไปถึงปากซอยก็เห็นว่าชาติไปจอดรถอยู่ที่หน้าบ้านอยู่พักหนึ่ง โดยที่ไม่มีใครลงจากรถ แถมพอเขากลับรถจะออกมาปากซอยก็ยังจอดรถพูดคุยกับใครก็ไม่รู้ ทีแรกก็ว่าจะปั่นเข้าไปตามแต่ชาติก็ขับรถออกมาพอดี
 
            เมื่อได้ฟังเรื่องจากปาก รปภ. ชาติถึงกับตัวเย็นหน้าซีด เพราะนี่คือการเจอผีจะๆ กับตัวครั้งแรกของเขาแถมยังได้พูดคุยกันอีกด้วย เขานึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงคนนั้นจ่ายเงินให้เขาด้วยจึงหยิบขึ้นมาดูปรากฏว่าแบงค์ที่รับมานั้นกลายเป็น
แบงค์กงเต็ก ที่คนจีนใช้เผาในงานศพหรือวันเชงเม้ง เท่านั้นเองชาติก็ขาอ่อนลงไปนั่งกับพื้น ขับรถไปต่อไม่ไหวจนต้องขออาศัยอยู่ที่ป้อม รปภ. จนเช้าจึงขับรถกลับบ้าน จากนั้นมาชาติก็เลิกขับแท็กซี่ตอนกลางคืนเด็ดขาด
             
           
           
 
           

แสดงความคิดเห็น

>