สำนักพิมพ์แรกที่เพื่อนๆออกหนังสือกันคืออะไรเอ่ย? ทีมงานกับผลตอบรับเป็นไงบ้างคะ?
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
13 ความคิดเห็น
แซวเล่นนะคะ ...ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง
เราออก E-book เองค่ะ เพราะคงไม่มีที่ไหนหลงมาติดต่อไปพิมพ์แน่นอน
สิ่งที่ต้องทำหลังได้รับการติดต่อมาคือ ดูความมั่นคงของสนพ.ค่ะว่า มีสนพ.นี้จริงไหม ก่อตั้งมานานหรือยัง มีประวัติการจ่ายเงินดีไหม มีประวัติเบี้ยวนักเขียนไหม มั่นคงจนหมดสัญญากับเราไหม การวางขายเป็นอย่างไร มีสายส่งไหม
ถ้าเราสนใจ กรณียังเขียนไม่จบเราจะต้องบรี๊ฟเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ราว 2 หน้ากระดาษ คำโปรย เรื่องย่อปกหลัง และจดหมายแนะนำตัวส่งให้ผู้ที่ติดต่อมาค่ะ ถ้าเขาโอเค บอกให้ขึ้นป้ายสนพ.ก็เปลี่ยน เขียนให้จบ แต่ลงได้แค่ไหนอยู่ที่ทางสนพ.กำหนด ส่งต้นฉบับให้ ระหว่างนี้อาจจะมีการเซ็นสัญญา อาจจะมีการแก้ไขบ้าง รอออกเล่ม รับเงิน รับเล่มตัวอย่างตามระบุในสัญญา
รอครบสัญญา ถ้าสนพ.ไม่ต่อลิขสิทธิ์ก็ทำเล่มขายเองหรือขายที่อื่นต่อได้ค่ะ
ออกอีบุ๊คก็เก่งแล้วค่ะ อยากทำบ้างแต่ไม่รู้จะเริ่มไง ยกเว้นบางที่ที่เขาให้กดเชื่อมโยงกับนิยายรายตอนได้เลย แบบนั้นสะดวกดี
อีบุ้คทำง้ายง่ายค่ะ ลองดูนะคะ
ถ้ามีต้นฉบับสมบูรณ์อยู่ในมือไม่ยากหรอกค่ะ ทำไม่เป็นใช้เงินแก้ปัญหาได้
เราส่ง E-book เหมือนกันค่ะ เป็นคนอินดี้ อยากทำเมื่อไหร่ก็ทำประมาณนี้
เห็นด้วยนะ e-book เนี่ยเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้ว ไม่ต้องลงทุนมาก
ปก-ซื้อเอา มีตั้งแต่ 80 ขึ้นไป(เพิ่งเคยเจอนะ 80 เนี่ย เลยซื้อมาปกหนึ่ง อุดหนุนน้องในบอร์ดนี้) อยากได้สวยแค่ไหน เลือกได้ตามแต่ใจ
จัดหน้า+เอารูปใส่ - ใช้แรงงานน้องอย่างทาส ให้ช่วยทำมาหากิน 55
ที่น่าเบื่อสุด คือตอนรีไรท์นี่แหละ ไม่อย่างนั้นคงไม่ดองไว้ตรึม ทั้งที่ซื้อปกรอไว้เพียบ (เป็นพวกเดียวกับTD เห็นปกไม่ได้ มือลั่นตลอด55)
@คุณกันต์ ในการทำ e-book สิ่งที่ยากที่สุดคือ ต้นฉบับที่สมบูรณ์ค่ะ นอกนั้นไม่มีอะไรที่ต้องลำบากนักหรอกค่ะ
อย่างปกเราก็ทำเอง อาร์ตก็จัดเอง จัดหน้าก็จัดเอง ไม่แน่ใจก็สอบถามมิตรสหายผู้ใจดี อัพลงร้านไม่ถูกไม่แน่ใจก็สอบถามผู้รู้ค่ะ ต้องขอบคุณทุกท่านที่ให้ข้อมูล
@Miran/Licht
ใช่ๆ นั่นแหละเป็นเหตุผลหลักเลยในการดอง ที่คิดว่าคงจะดองต่อไป 55
จริงๆ เมื่อก่อนทำอะไรไม่เป็นเลย ให้เพื่อนทำให้หมด ตั้งแต่สมัครในเว็บ meb รีไรท์ จัดหน้า อัพโหลดไฟล์ลง e-book เนี่ย ตอนนี้เริ่มพัฒนาแล้ว แต่ก็ยังให้น้องทำให้อยู่ดี (ออกแนวโง่กึ่งขี้เกียจหรือไงไม่รู้ 55)
พอมาทำเองเลยรู้ว่า ต้นฉบับ 300+ หน้า A5 นี่พอต้องตรวจซ้ำซากนี่ก็เซ็งเหมือนกัน มิน่าถึงมีการจ้าง/บังคับคนอื่นช่วยตรวจด้วย เรียกว่าไงดีมันเกิดอาการคริปต์ได้
สำนักพิมพ์แรกก็ผลตอบรับดีค่ะ เพื่อนบอกหนังสือขายดีจนต้องสั่งจอง ส่วนสำนักพิมพ์ปัจจุบันก็กระแสดีอยู่นะคะ ฉุดให้นิยายที่ไม่มีความเคลื่่อนไหวกลับมาติดอันดับได้
สนพ. ที่ออกงานปัจจุบันนี่เจอตอนเขากำลังเปิดรับพอดี เลยคิดว่าลองอีกที่แล้วกัน ไม่ผ่านก็พักก่อนดีกว่า ด้วยไม่ผ่านมาสองที่แล้ว ท้อได้ใจอยู่ รอผลประมาณ 4 เดือน ก็ได้ผลว่า 'ผ่าน' พอดีตื่นมาเตรียมตัวไปทำงานเลยเบลอ ๆ แบบ เออ ผ่านไง ดีใจดีเลย์ไปสองสามชั่วโมง
พอผ่านก็แก้ไขส่งต้นฉบับไปตามขั้นตอนที่คุยรายละเอียด บรีฟปกอะไรต่าง ๆ ซึ่งส่วนนี้แต่ละสนพ. อาจจะมีขั้นตอนไม่เหมือนกันนะคะ ทีมงานน่ารักมากค่ะ หนังสือออกมาดี ต้องขอบคุณเลย ว่าช่วยทำให้ผลงานเราดูดีขึ้นมาก
แง! ไม่บอกชื่อสนพ.หน่อยเหรอคะ
สำนักพิมพ์อาเธน่าค่ะ พิมพ์เพลินเลยลืมแจ้ง เป็นสนพ. แนวแฟนตาซีค่ะ
ถ้าจะทำคงทำอีบุคขายเอง
เราว่าอนาคตอันใกล้ เว็บอ่านหนังสือจะให้จ่ายค่าสมาชิกรายเดือนแล้วอ่านกี่เล่มก็ได้ ไม่ต่างจากเนทฟลิค หรือยูทูป แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้นักเขียนตามจำนวนคนเข้าอ่าน
มาแน่ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่
เพิ่งสังเกตว่าตอบไม่ตรงคำถาม อิอิ
ม่ายหรอก เราก็ไม่มีสนพ.มาสนใจเหมือนกันเลยตอบว่าทำอีบุ๊คไง
No comment เคอะ!
ตอบคุณสมเหมียว //meb ทำแล้วค่ะ เรียก buffet เป็นลักษณะเหมาจ่ายรายเดือน ไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ 249 มั้งนะคะ
อ่านเท่าไหร่ก็ได้ในเดือน ทาง meb และแบ่งรายได้ให้นักเขียนเอง ไม่ตายตัว อ่านมากได้มาก
เราส่ง meb ทั้งขายรายเล่ม และ buffet นี่แหละค่ะ รายรับถือว่าพอได้ ดีกว่าปล่อยไว้เฉยๆค่ะ มีเรามีในระบบ buffet 5 เรื่อง มือลั่น 2 เรื่อง คือ ดูในมือถือ แล้วเผลอกด add เสร็จเลย ก็เลย อ่ะ...เลยตามเลย //ลองดูค่ะ
เหมือนไปเป็นหนูทดลองระบบ ไม่โอเคเคอะ
บ้านหลังแรก คือ...อักษรศาสตร์ค่ะ
ที่มาที่ไปมาจาก...เขียนงานเรื่องแรกเล่นๆ ในเว็บคัมออนค่ะ วันหนึ่งมีนักอ่านถามว่าไม่รวมเล่มเหรอ ขี้เกียจรออ่าน ก็อย่างว่าอะนะ เราเป็นโรคใจง่าย เขาทักมาก็เอาเสียหน่อย ลองดูไม่เสียหาย ก็ส่งไปค่ะ 7 วันต่อมาได้รับโทรศัพท์จากบก.ว่าผ่านการพิจารณา กรี๊ดแตกลั่นบ้านสิคะคุณ คุยไปสามตำบล(เวอร์ไปแล้ว555)
จริงๆ งานเขียนก็ไม่ได้เลิศเลออะไรเลย เป็นแนวเด็กที่ไม่ใสเท่าไหร่ ภาษาก็งั้นๆ เขียนก็วกวน อ่านเองงงเองก็ว่าได้ ทุกวันนี้หยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่านยังกุมขมับ แต่ไม่รู้ว่าผ่านได้ยังไง อาจจะฟลุ๊คหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เราเชื่อว่าภาษาไม่เท่าไหร่ แต่ดวงต้องมา+มีอย่างน้อย 80 อาจจะถึง 90%
ประวัติความเป็นมาของสนพ.นี้ ก็อย่างที่ทุกคนทราบว่าปิดตัวไปแล้ว กรณีนี้เราจะไม่ขอกล่าวถีง เพราะต้องการให้เกียรติสนพ.และบก.ที่เคารพ เนื่องจากสนพ.นี้เป็นบ้านหลังแรกให้การสนับสนุนและสร้างชื่อเสียงทำให้มีนามปากกา ทิตภากร เกิดขึ้นบนถนนน้ำหมึก เอาเป็นว่า..เราจะเล่าเรื่องสนุกๆ มันๆ และความใจถึงของบก.ให้ฟังแทนแล้วกัน
มีอยู่ครั้งหนึ่งนักเขียนชื่อดังในสังกัดท่านหนึ่งมีป-า-ก-เ-สี-ย-งกับนักอ่าน บก.สาวห้าวขาลุยของเราอดรนทนไม่ได้ ออกโรงปกป้อง ชนิดที่เรียกว่าปะฉะดะ ฟ้องเป็นฟ้องกันเลยทีเดียว นั่นทำให้ทุกคนในเว็บๆ หนึ่งไม่กล้าเอ่ยชื่อสนพ.นี้ ส่วนใหญ่เวลาจะพูดถึงจะเรียกว่าสนพ.เทพ และเรียกนักเขียนทุกคนว่านักเขียนเทวดา ตอนเข้าเราเข้าไปอ่านข้อความในเว็บนั้นถึงกับฮาแตก เพิ่งรู้ตัวว่าสังกัดสนพ.นี้แล้วเป็นนักเขียนเทวดาอะนะ (คิดกันไปได้555)
ทำอีบุ้คก็สนุกดีค่ะ เป็นนายตัวเอง ทุกอย่างต้องตัดสินใจเองหมด
หลังจากวางขายก็แล้วแต่ว่าคนอ่านจะตัดสินใจซื้อไหม
ออกเล่ม ก็นั่นแหละค่ะ อยากได้ประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป
เขาก็ติดต่อมา ก็ตอบตกลงไป ดูสัญญา
จากนั้นก็เขียนให้จบ ส่งไป เขาตั้งทีม บก. ขึ้นมา
บก. อ่าน อ่านจบส่งจัดหน้า
ตอนนี้ก็คุยเรื่องปก คุยเสร็จก็นอนรอสวย ๆ สองสามวันก็ได้ปกแล้ว
จากนั้นก็ตีพิมพ์เปิดพรีค่ะ
อันนี้ของเรา อ้อ แตกต่างจากที่คุณมิรันเม้นนิดนึงนะคะ
ของเราไม่มีแนะนำตัว พอดีเขาติดต่อมา
เป็นคนง่าย ๆ เป้าหมายชัดเจน จะเอาคือเอา ไม่เอาก็จะไม่ตีพิมพ์ ก็รู้สึกสนุกเหมือนกันค่ะ
อย่างน้อยก็ได้ลองอะไรที่แตกต่างแล้ว
ส่วนแรงบันดาลใจ ดีที่สุดคือมาจากตัวเองค่ะ รับรองไม่มีมอดไม่มีหมด พุ่งฉิวไปข้างหน้าอย่างเดียว อาจสะดุดแหกโค้งบ้างก็ธรรมดาเนอะ
พูดถึงทีมบก.นี่ ถ้าได้ทีมดีก็ดีไป งานออกมาดี รวดเร็ว ไม่ค่อยมีปัญหา เจอทีมแบบ...อะนะ รับรองว่าตั้งแต่เนื้องานไปจนออกมาเป็นรูปเล่มได้ปวดจิตเป็นว่าเล่น 55
ของเราไม่คิดจะทำเล่มตั้งแต่แรกค่ะ
เชื่อในเวทมนต์ของโลกออนไลน์ 555
ทำแต่ E-book ค่ะ เป็นนายตัวเอง
ทำโฆษณาใน meb เอง //แบบเด็กมาก
ไม่เปิดเพจด้วยอ่ะ ทำตามใจสไตล์เด็กอินดี้ ชัดๆ//
บางครั้งเราก็ว่าบุคลากรสายวิทย์นี่มันอินดี้จริง ๆ ค่ะ
อย่าลืมบอกวิธีสายอินดี้ด้วยเนอะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
คุณมิรัน ....เราไม่รู้ว่าเป็นกันเยอะไหม แต่เรานอกกรอบอ่ะ //แอบนอกกรอบ แอบดื้อ ประมาณนี้ 555
คุณ 763tommy .... ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่เป็นเจ้าของชีวิตตัวเอง แต่งนิยายไม่สนยอดวิว แต่ยังเอาใจใส่ Fc ตามสถานการณ์ แต่งจบก็ขาย ....ขายเอามันส์ ไม่ขายเอารวยด้วย ขายเพื่อเพิ่มคุณค่าในงานเขียน คัดเฉพาะคนที่ชอบงานเราจริงๆ คุยเรื่องเดียวกันไรงี้
@คุณเอมี่ เช่นกันค่ะ หัวหน้าเราก็เป็น เหมือนมันอยู่ในสายเลือดน่ะค่ะคุณเอมี่
@763tommy ความอินดี้ของเราคือ รู้ว่าตัวเองจะทำอะไร จุดขายของเราคืออะไรค่ะ ซึ่งเราไม่ได้ตามตลาด แต่คนที่ชอบในทางนี้มันก็มีค่ะ แต่ใช่ว่าเราจะไม่ใส่ใจผู้อ่าน มีคำถามก็ตอบ มีคำติเราก็น้อมรับ ยังใส่ใจท่านผู้อ่านที่นิยมชมชอบงานเรา แต่เราก็แยกว่า ลูกค้าเกรดไหน
ตอบตรง ๆ แบบต้องหลบรองเท้าก็คือ ตอนแรกไม่เคยคิดจะทำ E-book หรือส่ง สนพ.เลย สถานการณ์มันพาไปล้วน ๆ เขาติดต่อมาเราก็ตกลงไป (เพียงแต่ไม่ใช่กับ สนพ. แรกที่ติดต่อมาก็เท่านั้น) แต่เราไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการส่งต้นฉบับให้ สนพ. มาก่อน (วางพล็อตไว้ 4 เรื่อง สนพ.จองหมด) ก็เลยไม่รู้ระดับความยากง่าย
ของเราทีมตั้งขึ้นตั้งแต่เพิ่งเขียนได้ 70% เขียนแล้วก็ทยอยส่งต้นฉบับไปเป็นส่วน ๆ หลังส่งไปครบก็รอ บก.อ่าน จากนั้นก็ส่งฝ่ายพิสูจน์อักษร ระหว่างที่รอก็บรีพปกกับฝ่ายอาร์ต (ความเร็วก็แล้วแต่แบบ) เสร็จแล้วก็นอนรอไปยาว ๆ หมดหน้าที่ของเราแล้ว
ทางนี้สนพ.แรกติดต่อมาตั้งแต่เขียนยังไม่ถึง50เปอร์ตอนนั้นเลยปฏิเสธไปหลังจากนั้นก็มีเรื่อยๆแต่ตอนนั้นก็ไม่มั่นใจว่าจะจบรึเปล่าเหอะๆ
ผ่านไปอีกปีที่แรกเขาก็ติดต่อมาพร้อมๆกับสนพ.Bซึ่งมีชื่อพอสมควรแต่เราเลือกสนพ.แรกเพราะเขามองเห็นเราเป็นที่แรกและติดต่อมาอีกครั้ง
หลังจากนั้นก็ทำสัญญา บรีฟปก แต่ทางนี้บรีฟนานเพราะคนวาดจีนแล้วก็ไม่มีคิว
ส่วนคิวหนังสือตอนนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ลงขายเมื่อไหร่ 555
อ้าว!555
เรื่องแรกเรื่องเดียว ในนามปากกา วิฬารี ของเรา ก็ปี ๒๕๕๕ จ้า
เราว่าช่วงปีนั้นระบบสำนักพิมพ์ยังเฟื่องฟู..ยังพร้อมรับงานนักเขียนหน้าใหม่
เราได้พิมพ์กับค่ายในเครือ Nation Multimedia ซึ่งเปิดตัวได้ไม่กี่ปี..ก็ปิดตัวไป..
(เฮ้ย...นี่เราเป็นตัวซวยป่าวเนี่ย???)
มันก็ฟินเฟร่อ..นะ...ถึงปีก่อนหน้านั้นเราจะเคยมีนิยายตีพิมพ์มาบ้างแต่มันเป็นโรมานซ์นามปากกาอื่นซึ่งไม่ค่อยเป็นตัวเราเท่าไหร่
อิฉันมองว่าตัวเองโชคดีที่ได้ตีพิมพ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของยุคสื่อสิ่งพิมพ์
เพราะหลังปีนั้นสังคมไทยก็เริ่มเข้าสู่ยุคโลกโซเชียล..นิตยสารทยอยปิดตัว..สำนักพิมพ์ก็ปิดตัว
ปัจจุบันก็คิดแต่เรื่องทำอีบุคเองละจ้า ไม่อยากทำให้สำนักพิมพ์เจ็บ ขอล้มเองเจ็บเองดีกว่า
เป็นคนนึงที่ไม่คิดส่งสนพ.เหมือนกัน เพราะอยากเขียนเล่นเฉยๆ ถ้าขายมันดูจริงจังไป ไม่อยากเปลี่ยนงานอดิเรกเป็นงานประจำ แต่สุดท้ายหลังจากปรึกษาครอบครัว และตัดสินใจอยู่สักพัก ก็ยอมเลือกสนพ.ที่ติดต่อมาเป็นที่แรก ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ
ส่วนผลตอบรับ ก็ดีเกินคาดไปเยอะมาก ทีมงานของสนพ.มืออาชีพมากๆ หลังจากตกลงตีพิมพ์ อีกเดือนนึงเล่มก็คลอดเลย เป็นหนึ่งเดือนที่ทรหดมาก ทั้งคนเขียน และทีมงานของสนพ. พวกพี่เขาเจ๋งมากๆ
ทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากค่ะ สำหรับนักหัดเขียนคนนึง ทั้งยอดขาย สัญญา แล้วก็ประสบการณ์ นับว่าตัดสินใจไม่ผิดค่ะ
ตอนนี้ก็เริ่มจากศูนย์ใหม่ กับงานเขียนเรื่องใหม่ค่ะ ยังโนเนมเหมือนเดิม^^
ออกครั้งแรกเมื่อนานมากแล้วค่ะ คงเอาไปอ้างอิงไม่ได้แล้ว ตลาดและธุรกิจแตกต่างไปแล้ว เราว่าสมัยนี้ สำนักพิมพ์ไม่ใช่ที่สุดของนักเขียนเสมอไปนะคะ ยังมีทางเลือกอื่นอีกมากมาย
ถ้าหาแรงบันดาลใจ เราว่าดูพวก Best Seller ในตลาดอีบุ๊กหรือเว็บที่ให้ลงเรื่องแล้วแพ็คขายอย่างเว็บนี้ก็ได้ น่าจะจับต้องได้มากกว่าสำนักพิมพ์นะคะ
ขอบคุณค่ะ
สำนักพิมพ์นี้ทุกคนเคยครับ
สำนักพิมพ์Dashboard.....แถมไม่จ่ายตังค์ ไม่คัดงาน ยกเว้นงานที่ห้าม
เราเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ค่ะ ฟรีแลนซ์ที่ว่าคืออิสระไม่ได้สังกัดสำนักพิมพ์ใดเป็นพิเศษ ออกงานไม่กี่เล่ม เท่าที่เคยร่วมงานมาก็ดีทุกสนพ.นะคะ
สนพ.มายังไง ตอบตามตรงว่าติดต่อมาในช่องทางโซเชี่ยลค่ะ ในข้อความลับบ้าง ดีเอ็มหรืออินบ็อกบ้าง ประมาณนี้ ส่วนมากจะจองเรื่องไว้ เราไม่ได้ติดต่อส่งต้นฉบับให้สนพ.เอง เพราะไม่ถนัดย่อเรื่องหรือแนะนำตัวเท่าไหร่ เมื่อนานมาแล้วเคยทำครั้งนึง ผลออกมาว่าไม่ผ่านก็เลยไม่กล้าส่งสนพ.ไหนอีกอีกเลย ฮ่าาาา จากนั้นก็หัดเขียนไปเรื่อยๆ ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าอยากเขียน อยากให้คนอ่านมีความสุขกับเรื่องที่เราเขียน จู่ๆ สนพ.ก็ติดต่อมาเอง
ส่วนนักเขียนทำอะไรบ้าง คุยเรื่องสัญญา ระยะเวลาส่งงาน ทำต้นฉบับให้เรียบร้อย บรีฟปก รออีดิท ส่งงานอีดิท จากนั้นรอรูปเล่มค่ะ
ทางนี้เป็น FC นะคะ ชอบตั้งแต่งานจีนถึงงานวาย
1. เซ็นสัญญาแล้วสามารถทำอีบุ๊คอีกได้หรือเปล่าคะ เคยอ่านบางเม้นต์บอกว่าได้ บางที่บอกว่าไม่
2. ส่วนตรง3บรรทัดล่างนี่ล่ะน่าสนใจ 555นานมั้ยคะ?
ส่วนมากเวลาเซ็นสัญญา สนพ.จะรวมรูปเล่มรวมถึงอีบุ๊คด้วยนะคะ เป็นสัญญาสองฉบับ แต่เคยเห็นสัญญาบางสนพ. นักเขียนสามารถออกอีบุ๊คเองได้ด้วยค่ะ ทั้งนี้น่าจะขึ้นอยู่กับสัญญาที่ได้รับ สามบรรทัดล่าง หมายถึงระยะงานหลังจากส่งต้นฉบับจนถึงได้รับรูปเล่มใช่ไหมคะ ไม่น่าจะเกินสามเดือนนะคะตัวเอง
ขอบคุณ คุณcrystaljade มากค่ะที่ชื่นชอบ
ขอบคุณค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?