Review ** สี่แผ่นดิน the legend musical @ LHONG 1919
สี่แผ่นดินแล้ว The Legend Musical คือการกลับมาอีกครั้งของละครเวทีในชื่อเดียวกันที่เคยเปิดการแสเมื่อปลายปี 2554 ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช อันว่าด้วยเรื่องของ ‘แม่พลอย’ หญิงสาวชาววังที่ต้องใช้ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวตลอดการผลัดเปลี่ยนแผ่นดินถึง 4 ครั้ง โดยนำเสนอภาพเหตุการณ์การเปลี่ยนผ่านในประวัติศาสตร์ชาติไทยผ่านสายตาของตัวละครหลัก ตั้งแต่การเลิกทาส การสละราชสมบัติของรัชกาลที่ 7 รวมถึงการก่อกำเนิดของคณะราษฎร และการต่อสู้กันของความเชื่อ ความศรัทธา และความคิดที่แตกต่าง
ได้มีการนำแสดงโดย นักแสดงหญิงมากฝีมือ นก - สินจัย เปล่งพานิช, อุ้ย – เกรียงไกร อุณหะนันทน์, ต๊งเหน่ง - รัดเกล้า อามระดิษ, ตี๋ ดอกสะเดา, จิ๊บ - กุลธิดาฐ์ อักษรนันทน์, อาร์ - อาณัตพล ศิริชุมแสง, รอน - ภัทรภณ โตอุ่น, ปอ - อรรณพ ทองบริสุทธิ์, ซาน - อัศรัญ มะ
** ข้อปฎิบัติการเข้าชมละคร **
- เริ่มแสดง 19.30 น.
- ไม่อนุญาตให้นำอาหาร เครื่องดื่มเข้ามาภายในโรงละคร
- ห้ามถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอขณะชมละคร
- อุปกรณ์ถ่ายภาพที่ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือกรุณาฝากไว้ที่จุดรักษาความปลอดภัย
- กรุณาประทับตราบัตรจอดรถพร้อมแสดงบัตรชมละครที่จุดประชาสัมพันธ์
** การเดินทาง เรือบริการฟรี **
BTS สะพานตากสิน [ เที่ยวไป ] 16:00 17:00 17:45 18:30 19:15 20:00
CAT Tower [ เที่ยวไป ] 16:00 17:10 17:55 18:40 19:25 20:10
Lhong 1919 [ เที่ยวกลับ ] 22:30 เป็นต้นไป
เข้าเนื้อหารีวิวกันดีกว่านี่เป็นการเปลี่ยนจากโรงละครมานั่งชมริมแม่น้ำเจ้าพระยาก็ได้รับในอีกอารมณ์นึง ก่อนที่จะไปดูการแสดงส่วนตัวคิดว่าน่าจะร้อนมากเพราะอากาศเมืองไทย แต่พอไปถึงก็ไม่ร้อนมากอย่างที่คิดไว้ มีลมพัดมาเบาๆเป็นพักๆ ยุงไม่กัดเพราะอาจจะเป็นนั่งอยู่กลางๆเลยน่าจะกัดคนข้างๆไปหมดแล้ว 555 ซึ่งในระหว่างเล่นเราก็จะได้ยินเสียงเรือแล่นผ่านไปช่วงๆ และเห็นค้างคาวบินผ่านอยู่บ่อยๆ ซึ่งเราเป็นพวกสมาธิสั่นก็ชอบแอบมองตามบ่อยๆ จะได้ยินเสียงร้านนั่งชิลข้างๆเปิดเพลงมาบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาของนักแสดงเลยเพราะเค้ามืออาชีพมาก มีสมาธิกับการแสดงละคร ส่งอารมณ์ถึงคนดูได้ตลอด ทั้งการเต้นการร้องที่ทำออกมาได้ดีมาก
ในด้านของดนตรี เราจะได้เห็นดนตรีไทยประยุกต์ หรือ Thai Contemporary Music ที่มีการผสมผสานกันของเครื่องดนตรีไทยและเครื่องดนตรีสากลเข้ากันได้อย่างลงตัว มีการใช้จังหวะทำนองแบบสากลแต่คงไว้ซึ่งความเป็นไทยเดิมอยู่ ใช้ดนตรีในการเล่าเรื่องราวและเปลี่ยนมู๊ดของอารมณ์ได้อย่างราบรื่นมาก ทำให้คนดูคลอยตามและดึงอารมณ์คนดูได้ตลอด ทั้งจังหวะต่างๆที่รับส่งกับนักแสดงได้เป็นอย่างดี การใช้ซาวเสียงที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อตัวละครมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งในฉากที่แม่พลอยนึกย้อนกลับไปในอดีตก็ทำให้เราเข้าใจได้อย่างชัดเจนด้วยภาพและเสียงดนตรีที่ออกมา ทั้งช่วงที่พ่อเปรมกลับมาคุยกับแม่พลอยที่โทนเสียงร้องของพ่อเปรมมีความก้องและมีเอคโค่ทำให้เรารู้ว่านั้นเป็นวิญญาณและด้วยแสงที่ส่งไปหาพ่อเปรมใช้แสดงโทนเย็นจึงทำให้เราเข้าใจและตามเนื้อหาของเรื่องตามได้ บางช่วงมีการใช้ดนตรีไทยซึ่งเราฟังก็น่าจะเป็นเสียงซอที่มีความไพรเราะและเข้ากับมู๊ดอารมณ์ในตอนนั้นมาก เราจะเห็นถึงช่วงที่ถ้าเป็นตัวละครที่มีความคิดสมัยใหม่มากๆก็จะเป็นดนตรีสากลเป็นหลัก ให้เราได้เข้าใจถึงความคิดของตัวละครที่มีความแตกต่าง เราจะได้รับฟังเพลงที่เราคุ้นหูต่างๆอย่างเช่นเพลง ใต้ร่มพระบารมี ในหลวงของแผ่นดิน อาจเคยเป็นคนไม่ดี ซึ่งนักแสดงขับร้องออกมาได้อย่างไพเราะ มีการผสานกันของคีย์ที่ต่างกันของชายและหญิงได้อย่างลงตัว
ซึ่งเราเคยได้ไปดูในโรงละครมาแล้วครั้งนึงตอนมัธยมกับตอนนี้ที่ได้เรียนเนื้อหาดนตรีมาบ้างมากชึ้นทำให้เรารู้ถึงความแตกต่างมากกับการมาดูในครั้งนี้ถึงจะเป็นเส้นเรื่องเดียวกัน แต่พอเห็นโปรดักชั่นในครั้งนี้ทำให้เราได้ในอีกอารมณ์นึง ทั้งแสดงสี และ เอฟเฟคต่างๆที่เพิ่มเติมเข้ามาได้อย่างลงตัว การรับส่งของนักแสดงที่มีความเป็นมืออาชีพมากและเห็นถึงการใส่ใจรายละเอียดต่างๆของผู้กำกับ ทำให้เป็นการแสดงที่ควรค่าแก่การมาดู ทั้งให้ข้อคิดด้านการใช้ชีวิตต่างๆ ด้านการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงก่อน ความคิดของคนที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคสมัย ทำให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์ไทยมากเพิ่มขึ้นในแง่มุมของการรักชาติและการเปลี่ยนผ่านของยุคสมัย ถึงจะมีข้องเสียของครั้งนี้คือคนดูที่อยู่ข้างบนอยู่ไกลมากจากนักแสดงทำให้เราเห็นหน้านักแสดงและอารมณ์ที่อยู่ตรวนั้นได้น้อยทำให้บางครั้งเราหลุดออกไปบ้างและน่าจะมีซัดอังกฤษขึ้นมาด้วยเพราะเราเห็นมีคนดูต่างชาติไปดูเค้าจะได้รู้เรื่องมากขึ้น เนื้อเรื่องอาจไม่ได้แปลกใหม่แต่เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การมารับชมมากทั้งแสดง สี เสียงที่งดงาม และที่สำคัญมีเพียง10รอบการแสดงเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น