{มาแชร์กันค่ะ} ใครได้เขียนแนวต่างโลก หรือโลกแฟนซีแล้ว เป็นไงกันบ้างคะ?

ผมส่วนมากเขียนแนวโลกแฟนตาซีมากกว่า ไม่สิต้องบอกว่ามันคือทุกเรื่องเลย ผมค่อนข้างมีปัญหากับความจำ ว่า เดือนนี้ต้องเป็นฤดูอะไร มีเทศกาลอะไร เพราะส่วนใหญ่เป็นแนวชีวิตประจำวันในโลกแฟนตาซีมากกว่า แต่ที่ยากที่สุดคือ การทำให้มันดู Make sense ซึ่งผมก็แก้ปัญหาด้วยการทำให้มันดู Make sense ในโลกของมันเอง ซึ่งมันก็ไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่ แต่ก็นะ ผมยังต้องพัฒนาอีก

สวัสดีครับคุณหิมะตกคนเดิม เพิ่มเติมคือมีหัวใจ 5555

ปกติผมก็เขียนแฟนตาซีทั้งต่างโลกแล้วก็ไม่ต่างโลกนะครับ ผมว่าทั้งสองแนวนี้มันก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไร เพราะยังไงเราก็ต้องสร้างกฎของโลกขึ้นมาใหม่อยู่ดี จะต่างก็แค่ความโง่เกี่ยวกับโลกใหม่ของพระเอกในช่วงแรกที่มันไม่รู้อะไรเลย

เพราะว่าเบื่อแนวที่เคยเขียนอยู่แล้วเลยคิดอยากจะลองมาจัแนวรักดูบ้าง ตอนแล้วก็เคยคิดว่ามันโอ แต่พอแต่งจริง ๆ แล้วนี้มันโอ้โห ยากกว่าที่คิดนะเนี่ย การบรรยายนั้นตอนแรกก็คิดว่าคงจะเหมือน ๆ กับที่ใช้ในนิยายที่เคยแต่ง แต่ไม่เลย มันมีส่วนของความรู้สึกที่เน้นเข้ามาจนแบบรู้สึกเลยว่าตัวเองยังด้อยประสบการณ์แค่ไหน 555 แต่ก็ถือว่าสนุกดีนะครับ

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณหิมะนะครับ

ปล.ชื่อไอดีนี่เปลี่ยนตาฤดูกาลใช่ไหมครับ ถ้าใช่ผมรอดูชื่อตอนหน้าร้อนอยู่นะ 5555

ผมจะเหนื่อยก็เพราะเป็นสายด้นสดนี่แหละ นึกทางไปต่อไม่ออก ตอนใหม่มันก็จะมาช้าหน่อย

เหนื่อยยยยยยยยยยย เหมือนกันครับ

หาข้อมูลไม่เหนื่อยนะ เหนื่อยตรงเลือกเอามาใส่

การที่รู้ว่าจะเขียนให้ออกมาแบบนี้ แต่ไม่รู้จะเขียนยังไงนี่แหล่ะ เหนื่อย

แนวแฟนตาเซียนี่ผมยังไม่เคยเขียนนะเขียนแต่กำลังภายในแต่มีเรื่องนึงที่ผมสร้างไว้ละเป็นแนวแฟนตาซีตอนนี้กำลังวางพล็อตเรื่องอยู่

เขียนครับ แต่ตอนนี้จบภาคหนึ่งแล้ว ส่วนตัวเป็นคนที่รู้ประวัติศาสตร์สากลพอควรเลยแต่งง่ายหน่อย อีกอย่างก็หามารยาทสากลนิดหน่อย ผมอิงสามแดนในนิยายเหมือนกับสามประเทศที่ชอบล่าอาณานิคมในอดีตและสองประเทศในเอเชียครับ

เราเขียนแฟนตาซีแบบเป็นอีกมิติหนึ่งใช้ในการเปรียบเทียบกับเคสที่ตัวเอกเจอว่ามันเหมือนหรือต่างกันยังไง แต่ถ้าให้แฟนตาซีหรือย้อนยุคทั้งเล่ม--ข้าน้อยขอลา...ไปไม่รอดแน่ ๆ...

แงๆ เราเพิ่งมาเขียนแนวนี้เลย

พอเขียนแฟนตาซีแล้วอยากหนีไปเขียนไซไฟเหมือนเดิมค่ะ 555 แฟนตาซีเหมือนจะง่ายตรงไม่ต้องตามความเป็นจริง แต่พอมันหลุดความเป็นจริงมากเกินไป คนก็รู้สึกว่ามันห่างเหิน ไม่อิน

ของเราแฟนตาซี เปลี่ยนแปลง ฟื้นฟู่อารยธรรมประเพณี อาณาจักรต่างโลกนี้ ให้มีความเท่าเทียมกัน โดยปราศจาก การค้าทาส การกดขี่พวกเหล่าอมนุษย์ การใช้อำนาจพวกขุนนาง ชนชั้นสูง (การเมืองเล็กน้อย) การต่อสู้สงครามระหว่าง อาณาจักรอื่นๆ

มันก็จะเป็นหนาวๆ หน่อยครับ สวมเสื้อหนาๆ ก็แล้ว ห่มผ้าหลายชั้นก็แล้ว มันก็ยังหนาวอยู่ดี บางทีก็ไม่อาบน้ำเลย ตกเย็นมาก็นั่งรอบกองไฟ

เรื่องอื่นคนอื่นน่าจะพูดไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องที่เหลือก็คงจะมีแค่ขอให้มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นก็เท่านั้นแหละ

สนุกมากๆๆๆๆค่ะ ชอบแต่งแนวนี้มากยิ่งไปทางยุโรปใต้กับพีเรียดจีนคือรักเลย

คืิอมันได้แสดงจินตนาการของเราออมาแบบไร้ขอบเขต ถึงอยากแต่งโลกปัจจุบันก่อนแต่ก็ต้องวกกลับไปแต่งแฟนตาซีทุกทีจนตอนนี้นิยายที่มาร์คพล๊อตเรื่องไว้แนวแฟนตาซีล้วนๆเลยค่ะ

แทบไม่ต้องมานั่งปวดหัวเลยว่าถ้าใส่ส่วนนี้ลงไปในนิยายข้อมูลจะผิดพลาดหรือป่าวหรือ ถ้าเก็บรายละเอียดตรงนี้ไม่หมดจะโดนคนอ่าด่าป่าว

มันมีความเป็นตัวเราสูง เราแค่ต้องมาทบทวนว่าที่แต่งไปมันสร้างสรรค์ไม่จำเจเหมือนคนอื่นๆ หรือเขียนเรื่องยังไงให้คนอ่านเดาทางไม่ออกต้องรอเราแต่งจนจบ มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆๆ

แฟนตาซีมันค่อนข้างเปิดกว้างครับ เพราะงั้นปัญหาที่ผมเจอบ่อยสุดคือห้ามให้มันหลุดโลกหรือออกทะเลไป เพราะไม่งั้นจะวนกลับเข้าเรื่องหลักยากมากครับ ทั้งสเกลพลัง พวกสกิลทั้งตัวเอกและตัวร้าย หรือกระทั่งแต่ละเมืองที่ตัวเอกไปก็เป็นอะไรที่ยากมากมีแต่ต้องอ้างอิงนิยายของคนอื่นเอา แล้วมาปรับใช้ค่อนข้างลำบากเลยครับ 55

สนุกนะ มันไม่เครียดตรงที่ข้อมูลไม่อิงโลกจริง ดังนั้นจินตนาการไปเลย อยากใส่อะไรก็ใส่ แค่ให้สมเหตุสมผลก็พอ แต่มันยากตรงที่ทำยังไงให้คนอินกับโลกของเรานี่แหละ

เหนื่อยล้ากับการตบเรื่องให้เข้าพล็อต แต่เป็นหลงวกวนในวังวนต่างโลกค่ะ ได้ไอเดียเรื่องใหม่ก็ต่างโลกรัวๆเลย o<-< ปล่อยฉันออกป๊าย

ไม่เคยลองแนวพล็อตไปต่างโลก แต่เคยเขียนพล็อตเอาไว้ ปัจจุบันทิ้งไว้เป็นแรงบันดาลใจ

ส่วนตัวไม่ค่อยได้แต่่งเป็นแฟนตาซี เพราะด้วยความที่แต่งแล้วมันก็ไม่รุ่งอะเนอะ แถมเราไม่มั่นใจความจินตนาการของเราเลย แต่พอลองเขียนลองทำ มันก็ทำให้เราได้ปลดปล่อยจินตนาการออกมาได้เต็มที่นะคะ รู้สึกว่ามันดี เพราะเราก็ชอบคิดอะไรที่มันแฟนตาซี ไม่เหนื่อยเลยค่ะ เพราะถ้าใจเรารัก เราพร้อมไปกับมันค่ะ