รีวิวการสอบสัมภาษณ์นักเรียน​แลกเปลี่ยน

[m.Millie]

สวัสดี​ค่ะ​ กลับมาอีกครั้งหลังจากที่หายกันไปเนิ่นนาน​ กระทู้​นี้​เป็น​กระทู้​ที่2ต่อจากอันแรก(คลิกเข้าไปอ่านได้เลยน้าา)​ และต้องบอกก่อนว่าการสอบสัมภาษณ์​นี้ผ่านมานานมากๆแล้วค่ะ​ อาจจะมีข้อมูล​ที่​ไม่ถูกบ้าง​ และเราหลงๆลืมๆบ้างก็ต้องกราบบขอประทานโทษ​หากมีข้อผิดพลาด​ตรงไหนด้วยนะคะ พร้อม​แล้วเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ



เริ่มจากในตอนเช้าเราต้องไปฟังบรรยายและสอบข้อเขียนก่อน​ ส่วนตอนบ่าย​ก็สอบสัมภาษณ์







ใครไม่อยากอ่านส่วนนี้​ เลื่อนลงไปอ่านด้านล่างได้เลย





เราไปถึงสนามสอบก่อนเวลาพอสมควรแต่ผู้เข้าสอบก็เริ่มตั้งแถวกันตั้งแต่ยังไม่ถึงเวลา​ เราเข้าแถวรอนานพอสมควรแล้วต่อแถวจากชั้นล่างเดินขึ้นบันไดไปแล้วต่อด้วยทางลาด​ พอถึงคิวเราก็ยื่นอะไรเรียบร้อย​ แต่จำได้แม่นเลยว่าตอนนั้นเราบอกครอบครัวว่ายังไงก็ไม่ผ่านหรอกไปแค่เอาประสบการณ์​เฉยๆ​ คุณ​พ่อ(ผู้สมัครสอบให้)​ก็สมัครแบบไม่ได้ตั้งใจซักเท่าไหร่เลย​ ลืม​ ใส่รูปลงไป!!!

แต่โชคดีที่เห็นก่อนเลยนำรูปติดไปด้วย​ พี่ๆก็เลยไม่ว่าอะไร(โชคดีไม่โดนมองแรง)



เมื่อเราเข้าห้องสอบ​และหาที่นั่งสอบของตัวเองเจอเรียบร้อย​ เราก็นั่งรอเวลาพร้อมกับดูวิดีโอ​ที่เค้าเปิดให้ดูวนไป(เกี่ยวกับการใข้ชีวิต​ของนักเรียนแลกเปลี่ยนค่ะ)​ เมื่อผู้เข้าสอบและผู้ปกครอง​(ของเรา​ คุณ​พ่อปล่อยให้ลุยเองเลยจ้าา​ รอมารับไปกินข้าวเที่ยง​ นั่งรอสัมภาษณ์​แล้วก็พากลับบ้าน)​ที่เข้าฟังบรรยาย​เข้ามาในห้องหมดทุกคนแล้วก็เริ่มการบรรยายโดยมีพี่ๆรุ่นก่อนหน้าที่เคยไปแลกเปลี่ยน​ซึ่งตอนนี้ทำงานแล้วบ้าง​ อยู่ม.6บ้าง​ ม.4 บ้าง​ อะไรบ้าง​ มาแลกเปลี่ยน​ประสบการณ์​&



หลังจากฟังบรรยายเรียบร้อยแล้วก็เชิญผู้ปกครองออกจากห้องก่อนที่จะเริ่มสอบข้อเขียน​ ข้อเขียนมีทั้งปานกลาง-ยาก​ ที่พลาดไปเยอะคือการฟัง ข้อเสียคือเขาไม่มีบอกข้อก่อนที่จะพูด​(เปิดเสียงให้ฟัง)​เวลาพูดก็พูดแล้วหยุด​ให้เราตอบแป๊ปนึง จากนั้นก็พูดต่อ​ จำไม่​ได้ว่ายังไง​ ทำให้เราไม่รู้ว่าเขากำลังพูดถึงที่เรากำลังทำหรือข้อข้างหน้า​ นี่เป็นการสอบฟังนอกโรงเรียน​ครั้งแรกของเรา​ เลยไม่รู้ว่าที่อื่นเค้าจะเป็นแบบนี้รึเปล่า



การสอบสัมภาษณ์





​พอสอบเปเปอร์​เสร็จ​ก็ไปกินข้าวกลางวันกับคุณ​พ่อ​ แล้วก็มารอสอบสัมภาษณ์​ต่อ​ เราเตรียมบทพูดแนะนำตัวไป(สารภาพว่าตอนนี้ลืมหมดแล้ว)​ จำได้​คร่าวๆว่า​ ชื่อ​ อายุ​ วันเกิด​ โรงเรียนและชั้นที่ศึกษา​ มีสมาชิกครอบครัวกี่คน​ อาศัย​อยู่​ที่​ไหน​ เรียนภาษาอะไรบ้าง​ งานอดิเรกคืออะไร​ ความสามารถ​พิเศษ​ข้อดีข้อเสีย​ เหตุผล​ที่​อยากไปแลกเปลี่ยน​ (จำได้ว่าพ่อบอกว่าถ้าเจอครูฝรั่งที่เค้าคุยเรื่องเดียวกับเราได้​ เดี๋ยว​เค้าจะพาออกนอกทะเล​ และคุยกันยาวจนเราหายเกร็ง​ เราจึงใส่หนังและนิยายที่ชอบลงไปในบทด้วย)​ ***จำได้แค่นี้จริงๆค่ะ​ ขอโทษ​จากใจ***



เราได้เข้าห้องสัมภาษณ์​เป็นกลุ่มที่2/3 จำบ่ได้ แต่ถือว่าค่อนข้างเร็วคิดว่าเป็นเพราะลงทะเบียนเร็ว ในห้อง​สัมภาษณ์​มีทั้งครูไทยและต่างชาติอยู่​ประมาณ​10กว่าคน(ไม่ถึง20แน่นอน) เราไม่ได้ตั้งใจนับเพราะกำลังทำสมาธิและทำให้หัวใจไม่หลุดออกมาข้างนอก​



ครู1คนจะสัมภาษณ์​นร.ตัวต่อตัว​ เมื่อเสร็จ​แล้ว​ก็รันตามคิว​ เพราะฉะนั้น1เวลาของแต่ละคนจะไม่เท่ากัน​ ขึ้นอยู่ว่าชวนเราคุยเรื่องอื่นรึเปล่า(ตามที่บอกไว้ด้านบนเลยค่ะ)



เราได้สอบกับคุณครูคนไทย(เท่าที่เห็นคนไทยมีแต่ผู้หญิง​ ส่วนชาวต่างชาติ​ส่วนมากเป็น​ผู้ชาย​ มีผู้หญิง​อยู่นิ๊ดเดียว)​ ความจริงเราคิดว่าน่าจะไม่ใช่ครูแต่เป็นพี่เจ้าหน้าที่ของโครงการมากกว่า



คำถามแรกเปิดมาก็...

Pls introduce yourself.

เราก็ตอบตามที่ท่องมาแต่ที่เราเฟลคือลืมพูดว่ามีความสามารถ​พิเศษ​อะไร​ เพราะเรารู้สึกว่ามันคือจุดขายและจุดเด่น​เรา​ เลยเซ็งตัวเองมากๆ​ แต่เหมือนพี่เค้าจะไม่ค่อยได้ตั้งใจฟังเพราะเขียนในใบอย่างเดียว พอเราพูด​จบพี่ถึงเงยหน้าขึ้นมาถามคำถามตามใบ(ไม่มีนอกบทเลยค่ะ)​



มีข้อสุดท้ายที่ทำให้รู้สึกแย่แล้วก็กังวลคือถาม​ประมาณ​ว่าทำไมถึงอยากไปแลกเปลี่ยน​(เราจับใจความได้แบบนี้เพราะมันเป็นศัพท์​ที่ค่อนข้างยากสำหรับเราในตอนนั้น)​ ซึ่งคำถามที่เพิ่งถามไปก็มีความหมายเดียวกันแต่เปลี่ยนประโยค​ เปลี่ยนศัพท์​ เปลี่ยนทุกอย่างยกเว้นความหมาย ทำให้เรางงว่าถามซํ้าเหรอ​ ถามซํ้าทำไมอะ​ หรือว่าเราแปลผิด​ เลยพูดว่า​ Could you repeat it again pls? โดยปกติแล้วถ้าพูดกับครูฝรั่งเค้าจะเปลี่ยนศัพท์​ให้ง่ายขึ้น​ แต่ว่าพี่เค้าเป็นคนไทย​ เลยแค่พูดช้าลง​ แบบพูดทีละคำให้เราฟัง​ ณ​ ตอนนั้น=ช๊อคแป๊บ​ เราเลยเงียบไปประมาณ5-10วิ​ แล้วตอบแบบข้อด้านบนแค่มีเปลี่ยนคำบ้าง​ สลับที่บ้าง



ย้อนกลับไปตอนแรกหลัง​จากที่พี่ให้แนะนำตัวและก้มลงไปเขียนคำตอบก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามว่า​ ตอนแรก​บอกว่าพูดได้กี่ภาษานะ(เป็นภาษาอังกฤษ)เราก็บอกว่า3 ไทย​ อิ้ง​ จีน​นิดหน่อย​ พี่เค้าก็ทำหน้าสนใจ​ แล้วก็อึ้งๆ​ จำได้ว่าชมเราด้วยว่าพูดภาษาอังกฤษ​เก่งแล้วก็ทำเหมือนสนใจเรา(ใจเย็นนๆๆก่อนนนน​ เ​ราไม่ได้หลงตัวเอง​ อย่าว่ากันน้าาาา)​ แต่ก็อาจจะเพราะว่าเราอยู่ม.1ในตอนนั้นซึ่งเด็กที่สุดและน่าจะไม่ค่อยมีใครมาด้วย​



ข้อดี(?)​ พี่เค้าจะสำเนียงไทย​ ฟังง่าย(รึเปล่า)​แล้วก็จัดฟันด้วย



ส่วนคำถามที่เราเจอและจำได้ก็มี​ ทำไมถึงอยากไป​ จุดประสงค์​ในการไป ข้อดีข้อเสีย​ (จำได้แค่นี้ค่ะ/ข้าน้อยผิดไปแล้ว/)​ คำถามมีไม่เกิน10ข้อ​ ของเราใช้เวลาเร็วมาก​ ประมาณ​5นาทีได้





เพิ่งเปลี่ยนโทรศัพท์​ใหม่เลยเขียนผิดเยอะ​ ขอโทษ​ด้วย​นะ​คะ​