โดนคนอ่านบอกว่านิยายที่เราเเต่งไม่มีความสมเหตุสมผลหรือเปล่าค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
18 ความคิดเห็น
ส่วนใหญ่นิยายเราจั่วหัวว่ากาวค่ะ ส่วนเรื่องสั้นก็จั่วหัวว่านิยายไร้พล็อต (Porn without Plot) เราน้อมรับในความบกพร่องด้านการเล่าเรื่องและอื่น ๆ ส่วนไม่ make sense ก็จะขอพิจารณาเป็นรายกรณีไป เช่น พิจารณาแล้วที่เขาทักมัน OOC (out of character = ออกนอกขอบเขตนิสัยตัวละคร) ก็จะกลับมาดูว่า เราเคยหย่อนไว้ไหมว่ามันมีนิสัยนี้อยู่ มันไม่จริงก็ปล่อยไป จริงก็ขอบคุณน้อมรับในคอมเมนต์แล้วหาทางแก้ หรืออาจตอบอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ว่า ขอบคุณที่ทักนะคะ จะนำไปลองพิจารณาปรับแก้ตอนรีไรต์อีกครั้ง จะเป็นการดีสำหรับทั้งสองฝ่ายค่ะ อำนาจการแก้ไขอยู่ที่คุณนักเขียน ไม่อยากแก้ก็ได้ อยากแก้ก็ได้ค่ะ
ต้องน้อมกราบขอบคุณจริงๆค่ะ ที่เข้ามาคอมเมนต์บอกค่ะ
คิดให้ได้ก่อนครับว่าปัญหามันมาจากตัวคุณ หรือตัวนักอ่าน
ถ้าคิดว่านักอ่านกาก จ้องจะจับผิด ก็ปล่อยไปเถอะ เรื่องของคุณอาจไม่ถูกโฉลกกับเขา
แต่ถ้าตระหนักได้ว่าปัญหามาจากคุณเอง ก็ลองปรับ มันไม่ได้เลวร้ายถึงขั้นต้องมานั่งนอยหรอก คนอื่นเขาเจอมาหนักกว่าคุณเยอะ มันก็แค่บทเรียน บทพิสูจน์อย่างหนึ่งว่าคุณจะทนได้มั้ย
หรือถ้ายังไม่รู้ว่ามีปัญหาก็ลองแทนตัวเองเป็นคนอ่านแล้วอ่านแบบนักอ่านดูสักสองรอบ มองมันหลาย ๆ มุมก็อาจจะได้อะไร
หรือถ้าไม่ไหว นอย ท้อ ก็เลิกไปเหอะ คนที่มันเขียนเก่งกว่าคุณ มีพรสวรรค์มากกว่าคุณมันยังเลิกไปก่อนตั้งเยอะแยะ
คนสมัยก่อนเขาไม่มีบอร์ดให้มานั่งแสดงความคิดเห็น พิมพ์แล้วกดแก้ไขไม่ได้นอกจากพิมพ์ใหม่ทั้งหน้า เขายังเขียนกันได้ รู้ตัวไว้บ้างว่าคุณน่ะโชคดีแค่ไหน
ขอบคุณจริงๆค่ะ
นึกถึงตอนเรียนพิมพ์ดีด.. ยุคที่ต้นฉบับกระดาษเขารีไรท์กันยังไงหนอ?
สมัยพิมพ์ดีดเราเอาลิขวิดป้ายแล้วพิมพ์ทับ (แต่ตอนนั้นไม่ได้เขียนนิยาย แค่ช่วยแม่พิมพ์งาน)
ที่อ่านของคุณ ภาษาสวยมากเลยค่ะ แต่เราไม่แน่ใจว่านิสัยเป็นยังไง ตอนแรกเปิดมาเยว่ซือดูเจ้าเล่ห์ ฉลาดดี แต่ตอนหลังกลับอ่อนแอขึ้นมา ร้องไห้ สักพักก็โกรธเพราะสัตว์เลี้ยงโดนด่า สักพักก็หายโกรธแล้วตกใจเพราะเผลอฆ่าคน คือเราอ่านเราก็ไม่รู้ว่านางเอกเป็นคนยังไง อ่อนแอหรือแข็งแกร่ง เราว่าถ้าไรท์อยากจะปรับส่วนนี้ไรท์ต้องบอกให้ได้ก่อนว่าเยว่ซือนิสัยเป็นยังไงกันแน่ เธอถูกเลี้ยงดูมายังไง นิสัยถึงเป็นแบบนี้ ไม่ใช่นึกอยากจะให้นิสัยยังไงก็ใส่ไปตามสถานการณ์ ตัวละครก็มีความคิด เมื่อตัวละครตัดสินใจทำอะไรไปก็ทำให้สถานการณ์พลิกได้นะคะ เราแนะนำไม่ได้มากเพราะมือใหม่เหมือนกัน แหะๆ แต่เราตอบในฐานะคนอ่านที่คลั่งไคล้นิสัยตัวละครนะคะ ตัวละครในนิยายเรื่องไหนมีคาแรคเตอร์เด่นชัดเฉพาะตัว เราตามไปกรี้ดไม่หยุดเลย555 อารมณ์แบบอ่านแล้วมันใช่ คนนิสัยแบบนี้เค้าก็ต้องทำตัวแบบนี้แหละถึงจะถูก ไม่ใช่ว่าเขียนบรรยายว่าเขาหน้าตาเย็นชา แต่ตอนที่สองกลับหัวเราะเสียงใสอะไรงี้ แต่ภาษาสวยมากๆเลย มีเทคริคยังไงแนะนำได้ไหม555 ทักมาคุยส่วนตัวได้นะ เรากำลังปรับปรุงสำนวนการเขียนของตัวเองค่ะ
สู้ๆนะ อย่าเพิ่งท้อ เนื้อเรื่องสนุก ภาษาลื่นมากเลยยย ปรับแค่คาแรคเตอร์ นิยายจะสุดยอดมากๆเลยค่ะ อย่ายอมแพ้นะ อย่าลืมมาบอกเทคนิคดีๆกับเราด้วยนะคะ555555
ขอบคุณจริงๆค่ะ ถ้าไม่บอกนี่คือไม่รู้เลยค่ะว่าจะไปเเก้ตรงไหน
ถ้าไรท์วางนิสัยตัวละครไว้ดีแล้วก็ไม่ต้องแก้หรอกค่ะ แต่ถ้าไรท์ไม่ได้วางไว้จริงๆก็ลองไปปรับดู อาจทำให้เนื้อเรื่องเปลี่ยนนะคะ เพราะการตัดสินใจบางอย่างของตัวละครมันเปลี่ยนไปตามนิสัย อีกอย่างเปิดเรื่องมานางเอกดูมีความมั่นใจดีนะคะ แบบจากการที่อ้อนแม่บ้าง ด่าจิ้งจอกน้อยไรงี้555 คือน้องไม่น่าดูอ่อนแอ เราคิดว่าคนอ่านเรื่องนี้คงคาดหวังให้นางเอกเก่ง เป็นเทพทรูอะไรประมาณนี้ค่ะ แต่ไรท์ไม่ต้องไปปรับให้ตรงตามที่คนอ่านต้องการนะ เอาตามที่ไรท์วางลักษณะนิสัยน้องเลยค่ะ มันจะมีเสน่ห์ด้วยตัวเอง >< งื้อออ ขอชมอีกรอบ ภาษาไรท์สวยอ่ะ อ่านนิยายมาเยอะหรือพรสวรรค์คะเนี่ยยย ชอบภาษาม้ากมาก อ่านแล้วลื่นเอาลื่นเอา555
อร้าย!เขินมากเลยค่ะ สุดท้ายขอกราบขอขอบคุณสำหรับคำเเนะนำนี้นะคะ กราบงามๆเลยค่ะ
ผมข้อเสริมจากที่คุณอยาย่อมาให้อ่าน
ตัวละครที่แข็งแกร่ง->อ่อนแอ = เจอจุดอ่อน
ตัวละคนที่อ่อนแอ->แข็งแกร่ง = พัฒนาขึ้น
หวังว่าคงเข้าใจ
ลองแปะไว้สักประโยคทำนองว่าเพราะ"นางเอกประจำเดือนมาอารมณ์ก็เลยแปรปรวน... "ก็นะ คำอธิบายเสริมแนวนี้นิดหน่อยก็เป็นตัวแปรได้อยู่นะ เพราะแค่ฝันว่าโดนเพื่อนแย่งแฟน จากที่สนิทกันก็เกลียดดื้อๆได้เหมือนกัน ข้ามเม้นนี้ไปเถอะ ฮ่ะ ฮ่ะ
อื้อหือ ดูเข้าท่ามากดีจริงๆค่ะ ไว้จะลองไปเเปะบอกคนอ่านดู
ถามเขา
ถามจนกว่าเราจะรู้ว่าไม่สมเหตุสำหรับเขาตรงไหน
หากคิดว่ามันใช่จริงๆ ค่อยแก้
ขอบคุณสำหรับคำเเนะนี้ค่ะ
คุณควรจะดีใจนะที่คนอ่านของคุณเขาอ่านและคิด แล้วยังกรุณาแสดงความคิดเห็นให้น่ะ หลายเรื่องเขาอ่านแล้วไม่เมนต์ให้เลยด้วยซ้ำ เราก็เป็นคนหนึ่งนะถ้าอ่านแล้วมันแย่มาก ไม่ make sense เราก็ไม่เมนต์ให้แล้วก็เลิกอ่านไปเลย เพราะแทนที่จะเสียเวลาทนอ่านแล้วก็เซ็งสู้เอาเวลาไปอ่านหนังสือที่ถูกใจจะก็อ่านกี่รอบก็คุ้มกว่า การที่คุณมีนักอ่านตามอ่านงานของคุณแล้วเมนต์ให้ถึงจะเป็นเมนต์ติก็ตามแสดงว่าเขายังชอบผลงานของคุณอยู่และมีความคาดหวังว่าผลงานนี้ยังดีกว่าที่เป็นอยู่ได้มากกว่านี้ขึ้นไปอีก แทนที่คุณจะมาเสียเวลานอยด์ทำไมไม่ลองกลับไปอ่านและคิด วิเคราะห์ ทบทวนผลงานของคุณดูอีกครั้งด้วยใจที่ไม่เข้าข้างผลงานของคุณดูหล่ะ บางทีคุณอาจจะเจอจุดบกพร่องอย่างที่นักอ่านของคุณเขาช่วยชี้ทางให้ก็ได้ แล้วก็เอาคอมเมนต์เหล่านั้นไปปรับปรุงพัฒนาให้งานดียิ่งกว่าเดิม แต่ถ้าคุณเป็นพวกที่ไม่ต้องการคอมเมนต์ติ แล้วคุณก็รู้ว่าเรื่องของคุณมันก็ไม่ make sense อยู่แล้วก็ให้แท็กและก็บอกไว้ที่หัวเรื่องนิยายของคุณเลยว่าเมากาว standard ที่นักอ่านตั้งไว้จะได้ต่ำตั้งแต่แรก
โอ้!จริงตามที่คุณบอกเลยค่ะ ตอนนี้เราเลิกนอยด์ไปนานเเล้วค่ะเเละกำลังกลับไปอ่านดูเเละพบว่ามันเป็นอย่างที่คนอ่านบอกเลยค่ะ จึงปรับเเก้อยู่ด้วย เพราะว่าตอนนั้นเราเเต่งไปใส่อารมณ์ของตัวเองไปด้วยเเหละค่ะ ตอนนี้เข้าใจมากเเล้วค่ะ ขอขอบคุณที่บอกนะคะ
สำหรับตัวผมเอง ผมคิดว่า feedback ใด ๆ ก็ตามจากผู้อ่านคือสิ่งที่เขารู้สึกจริง ๆ ผมไม่ได้พูดว่าสิ่งที่ผู้อ่านคิดนั้นถูกหรือผิดนะ แต่ต้องการบอกว่ามันมีเหตุผลเสมอ ๆ ว่าทำไมผู้อื่นถึงรู้สึกแบบนั้น feedback แบบนี้ไม่ใช่ feedback แบบด่าทอหรือตั้งใจมาป่วนนะครับ แต่มันคือความรู้สึกของผู้อ่านที่ตกตะกอนออกมา ผมมองว่ามันมีค่ามาก ๆ เราควรเก็บเอาไว้ปรับปรุง และที่สำคัญไม่ควรรู้สึกนอยด์เด็ดขาด คุณลองคิดกลับกันนะ...หากเขารู้สึกแบบนั้นจริงๆและวพลอยเลิกอ่านไปโดยที่ไม่แม้แต่จะคอมเม้นบอกคุณ คุณก็จะไม่มีทางรู้ได้เลยว่า เกิดความรู้สึกนี้กับผู้อ่านขึ้นมา คุณต้องตอบคำถามให้ได้ว่า คุณคิดว่าตัวละครของคุณสมเหตุสมผลแล้วหรือเปล่า... ถ้าคุณคิดว่าการกระทำของตัวละครสมเหตุสมผลอยู่แล้ว ก็ต้องมาวิเคราะห์ดูว่าทำไมเขาถึงคิดแบบนั้น เราเล่ารายละเอียดหรือความคิดของตัวละครไม่มากพอหรือเปล่า (บางทีผู้เขียนที่เป็นคนสร้างตัวละครขึ้นมาก็อาจจะรู้ความคิดนิสัยใจคอของตัวละครมากไป จนพอเวลาเล่าอะไรแล้วลืมที่จะอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจตัวละครเหมือนที่เราเข้าใจด้วย) ถ้าคุณคิดว่าตัวละครนั้นไม่มีความสมผลอย่างที่ผู้อ่าน feedback มาก็แค่นำไปปรับปรุงแก้ไขเท่านั้นเอง /// อนึ่ง ผมเป็นเพียงแค่นักเขียนฝึกหัดเท่านั้น จึงให้ความสำคัญกับ feedback ของผู้อ่านมาก สำหรับนักเขียนผู้ชำนาญอาจจะมีความคิดเห็นเป็นอื่นก็ได้ ยังไงก็สู้ ๆ ครับอย่ากดดันตัวเองมากเกินไป ปล. อยากให้มีคนมา feedback งานของเราบ้างจัง
ขอขอบคุณค่ะ ได้อ่านที่คุณเขียนมามันทำให้เราคิดได้เยอะเลยค่ะ เอาไว้จะไปfeedbackให้นะคะ ฮุๆ
นิยายฆาตกรรมเอาตัวฆาตกรมาเฉลยตั้งแต่ตอนแรกพร้อมบอกเหตุผลมันได้ด้วยเหรอ
ของเราก็มีนักอ่านผู้น่ารักมาคอมเม้นต์บอกเหมือนกันค่ะ
แต่เวลาเราลงนิยาย เราจะเขียนลงท้ายทุกบทว่า "สามารถติชม แนะนำ ได้ทุกอย่าง แต่ขอคำสุภาพและเหตุผลให้เราทราบหน่อยนะคะ เราจะได้แก้ไขให้นักอ่านถูก"
นักอ่านก็มาคอมเมนต์ให้ค่ะ บทไหนดีแล้ว บทไหนไม่ดี นักอ่านมาคอมเม้นต์ให้ตลอด น่ารักมากกก แต่บางคนแรงก็มีค่ะ แรงแบบนางเอกโลกสวย เสียเวลาอ่านอะไรแบบนี้ แต่พันคนมีหนึ่งคน เรื่องของเราอาจไม่ถูกจริตเขา เราก็ไม่ซีเรียส น้อมรับแล้วมาปรับดู
นักอ่านก็โอเคร เราก็โอเครค่ะ เราพยายามสื่อสาร แม้นักอ่านจะไม่โต้ตอบกลับมา 5555
ขอขอบคุณที่บอกนะคะ
ลืมแนะนำเลย 5555
โกรธได้แต่อย่าตอบโต้ ลองไปอ่านนิยายของตนเองอีกรอบ หากเป็นแบบที่ผู้อ่านทักท้วงมา เราแนะนำว่าควรแก้ไขจ้า แต่ถ้าไม่ก็อยู่ที่ดุลพินิจของผู้เขียนว่าควรแก้ไหม ถ้าแก้แล้วทำให้เรื่องทั้งหมดผิดเพี้ยนก็ไม่ต้องแก้ค่ะ
สู้ๆ จ้า
อันนี้ก็ต้องดูว่ามันไม่ make sense จริงอยากที่เขาว่าหรือเปล่า ถ้าจริงก็ควรนำไปปรับปรุงแก้ไขและขอบคุณในข้อเสนอแนะของนักอ่านที่ทักท้วง เช่น สมมุติว่าเขาทักทวงเรื่อง Character เราก็ควรย้อนกลับไปอ่านดูว่า Character ที่เราวางไว้ในตอนแรกมัน Out of character ไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน ถ้าเขาทักเรื่องความสมเหตุสมผลของข้อมูล ตรงส่วนนี้คุณก็ต้องย้อนกลับไปดูอีกว่านิยายที่คุณเขียนเป็นแนวอิงประวัติศาสตร์หรือเป็นแค่ โลกคู่ขนาน / ต่างมิติ ที่มีความใกล้เคียงกับยุคสมัยนั้น ๆ ถ้าเป็นอยากแรกแน่นอนว่าคุณต้องกลับไปแก้ไขข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้อง แต่ถ้าเป็นอย่างหลังก็ไม่จำเป็นต้องสนใจ เพราะมันก็เป็นแค่โลกในจินตนาการอีกใบหนึ่งเท่านั้น
ขอบคุณสำหรับคำเเนะนี้นะคะ
สนใจทำไมล่ะ
เค้าแต่ง
หรือเราแต่ง
รับไม่ได้ก็ปิดไป
บ่นนิดหน่อยก็ปล่อยไป อย่าไปคิดเยอะ นิยายไม่ใช่เรียงความ ไม่ใช่บทละคร จะเอาความสมจริง ไปเขียนเอาเองจบ แต่ไม่ต้องไปเม้นแบบนี้นะ
ไม่ต้องไปตอบโต้ ตีมึน จบแล้ว
โห! จะบอกว่าช่างมันไปเลย ดีที่สุดใช่ไหมค่ะ คุณคงเป็นคนที่ไม่ยึดติดอะไรมากๆเเน่นอนเลยค่ะ นับถือเลยค่ะ
ไม่มีครับ นิยายไม่ดัง 5555
เเหะๆ(ยิ้มเเห้ง) ต้องขอโทษที่ถามนะคะ ถึงยังก็สู้ๆนร้า
ถ้าโดนว่าไม่สมเหตุสมผลก็ต้องถามครับว่าทำไม ส่วนตัวผมดีใจมากนะครับถ้าคนอ่่านสามารถชี้จุดบกพร่องได้ โดยเฉพาะเรื่องที่พยายามเขียนให้เหตุการณ์ดูเรียลที่สุด
อันนี้มองว่า ความคาดหวังเสียมากกว่า บางคนอ่านนิยายแนวนั้น ตัวละครพื้นเพแบบนี้ เหตุการณ์แบบนี้และวิธีแสดงออกของตัวละครแนว ๆ นี้มานับไม่ถ้วน อย่างคนเย็นชาไม่มีทางจะพูดประโยคยาว ๆ หรือแสดงออกท่าทางอะไรมากนัก คนแสนดีที่ให้อภัยคนที่ฆ่าครอบครัวตัวเองได้ เอาจริงมันก็มี แต่ในความรู้สึกบางทีก็โลกสวยไม่พอ หรือตัวละครที่ปล่อยให้ตัวเอกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่ปูนิสัยมาว่า เป็นคนที่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยว พร้อมชนกับทุกปัญหา
มันเหมือนว่า นักอ่านก็มีความเข้าใจในตัวละคร เหตุการณ์หรือประสบการณ์ที่มีมา เราจะเขียนยังไงก็ได้ แค่มีตรรกะและเหตุผลที่มากพอจะทำให้คนอ่านเชื่อได้ เรื่องที่นักอ่านจะทักนี่ก็ไม่แปลกนะคะ แต่ละคนมีประสบการณ์ในการอ่านในแนวนั้น ๆ อยู่แล้ว
เอาจริงแนวไซไฟนี่ตัวดีเลย แต่ประเด็นเขาเขียนให้คนเชื่อได้ว่ามันสมเหตุสมผลอะค่ะ
อ๋อ!ขอบคุณมากเลยค่ะ
ถ้าเขียน อยู่ในหมวดรักธรรมดา แล้วพอมาถึงฉากหนึ่ง จู่ ๆ ตัวละครก็ได้ปล่อยพลังเหนือธรรมชาติ ก็คงไม่สมเหตุสมผล / แต่ถ้าอยู่ในหมวดรักแฟนตาซี หรือแฟนตาซี ก็คงจะสมเหตุสมผล
ขอบคุณมากค่ะ
คำวิพากษ์วิจารณ์นำมาปรับแก้ไขผลงาน แต่อย่าเอามาใส่ใจจนทำให้ตัวเองเครียด "ทุกคนไม่ได้เป็นแฟนตัวยงของคุณเสมอไป แต่ก็ไม่เป็นไร!" การมองเห็นจากมุมมองของคนอื่น อาจเป็นพื้นฐานและเป็นประโยชน์ แม้ว่านั่นจะเป็นคำวิจารณ์ที่ออกมารุนแรงและหยาบคายก็ตาม เลือกเอาสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์มาปรับปรุง อะไรไม่เป็นประโยชน์ก็แค่โยนทิ้งไป ปล.คุณโรลลิ่ง ผู้แต่งแฮรี่พอตเตอร์ได้กล่าวไว้ ทำไมผมถึงกล้าคอมเม้นต์แบบนี้ คุณลองไปอ่านคอมเม้นต์นิยายผมได้ครับ เถื่อนจริง ผมเก็บไว้ให้คนที่หมดกำลังใจในการเขียนไปอ่าน ผมก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่ยอมแพ้ครับ นิยายเรื่อง จอมกบฎแห่งราชันย์ แนว แฟนตาซี
โอ้! ขอบคุณจริงๆค่ะ
เราชอบถามหาความสมเหตุสมผลในนิยายทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นการกระทำของคนบางคนนั้นก็ไม่สมเหตุสมผลเลย
อืม มันก็จริงอย่างที่คุณว่านั้นเเหละค่ะ
คิดซะว่า เป็นโชคดีก็แล้วกันครับ
คงเป็นความโชคดีจริงๆค่ะ ถ้าเขาไม่บอกเราก็ไม่รู้เเล้วก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนให้มันดีขึ้น ตามจริงควรขอบคุณพวกเขามากกว่า ที่คอมเมนต์บอกนะคะเนี่ย
อืมม สำหรับเรา วิธีดูว่าสมเหตุสมผลมั้ย มันมี 2 ประการสำหรับเราค่ะ
1. ความสมเหตุสมผลอ้างอิงจากตัวละคร
เราว่ามันคือ 'การเอาใจเขามาใส่ใจเรา' ค่ะ
คนเขียนต้องลองแทนตัวเองลงไปในตัวละครของคุณ
จากนั้นก็คิดว่าถ้าคุณเป็นเขา คุณจะทำอะไร?
ซึ่งกระบวนการคิดจนถึงตัดสินใจของตัวละครนั้น ๆ ต้องตั้งอยู่ในบรรทัดฐานที่ว่าคุณต้องรู้ลักษณะนิสัยตัวละครของคุณอย่างถ่องแท้ อย่างน้อยก็ชัดเจนถึงนิสัยเขา ความคิดเขา จากนั้นก็เขียนตามที่พอเข้าใจ วิธีนี้จะว่ายากก็ยาก ง่ายก็ง่ายค่ะ
(เช่น
ตัวละครตัวนี้มีนิสัยหุนหันพลันแล่น > พอเจอเรื่องมาปะทะก็ตอบโต้ทันควัน = สมเหตุสมผล
ตัวละครนี้มีนิสัยรอบคอบ > พอเจอเรื่องก็ระมัดระวังตัวมาก ไม่ยอมทำจนกว่าจะแน่ใจ = สมเหตุสมผล
ตัวละครนี้เยือกเย็น > พอเจอเรื่องมาปะทะ > หัวร้อนเลย : อันนี้ต้องมาดูสาเหตุเพิ่มเติมว่าเรื่องที่มาปะทะนั้นเป็น 'ปม' หรือ 'จุดอ่อน' ของตัวละครนี้หรือเปล่า ถ้าใช่ = สมเหตุสมผล // แต่ถ้าไม่ใช่ การวางนิสัยตัวละครกับปฏิกิริยาตอบโต้ของเขาก็จะขัดแย้งกันและไม่สมเหตุสมผลค่ะ)
ถ้าหากทำตามวิธีคิดนี้ บางทีนะคะ ตัวละครของเราจะเป็นคนพาเราไปสู่เหตุการณ์ใหม่ ๆ เองแบบไม่ต้องคิดเลยก็ได้ค่ะ ซึ่งสนุกมาก ๆ เลยค่ะพอไปถึงจุดนั้น
2. ความสมเหตุสมผลอ้างอิงสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมภายนอกค่ะ
อันนี้เป็นเหตุการณ์ที่บางทีไม่ได้เกิดจากการกระทำของตัวละครอื่น แต่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ความบังเอิญที่ทำให้ตึกพังทลายลงในช่วงเวลานั้นเป็นต้นน่ะค่ะ อันนี้เขียนไม่ยากและจะไม่สมเหตุสมผลก็ได้เราบอกเลย...เพียงแต่ว่าก็ต้องมีท้าวความในเรื่องสักหน่อยนึงให้ผู้อ่านรู้บ้าง เราก็จะก้าวข้ามผ่านความไม่สมเหตุสมผลทั้งปวงค่ะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น สู้ ๆ นะคะ
ขอบคุณมากนะค่าา
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?