Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

จะแก้เครียดขณะเขียนนิยายด้วยวิธีแบบนี้(?)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีครับท่านทั้งหลาย ผมรู้สึกปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับทุกท่าน และก็ขอแสดงความเสียใจสำหรับการก้าวย่างของคุรที่เข้ามาในครั้งนี้ เพราะทันทีที่คุณเข้ามาในกระทู้นี้ แสดงว่าคุณนั้นทำ “ผิดพลาด” อย่างรุนแรงแล้ว !
กระทู้นี้มันอะไร มันเป็นยังไง เข้ามาแล้วทำไมคุณต้องมาเสียใจภายหลังด้วย มันผิดพลาดยังไง และ-บ้านี่มันเป็นอะไร(?) ขอเฉลยเลยแล้วกันว่า ผมแค่จะมาบ่นระบายความในใจส่วนตัวล้วน ๆ ครับ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย สาระอะไรช่างแม่ม
หากคุณอยากจะมาอ่านสิ่งที่ผมจะทำเพื่อสนองนีสตัวเองล้วน ๆ แบบ 100 % ก็เชิญตามสบายครับ ผมให้เวลาทำใจแค่ 1 บรรทัด หากว่าพร้อมแล้วก็จัดไปอย่าให้เสีย ไปเริ่มกันโลด

...............................

เริ่มกันเลย ผมในวันนี้จะมาบ่นกรรมวิธีแก้เครียดช่วยเหลือนักเขียนให้ไม่ตันทั้งหลายแหล่ ที่มันโคตร Fail !!! อ้างอิงโดยประสบการณ์การเขียนทั้งชีวิตของผมเอง(คุณตะพาบแน่นอน) มันเป็นยังไง ทำไมถึงแย่ แล้วมันพาชิบไก่ยังไง เราไปอ่านกันเล้ย!

1.ฟังเพลง : สุดยอดวิธีโคตรคลาสสิค ถามใครกว่า 90 % ก็จะแนะนำ ยืนหนึ่งขึ้นหิ้งเป็นสุดยอดวิทยายุทธอย่างไร้ข้อกังขา ฟังเพลงแล้วหัวแล่นจินตนาการพลุ่งพล่าน เขียนนิยายแล้วลื่นไหลหัวแตก เมื่อมีอาการหัวตันล้วนให้ใช้วิธีนี้ แก้ได้แน่นอน ยิ่งเปิดเพลงที่มีอารมณ์รวมตรงกับจุดที่แต่งนะ ยิ่งได้อารมณ์ เมามันส์บ้าคลั่งเขียนกองเป็นตึกก็ยังได้ ใครเห็นก็ว่าดี

ทว่าวิธีการนี้สำหรับผมแล้วมัน Fail อย่างรุนแรงชัด ๆ มันเพราะอะไร? เพราะมันเป็นวิธีการที่โคตะระ “ฝืน” สุด ๆ ... เพราะมันเป็นการฝืนบิ๊วอารมณ์ตัวเองให้มีอารมณ์ร่วมแล้วเอาอารมณ์นั้นมาใช้เขียนนิยายให้ไหลลื่นไง

-การฟังแล้วตรงจังหวะจุดเขียนมันจะเกิดขึ้นบ่อยเสียเมื่อไหร่ วันไหนที่มีอาการล้า ฟังยังไงก็จุดอารมณ์ไม่ติดแล้ว คิดดูว่าอารมณ์ตั้งต้นของตัวเรามันรู้สึกเฉย ๆ แล้วสมมุติว่าอีกสักพักทดไว้ในใจว่าเดี๋ยวจะไปล้างจาน แต่จังหวะนั้นได้ตั้งเป้าว่าจะเขียนฉากเลิฟซีนให้จบ ก็เลยถือโอกาสเปิดเพลงรักเพื่อบิ๊วอารมณ์... มันก็เข้าท่าอยู่ ใช่มันฟังดูไม่เลว และแน่นอนว่ามีคนทำได้ แต่ผมทำไม่ได้(โว้ย) มันฝืนอะ มันเป็นการผืนอย่างหนึ่ง ฝืนบิ้วอารมณ์ตนเองให้มันไปอยู่ในจุดนั้น พอทำบ่อย ๆ นาน ๆ มันก็เหนื่อย เลิฟซีนก็เพลงรัก ต่อมาฉากสู้ก็เพลงร๊อค ตัวเอกตายก็เพลงเศร้า ในวันหนึ่งเปลี่ยนอารมณ์บ่อยเกินไปไหม

บีบบังคับตัวเองก็ทำเอารู้สึกเหนื่อยจากเขียนเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่ง อันนี้ไม่รู้ว่าผมมันโรคจิตเฉพาะตัวเองหรือเปล่า แต่มันเหนื่อยมากขึ้นและไม่ค่อยอยากจะเริ่มต้นเขียนเพราะคิดว่าต้องทนไปลำบากแบบนั้น แถมส่วนใหญ่จะทำเสียอารมณ์ด้วยซ้ำหากบิ๊วไม่ขึ้น และที่หนักสุดเลยคือเพลงก็เล่นเองสุ่มไปเจอเพลงหลอนขณะเขียนบทรัก(?) แต่ไม่ว่่จะกรณีไหนสุดท้ายแล้วสมาธิก็ถูกแย่งจากหน้ากระดาษมาจดจ่ออยู่จุดนี้อยู่ดี

ที่สำคัญเมื่อเราฟังเพลงมาก ๆ แล้วเป็นยังไง? ก็หัวเบลอสิท่าน แหง๋แหละก็เล่นแบ่งสมาธิไปฟังเพลง พอฟังมาก ๆ ก็ทำให้หัวตื้อได้ง่าย สมองมันใช้งานไปกับเพลงเยอะไปแล้ว ร่างกายมันก็อยากพักผ่อน แบบนี้มันก็ไม่มีอะไรมาแก้ได้แล้วนอกจากนอน! ปิดไฟนอนอีกวันค่อยลุกมาเขียน(เสียเวลาไปอีก)
นอกจากนี้เมื่อเขียนบทไหนนาน ๆ ก็ฟังเพลงแนวนั้นนาน ๆ ยกตัวอย่างเช่น ฉากเลิฟซีนเขียนสัก 1 ชั่วโมง ก็อาจจะฟังเพลงแนวรักได้ราว ๆ 30 เพลง เช็ดโด้ข้าวมันกุ้ง! ไม่เอียนตายเลยหรือนั่น...

สรุปก็คือจะเอาดีด้วยเพลง สมควรมีการคุมบาลาซ์อย่างชาญฉลาด ซึ่งในความคิดผมเวลาการเขียนในชีวิตประจำวันก็น้อยอยู่แล้ว เนื้อความแค่บรรทัดเดียวก็กินมันสมองไม่น้อย ต้องมาเสียสมองเสียเวลาคิดคุมบาลานซ์ฟังเพลง แทนที่จะไปปวดหัวและทุ่มเวลาใส่หน้ากระดาษ มันไม่ค่อยจะคุ้มเลย แต่ถ้าคุณมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ลงตัววิธีนี้มันก็ดีจริง ๆ นั่นแหละ (แต่ไม่เหมาะกับผม)

2.ไปอ่านนิยายอื่น ๆ : จัดเป็นอีกหนึ่ง main หลักกระบวนท่าวิทยายุทธที่สำนักต่าง ๆ แนะนำเช่นกัน หัวตันแล้วไปไหน? ดำน้ำ ปลูกป่าดูปะการัง มีเยอะแยะ และหนึ่งในนั้นก็จะมีให้ไปหาความรู้เพิ่มเติม เปิดโลกเปิดสมอง อ่านของชาวบ้านคนอื่นบ้างจะได้มีไอเดียมาต้มยำนิยาย (แต่ห้ามลอกนะ)

แล้วเป็นยังไง? ก็ติดงอมแงมสิิครัช ถ้าอ่านนิยายแล้วสนใจมันก็ไม่มีทางอ่านแป๊บเดียวเลิกอยู่แล้ว มีแต่สิงยาว ๆ แล้วก็อย่ามาใช้ข้ออ้างว่าทำตัวให้มีวินัยนะ คนอ่านเรื่องแกก็รออยู่เยอะ(มีด้วยหรอฟะ) ถ้ามีนินัยก็ต้องลุกกลับมาทำสิ่งที่ต้องทำต่อให้เสร็จสิ!(ดูการ์ตูนมากไปแล้วน้องเอ้ย) คิดดูว่าอ่านค้างอยู่แล้วใครมันจะมีใจอยากจะเขียนเรื่องตัวเอง(ฟะ) มันต้องต่อให้สุดเด๊! หนึ่งในสาเหตุหลักการดองเขียนไม่จบอยู่ที่นี่แล้ว!

แล้วคิดยังไงกับการที่อยากเขียนฉากแบบนี้แต่ส่วนใหญ่ฉากนั้นมักจะเขียนอยู่ในนิยายแนวที่ไม่ชอบ? พูดได้เลยว่าชิบไก่ของแท้ ใครที่แนะนำวิธีนี้มาผมนี่อยากจะไปตบมือตอนพิมพ์คีย์บอร์ดจริง ๆ มันทนได้หรอฟะ ตอนเขียนใหม่ ๆ หลงคิดว่ามันจะเป็นการเสริมสร้างทักษะให้เขียนเก่งขึ้น เหล่าปรมาจารย์สมควรต้องมีจิตใจที่มั่นคงและเปิดกว้างมีวิทยายุทธแขนงนี้ติดตัว แล้วผมมาใช้แล้วเป็นยังไง? ก็ชิบไก่ไง…! ตัวเองก็ไม่ได้ชอบ จิตใจมันอยากจะอ่านผ่าน ๆ ให้จบไวอยู่แล้ว ข้ามย่อหน้า ข้ามบรรทัดเอาให้มันจบ ๆไป พอได้ฉากที่ต้องการมาเขียนจริงอารมณ์ก็เสีย เสียสุขภาพจิตและเหนื่อยเพิ่ม เผื่อ ๆ ความรู้ก็ไม่เข้าหัว แล้วมันจะได้ประโยชน์อะไร ไม่ต่างจากหนังสือเรียน ถามว่าหนังมีประโยชน์ไหม มันก็มี มันจำเป็นไหม โคตรจำเป็น แต่ก้รู้ ๆ กันอยู่ว่าไม่ใกล้สอบอย่าหวังว่าจะแตะ พอสอบผ่านผมนี่เอาไปเผาทิ้งแล้ว!

3.เล่นเกม : กิจกรรมคลายเครียดที่ได้ผลแบบ 100 % ทำแล้วหายเครียดแบบ 200 % เรื่องนี้ผมเห็นด้วย และผมทำแล้วก้ได้ผลครับและก็ชอบด้วย ต่างจากข้อที่กล่าวมา แล้วมันไม่ดียังไง? เหมือนกับข้อเมื่อกี้เลยครับ ก็ติดงอมแงมไง! ปัญหานี้มันโลกแตกจริง ๆ นะ แม้แต่ระดับปรมาจารย์ก็เกิดปัญหานี้เช่นกัน ยกตัวอย่าง ผู้แต่งเบอร์เซิร์ก ที่ไปติดไอดอลมาสเตอร์ คนอ่านทำไรได้บ้าง? ก็ได้แต่รอไง!

นอกจากนี้มันก็ไม่ได้แก้เครียดเสมอไปเสียหน่อย บางเกมก็ทำให้เครียดเพิ่มนะเฮ้ย (ใครใช้ให้เล่น sekiro) บอกเลยว่านิยายคืออะไร ไม่มีอยู่ในหัวแล้ว จังหวะนี้มันต้องไฟว์

...........................................

สิ่งที่ผมอยากบ่นวันนี้มันก็มีแค่นี้ (หัวตันละคิดไม่ออก) วัน ๆ ที่เรามี นอกจากต้องไปใช้ชีวิตประจำวันกับ การนอนแล้ว เราต้องแบ่งเวลาความเป็นส่วนตัว เวลาแต่งนิยายมันก้เป็นหนึ่งในนั้น พอเวลาไปยุ่งกับเรื่องอื่นมากขึ้น เวลาของการแต่งนิยายมันก็จะสั้นลง สำหรับวิทยายุทธจากเกจิอาจารย์หลายสำนักตั้งหลาย ผมคิดว่าของมันไม่จำเป็นจะต้องมีก็ได้

หากมีคนที่อ่าน(โคตรดีใจเลยที่อ่านมาถึงนี่ได้) แล้วมีความคิดเห็นแย้งผมอะไรยังไง ก็จัดมาด้านล่างอย่าให้เสียครัช จะด่าผมก็ได้ผมไม่ว่า(ฮา) แต่เอาเป็นว่าผมก็ขอจบลงเพียงเท่านี้

ปล. ขออนุญาตไม่ล็อคอินเพราะอาจมีคนตามไปยังเรื่องที่แต่งได้...อายครับ แต่งไม่จบเลย ทิ้งคนอ่านแห้งตายไปด้วย น่าละอายและไม่ควรเป็นแบบอย่างยิ่งนัก

แสดงความคิดเห็น

>

6 ความคิดเห็น

กรอบแว่นสีดำ 3 เม.ย. 63 เวลา 20:38 น. 1

เราไม่คิดแบบนั้น ไม่เคยฟังเพลงเพื่อให้หายเครียดจากการนั่งแต่งนิยาย สมองตันคิดไม่ออก เราไม่ฟังเพลงค่ะ ไม่เล่นเกม ไม่นั่งอ่านนิยายคนอื่น

1. ถ้าเราฟังเพลง เราจะร้องตามจนคิดเนื้อหาต่อไปไม่ได้ พอกลับมาเขียนก็เครียดและรู้สึกเบื่อขึ้นมาอีก

2. ถ้าไปอ่านนิยายคนอื่น เราจะติดอ่าน อ่านก็ต้องอ่านจนจบ ถ้านิยายของท่านใดยังแต่งไม่จบ เราจะหงุดหงิดเล็กน้อย ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีคลายเครียดที่ถูกต้อง หรือต่อให้นักเขียนท่านนั้นแต่งจบแล้ว เราก็จะนำเรื่องราวในนิยายของท่านนั้นมาเปรียบเทียบกับของเราเอง

3. ถ้าเล่นเกมไปแล้ว หากเรายังไม่ตายเราจะไม่เลิก หากเรายังไม่ชนะเราก็จะไม่เลิก หากเรา...ใช้คำนี้ต่อไปเรื่อยๆ คงเล่นจนง่วงนอน


ฮะๆๆ นึกละเครียด


หากเครียดจากนิยายที่แต่งอยู่ แนะนำ นอน กิน ออกไปเดินข้างนอกสัก 5-10 หรือนั่งเหม่อไปเลยยิ่งดี ถ้าไม่ได้ผล ก็ถือเสียว่าได้ลองแล้วกัน https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png

7
กลับข้าวครัช 3 เม.ย. 63 เวลา 21:16 น. 1-1

เยี่ยมเลยท่าน ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง กิจกรรมที่ดีมันควรพักผ่อนสมอง ไม่ใช่ออกกำลังกายสมองเพิ่ม คงจะมีแรงไปเขียนนิยายอะ กิน นอน ไม่ทำอะไรเลยมันดีที่สุดแล้ว(การดองก็เช่นกัน)

0
P.S.HOPE 3 เม.ย. 63 เวลา 21:18 น. 2

ถ้าเขียนไม่ออกต้องหยุดฟังเพลง

เวลาเขียนถ้าจะฟังเพลงต้องไม่ใช่เพลงที่คุณฟังแล้วรู้เรื่องหรือร้องได้

ยิ่งติดโซเชียลยิ่งไม่ได้แต่ง

การเล่นเกม อาจทำให้วันนั้นทั้งวันของคุณ แต่งได้แค่ 5 บรรทัด หนทางเดียวที่จะทำให้นิยายไปต่อได้เวลาคุณสมองตัน คือปิดทุกอย่างแล้วเปิดแค่ Word

1
sasies2 3 เม.ย. 63 เวลา 21:28 น. 3

เห็นด้วยกับจขกท.

เพราะ??

เพราะเราเองก็ฟังเพลงเพื่อมีอารมณ์ร่วมไปกับการเขียนนิยายและสามารถทำให้เขียนต่อไปอย่างไม่มีติดขัด ซึ่งเรื่องนี้จริงมาก และในบางเพลงดันเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องที่เราต้องการ ดีต่อการเขียนนิยายอย่างยิ่ง


ส่วน main จากเรื่องอื่นเราก็อ่านมาก่อน นี่ไม่ใช่การคัดลอกจากเรื่องที่อ่าน แต่เราสามารถนำมาเป็นนิยายในฉบับของเราได้และแตกต่างจากเรื่องที่อ่านโดยสิ้นเชิง


ทุกอย่างล้วนเกิดจากเอนเนอร์จีของจินตนาการค่ะ

1
กลับข้าวครัช 3 เม.ย. 63 เวลา 22:02 น. 3-1

จิตนาการเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่จากที่กล่าวว่า "นำมาเป็นนิยายในฉบับของเราได้" มันจะตีความได้ว่า "นำนิยายของคนอื่นมาดัดแปลงเป็นของตัวเอง" มันเข้าข่ายดัดแปลงนะครับ ระมัดระวังสุขภาพด้วย

0
กลับข้าวครัช 3 เม.ย. 63 เวลา 22:13 น. 4

เพิ่งคิดออกเพิ่มเติม ซึ่งมาจากการเห็น "กระทู้" หรือ "วิธีการ" บางส่วนของนักเขียนที่เปิดสมัครข้อคิดเห็น(เช่นตั้งชื่อตัวละคร ออกแบบนิสัย อยากให้ฉากต่อไปดำเนินเป็นยังไง) วิทยายุทธลับเฉพาะแบบนี้มันดีจริงหรือ? อันนี้ผมอยากจะเอาไปแปะเพิ่มบนกระทู้จัง แต่น่าเสียดายที่ผมดันล็อกอินเป็นแบบ guest เลยไปแก้ไขไม่ได้(จบแล่ว) แต่น่าสนใจมาก ๆ คิดว่าคงบ่นได้ยาว ๆ เลยเรื่องนี้

3
กรอบแว่นสีดำ 3 เม.ย. 63 เวลา 22:24 น. 4-3

แต่ถ้าพูดเรื่องกระทู้ เราไม่คิดว่ามันดีในการให้คนอื่นมาช่วยแต่งเสริมเติมแต่งจินตนาการของตัวเราเอง มันเป็นการทำให้พล็อตที่อยู่ในหัวในหน้าสมุดของเราเพี้ยนไป ถ้าตั้งกระทู้เกี่ยวกับชื่อ เราว่ามันไม่เสียหายหรือเกินขอบเขตในจินตนาการ เพราะยังไงมันก็เป็นแค่ชื่อ แต่ถ้าตั้งกระทู้ถามว่า ฉากต่อไปจะแต่งยังไงดี? บอกเลยว่าเลิกแต่งแล้วไปหานิยายอ่านเอาเถอะ


นักเขียนสรรค์สร้างนิยายด้วยจินตนาการของตัวเอง ไม่ใช่ไปขอจินตนาการคนอื่นมาใส่ไว้


(แต่เราก็ถามคนอื่นเรื่องแนวทางตามกระแสนิยายนะ คิกๆhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-12.png )

0
Q.lingjang 3 เม.ย. 63 เวลา 22:49 น. 5

จริงเว้ยตอนนี้กำลังติดนิยายของนักเขียนคนนึงกะว่าจะตามอ่านทุกเรื่องในจบ

ตอนเที่ยงบอกตัวเองว่าจะเขียนตอนนี้ให้จบ เเต่คือเเบบขออ่านตอนนี้ให้จบก่อน ไปๆมาๆหนึ่งทุ่มก็ยังไม่เริ่มเขียน งืออความขี้เกียจเข้าครอบงำ ที่อ่านงานคนอื่นเพราะจะเอามาปรับใช้ในงานตัวเองเเต่ดันติดซะงั้น

0
White Frangipani 4 เม.ย. 63 เวลา 19:16 น. 6



จะแก้เครียดขณะเขียนนิยายด้วยวิธีแบบนี้(?)


สวัสดีค่ะ คุณเจ้าของกระทู้


อ่านๆ ข้อความที่คุณพิมพ์มาเพื่อบอกเล่า ถึงเหตุการณ์ซึ่งคุณตกอยู่ ในเหตุที่ว่า ทั้งตัน และทั้งเครียด เกี่ยวกัการเขียนนิยายไม่จบได้ แบบนั้นนะคะ


รวม เหตุการณ์ ถึงสาเหตุ...ซึ่งทำให้คุณเป็นได้เช่นนี้ คือ เป็นดังที่คุณบอกเล่ามานี้ ก็เข้าใจคุณค่ะ


คืออ่านแล้ว รู้สึกว่า คุณมีอาการสับสน...ดังที่ว่า หลายๆ คนนั้นอาจจะทำได้ แตกต่างจากที่คุณ เป็น อีกด้วย ใช่ไหมคะ?



สาเหตุที่เข้าใจคุณในแบบที่ยกมานี้ เพราะเข้าใจ...ในเหตุการณ์ของคุณได้ค่ะ


เพราะเข้าใจว่าโดยปรกติพื้นฐานแล้วนะคะ คนเรามีความแตกต่าง เป็นแก่นสารกันได้ค่ะ


คือคุณอาจจะไม่สามารถรับฟังเพลง...ต่างๆ เพื่อเป็นสิ่งที่ช่วยบิ้วอารมณ์ได้นะคะ ตามที่คุณเล่ามานี้ค่ะ



หากแต่นักเขียน ท่านอื่นๆ อาจจะทำได้ค่ะ


ทั้งนี้เพราะเรามีความแตกต่างกัน นั้นก็เป็นความจริงค่ะ


เม้นต์นี้ เม้นต์เข้ามาให้กำลังใจคุณ ในยามที่รู้สึกได้ว่า คุณกำลังสับสนนะคะ


คือเมื่ออ่านคำบอกเล่าของคุณแล้วก็เข้าใจว่า คุณน่าจะไม่มีศิลปะ ที่จะสามารถแยกแยะอารมณ์...ได้ดี เช่นคนอื่นๆ นั้นเอง เป็นสาเหตุค่ะ


ด้วยความที่ตนนี้(คือเจ้าของเม้นต์นี้นะคะ) สามารถทำได้ ด้วยเช่นกันค่ะ


คือสามารถแยกแยะอารมณ์ได้ในทุกๆ วินาที และ สามารถเขียนได้ ด้วยการรับฟังเพลงเพื่อบิ้วอารมณ์ หรือมีเพลง เป็นแบ็คกราวน์ หรือเป็นแรงบันดาลใจ ในการเขียนได้เป็นอย่างดีค่ะ


จึงอยากจะนำเอาเทนิคที่ตนมีอยู่มาแบ่งปันให้กับคุณค่ะ


คืออยากแนะนำคุณว่า เมื่อเพลงบรรเลงขึ้นมา คุณก็เพียงรับฟัง เนื้อร้อง ทำนอง และความหมายในเพลง...ตามไปด้วยอารมณ์ที่สุนทรีนะคะ


คือคุณจงอย่าลืมตัวตนของคุณเอง ในขณะที่คุณมีอารมณ์สุนทรีนั้นๆ ด้วยนะคะ


คือจริงแล้ว อารมณ์ เป็นเพียงอนูแห่งความรู้สึก ในขณะนั้นๆ เมื่อมีสิ่งใดๆ มาจรรโลง นั้นหรือ ก็เกิดขึ้นได้ เป็นปรกติ เป็นธรรมดา ในคนนะคะ


หากแต่นั้นไม่ใช่จิตวิญญาณที่แท้จริงของคุณค่ะ


คือคุณต้องฝึกแยกแยะให้ได้ ระหว่างอารมณ์ กับจิตวิญญาณ


หรือ ในที่นี้เราเรียก จิตวิญญาณ คือ จิตสำนึก หรือจิตใต้สำนึก...นะคะ


คือแม้ คุณจะมีอารมณ์ที่สุนทรีได้ ในวาระต่างๆ ตามสิ่งที่เป็นความบันเทิง หรือจรรโลงใจ แต่จิตวิญญาณนั้นยังคงต้องมีอาการนิ่ง และยืนพื้น แน่วแน่ หนักแน่นอยู่ ซึ่งคุณต้องรู้ให้ได้ด้วยว่า คุณยังสามารถรู้ได้ว่า อันตัวตน ที่แท้จริงของคุณนั้น แท้จริงเป็นคุณอยู่นะคะ


คือคุณต้องไม่ปล่อยจิตวิญญาณของคุณให้หลั่งใหลถ่ายเท ไปกับเนื้อร้อง หรือทำนองของเพลงจนหมดสิ้นสิคะ


คือคุณยังคงต้องรู้ตัวตน ของคุณให้จงได้ว่า บทเพลงนั้นๆ เป็นเพียงบทเพลงซึ่งให้ความหมายต่ออารมณ์นะคะ


แต่คุณต้องไม่ปล่อยให้มันไปมีส่วนที่รบกวนตัวตน

(คือจิตวิญญาณ คือส่วนที่ลึกกว่าอารมณ์)

ที่แท้จริงของคุณสิคะ


ตัวตนที่แท้จริงของคุณ...ในที่นี้ คือคุณกลับข้าวนะค๊าาาา


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-01.png


คือคุณต้องไม่ลืมนะคะ ว่าคุณต้องการรับฟังเพลง เพื่อบทเพลงนั้นๆ จะเป็นได้เพียงสื่อ...หรือเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณมีอารมณ์บรรเจิด ในที่นี้ เพียงเพื่อให้เกิดเป็นอารมณ์ที่จะสามารถล่องลอยไป...เพื่อเขียนนิยาย ให้ไหลลื่นได้ เท่านั้นเองค่ะ


คือคุณต้องแยกแยะ ระหว่างอารมณ์ และจิตวิญญาณที่แท้จริงของคุณทุกๆ วินาที ที่มีชีวิตอยู่นั้นสำคัญนะคะ


ไม่อย่างนั้นคุณจะไม่สามารถทำสิ่งใดๆ ในชีวิตได้สำเร็จเลยด้วยค่ะ


เพราะมาวันนี้ ในโลกนี้ มีสิ่งที่เป็นความบันเทิง...ให้กับอารมณ์ นั้นมีเกิดขึ้นมากมาย...นะคะ


หากคุณไม่สามารถแยกแยะได้นะคะ นิยายของคุณก็จะไม่สำเร็จ เป็นนิยายได้ค่ะ


เพราะฉะนั้น หากคุณรักที่จะเขียนนิยาย ให้สำเร็จนะคะ คุณต้องมีสติ ที่จะต้องจดจ่อ ไปที่ความตั้งใจ ด้วยจิตวิญญาณนะคะว่า...คุณต้องไม่หลงไป...กับสิ่ง ที่คุณจะนำมาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ หรือเป็นสิ่งที่เพียงเพื่อบิ้วอารมณ์นะคะ



คือคุณต้องไม่อ่อนแอ ที่จะฟังก์ชั่นสติ เพื่อควบคุมจิตวิญญาณของคุณ ให้รู้ตัวตนให้จงได้ตลอดเวลานะคะ


เพราะอารมณ์นะคะ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง...ที่เราๆ มีอยู่ และคุณต้องรู้ด้วยว่า อันอารมณ์นั้น จะปล่อยให้มันพลิ้วไหวไปได้ เพื่อความสุนทรี หากแต่คุณจะปล่อยให้อารมณ์ เป็นตัวขับเคลื่อน...ในทุกๆ สิ่งอย่างแบบนั้น ไม่ได้นะคะ


หากแต่... ที่คุณต้องมีอยู่ เพื่อฟังก์ชั่น จิตใจ และจิตวิญญาณ...นั้น คือสติ ที่คุณต้องมีอยู่ เป็นพื้นฐาน ที่คุณจะลืมเสียไม่ได้ นั้นคือความสำคัญยิ่งค่ะ


คือไม่ว่าคุณจะทำสิ่งใดก็ตามทีนะคะ ฟังก์ชั่นเหล่านี้...ของคนเรา นั้นเป็นตัวแปรที่สำคัญค่ะ


 ทั้งหมดนี้ คือกลไก...คือการทำงาน...ที่มีหน้าที่แตกต่างกัน ในคน ค่ะเจ้าของกระทู้


และแน่นอนในแต่ละคน มีสมรรถภาพของการทำงาน...ในระบบดังกล่าวนี้ แตกต่างกัน นั้นก็เป็นความจริงค่ะ


ทั้งนี้ ดังที่เราๆ จะเห็นได้ ในเหตุที่เกิดมีอยู่ ซึ่งเป็นผู้ คนมากมาย พึงมีศักยภาพที่แตกต่างกันไงคะ


และเหตุเช่นนี้ เกิดเป็นผู้คนที่แตกต่างกันได้ เช่น บางคนติดอะไรๆ ได้ง่่ายๆ หรือหลงไปกับอะไรๆ ได้ง่าย หากแต่หลายๆ คนไม่เป็นได้ แบบนั้น


เป็นต้น นะคะ

-------------------------------


เดี๋ยวยกตัวอย่าง...ของเจ้าของเม้นต์เอง มาหนึ่งตัวอย่างนะคะ

(ขออนุญาตนะคะ)


เช่น


เจ้าของเม้นต์นี้ เมื่อมีเวลาว่าง ก็จะพยายามร่างๆ นิยายของตนไว้

(แม้จะไม่นำมาลงเน็ตก็ตามที แต่เมื่อมีเวลาจะร่างๆ ไว้ค่ะ)


คือมีการหัด และฝึกปรืออยู่ตลอดเวลา ในช่วงที่จะทำได้ค่ะ


เช่น ในบทที่กำลังจดจ่ออยู่นี้ เป็นบท หรือฉากที่พระรอง กำลังน้อยอก น้อยใจ ในชะตา แห่งความรักของตน


ซึ่งเขามีต่อนางเอก ว่าเธอนั้นไม่รู้ ไม่เห็นในคุณค่าแห่งความรักของเขาเลย


และอยู่ในช่วงที่เจ้าของเม้นต์นี้ มีอาการตัน อยู่พอดี


บังเอิ๊ญมีเพื่อนผู้ชาย(จากเมืองไทย) ส่งเพลง เพราะๆ มาให้ฟังเล่นๆ

(ชอบฟังเพลงไทยๆ ที่มีความหมายดีๆ ค่ะ เพื่อนๆ เขารู้นะ)


คือเพลงนี้นะคะ




ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png


โอ๊วววววว


คุณรู้ไหมคะ ว่า... เมื่อฟังเพลงนี้จบลงนะคะ


ได้แรงบันดาลใจ เกิดความรู้สึกว่า นี่หล่ะ ใช่เลยยย


นี่หล่ะคือเหตุการณ์ของคุณพระรองเค้าหล่ะ


จึงได้ทำการตั้งเล่นออโต้ คือให้เพลงเล่นๆ กลับไป กลับมา ขับกล่อมให้เกิดเป็นอารมณ์ที่จะร่าง สถานะ และเหตุการณ์ของเขาออกมาได้ สวยงาม เช่นที่เจ้าของเม้นต์ตั้งใจเลยด้วยค่ะ


คือเกิดเป็นอารมณ์....ที่จะร่างเหตุการณ์ของคุณพระรอง...ที่เขาตกอยู่ ได้ฉลุย


นํ้าเสียงที่ไพเราะนั้น

(คือ นํ้าเสียงของคนร้องนะคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ทุ่ม นุ่มนวล ไพเราะ ใช้แทนเสียงของพระเอกได้เลยด้วย เสียงหล่อเนาะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png)


และบทเพลงซึ่งบอกเล่าถึงเหตุการณ์ ซึ่งเขาร้องออกมา ในขณะที่เขาตกอยู่นั้นหรือ..


ก็บังเอิญไปตรงกับบทของพระรอง ของเรื่อง ซึ่งเจ้าของเม้นต์กำลังเร่งเดินเรื่องอยู่

(เรื่องนี้พระรองจะกลายเป็นพระเอกในตอนจบนะคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า คือว่าอยากเขียนนิยายหักมุมเล่นๆ สนุกๆค่ะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png)


พระรอง(หรือจริงแล้วเขาคือพระเอกนะคะ) เขาถ่อมตัว ถ่อมตน ถล่มตัวเอง และเกิดความน้อยเนื้อตํ่าใจ ในชะตาของชีวิต และความรักของตน...ที่มีต่อ...ใครบางคน


ซึ่งเพลง

นี้(คือเพลงในคลิป)หรือ ก็สามารถนำพา ให้เจ้าของเม้นต์ พาฉากสำคัญๆ ผ่านไปได้...ทั้งหมดนี้ สามารถเกิดขึ้นได้เพราะเพลง เป็นแรงบันดาลใจค่ะ


ทั้งนี้ ที่เล่ามานี้ คือตัวอย่าง นะคะ


คือคนเรานะคะ สามารถมีความเป็น เห็น รู้สึก เข้าใจ หรือมีมุมมองที่แตกต่างกันได้ เป็นธรรมดาค่ะ


คือเราคงจะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ค่ะ


หากแต่เราๆ คงจะต้องเรียนรู้การหาวิธี หรือทางออก ในทุกๆ อย่าง ในการดำรงไป ของเราๆ ในแบบที่เราจะสามารถทำ...หรือเพื่อการดำรงไปได้...นั้น ก็คือความจริงค่ะ


สุดท้ายนี้. ขอเป็นกำลังใจ ขอให้คุณเจ้าของกระทู้ ค้นพบตัวตนของคุณเองว่า ภายใต้การเขียนนิยายของคุณนะคะ จะได้ผลดีที่สุด ด้วยวิธีไหน...


ก็ขอให้คุณใช้วิธีนั้นนะคะ


เพราะการที่คนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น สิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด... และวิธีที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้นั้น ... ในที่นี้ คือแรงบันดาลใจ หรือสิ่งที่จรรโลง เพื่อเป็นตัวผลักใส หรือเป็นพลังขับเคลื่อน... ก็ดูจะเป็นเหตุที่สำคัญด้วยเช่นกัน


เป็นกำลังใจ ให้คุณในแบบที่คุณรู้สึกว่า เป็นผลดีต่อคุณค่ะ


สู้สู้ ต่อไปนะคะ



เป็นกำลังใจ ให้คุณค่ะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.pnghttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-01.png


2
กลับข้าวครัช 4 เม.ย. 63 เวลา 22:19 น. 6-1

จัดว่าอ่านแล้วเมาเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ (ยาวมาก)

ขอบคุณสำหรับเทคนิคที่แบ่งปันด้วยครับ จัดว่าดี...เอาจริง ๆ ช่วยผมไม่ได้นะ ผมเข้าไม่ถึงแน่ ๆ อะ (ฮา)

ผมเข้าใจว่าคุณกำลังสื่อเรื่อง ควรมีสติเวลาฟังเพลง แล้วก็เรื่องศักยภาพคนเรามันไม่เท่ากัน

แต่การอธิบายไม่จำเป็นต้องเขียนเป็นกลอนมาแบบนี้ทั้งโพสต์ก็ได้นะครับ มันต้องแปลไทยเป็นไทยหลายรอบเลยกว่าจะเก็ท

สุดท้ายขอบคุณสำหรับลิงค์เพลงและกำลังใจครับ

0
White Frangipani 4 เม.ย. 63 เวลา 22:57 น. 6-2

จัดว่าอ่านแล้วเมาเลยครับ ฮ่า ๆ ๆ (ยาวมาก)


ฮ่า ฮ่า ฮ่า

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png


เมาตัวหนังสือหรือคะ


แต่การอธิบายไม่จำเป็นต้องเขียนเป็นกลอนมาแบบนี้ทั้งโพสต์ก็ได้นะครับ


จริงอ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png


คุณรู้สึกว่าเป็นกลอน หรือคะนั้น แต่จริงแล้วไม่ใช่กลอนค่ะ


เป็นคำอธิบาย ที่ตน(คือเจ้าของเม้นต์)มีความรู้สึก ที่อยากอธิบาย เพื่อเป็นการแนะนำให้คุณจริงๆ นะคะ


มันต้องแปลไทยเป็นไทยหลายรอบเลยกว่าจะเก็ท


ฮ่า ฮ่า ฮ่า

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png


เห็นข้อความของคุณแล้ว ก็พอจะรู้ได้ว่า คงจะไม่ง่ายที่คุณจะเข้าใจอะไรๆ ได้ง่ายๆ ค่ะ คือรู้สึกคล้ายคุณกำลังสับสน


ซึ่งจริงแล้วเม้นต์ที่ส่งเข้ามาให้คุณข้างบนนั้น เป็นการตัั้งใจอธิบาย เพื่อที่ผู้อ่านจะอ่านเข้าใจได้ง่ายๆ แล้วนะคะ


หรือว่าเจ้าของเม้นต์ อธิบายไม่ดีพอ จริงด้วยสินะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-04.png


ขออภัยค่ะ



แต่จะอย่างไร ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณค่ะ


สู้ สู้ ต่อไปในวิธีที่คุณเห็นว่าดีที่สุด และได้ผล สำหรับคุณนะคะ


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png



0