รีวิวแก้ใต้ตาแพนด้า + ปรับโครงหน้าให้ละมุน

[mindy1988]

สวัสดีค่ะ ฉันจะมารีวิวหลังผ่าตัดโครงหน้าและเกลี่ยไขมันใต้
ในส่วนของโครงหน้า ฉันทำทั้ง 3 ส่วนเลยค่ะ โหนกแก้ม กรามและคาง


ปกติแล้วฉันจะชอบไว้ผมยาว เพื่อเอามาปิดแก้มค่ะ  เพราะไม่ชอบที่ตัวเองหน้าบาน เลยไม่มีความมั่นใจในใบหน้าตัวเองเท่าไหร่เลยค่ะ แถมถ้ามองดีๆ คาง2ฝั่งชั้นไม่เท่ากันอย่างมากเลยค่ะ

ชอบมีคนมาทักฉันบ่อยๆว่า ถ้าเธอทำโครงหน้านะ เธอจะสวยมากๆ เลย ยิ่งฟังบ่อยๆ ยิ่งเหมือนเป็นปมชีวิตค่ะ เครียดมากเลย มีความคิดจะศัลยกรรมมาหลายครั้งแต่ก็ด้วยความกลัว เลยล้มเลิกความคิดไปหลายครั้งเหมือนกัน


สิ่งที่ทำให้ฉันตัดสินใจทำก็คือเมื่อไม่นานมานี้เป็นช่วงที่ฉันน้ำหนักลงไปเยอะค่ะ แก้มก็หายไปทำให้หน้าดูซูบตอบ ส่วนกระดูกก็เลยดูใหญ่ขึ้นมาก หน้าไม่สวยเลยค่ะเครียดมาก ฉันไม่ใช่คนอวบอ้วนมาแต่ไหนแต่ไร แต่หน้าใหญ่มากถ้าเทียบกับตัว พอแก้มตอบโครงหน้ากระดูกโหนกแก้มก็เด่นชัดยิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งทำให้หน้าดูดุกว่าเดิมอีกค่ะ เวลาจะถ่ายรูปก็ต้องเอาผมมาปิดแก้ม และต้องใช้แอปบีบหน้าเล็กอีกด้วย
 

และช่วงปีที่แล้ว เป็นช่วงที่ใต้ตาคล้ำมาก หมีแพนด้าสุดๆ ให้หน้าดูเหนื่อยดูเพลียตลอดเวลา มีแต่คนทักว่าไม่สบายหรอสีหน้าดูไม่ดี ฉันก็ได้แต่แต่งหน้าเอาคอนซิลเลอร์กลบๆแก้ปัญหาไป แต่พอหนักๆเข้ามันก็กลบไม่มิดอีก ยิ่งเครียดหนักเข้าไปอีก ดังนั้นฉันเลยตัดสินใจจะทำโครงหน้ากับเกลี่ยไขมันใต้ตาพร้อมกันค่ะ


ด้วยความที่ฉันมีเพื่อนที่เคยทำศัลยกรรมที่บา โน บา กิมาก่อน ฉันเลยมาทำตามเพื่อนค่ะ เลยรีบจองคิวปรึกษาเลยค่ะ เมื่อไหร่ที่ฉันดื่มเยอะหรือนอนไม่พอ วันรุ่งขึ้นฉันจะมีชั้นตาข้างขวาขึ้นแบบ 4-5ชั้นเลยค่ะและในวันปรึกษาคุณหมอก็ขึ้นเหมือนกันค่ะ ฉันก็เคยไปปรึกษามาหลายโรงพยาบาลแล้วนะคะ

โรงพยาบาลอื่นๆบอกว่าให้ชั้นทำตา 2ชั้นหรือไม่ก็ปรับกล้ามเนื้อตาแต่บา โน บา กิ บอกว่า มันเป็นเรื่องปกติของคนที่เหนื่อยๆ ไม่ถึงขนาดต้องผ่าตัดตา2ชั้นหรอก ทำตาเกลี่ยไขมันใต้ตาก็พอ ฉันเลยประทับใจบา โน บา กิมากเลยค่ะ  แนะนำให้เฉพาะรายการที่จำเป็นจริงๆ ไม่ได้ขายของเหมือนที่อื่นๆ

เจอกันตอนต่อไป เป็นตอนเข้ารับการผ่าตัดค่า ฝากติดตามด้วยนะคะ ^_^

Comments

[mindy1988]

ตอนนี้จะมาอัพเดตตั้งแต่วันผ่าตัดถึงหลังผ่าตัดครบ 7วันกันค่า

จะเป็นอย่างไร มาชมกันเลยค่ะ

วันผ่าตัดและหลังผ่าตัดวันที่ 1

วันผ่าตัดเรามาถึงโรงพยาบาลตอน9โมงเช้าค่ะ พอมาถึงก็ได้เข้าพบคุณหมอ

คุณหมออธิบายรายละเอียดให้ฟังอีกครั้ง และก็เซ็นเอกสารยินยอมการผ่าตัด

และก็ฟังข้อควรระวังหลังผ่าตัดด้วยค่ะ

ตอนเข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากเราทำเกลี่ยไขมันใต้ตาก่อน เลยใช้เป็นยานอนหลับก่อน หลังจากนั้นพี่พยาบาลก็จะปลุกเพื่อให้ย้ายมาอีกห้อง เพื่อมาผ่าโครงหน้าค่ะ

ฉันจำไม่ค่อยได้เหมือนกัน มึนยานอนหลับอยู่ 55

หลังจากผ่าตัดเสร็จ เมื่อฟื้นจากยาสลบ ณ ตอนนั้นเป็นอะไรที่ทรมานมากค่ะ

มากจนรู้สึกย้อนคิดไปเลยว่าไม่น่ามาทำเลย มันเวียนหัว บวกกับปวดๆ ด้วย ทรมานสุดๆ

หลังจากนั้น พยาบาลเค้าก็จะเอายาแก้ปวดมาฉีดให้ค่ะ พอได้รับยาแก้ปวดอะไรก็ดีขึ้นค่ะ

พอผ่าตัดครบ3ชั่วโมง เริ่มดื่มน้ำได้แล้วค่ะ

พอดื่มน้ำเสร็จก็ต้องมาบ้วนปาก อาการต่างๆ ก็ดีขึ้นมากเลยค่ะ

อาจจะมีนอนไม่หลับบ้าง พอตื่นมาก็จะพยายามบ้วนปากตลอดค่ะ

และก็เปลี่ยนเจลประคบเย็นตลอดเลยค่ะ

พอเช้ามาคุณหมอก็เข้ามาเยี่ยมค่ะ บอกว่าอย่านอนอย่างเดียวนะมันไม่ดี

ตอนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำ ฉันก็เลยพยายามจะเดินโดยเดินวนในชั้นห้องพักค่ะ

จริงๆ ที่ชั้นห้องพักจะมีนมกับน้ำผลไม้ให้นะคะ แต่ตอนนั้น ฉันไม่อยากกินอะไรเลยจริงๆ

และวันแรกมันจะยังมีสายเดรนเลือดที่ต่อออกมาทางปาก

มันทำให้ปิดปากได้ไม่สนิทค่ะ พออ้าปากนอนนานๆ มันก็จะคอแห้งค่ะ

คืนแรกก็อาจจะทรมานนิดนึงค่ะ ใช้ความอดทนเยอะหน่อย

หลังผ่าตัดวันที่ 2

หลังจากเอาสายเดรนเลือดที่ปากออก ประมาณ 3ชั่วโมง ก็ได้ถ่ายรูปนี้ค่ะ

หน้าบวมมากเลย ฮืออออTT

เพราะว่าต้องมีทานยา เช้ากลางวันเย็น จะไม่ทานอะไรเลยก็ไม่ได้

เลยดื่มนมไปนิดหน่อยก่อนจะกินยาค่ะ

จริงๆหลังจากผ่าออกมาไม่มีความอยากอาหารเลยค่ะ

พอกลับบ้านมาก็พยายามจะเดินเยอะๆ ตามคำแนะนำคุณหมอนะคะ

แต่พอลุกเดินเยอะๆ แล้วก็เหมือนจะหน้ามืด เลยเอาแต่นอน

จะได้เดินก็ตอน เดินไปบ้วนปากกับเปลี่ยนเจลประคบเย็นเท่านั้นเลย

และหลังผ่าตัดถ้ามีอาการปวดคุณหมอก็ให้ทานยาไทลินอลค่ะ

ครั้งละ1เม็ดก็พอ ฉันช่วงแรกๆก็ต้องพึ่งยาแก้ปวดบ่อยอยู่ค่ะ

หลังผ่าตัดวันที่ 3

เข้าวันที่ 3 วันนี้ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ได้เลยว่าหน้าบวมมากถึงมากที่สุดค่ะ

นอกจากทานนมเพื่อที่จะต้องทานยาตามที่หมอสั่งแล้ว

วันนี้ก็เริ่มทานน้ำฟักทอง เพื่อให้ลดบวมค่ะ

วันผ่าและวันที่2หลังผ่าตัดทรมานพอๆ กันเลยค่ะ TT

สงสัยไม่รู้ว่าเพราะผ่าโครงหน้ารึเปล่า

เลยลืมไปเลยว่าตัวเองก็ทำเกลี่ยไขมันใต้ตาด้วยเหมือนกัน

ทานยาเมื่อไหร่ก็ต้องหยอดตาด้วยเหมือนกัน และก็ต้องทำความสะอาดแผลเช้าเย็น

ทายาบริเวณแผลด้านนอก เลยใช้คอนตอนบัดเปลืองหน่อย ซื้อมาตุนไว้เยอะมากเลยค่ะ

.

วันนี้ตอนบ่ายก็ได้แกะเทปบริเวณคางออกแล้วค่ะ

ต้องใช้ออยช่วยแกะค่ะ พอแกะออกมาก็รู้สึกโล่งไปเยอะเลยค่ะ

แล้วก็เอาเจลประคบเย็นมาประคบช่วยอีกด้วย

วันนี้เริ่มเดินในบ้านตลอดเลยค่ะ พอตกเย็นก่อนนอนก็รู้สึกปวดหนักขึ้นมา

เลยต้องกินยาแก้ปวดค่ะ พอกินยาก็ดีขึ้น เลยได้ลุกไปบ้วนปาก

แล้วมานอนประคบเย็นต่อ แล้วก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้เลยค่ะ 5555

หลังผ่าตัดวันที่ 4

ความบวมตอนนี้เริ่มลงมาเรื่อยๆ จนถึงคางแล้วค่ะ

วันนี้เป็นวันที่นอนหลับได้นานกว่าก่อนหน้าค่ะ 9-10ชั่วโมง ตื่นไปแค่ครั้งเดียวค่ะ และก็ยังคงประคบเย็นต่อเรื่อยๆ ค่ะ

วันนี้ก็เริ่มอาบน้ำได้แล้วค่ะ อาบน้ำจากฝักบัวเบาๆค่ะส่วนแปรงฟันยังลำบากอยู่

เพราะยังอ้าปากได้ไม่เยอะ ขนาดแปรงสีฟันสำหรับเด็กยังถือว่าใหญ่ไปเลยค่ะ

ส่วนตาวันนี้มีช้ำๆ เหลืองๆขึ้นค่ะ เวลาหยอดตาก็มีแสบบ้างนิดหน่อย

แต่ก็ไม่ได้เป็นผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอะไรค่ะ สบายมาก

พอเข้าวันที่4 อาการปวดขนาดที่ต้องทานยาแก้ปวดก็หายไปเลยค่ะ

แต่ก็ประคบเย็นไปเรื่อยๆอยู่ หวังว่าพรุ่งนี้ตื่นมา

จะยุบบวมไปเยอะกว่านี้นะคะ อยากออกไปเดินเล่นไปสระผมใจจะขาดแล้วว

หลังผ่าตัดวันที่ 6

วันนี้ถึงแม้จะนอนหลับได้ไม่นานเท่าไหร่ แต่ก็หลับสนิทมากค่ะ

วันนี้ก็เลยได้ออกไปเดินเล่นมา ถ้าเทียบกับเมื่อวานแล้ว

วันนี้ไม่มีอาการปวดหรืออะไรเลยค่ะ ปกติดีมาก

ออกไปนอกบ้านเป็นเวลานานก็เลยพอน้ำยาบ้วนไปด้วยค่ะ

ประมาณ 2ชั่วโมงก็เข้าห้องน้ำไปบ้วน พอได้เดินเยอะๆแล้วรู้สึกว่ายุบบวมไปเยอะเลย 555

พอตกเย็นก็ทานน้ำฟักทองกับโจ๊กไปค่ะ แต่ว่าไม่อิ่มเลย

เมื่อวานเหลือเค้กสตอเบอรี่อยู่ก็เลยเอามาตัดคำเล็กๆพอเข้าปากได้

ก็ปล่อยให้ละลายไปในปาก บอกได้คำเดียวว่าฟินมาก กินเกลี้ยงเลยค่ะ 55

ในที่สุดความอยากอาหารก็กลับมาแล้ว

หลังผ่าตัดวันที่ 7

วันนี้เริ่มแปรงฟันแปรงลิ้นด้วยแปรงสีฟันของเด็กได้แล้วค่ะ เริ่มเบื่อโจ๊กที่ซื้อมาตุนแล้วค่ะ

ส่วนเครื่องดื่ม ก็ไม่ได้ใช้หลอดดูดค่ะ เทใส่แก้วทานเอา

หลังจากออกไปเดินเล่นมา ก็มาถ่ายรูปนี้ค่ะ

ครบ1สัปดาห์แล้ว ใต้ตาก่อนกับหลังทำเห็นความแตกต่างได้ชัดเลยค่ะ

ตอนทำก็ไม่เจ็บเลยด้วย ประทับใจมากค่ะ

วันพรุ่งนี้เป็นวันนัดเข้าไปเช็คที่โรงพยาบาลค่ะ

ก่อนออกจากโรงพยาบาลวันแรก

ทางโรงพยาบาลจะให้ น้ำยาบ้วนปาก, เจลประคบเย็น2อัน,

นมถั่วเหลือง, มาส์ก และ ใบข้อควรปฏิบัตรหลังผ่าตัดมาด้วยค่ะ

มีอธิบายทั้งหมดเลยค่ะ ว่าต้องทำอะไรอย่างไงบ้าง

เรากลับบ้านมาก็มาอ่านอันนี้ทำตามได้เลยค่ะ ง่ายและสะดวกมากๆ

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ^^

[mindy1988]

หลังผ่าตัดโครงหน้า3ส่วน+เกลี่ยไขมันใต้ตา วันที่ 8

สวัสดีค่า ตอนนี้เป็นตอนครบ2สัปดาห์หลังผ่าตัดค่ะ

วันนี้ครบรอบ8วันหลังผ่าตัดมา มีนัดเข้าไปเช็คที่โรงพยาบาลตอนบ่ายโมงค่ะ

พอไปถึงโรงพยาบาลเขาก็พามาอีกตึกเพื่อมานวดหน้าค่ะ

นวดหน้าและทำความสะอาดหน้าให้ด้วยค่ะ

ก่อนหน้านี้เราล้างหน้าเองไม่ค่อยถนัด

พอพี่ๆเจ้าหน้าที่ทำให้แล้วรู้สึกหน้าสะอาดขึ้นมากเลยค่ะ

รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเยอะ พอนวดหน้าเสร็จก็กลับเข้าตึกใหญ่โรงพยาบาล

ไปตัดไหมบริเวณหน้าหู ไม่เจ็บอย่างที่คิดเลยค่ะ

พี่พยาบาลเช็คแผลในปากให้บอกว่าแผลดีไม่มีปัญหาอะไร

ให้บ้วนปากต่อไปจนกว่าจะตัดไหม อาการบวมก็ดีขึ้นเรื่อยๆไม่ต้องกังวลค่ะ

รูปนี้เป็นรูปหลังจากกลับจากโรงพยาบาลค่ะ

แต่รู้สึกได้เลยว่าหลังจากกลับมาจากที่นวดหน้าวันนี้หน้าดูเล็กลงไปเลย

ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า 555

ช่วงนี้ก็พยายามบ้วนปากทุกๆ1ชั่วโมง แล้วก็ใส่ที่รัดหน้า ให้ได้วันละ4ชั่วโมง

ตอนนี้มีรู้สึกชาๆบริวเณปากนิดหน่อยค่ะ

ยาที่คุณหมอสั่งก็หมดแล้ว เลยคิดจะทานอะไรตามใจปากได้นิดหน่อย 555

รู้สึกอยากอะไรหวานๆ เลยไปหยิบขนมช็อคโกแล็ตมากินค่ะ

ส่วนข้าวเย็นวันนี้เลือกเป็นก๋วยเตี๊ยวค่ะ เบื่อโจ๊กแล้ว

ตัดเส้นให้เล็กๆแบบไม่ต้องเคี้ยวค่ะ บวกกับทานน้ำซุปด้วย อร่อยมากเลย

อ่า อยากเตือนเพื่อนๆนิดหน่อย เวลาใส่ผ้ารัดหน้าเวลาถอดให้ระวังๆหน่อยนะ

อยากพรวดถอดทีเดียวนะคะ เตือนแล้วน้า555

หลังผ่าตัดโครงหน้า3ส่วน+เกลี่ยไขมันใต้ตา วันที่ 9

เช้านี้ทานน้ำฟักทองกับข้าวผัดไข่ค่ะ ใช้เหงือกเคี้ยวเอา55

ยิ่งเคี้ยวลำบากยิ่งรู้สึกว่าใช้เวลากินข้าวนานมากเลย

เวลาทานอาหารตอนที่ยังไม่ได้ตัดไหมในปากต้องระวังอย่างมาก

ไม่ให้เศษอาหารติดไหมโดยเด็ดขาดนะคะ

หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อวานก็ตั้งใจรัดหน้ามากเลยค่ะ

ครั้งละไม่เกิน1ชม. วันนี้รัดให้ได้ประมาณ4ครั้งหรือ รวม4ชั่วโมงค่ะ

พอรัดแล้วรู้สึกหน้ากระชับ ตึงมากเลย เหมือนหน้าจะเล็กลงเลย ดีมากชอบบ

วันนี้ได้ลองทานเจลลี่ด้วยค่ะ ดูดยากนิดหน่อยแต่ก็เปลี่ยนรสชาติให้ชีวิตดีค่ะ

และเทปที่พยาบาลแปะไว้ให้ข้างหูหลังจากตัดไหม สามารถแกะออกได้วันพรุ่งนี้

ช่วงนี้เวลาสระผมก็ระวังน้ำหรือแชมพูโดนแผลด้วยค่ะ

หลังผ่าตัดโครงหน้า3ส่วน+เกลี่ยไขมันใต้ตา วันที่ 10

รูปนี้เป็นรูปตอนเช้าของวันที่10ค่ะ

เช้านี้ก็ทานน้ำฝักทองละประคบเย็นไปค่ะ

อาการดีมากวันนี้เลยออกมาเที่ยวค่ะ เปลี่ยนบรรยากาศอยู่แต่แถวบ้านก็แอบเบื่อนิดหน่อย

แอบเสียใจอยากแต่งหน้าออกจากบ้านบ้าง 555

ออกมาเที่ยวทั้งทีจะกินโจ๊กก็ไม่ใช่ จัดไปเลย ทักคัลบีค่ะ 55 ตัดเป็นคำเล็กๆ

แต่พอกินอาหารอ่อนจืดๆมาหลายวัน ลองกินอาหารปกติรู้สึกว่าเค็มกว่าปกติเยอะเลย

หลังจากทานก็ต้องรีบไปบ้วนปากค่ะ เศษอาหารห้ามติดไหมเด็ดขาด

อาการบวมในปากก็ลดลงเยอะแล้วค่ะ

วันที่ 11

วันนี้ความบวมที่คางเริ่มยุบไปได้ในระดับนึงแล้วค่ะ ส่องกระจกทุกวันเลยรู้ค่ะ 55

ในส่วนใต้ตารู้สึกว่าเกือบหายดี100%แล้วค่ะ

แต่ก็ยังหยอดตาทายาตามที่คุณหมอให้ทำอยู่ค่ะ

ส่วนอาการบวมบริเวณใบหน้า ก็เป็นไปตามที่คุณหมออธิบายตอนก่อนผ่าตัดเลยค่ะ

ดีขึ้นเรื่อยๆตามแผน ส่วนคนรู้จักที่เห็นเรามาตั้งแต่หลังผ่าตัดวันแรก

ก็เริ่มทักแล้วค่ะว่าหน้าหายบวมเยอะแล้ว ได้ยินอย่างนี้ก็ดีใจค่ะ ^^

วันที่ 12

หน้าบวมๆกับเช้านี้ค่ะ เข้าสู่วันที่12แล้ว ด้วยความที่ติดนอนหมอนสูงมากนาน

พอเปลี่ยนมาเป็นหมอนปกติก็เริ่มนอนไม่หลับแล้วค่ะ

เลยต้องมาใช้หมอนหนุนสูงเหมือนเดิม ใครติดนอนหมอนสูงน่าจะเข้าใจ 55

เรื่องอาหารการกินก็ยังเหมือนเดิมค่ะ ตอนเช้ากินน้ำฟักทองกับน้ำแอปเปิ้ล

ส่วนมื้อเที่ยงวันนี้เลือกเป็นก๋วยเตี๋ยวค่ะ

เคี้ยวยังไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่แต่ก็ด้วยความที่เบื่อโจ๊กเลยต้องทานค่ะ

เริ่มมีความอยากทานของเผ็ดๆแล้วค่ะ สัปดาห์นี้เข้าไปเช็คกับคุณหมอ

ต้องไปถามคุณหมอแล้วละว่าทานเผ็ดได้เมื่อไหร่

วันที่ 13

วันนี้เตรียมตัวออกไปทำงานแล้วมาส่องกระจกรู้สึกว่า

ตัวเองหน้าบวมกว่าเมื่อวานเริ่มรูปประคบเย็นเลยค่ะ

เช้านี้ก็ทานน้ำฟักทองเหมือนเดิมค่ะ

เพิ่มเติมคือโยเกิร์ตพร้อมดื่มรสสตอเบอรรี่

แต่ไม่ใช้หลอดทานนะคะ แกะฝาและก็ใช้ช้อนทานค่ะ

กำหนดตัดไหมคือวันมะรืน แต่ฉันไม่ว่างเลยได้ไปตัดวันพรุ่งนี้แทนค่ะ

ดูรีวิวมาเยอะ มีแต่คนบอกว่าตัดไหมในปากเจ็บ ฉันละกลัวจังเลย

วันนี้ใช้ที่รัดหน้าตอนนั่งทำงานด้วยค่ะ

คนที่ทำงานทักว่าใต้ตาสวยมากเหมือนไม่เคยทำอะไรมาเลยดูธรรมชาติสุดๆ

พอใส่แมสปิดปากไว้ก็ดูไม่รู้เลยค่ะว่าหน้าบวม แต่ถ้าหันข้างก็จะเห็นค่ะว่าบวมอยู่

เวลายิ้มก็จะตึงๆอยู่ค่ะ รอไปตัดไหมพรุ่งนี้หวังว่าจะช่วยให้หายตึงได้

[mindy1988]

หลังผ่าตัดโครงหน้า3ส่วน+เกลี่ยไขมันใต้ตา

วันที่ 14

วันนี้เข้าโรพงยาบาลค่ะ ก่อนอื่นก็เข้ารับนวดหน้าเหมือนครั้งที่แล้วค่ะ

รู้สึกสบายหน้ามากๆ นวดเสร็จก็ไปตัดไหมในปาก เจ็บน้อยกว่าที่คิดไว้ค่ะ

รู้สึกได้ตอนเอากรรไกรมาตัดบริเวณเหงือกแค่นั้นเอง แต่พอตัดเสร็จมีอาการปวดนิดๆประมาณ30นาทีก็หายค่ะ

และพี่พยาบาลก็อธิบายวิธีดูแลตัวเองให้เพิ่มเติมอีกค่ะ บอกว่าน้ำยาบ้วนปากของโรงพยาบาลใช้แค่วันนี้วันสุดท้ายก็พอ

เสร็จแล้วก็ไปพบคุณหมอค่ะ คุณหมอใจดีมาก เราก็บอกคุณหมอไปว่า

รู้สึกหน้าหายบวมไปเยอะแล้ว

แต่คุณหมอตอบกลับมาว่ายัง ยังบวมอยู่เยอะอย่าเพิ่งรีบ

ได้ยินอย่างนี้ก็ขำออกมาเลยค่ะ 555

คุณหมอบอกอีกว่าใส่คอนแทคเลนส์ได้แล้วนะ

หลังจากกลับจากโรงพยาบาลก็เริ่มแต่งหน้าแล้วค่ะ

แต่เวลาจะทาอะไรก็ต้องค่อยๆเบาๆ จะทำอะไรรุนแรงเหมือนแต่ก่อนไม่ได้เลย จะออกไปไหนช่วงนี้ก็ใส่แมสไว้ก่อนค่ะ บังหน้าบวม 55

วันที่ 15

หลังจากตัดไหมก็สามารถแปรงฟันกับยาสีฟันปกติได้แล้วค่ะ พอไม่มีไหมอะไรก็ดีไปหมด 555 รู้สึกโล่งๆปากขึ้นมาเลย

จริงๆไม่ต้องบ้วนปากต่อก็ได้นะคะ แต่ว่าติดแล้ว เลยไปซื้อน้ำยาบ้วนปากติดกระเป๋าไว้หน่อย แต่ก็ไม่ได้บ้วนบ่อยเหมือนก่อน

เอาไว้บ้วนช่วงหลังทานอาหาร ให้รู้สึกปากสะอาด

วันที่ 16

เช้าวันนี้ก็เหมือนเดิมค่ะ เริ่มมื้อเช้าด้วยน้ำแอลเปิ้ลกับน้ำฟักทอง และประคบเย็นต่ออีกหน่อยก่อนออกจากบ้าน

เวลาใส่แมสก็ใส่แค่ปิดคางก็ไม่เห็นหน้าบวมแล้วค่ะ สบายเลย ฮิฮิ

วันที่ 17

วันนี้อากาศดี เลยออกมาเดินเล่นค่ะ วันนี้เริ่มทานข้าวกับไข้ม้วนกับซุปเต้าเจี้ยวค่ะ

ตอนนี้แปรงลิ้นเวลาแปรงฟันได้แล้วค่ะ กาแฟก็เริ่มกลับมาดื่มได้แล้ว

แต่แก้มตอนนี้เหมือนหนูแฮมทาโร่เลย ><

วันที่ 18

รูปนี้เป็นรูปกำลังใช้ผ้ารัดหน้าค่ะ แต่งหน้าเฉพาะด้านบน

ตรงด้านล่างไม่ได้แต่งค่ะ เพราะเดี๋ยวออกจากบ้านก็ใส่แมสปิดอยู่ดี

ช่วงนี้ก็กินข้าวหรือก๋วยเตี๋ยวได้แล้วแต่ก็ต้องกินกับน้ำซุปเยอะๆค่ะ ส่วนของหวานก็ทานแบบขนมนุ่มๆเค้กนุ่มๆได้ค่ะ

วันที่ 19

รูปถ่ายปัจจุบันถ้าเทียบกับรูปก่อนทำจะเห็นได้เลยนะคะ ว่าเข้ารูปขึ้นดูละมุนขึ้น

ถึงแม้ตอนนี้ช่วงคางช่วงเหนียงยังบวมอยู่บ้าง แต่ก็เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเลย

และที่เห็นชัดอีกอย่างคือ ใต้ตาค่ะ ใต้ตาดูดีขึ้นมาก เหมือนพักผ่อนอย่างเพียงพอ

ชั้นตาไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เหมือนตาโตขึ้นใช่ไหมคะ หน้าเราเล็กลงตามันเลยดูโตขึ้นมาเลย ฮ่าๆ ถึงแม้ปัจจุบันหน้าจะยังบวมอยู่แต่ก็เห็นชัดเลยค่ะ

ว่าโครงหน้าเราละมุนขึ้น แต่ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ

วันที่ 20

ตอนนี้เริ่มอ้าปากได้กว้างมากขึ้นแล้วค่ะ คนรอบข้างที่ไม่ค่อยได้เจอกัน

ก็ดูไม่ออกค่ะว่าฉันไปทำศัลยกรรมมา แค่ทักว่าสวยขึ้นนะ ถึงแม้หน้าจะยังบวมอยู่บ้าง

แต่ก็ดูสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ

ความบวมถ้าจะให้ลดหมดจริงๆคุณหมอบอกว่าต้องรอ 6 เดือนเลยถึงจะเห็นชัด

ตอนนี้ก็ได้แต่รอค่ะ กับรัดหน้าช่วยไปก่อน

วันนี้ก็รัดหน้าเหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้กลับมาสระผมน้ำอุ่น และเป่าไดร์ร้อนได้แล้วค่ะ

แต่ยังล้างหน้าถูแรงๆไม่ได้ ช่วงนี้เลยขยันมาส์กหน้าบ่อยกว่าปกติค่ะ

การผ่าตัดก็สำคัญ แต่การดูแลตัวเองหลังผ่าตัดก็สำคัญเช่นกันค่ะ เพื่อให้ใบหน้าเข้าที่ได้เร็ว

ต้องขยันรัดหน้าบ่อยๆ วันหนึ่งจะพยายามให้ได้4ชั่วโมงค่ะ

ส่วนการทานก็พยายามจะไม่ทานอาหารที่เหนียวหรือเคี้ยวยากค่ะ

ทานอะไรอ่อนๆไปก่อน เพื่อไม่ให้ไปกระทบแผลด้านใน

ส่วนอาการอักเสบหรือผลข้างเคียง ถ้าเราปฏิบัติตามที่โรงพยาบาลแนะนำ ฉันว่าไม่มีปัญหานะคะสบายมาก และก็บ้วนปากบ่อยๆ รักษาความสะอาดในปาก ฉันพยายามจะทำตามที่แนะนำทุกอย่าง อย่างดีที่สุดค่ะ

[mindy1988]

หลังผ่าตัดโครงหน้า3ส่วน+เกลี่ยไขมันใต้ตา วันที่ 21

หน้าบวมๆเหมือนหนูแฮมเตอร์

ช่วงนี้ก็ยังคงทานน้ำฟักทองต่อเนื่องอยู่ค่ะ

ออกไปไหนก็ใส่แมสปิดเอาค่ะ

แต่ก็ไม่ได้บวมมากแล้วใช่ไหมคะ

มันแล้วแต่วัน บางวันก็จะบวมมากเลย บางวันก็ดูไม่ค่อยบวม ไมรู้ทำไมเหมือนกันค่ะ 555

หลังผ่าตัดโครงหน้า3ส่วน+เกลี่ยไขมันใต้ตา วันที่ 22

ม้วนผมเบาๆระหว่างวัน

ช่วงที่ทานอะไรไม่ค่อยได้ก็ทานได้แต่แป้ง น้ำหนักจากที่ลงไป4กก. ก็ขึ้นมา2กก.เลยค่ะ

เลยต้องทานเยลลี่ช่วยหน่อยค่า

วันที่ 23

ใส่แมสปิดคางประมาณนี้เวลาออกนอกบ้านค่ะ พรุ่งนี้ต้องออกไปงานแต่งงานเพื่อนค่ะ

เพื่อนๆคนอื่นเขาก็คงสังสรรค์ดื่มเหล้าดื่มเบียร์กัน

ส่วนฉันคงได้แต่ดื่มน้ำอัดลมค่ะ คุณหมอสั่งงด1เดือน ฮืออTT

วันที่ 24

งานแต่งงานไม่ได้ใส่แมสมาค่ะ

หน้าก็จะบวมๆหน่อย แต่เพื่อนๆบอกว่าน่ารักดีไม่น่าเกลียดเลย

ฉันค่อยโล่งอกหน่อยค่ะ กังวลมานาน

วันนี้ก็ทานอาหารเต็มที่เลยค่ะ เลี่ยงพวกอาหารเผ็ดหรือเหนียวๆ

ที่เหลือก็จัดเต็มไปหน่อย แอบมีปวดๆบริเวณโหนกแก้มอยู่บ้างค่ะ

วันที่ 25

หลังจากผ่าตัดก็ตระเวนเที่ยวตลอดในวันหยุดเสาร์อาทิตย์

ส่วนวันธรรมดาก็ไปทำงาน ช่วงนี้เลยเหนื่อยๆเพลียๆนิดนึงค่ะ

เลยรู้สึกได้เลยว่าหน้าบวมขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว

แล้วก็อยากให้ทิปแก่เพื่อนๆ เล็กๆน้อยๆหน่อยค่ะ เวลาเราผ่าตัดโครงหน้า

เราจะอ้าปากกว้างๆไม่ได้เหมือนเดิมหลายเดือนอยู่นะคะ

แนะนำเลยก่อนผ่าตัดให้ไปตรวจฟัน ขูดหินปูนให้เรียบร้อยก่อนค่ะ

วันที่ 26

วันนี้ก็ยังคงรัดหน้าเหมือนเดิมค่ะ อยากให้หน้าเล็กลงเร็วๆแล้วง่า

วันที่ 27

ถึงแม้คนอื่นๆจะบอกว่าไม่ต้องใส่แมสปิดแล้วก็ได้ไม่ได้บวมเยอะ

แต่ฉันก็ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ เลยคอยใส่อยู่เรื่อยๆค่ะ

ตอนนี้ก็ครบ1เดือนแล้ว 1เดือนที่ผ่านมาเวลาผ่าไปช้ามากเลยค่ะ ทั้งมีเจ็บบ้าง ปวดบ้าง

ใช้ชีวิตลำบากไปบ้าง มีอะไรที่ต้องดูแลต้องระวังอยู่เยอะบ้าง

แต่เพื่อความสวยเพื่อในอนาคตเราทนได้ค่ะ

ต่อให้ครบ1เดือนแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่ต้องทำต้องคอยระวังอยู่เหมือนเดิมค่ะ

ยังไงฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ จะมาอัพเดทเรื่อยๆค่ะ~~

[mindy1988]

หลังผ่าตัดโครงหน้า3ส่วน+เกลี่ยไขมันใต้ตา

วันที่ 30

วันนี้หยุดเลยมีเวลามาส์กหน้าค่ะ เอาแผ่นมาส์กปิดหน้าไว้ ดูไม่ออกเลยว่าหน้าบวม ฮ่าฮ่า

สภาพแผลในปากตอนนี้ดีขึ้นมากเลยค่ะ

อาหารตอนนี้ยกเว้นอาหารที่เหนียวหรือรสเผ็ดก็ทานได้ปกติหมดแล้วค่ะ

แต่พอดีซื้อโจ๊กมาตุนเยอะไปหน่อย เลยต้องกินโจ๊กต่ออีก55

วันที่ 33

วันนี้ครบรอบ1เดือนกับ1วันแล้วค่า ไม่ได้ใส่แมสเวลาออกจากบ้านแล้วค่ะ

เพราะรู้สึกว่ามันไม่ได้บวมมากเท่าไหร่แล้ว

คนที่ทำงานก็ชมว่าหน้าดูหวานขึ้น ส่วนอาการชาบริเวณปากก็ยังมีอยู่บ้างค่ะ

ลองถามเพื่อนที่เคยทำ เพื่อนก็บอกว่าอีกนานกว่าจะหายสนิท ไม่ต้องกังวลค่ะ

วันที่ 35

วันนี้ไปโรงพยาบาลมาค่ะ เช็คอัพรอบ1เดือน

คุณหมอที่ทำใต้ตาให้บอกว่า ผลลัพธ์ออกมาดีมากๆเลย

ส่วนโครงหน้า คุณหมอบอกว่าอาการทุกอย่างดีมาก เหลือแค่ให้ยุบบวมอย่างเดียวก็โอเคค่ะ

ครั้งต่อไปให้รอมารอบเช็คอัพ3เดือนค่ะ ก่อนกลับก็ให้ไปนวดหน้าอีกครั้งค่ะ

ก็ยังคงรัดหน้าต่อไปค่ะ หวังว่าจะยุบบวมลงเร็วๆ

วันที่39

วันนี้ได้นัดพี่ที่สนิทมาดริ้งกันค่ะ ต้องแต่ศัลยกรรมมายังไม่ได้เจอกันเลย

ฉันเลือกดื่มเป็นค็อกเทลอ่อนๆค่ะ

พี่ที่มาเจอกันวันนี้มีคนหนึ่งที่เคยทำโครงหน้ามาเช่นกัน

พี่เค้าก็ชมว่าหน้ายุบบวมไปเยอะเลยนะ

แค่เดือนเดียวยุบไปขนาดนี้ก็ถือว่าเยอะแล้ว ถ้าเทียบกับพี่เค้า

พอได้ฟังอย่างงี้ก็ค่อยสบายใจหน่อยค่ะช่วงนี้รู้สึกว่าคางเริ่มเห็นวีไลน์ชัดแล้วค่ะ

วันที่ 41

วันนี้ออกมาตัดผมค่ะ ตัดในรอบหลายเดือน แต่ช่างตัดสั้นไปอ่ะ แอบเสียดายผม ฮืออ TT

และก็ได้ซ้อมอ้าปากด้วยค่ะ เนื่องจากว่าเรายังอ้าปากกว้างเหมือนแต่ก่อนไม่ได้

ถ้าเราไม่ฝึกเราก็จะกลับไปอ้ากว้างๆ เหมือนแต่ก่อนไม่ได้ค่ะ พี่พยาบาลจะให้ใบคู่มือวิธีฝึกมาให้ค่ะ แค่ทำตามได้แค่ไหนก็แค่นั้น

อย่าไปฝืนอ้ากว้างเกินไป มันจะค่อยๆได้กว้างขึ้นเรื่อยๆค่ะ

รูปนี้เป็นรูปก่อนทำค่ะ จะให้ได้ชัดเลยว่าโครงหน้าจะไม่เรียบเสมอกัน และใต้ตาก็คล้ำมากๆ

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะคะ ><

[mindy1988]

สวัสดีค่ะ

ตอนนี้ครบ8สัปดาห์ที่ศัลยกรรมมาแล้วค่ะ

อาหารตอนนี้ทานได้เกือบทุกอย่างแล้วค่ะ ยกเว้นแค่อาหารแข็งๆหรือเหนียวๆเท่านั้นค่ะ

วันที่ 42

วันที่ 45

ในส่วนของรอยยิ้มนั้น ยังดูฝืนๆอยู่ค่ะ 555

ตอนทำใหม่ๆคือตั้งใจเลยว่าจะไม่ทำศัลยกรรมอีกแล้ว

แต่พอหายดีแล้วก็คิดว่า ก็ไม่ได้แย่นะ ทำตากับจมูกเพิ่มดีไหมน้า ฮิฮิ^^

วันที่ 48

วันนี้ออกมาเจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันมานาน

บอกเพื่อนว่าไปผ่าหน้ามานะ เพื่อนถามนี้ผ่าแล้วหรอ ดูไม่ออกเลยธรรมชาติมาก

สงสัยความบวมตอนนี้พอๆกับตอนก่อนทำแน่ๆเลยค่ะ 55

วันที่ 51

ไม่ได้รัดหน้าให้ได้4ชั่วโมงเหมือนก่อนหน้าเลยค่ะ

พยายามจะรัดตอนเช้าหลังตื่นนอน 1 ชั่วโมง

ส่วนตอนเย็นก็นึกได้เมื่อไหร่ ถึงไปหยิบมารัดค่ะ

วันที่ 53

ครบ 8 สัปดาห์พอดีแล้วค่ะ

หน้าเริ่มยุบบวมลงเรื่อยๆแล้ว

บริเวณแผลหน้าหูก็เริ่มจางๆลงแล้วค่ะ

น่าจะอีกไม่นานก็คงหายสนิท

วันที่ 55

ชอบมุมข้างตัวเองมากค่ะ

บริเวณปากยังชาๆอยู่เหมือนเดิม

เวลาจับโหนกแก้มก็ยังรู้สึกแปร๊บๆอยู่บ้าง

แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาต่อชีวิตอะไรค่ะ

[mindy1988]

มาอัพเดทหน้าหลังผ่าตัดครบ 10-11 สัปดาห์กันค่ะ

ลองเทียบรูปกับอาทิตย์ที่แล้วดู หน้ายุบบวมไปอีกแล้วค่ะ

ช่วงนี้อยากเปลี่ยนลุคเป็นมัดผมบ้างค่ะ

ปากเราเป็นแผลค่ะ TT

ถ้าดูจากรูปจะเหมือนว่าหน้าไม่บวมแล้วนะคะ แต่บริเวณในปากยังรู้สึกได้เลยว่ายังบวมอยู่

เวลาทานอะไรก็ต้องไปคอยบ้วนปากด้วยค่ะ

รูปก่อนทำ

หน้าดูแก่มากเลยใช่ไหมคะ

ตอนนี้ดูหวาน ดูสวยขึ้น อิอิ ><

ก่อนทำเวลาถ่ายรูปก็ต้องคอยเข้าแอพบีบหน้าตลอด

ถ่าย 10รูปใช้ได้จริงๆ แค่2รูป

แต่ตอนนี้หรอ ใช้ได้ทุกรูปเลยค่ะ แอพบีบหน้าก็ไม่ต้องใช้แล้ว ^^

ช่วงเดือนแรกๆยังต้องคอยใส่แมสปิดหน้าบวมๆ

แต่ตอนนี้ไม่ต้องใส่แล้วค่ะ สบายมาก ชอบมากเลยค่ะ

[mindy1988]

อัพเดทหน้าหลังผ่าตัดครบ 12 สัปดาห์

เข้าสู่วันที่ 84 แล้วค่ะ ครบ12สัปดาห์แล้ว

ความบวมพอๆกับช่วง2สัปดาห์ก่อนค่ะ ไม่ต่างกันมาก

แต่ก็พอใจใบหน้าตอนนี้นะคะ สามารถทำผมได้ทุกทรงที่ต้องการเลย

จะปล่อยผม รวบผมอะไรทำได้หมดแล้วตอนนี้

อาการชาบริเวณเหงือกยังมีอยู่ค่ะ แต่บริเวณใกล้ๆริมฝีปากดีขึ้นแล้ว

สามารถทานอาหารอะไรได้ปกติ แค่ไม่ได้ทานพวกแฮมเบอร์เกอร์

หรืออะไรที่ต้องอ้าปากกว้างๆแค่นั้นเองค่ะ

ที่กังวลตอนนี้มีแค่ หน้ามองหน้าตรง บริเวณกราม2ฝั่งจะไม่เท่ากันค่ะ

เพื่อนบอกว่าเป็นเพราะเราเคี้ยวอาหาร2ฝั่งมากน้อยไม่เท่ากันค่ะ

และความบวม2ฝั่งมันจะยุบไม่ได้พร้อมกัน100%

มันเลยทำให้ดูเหมือน2ข้างไม่เท่ากันค่ะ

หวังว่าถ้ายุบบวมหมดทั้งหน้าคงจะดีขึ้นกว่านี้ค่ะ

รูปก่อนศัลยกรรม

โครงหน้าเห็นชัดเลยค่ะว่า หน้าเข้ารูปมากขึ้น ดูเล็กลงเยอะ

ส่วนใต้ตาหลังจากเกลี่ยไขมันใต้ตามา ทำให้ใต้ตาดูสว่างขึ้น ทำให้เราดูสดใสขึ้นด้วยค่ะ

[mindy1988]

ในที่สุดก็ผ่าตัดครบ 3 เดือนแล้วค่ะ เย้ๆ

อาการชาบริเวณเหงือกและริมฝีปากยังใกล้เคียงเดิมอยู่ค่ะ

คุณหมอบอกว่าครบ3เดือนแล้วจะค่อยๆดีขึ้น

ฉันไม่ได้ฝึกอ้าปากตามที่คุณหมอแนะนำ แต่ก็พยายามบริหารปากแบบขยับปาก อา อู โอ เอ แอ อะไรแบบนี้เรื่อยๆค่ะ

บางครั้งก็ลืมตัวนะคะ ว่าตัวเองผ่าโครงหน้ามา เพราะใช้ชีวิตปกติทุกอย่างเลย

การกิน การนอนอะไรปกติทุกอย่าง

ตอนทำมาใหม่ๆ คือทรมานจนคิดเสียใจที่ทำมานะคะ

และเรื่องหน้าบวมก็คิดว่าถ้าต้องหน้าบวมๆ ต่อไปอีกหลายเดือนต้องแย่ๆ แน่ๆ

แต่พอพ้นช่วงทรมานผ่านมาได้ ชีวิตก็ดีขึ้นเลยค่ะ เลิกคิดเสียใจที่ผ่าแล้ว 55 ชีวิตแฮปปี้มาก

เวลาส่องกระจก และบวกกับยังชาในปาก

ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเรายังบวมนะ เดี๋ยวจะยุบบวมลงไปอีก

ช่วงนี้พยายามจะทานน้อยค่ะไม่ให้น้ำหนักขึ้น เพราะถ้าน้ำหนักขึ้นแล้ว ความบวมของเรามันจะไม่ยุบ มันจะกลายเป็นไขมันเราไปเลย

ตอนนี้ก็ลงมา 2กก. หลังจากผ่าตัดมาค่ะ ใกล้ถึงวันนัดเช็คอัพรอบ3เดือนแล้วค่ะ

รอติดตามตอนต่อไปกันนะคะ

[mindy1988]

วันที่ 112 ครบ 16 สัปดาห์

2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อาการชาบริเวณปาก ยังไม่ได้หายหมด แต่ดีขึ้นมากค่ะ

ยังไม่สามารถทานอะไรเหนียวๆ เช่นพวกปลาหมดแห้งอะไรแบบนี้ได้ค่ะ

แล้วก็แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ๆ ก็ยังไม่สามารถอ้าปากกว้างทานได้เท่าไหร่ สัปดาห์นี้มีนัดเช็คอัพรอบ3เดือนที่โรงพยาบาล

เปรียบเทียบรูปถ่ายก่อน-หลังศัลยกรรมจะเห็นชัดเลยค่ะ

ว่าโครงหน้าเราเปลี่ยนไป สวนขึ้นเยอะเลย

น้ำหนักก็ลงประมาณ2-3กก.ค่ะ

แต่ที่กังวลตอนนี้คือเหนียงค่ะ ก่อนทำไม่มีเหนียงนะ แต่ตอนนี้เหนียงมาค่ะ

ปล่อยผมอาจจะเห็นไม่ชัด แต่ถ้ามัดผมขึ้นนี่เห็นชัดเลยค่ะ

คุณหมอแจ้งว่า บริเวณเหนียงเป็นส่วนที่หายบวมช้าที่สุด

อาจจะต้องรอประมาณ5-6เดือนเลย

หากช่วงเข้าเดือน5แล้วยังกังวลอยู่ก็สามารถมาดูดไขมันเหนียงออกได้เหมือนกัน

ส่วนใต้ตาคุณหมอบอกว่าออกมาดีมากๆ แผลก็ไม่เห็นแล้ว

หน้าเราดูสว่างสดใสขึ้น ฉันประทับใจใต้ตามากค่ะ

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยน้า

[mindy1988]

หลังศัลยกรรมโครงหน้า3จุด + เกลี่ยไขมันใต้ตา ครบ 18 สัปดาห์

ในที่สุดก็เข้าสู่เดือนที่ 4แล้วค่า

2สัปดาห์ที่ผ่านมา แก้มฉันยุบบวมลงไปเยอะเลยค่ะ ในรูปอาจจะเห็นไม่ชัดเท่าไหร่ เสียดายจัง

แต่บริเวณปากหรือช่วงโหนกแก้ม ยังมีความรู้สึกเจ็บแปล็บๆ ถ้าอ้าปากกว้างเกินไปค่ะ

ช่วงนี้อากาศเริ่มร้อนแล้วเลย ติดมัดผมค่ะ

ส่วนเหนียงฉันมันไม่ยุบลงบ้างเลย ฮือออTT

แต่เมื่อเดือนก่อนที่ฉันกังวลเรื่องคาง2ข้างไม่เท่ากัน พอยุบบวมลง ตอนนี้ก็กลับมาเท่ากันแล้วค่ะ

[mindy1988]

สวัสดีค่ะ

เข้าสู่วันที่ 140 แล้วค่ะ ประมาณ4-5เดือนผ่านมาแล้ว

อาการบวมยังคงมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ตอนนี้ก็ชอบค่ะ

ตอนก่อนทำฉันก็ชอบถ่ายรูปด้านข้างเหมือนกันค่ะ

แต่พอทำออกมาแล้ว จะเห็นได้ชัดถึงความเปลี่ยนแปลงค่ะ

หน้าดูได้ทรงมากขึ้น ดูละมุนขึ้นมากเลย

บริเวณเหนียงยังเหลือความบวมอยู่บ้าง ถ้าดูจากรูปมุมเดียวกันกับช่วงก่อนทำ

จะเห็นเลยว่าสันกรามหายไปแล้วค่ะ มันเลยทำให้หน้าเลยดูหวานขึ้นนี่เอง

ตอนก่อนทำ ต่อให้อากาศหนาวหรืออากาศร้อน ฉันก็ต้องปล่อยผมเพื่อปิดหน้าตลอด

แต่ตอนนี้จำมัดผมหรือทำทรงไหนก็มั่นใจค่ะ

ใบหน้าดูเข้ารูปขึ้น หน้าดูหวานดูละมุนขึ้นเยอะ

ส่วนใต้ตาก็เห็นได้ชัดเลยว่าทำให้เราดูสดใสขึ้น ไม่ดูเหนื่อยดูแก่เมื่อแต่ก่อนแล้ว

ตอนนี้เจอเพื่อนก็มีแต่คนทักว่าหน้าเด็กขึ้นเยอะเลย

ถ้าครบ 1 ปีความบวมต่างๆยุบหายหมดก็คงจะยิ่งดีกว่านี้อีก

อดใจรอไม่ไหวแล้ว อยากให้ครบเร็วๆจังค่ะ

ถึงแม้ช่วงหลังผ่าตัดแรกๆจะทรมานนิดหน่อย 555

ผลลัพธ์ที่ทำออกมาพอใจมากๆ มีเพื่อนมีคนรู้จักก็จะแนะนำให้มาทำค่ะ

[mindy1988]

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาอัพเดทรีวิวหลังศัลยกรรมครบ 6เดือนเป็นตอนสุดท้ายแล้วค่า

ตอนนี้เข้าสู่วันที่ 168 หลังผ่าตัดค่ะ

วันหยุดที่ผ่านมา กินตามใจปากมากไปหน่อยค่ะ น้ำหนักขึ้นมา 2 กก.

ฉันเวลาน้ำหนักขึ้นจะออกหน้าหรือออกช่วงบนค่ะ

ตอนนี้ก็เลยต้องกลับมาไดเอทคุมอาหารอีกครั้ง

สำหรับผู้ที่ศัลยกรรมมานะคะ แนะนำเลยว่าช่วงที่เรายังบวมอยู่ให้ดูแลตัวเองดีๆนะคะ คุมอาหารหรือออกกำลังกายคู่ไปก็จะดีค่ะ

มาเช็คอัพรอบ 6เดือนที่โรงพยาบาลค่ะ คุณหมอแนะนำว่าถ้าอยากให้เหนียงหายกว่านี้

แนะนำเป็นการดูดไขมันเหนียงออกดีกว่า

จะได้เห็นผลเร็ว เพราะคุณหมอเห็นว่าเรากังวลเรื่องนี้มากค่ะ

ฉันเลยตัดสินใจ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ดูดออกเลยก็ดี จะได้จบๆ ไป 5555

ผ่าหน้ามาแล้ว ดูดออกแค่นี้เรื่องเล็ก คงไม่เจ็บกว่าการผ่าหน้าหรอก ฮ่าฮ่า

ฉันเลยจองคิวทำไปแล้ว จะสวยทั้งทีต้องไปให้สุดค่ะ อิอิ

แล้วก็ขอจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรีวิวของเรานะคะ