Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ติดเภสัช แต่กำลังลังเล

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
      สวัสดีค่ะ ในตอนแรกเราอยากเป็นหมอ แต่ด้วยคะแนนที่ไม่ถึง จึงตัดสึนใจว่าจะเข้าแพทย์รังสิต แต่เราก็หลุด (คะแนนเรา58.7) เราควรทำอย่างไงต่อไปดีคะ 
     เราคิดว่าถ้าให้เรียนเภสัชไป6ปีเราก็เรียนได้ แต่ตอนทำงาน จะต่างกับหมอมากมั้ยคะ ทั้งเรื่องงานที่ทำ เงินเดือน ความก้าวหน้าในวิชาชีพ 
    ที่ผ่านมาเราหาข้อมูลเกี่ยวกับเภสัชน้อยมาก เพราะคิดว่าได้หมอแน่ๆ แต่พอผลเป็นอย่างนี้เลยรู้สคกไปต่อไม่ถูกเหมือนกันค่ะ พ่อแม่ก็อยากให้ซิ่ว เขาคิดว่าเรียน6ปีเท่ากัน ความยากพอกัน แต่จบมากต่างกันมาก ตัวเราเองก็แอบคิดแบบนั้นเหมือนกัน
     มีพี่ๆคนไหนเป็นเภสัชกรหรือ แพทย์ ช่วยแนะนำหนูหน่อยได้มั้ยคะ ว่าเภสัชต่างกับหมอในแง่มุมไหนบ้าง หรือหนูควรทำยังไงดี ตอนนี้หัวตื้อไปหมดเลย ขอบคุณค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

5 ความคิดเห็น

อืมมมมม 8 พ.ค. 63 เวลา 15:54 น. 1

ตัวเองและกับพ่อแม่ ก็อยากให้ซิ่ว ก็ซิ่ว เอาหมอ ไปเลยค่ะ เก็บปีหน้าให้ปังๆ ไม่ต้องลองเภสัชค่ะ

0
...... 8 พ.ค. 63 เวลา 16:17 น. 2

ตั้งใจซิ่ว ถ้าอยู่บ้าน อาจจะเบื่อ ให้เรียนเภสัช แต่งดกิจกรรม ได้ความรู้รวบยอด

ที่จะใช้ในการสอบปีหน้าได้ระดับหนึ่ง ช่วยได้ไม่น้อย

แต่ถ้าที่บ้าน เพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่น่าเบื่อ การมุ่งหน้าซิ่วเต็มตัว ก็เป็นสิ่งที่เหมาะสม

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพที่พักอาศัย ความอบอุ่น อุปนิสัยส่วนตัว เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ดี

หลายคนซิ่วอยู่บ้าน ไม่ได้ดูหนังสืออย่างที่ตั้งใจ แบบนี้เรียนเภสัชเพื่อซิ่วดีกว่าแน่นอน

ส่วนนึง (ไม่น้อย) วางแผนการอ่านหนังสือ และทำได้อย่างเคร่งครัด แบบนี้่อยู่บ้านชัวร์กว่า

1
RXPSU 8 พ.ค. 63 เวลา 23:53 น. 3


พี่ทำคลิปลง youtube ไว้ เกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างแพทย์และเภสัช แต่จะเป็นเรื่องทั่วๆไปไม่ได้ละเอียดมาก ลองดูได้ครับเผื่อจะเป็นประโยชน์ https://www.youtube.com/watch?v=G4zSc16d-f8 พี่เองก็เป็นคนนึงที่เมื่อสองปีก่อนตกอยู่ในสถาณการณ์คล้ายๆน้องเลย แต่สุดท้ายพี่ก็เลือกไม่ซิ่วต่อ จนตอนนี้เรียนเภสัชอยุ่ปีสามแล้ว อยากให้น้องลองถามตัวเองว่าจบไปเราอยากได้ชีวิตแบบไหน ถ้าอยากทำงานในโรงพยาบาล แน่นอนว่าหมอจะก้าวหน้ากว่ามาก ส่วนตัวพี่เองหลังจากพลาดหมอ ก็ตั้งเป้าไว้แต่แรกว่าอยากจะทำงานในร้านขายยา และเปิดร้านขายยาของตัวเองในอนาคต เลยตัดสินใจง่ายหน่อย (จริงๆพี่ได้แรงบัลดาลใจส่วนนึงมาจากคลิปๆนึงที่ไปไวรัลเกี่ยวกับพี่เภสัชคนนึงที่พี่รู้สึกว่าเค้าเท่ห์มากอ่ะครับ 5555) เป็นกำลังใจให้ครับ ถ้าสงสัยอะไรเกี่ยวกับเภสัชถามมาได้เลยครับ พี่จะพยายามตอบให้

1
My-wonderland 14 พ.ค. 63 เวลา 19:26 น. 3-1

อยากทราบว่าเภสัชตอนจบไปเค้าเลือกมหาลัยเข้าทำงานั้ยคะ แล้วมีโอกาสตกงานมั้ยคะ

0
...... 11 พ.ค. 63 เวลา 11:25 น. 4

จริง ๆ แล้ว ถ้ารักเภสัช ก็ไปต่อได้ครับ มีเส้นทางอยู่

แต่จริง ๆ ตั้งใจจะเรียนแพทย์แต่แรกแล้ว รวมทั้งครอบครัวสนับสนุน

ฐานะทางบ้านก็ไม่มีปัญหา เหลืออยู่ 2 ทางครับ 1. รอซิ่วอยู่บ้าน

2. เรียนเภสัชไปก่อน (พยายามงดกิจกรรม) ซึ่งปีนี้น่าจะเรียน online เป็นส่วนใหญ่

เพื่อไม่ให้เบื่อ และเป็นการทบทวน สรุปไปในตัว ซึ่งจะไปหรือไม่ไป หรือ เทอม 2

จะไปเรียน หรือ drop ไว้ก่อน ได้หมด เพราะฐานะทางบ้านไม่มีปัญหา

เชื่อว่าปีหน้า คุณคงจะเข้าแพทย์ได้แน่ครับ..

1
ปี5 26 ก.ย. 63 เวลา 06:44 น. 5

มีพี่ๆคนไหนเป็นเภสัชกรหรือ แพทย์ ช่วยแนะนำหนูหน่อยได้มั้ยคะ ว่าเภสัชต่างกับหมอในแง่มุมไหนบ้าง หรือหนูควรทำยังไงดี ตอนนี้หัวตื้อไปหมดเลย ขอบคุณค่ะ

1.ความแตกต่าง ?

บอกได้เลยว่ามีทั้งส่วนที่ต่างมาก และส่วนที่เหมือนก่อนอื่นต้องบอกว่า เภสัชกรตอนนี้มีวุฒิใบเดียว คือ ภบ แต่หลายๆมหาวิทยาลัยมีการแยกการสอนออกเป็น 2 สาขาคือ อุตสาหกรรม และบริบาล ซึ่งการเรียนในปี 5 จะแตกต่างกัน รวมถึงการฝึกงานในปีที่ 6 ก็จะฝึกแตกต่างกันตามการเรียนนั่นแหละ ในส่วนของบริบาลจะมีการทำงานได้ตั้งแต่การทำในโรงพยาบาล เช่น การจ่ายยา การควบคุมปริมาณstockยาในโรงพยาบาล หรือการผลิต ปละเตีรียมยาสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย (เช่น ยาบางชนิดไม่มีน้ำ แต่ต้องการให้ผู้ป่วยใช้การรับประทานน้ำ จะต้องเตรียมยาเม็ดยังไงให้เป็นน้ำ ตำรับต้องมีความคงตัวเก็บได้นานเป็นตัน) หรือเภสัชภาคบริบาลอาจสามารถทำงานในบริษัทยา ในด้านของการวิจัยยา เช่น CRA,medical affairเป็นต้น ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม จะทำงานได้ตั้งแต่การเริ่มตั้งสูตรตำรับยา (เอาเป็นว่าพาราเซตามอล 1 เม็ดเนี่ยไม่ได้มาจากพาราเซตามอล500 mg เป๊ะๆแต่ต้องมีการผสมสารช่วยในการผลิตลงไป เช่นสารช่วยแตกตัว สารกันติด สารหล่อหลื่น สารเพิ่มปริมาณ และอื่นๆอีกมาก ซึ่งจะใช้ความชำนาญอย่างมากในการที่จะสร้างสูตรตำรับยา หรือเครื่องสำอางค์ขึ้นมา) นอกจากนี้ยังมีบืบาทในด้านของการผลิตยา การควบคุมคุณภาพยา และการประกันคุณภาพยา

-คำแนะนำ ควรเรียนตามที่เราชอบจริงๆ เข้าใจว่าเป็นการยากที่จะเข้าใจอาชีพที่เราไม่คุ้นเคย ในส่วนนี้เราต้องอาศัยการถามและหาความรู้เพิ่มเติมให้มาก การเรียนในปี 1 ที่คณะเภสัชศาสตร์ ส่วนใหญ่จะยังไม่ได้เข้าคณะ กว่าจะเห็นภาพรวมของคณะทั้งหมดจะประมาณปี4-5 ดังนั้นแม้ไม่ชอบในวิชาที่เรียนตอนปี 1 อย่าพึ่งรีบตัดสินใจให้ลองดูวิชาในปี 2 3 4 5(หาข้อมูลจากการถามพี่ที่น่าเชื่อถิอไม่เล่าเว่อร์เกิน, หรืออ่านในคู่มือของคณะ)ถ้าไม่ชอบจริงๆก็ควรซิ่วเอาสิ่งที่ชอบ ดังนั้นแนะนำให้ไปคณะทำความรู้จักคนไว้ไม่เสียหายไม่ต้องทำกิจกรรมมาก เน้นอ่านหนะงสือไปด้วย เพื่อนพี่ก็มีหลายคนซิ่วแพทย์ และทันตแพทย์แล้วก็ได้นะครับ สู้ๆขอให้หาตัวเองเจอไวๆนะครับ^^

0