Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ซิ่วทันตะจุฬาใน 5 เดือน เด็กไม่ซิ่วอ่านได้ เด็กซิ่วอ่านดี

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่





 
     สวัสดีครับ พอดีมีคนถามมาเยอะเกี่ยวกับการเตรียมตัวสอบเข้าทันตะจุฬาฯของพี่ พี่เลยจะมานั่งสรุปประเด็นคำถามทั้งหมดไว้ในกระทู้นี้เลยครับ ก่อนอื่นขอบอกว่าพี่เป็น DEK62 ที่ซิ่วมานะ พี่เริ่มซิ่วอยู่บ้านตั้งแต่ต้นเดือนตุลาปีที่แล้ว รวมใช้เวลาประมาณ 5 เดือนกว่าๆ แต่ไม่ว่าน้องจะเป็นเด็กซิ่วหรือไม่ก็อ่านกระทู้นี้ได้นะ พี่เชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์กับน้องๆแน่นอน



ช่วงซิ่วทำอะไรบ้าง เตรียมตัวยังไง ทำไมถึงซิ่ว?

     เมื่อปี 62 พี่พลาดทันตะไปสอบติดคณะๆหนึ่ง ตอนนั้นพี่คิดว่าเรียนๆไป เดี๋ยวก็คงชอบเอง เลยยืนยันสิทธิ์ไป ทำกิจกรรมในคณะไปอย่างเต็มที่ จนมาวันหนึ่งหลังเปิดเทอมไปเดือนกว่าๆ พี่รู้สึกว่า พี่ไม่มีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ รู้สึกเป็นผู้แพ้ เพราะไม่สามารถ achive เป้าหมายที่ต้องการได้ พี่เลยจะซิ่วอีกปี ตอนแรกพี่คิดว่าจะดรอปไปก่อน เพราะปี 1 ยังสอบใหม่ได้โดยไม่ต้องลาออก และถ้าซิ่วไม่ติด ก็จะยังกลับไปเรียนที่เดิมได้ ไม่ต้องสอบใหม่ แต่พี่คิดว่า ถึงจะมีคณะเดิมรองรับไว้ แต่คณะนี้ไม่ใช่ความฝันของเราตั้งแต่แรก ถ้าซิ่วไม่ติดก็คงเรียนไปแบบเฟลๆ ไม่มีความสุข พี่ตั้งใจไว้ว่าจะไม่กลับมาเรียนคณะเดิมอีก จะสอบทันตะให้ได้ พี่เลยคุยกับที่บ้านและลาออกในวันถัดมา ตอนนั้นเป็นช่วงต้นเดือนตุลา 62

     ช่วงเดือนแรก พี่ว่าจะอ่านเองทั้งหมด เลยเริ่มเก็บเนื้อหาวิชาเลขก่อน ซึ่งตอนนั้นพี่ไม่มีอะไรในสมองเลยสำหรับวิชานี้ พี่เปิดเว็บ rathcenter เก็บเนื้อหาในบทที่พออ่านไหวไปเรื่อยๆ ส่วนตัวพี่เป็นคนที่มีอคติกับวิชาเลขมากๆมาตั้งแต่เด็ก พี่ต้องเริ่มจากทำให้ตัวเองเลิกกลัวที่จะเริ่มทำโจทย์ให้ได้ก่อน โดยเริ่มจากโจทย์ที่ไม่ยากเกินไป หลังจากผ่านไปสองสามสัปดาห์ พี่ก็เลิกกลัวโจทย์เลข เลิกกลัวความรู้สึกตอนทำโจทย์ไม่ได้ เราะถ้าทำไม่ได้ ติดเกิน 10 นาที พี่ก็แค่ดูเฉลย ทำความเข้าใจ และจำไว้ ต่อไปถ้าเจอแนวนี้ก็จะทำได้ แต่ช่วงนั้นพี่ก็ไม่ได้อ่านแค่เลขนะ มีอ่านวิชาอื่นๆด้วยนิดหน่อย คือ ชีวะ และอังกฤษ

        เข้าเดือนที่ 2 ช่วงพฤศจิกา พี่เริ่มรู้สึกว่าอ่านเองไม่น่าจะทัน เลยจะเรียนพิเศษ เพื่อเก็บเทคนิคดีๆเพิ่มเติม พี่เลยลงทุกวิชายกเว้นไทยสังคม ในระบบ Anywhere เพราะพี่คิดว่าพี่เอาเวลาและพลังงานที่เสียไประหว่างเดินทางไปเรียนที่สาขามาทำอะไรอย่างอื่นได้ เช่น การอ่านทบทวน การพักผ่อน ในวันนึงพี่จะตื่นประมาณ 8 โมง จากนั้นทำกิจวัตรช่วงเช้าให้เสร็จตอน 9 โมง จากนั้นก็เรียนยาวถึงเย็น แต่บางวันก็มีรอบดึกด้วย (มีพักกินข้าวช่วงเที่ยงถึงบ่ายโมง) พี่จะเรียน/อ่านทบทวน/ทำโจทย์ แค่วันละ 1-2 วิชาต่อวันเท่านั้น พี่จะได้อ่านหรือเรียนให้จบเป็นเรื่องๆไป

      ทุกๆเดือน จะมี 1-3 วัน ที่พี่จะพักผ่อน ไม่อ่านหนังสืออะไรเลย ออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกบ้าง เพื่อให้ไม่เครียดเกินไป และเพื่อเป็นการเติมไฟให้ตัวเอง ให้เช็คตัวเองตลอด ว่าใกล้ถึงเป้าคะแนนที่วางไว้แค่ไหนแล้ว พี่จะเข้าเว็บคำนวณคะแนน กสพท เพื่อคำนวณคะแนนวางเป้าหมายของตัวเองในแบบต่างๆออกมา พี่จะแบ่งวิชาเป็น 4 กลุ่ม ตาม % ที่ใช้คิดคะแนน

       กลุ่มวิชาเฉพาะแพทย์ - พี่ตั้งเป้าไว้ 20+ จาก 30 คะแนน ซึ่งถ้าน้องเล็ง กสพท.กลุ่มหัวตารางไว้ ควรจะได้ประมาณนี้

       กลุ่มคณิต,อังกฤษ - เป็นวิชา % สูงทั้งคู่ ถ้าน้องเกลียดวิชาไหน อีกวิชาต้องดี คะแนนห้ามเน่าทั้งสองวิชาพร้อมกัน หรือถ้าน้องเทพจัดเก่งทั้งคู่จะดีมากเลย

       กลุ่มวิทยาศาสตร์ - ใน 3 วิชานี้ น้องควรจะได้สัก 2 วิชาเป็นอย่างน้อย (เช่นพี่เลือกเป็นชีวะกับเคมี) หรือถ้าน้องได้อยู่วิชาเดียว วิชานั้นน้องต้องเทพไปเลย

       กลุ่มไทย,สังคม - เหมือนกลุ่มเลขอิ้ง ถ้าวิชาไหนน้องคิดว่าเน่าแน่ๆ อีกวิชาก็ต้องดี ถ้าน้องได้ทั้งคู่ก็จะดีมาก



*ข้อควรระวัง* กสพท.วางคะแนนขั้นต่ำสามัญทุกวิชาน้องห้ามได้ต่ำกว่า 30 คะแนน (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ นับเป็น 1 วิชา รวมกันหาร 3 ต้องมากกว่า 30) และสำหรับน้องที่ไม่ใช่เด็กซิ่ว ONET น้องต้องได้รวมกัน 300+ จาก 500 คะแนน (ถ้าน้องเป็นเด็กซิ่วก็ไม่เป็นไรจ้า เค้าไม่เอา ONET มาคิด)





ในรูปนี้วิชาไหนที่พี่เลือกเน้นพี่ก็จะไฮไลท์สีชมพูไว้ น้องชอบวิชาไหน ไม่ชอบวิชาไหนก็ลองปรับใช้กันดูได้นะ ลองตั้งเป้าหมายโดยการคำนวณคะแนนดู น้องอาจจะรู้ว่า เป้าหมายของน้องไม่ได้ยากเกินความสามารถอย่างที่น้องคิดเลย



       เว็บคำนวณคะแนน:   http://ezdoctor.eduzones.com/



ส่วนอันนี้คือคะแนนจริงของพี่ที่ได้เทียบกับปี 62







ปี 62 รวมได้ 58.46 คะแนน









ปี 63 รวมได้ 69.2723 คะแนน



แนะนำหนังสือ,คอร์สเรียน,การเตรียมตัวรายวิชา

1. กลุ่มวิชาวิทย์ - คณิต

              สำหรับน้องๆ ที่ไม่ใช่เด็กซิ่ว/ไม่ได้ออกมาซิ่วอยู่บ้าน น้องควรอ่านทบทวนเก็บเนื้อหาหรือเรียนคอร์สเอนท์ (ไม่จำเป็นต้องเรียนหมดทุกวิชา ถ้าอ่านเองไหว) ในวิชากลุ่มนี้ให้หมดอย่างช้าในเดือนตุลา หลังจากนั้นเป็นเวลาฝึกตะลุยโจทย์ บางคนอาจเรียนคอร์สตะลุยโจทย์ หรือพวก upskill เพื่อเรียนรู้เทคนิคดีๆในการทำข้อสอบเพิ่มเติม

วิชาคณิตศาสตร์

                วิชานี้พี่เกลียดมันมาก 555 คะแนนก็ตามที่น้องเห็น พี่มีปัญหากับวิชานี้มาตลอด เรียกได้ว่ามีปมสุดๆ สมัยพี่อยู่ ม.6 เลยกลัวการทำโจทย์เลขมากๆ คะแนนก็เลยออกมาไม่ดี ปีนี้พี่เลยสู้กับมันสักตั้ง เพราะยังไงก็เลี่ยงไม่ได้ถ้าอยากเป็นทันตะ ฮึบบ

       ช่วงเดือนแรกพี่ใช้ชีทเรียนของ rathcenter อ่านเก็บเนื้อหาสำคัญๆ เท่าที่พี่จะเก็บได้ จากนั้นพี่ก็ลงคอร์ส upskill ของออนดีมานด์ และฝึกทำโจทย์แนวสามัญ พี่แทบไม่แตะแนว PAT เลย เพราะพี่คิดว่าจะมุ่งเข้าให้ได้ตั้งแต่รอบ 3 แต่น้องไม่จำเป็นต้องทำแบบพี่นะ เพราะตอนนั้นพี่คิดว่าเวลาไม่น่าพอ เลยต้องเลือกเอาเวลาไปลงกับสิ่งที่จำเป็นที่สุดก่อน น้องคนไหนเวลาจวนตัวมากๆ จะใช้แผนแบบพี่ก็ได้นะ

     ข้อสอบเลขสามัญจะมีสองส่วน คือ ข้อง่าย 10 ข้อแรก (ข้อละ 2 คะแนน) ที่โจทย์จะไม่ซับซ้อน ควรทำให้เร็ว และเก็บเต็ม (ซึ่งพี่ก็ไม่เต็ม TT) และข้อยากอีก 20 ข้อ (ข้อละ 4 คะแนน) ซึ่ง 5 ข้อสุดท้ายของพาร์ท 4 คะแนนนั้นจะเป็นแนวแปลกๆ ที่ไม่เคยมี รวมทั้งแนวผสมเมทริกซ์ในตำนานก็อยู่ในส่วนนี้ด้วย ถ้าน้องคิดว่าตัวเองไม่เก่งเลข แนะนำว่าไปเก็บ 25 ข้อแรก ที่พอจะหาแนวอ้างอิงจากข้อสอบเก่าได้ก่อนดีกว่า โดยเริ่มทำ 10 ข้อแรกให้เสร็จอย่างรวดเร็ว และจากนั้นก็ทำข้อ 4 คะแนนในบทที่น้องถนัดก่อนได้เลย



   เว็บ   rathcenter:   http://www.rathcenter.com/



วิชาฟิสิกส์

       เพราะตอนปี 62 ข้อสอบฟิสิกส์ออกมายากขึ้น ตอนนั้นพี่เลยกลัววิชานี้มาก พี่ลง upskill ของออนดีมานด์ในระบบ anywhere เช่นกัน แต่ก่อนหน้านี้ตอนพี่อยู่ ม.6 พี่เคยเรียนคอร์สเอนท์ของ Applied Physics มาแล้ว พอพี่เค้าทวนเนื้อหาก่อนขึ้นโจทย์เลยเกทตามพี่ๆเค้าทัน ข้อสอบฟิสิกส์สามัญจะมีความคล้ายข้อสอบ สอวน. ที่บางข้อก็เอามาปรับให้ง่ายขึ้น ถ้าน้องคนไหนอยากเก็บเต็ม ก็ลองไปหาข้อสอบ สอวน.เก่าๆมาทำกันดูได้นะ

       ข้อสอบฟิสิกส์สามัญจะมี 25 ข้อ เวลาชั่วโมงครึ่งเช่นเดียวกับสามัญทุกวิชา มักไม่มีการคิดเลขซับซ้อน เป็นโจทย์แนวตัวแปร น้องบางคนถ้าไม่ชินกับแนวนี้จะงงเอาได้ เพราะตัวแปรในช้อยส์มันเยอะลายตาไปหมด (ดังนั้นต้องฝึกโจทย์บ่อยๆให้ชินนะ!) ถึงเวลาต่อข้อจะเยอะถึง 3 นาทีกว่าๆ แต่ถ้าน้องผิดไปสักข้อ คะแนนน้องจะหายไป 4 คะแนนเลยนะ! อันตรายมาก

วิชาเคมี

         วิชานี้พี่ลง upskill ของออนดีมานด์ (น้องจะได้อะไรมากกว่าเคมีแน่นอน 555 ใครเคยเรียนจะรู้) พี่เค้าจะมีการทวนเนื้อหาทุกบทก่อน แล้วจะมีข้อสอบเก่าให้ฝึกทำทุกปี แน่นอนว่าน้องควรอ่านทบทวนหรือเรียนคอร์สเอนท์เก็บเนื้อหามาก่อน เพราะพี่เค้าจะไปค่อนข้างเร็ว ส่วนคอร์สเอนท์ที่พี่เคยเรียนตอน ม.6 คือคอร์สเอนท์ของ อ.อุ๊ ครับ

     ข้อสอบสามัญเคมีมี 50 ข้อ จะเป็นแนว speedtest ซึ่งตอน ม.6 พี่ไม่เคยแตะโจทย์เลย คะแนนเลยออกมาไม่ดี ขึ้นชื่อว่า speedtest ที่เน้นความเร็วในการทำ น้องจะต้องฝึกทำโจทย์ภายใต้เวลาที่จำกัดมากๆ (ข้อละนาทีกว่าๆ) ข้อสอบที่ไม่ซับซ้อนมากจึงทำให้น้องลนได้ เทคนิคของพี่คือการทำส่วนที่น้องถนัดก่อน เพราะข้อสอบจะเรียงตามบทที่น้องเรียนตั้งแต่ ม.4 ถึง ม.6 มาอยู่แล้ว แต่อย่าลืม อย่าติดกับข้อใดนานเกิน 2 นาที เพราะจะทำไม่ทันเอา ดังนั้น ฝึกโจทย์เยอะๆ เตือนแร้วนะ!!!

วิชาชีววิทยา

     วิชานี้วิชาโปรดของพี่เลย พี่เลยอ่านเองทั้งหมด แต่ช่วงซิ่วพี่อยากจะฝึกโจทย์เพิ่ม เลยลงคอร์ส upskill ของออนดีมานด์ระบบ anywhere ทำให้พี่รู้เทคนิคการทำข้อสอบมากขึ้นและช่วยคงคะแนนพี่ไว้ได้ เพราะปี 63 ข้อสอบชีวะเริ่มมีข้อประยุกต์มากขึ้น ส่วนหนังสือที่พี่อ่านพี่อ่านเล่มปลาหมึกเล่มเดียวเลย พี่ว่ามันครอบคลุมและละเอียดดี

     ข้อสอบสามัญชีวะมี 80 ข้อ (เยอะมากกก) ดังนั้นน้องห้ามติดข้อใดข้อหนึ่งนานเกินไป ไม่รู้คือไม่รู้ ข้าม!!! เพราะวิชาชีวะคำตอบส่วนใหญ่น้องไม่สามารถคำนวณมันออกมาได้ ถ้าไม่รู้ต้องเดาอย่างเดียว สำหรับน้องบางคนที่รู้สึกว่าชีวะมันเยอะไปหมด ไฟลนก้น อ่านไม่ทันแล้ว พี่แนะนำเน้นเก็บบทหลักๆ พวกร่างกายมนุษย์ และพันธุศาสตร์ ซึ่งออกเยอะมาก และอาจจะแถมบทที่น้องเก่งสุดไปอีกบทหนึ่งด้วย แต่ทางที่ดี น้องควรรีบเก็บเนื้อหาให้หมดแต่เนิ่นๆ และอ่านทบทวนเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอจะดีที่สุด







2.วิชาภาษาอังกฤษ

                                   วิชานี้สำคัญสุดๆ เพราะใช้สัดส่วนสูงสุดในวิชาสามัญ เท่าวิชาเลขเลย ดังนั้นถ้าน้องคนไหนไม่เก่งเลข ก็ต้องทำคะแนนอังกฤษให้ดี จะได้ชดเชยกัน วิชานี้พี่เรียนของ Forward English ของพี่โอม พี่ว่าพี่เค้าสอนสนุกและมีเทคนิคที่ช่วยให้น้องทำข้อสอบได้เร็วขึ้นจริง พี่เรียนคอร์สถอดรหัส GAT&9 วิชา(ENG) เพื่อเก็บเทคนิคโจทย์ง่ายถึงยากปานกลาง และต่อด้วยคอร์ส 9 วิชา MAX 80 up จริงๆแนะนำให้น้องเรียนคอร์ส core อังกฤษพิชิต TCAS ก่อนเป็นคอร์สแรกช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนขึ้น ม.6 แต่พี่ไม่ได้เรียนคอร์สนี้เพราะตอนนั้นพี่รู้สึกว่าไม่ทันจริงๆ (ถ้าน้องมีบุญเก่ามาก/เนื้อหาแน่น/ศัพท์เยอะพอจะข้ามไปเรียนคอร์สโจทย์เลยก็ได้) สำหรับสายอ่านเองพี่แนะนำหนังสือของ ดร.ศุภวัฒน์ เลยครับ







                                ข้อสอบอังกฤษสามัญมี 4 ส่วน คือ conversation, cloze test, reading, เรียงประโยคเป็น paragraph รวม 80 ข้อ เวลาชั่วโมงครึ่ง น้องต้องทำให้เร็ว ถ้าติดให้ข้าม ข้อสอบจะเน้นไปทางด้าน reading ดังนั้น น้องต้องอ่านให้เร็ว และมีศัพท์ในหัวพอสมควร นอกจากพี่จะท่องศัพท์ของที่พี่เรียนพิเศษแล้ว พี่ก็เก็บศัพท์จากเกม หนัง บทความต่างๆ มาเรื่อยๆ ยิ่งน้องเอาตัวเองเข้าไปอยู่กับภาษาอังกฤษมากเท่าไหร่ น้องก็จะยิ่งคุ้นชินกับมัน เริ่มได้ตั้งแต่วันนี้เลย

                                สำหรับ grammar น้องหลายคนอาจนึกถึง error ซึ่งพี่มีข่าวดีสำหรับคนที่ไม่ชอบ error คือข้อสอบสามัญไม่มีพาร์ทนี้จ้า แต่ข้อสอบก็ยังวัด grammar น้องใน cloze test อยู่ดี เพราะฉะนั้น grammar ก็สำคัญมากเช่นกัน



3.กลุ่มวิชาภาษาไทย สังคม

                                  สองวิชานี้มี % คะแนนสอบเท่ากัน ดังนั้นถ้าน้องไม่สามารถจะทำมันได้ดีทั้งสองวิชา พี่แนะนำเลือกสักวิชาหนึ่งที่น้องถนัดให้ดี อีกวิชาน้องอาจไม่ต้องเน้นมาก ให้เกิน 30 คะแนนก็พอ ช่วงซิ่ง 5 เดือน พี่อ่านสองวิชานี้จริงจังช่วงสองเดือนสุดท้าย (ช่วงนั้นไฟลนก้นสุดๆ) แต่ก็เช่นเคย น้องอ่านสะสมมาเรื่อยๆจะดีที่สุดครับ เชื่อพี่

วิชาภาษาไทย

                                 วิชานี้พี่ไม่เคยแตะข้อสอบเก่าเลย (ห้ามเลียนแบบนะน้อง เป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี) แต่ข้อสอบจะเป็นแนวๆเดิมทุกปี พี่เตรียมตัวฝึกโจทย์โดยใช้เล่มนี้ครับ พี่ไม่ได้เรียนพิเศษที่ไหนเลย







วิชาสังคม

      วิชานี้พี่เชื่อว่ามันเป็นยาขมสุดๆสำหรับน้องที่จะสอบหมอ ทันตะ (บางคนคิดว่ามันยากกว่าเลขด้วยซ้ำ) ด้วยความที่ข้อสอบคาดเดาได้ยาก และออกได้ครอบจักรวาลสุดๆ แต่พี่เองก็อยากจะบอกว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น วิชานี้จะมี 5 พาร์ทใหญ่ๆ แบ่งพาร์ทละ 10 ข้อพอดี แต่ละพาร์ทก็จะมีการเตรียมตัวแตกต่างกันไป อันนี้เป็นความเห็นของพี่จากที่ไปดูข้อสอบเก่าและไปสอบมานะ

      พระพุทธฯ - หลังๆไม่ค่อยออกหลักธรรมแปลกๆ บางข้อใช้ commonsense ได้

       การเมืองการปกครอง - พาร์ทนี้ควรอ่านเก็บไป เพราะถามค่อนข้างตรง โดยเฉพาะพวกกฎหมายต่างๆ

      เศรษฐศาสตร์ - ควรอ่านเก็บอย่างยิ่ง เพราะมีข้อที่ออกแนวเดิมทุกปี คือข้อคำนวณกราฟอุปสงค์ อุปทาน คำนวณการเงินระหว่างประเทศ

      ภูมิศาสตร์ – ถ้าไฟลนก้นจริงๆแนะนำเน้นอ่านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ มีถามบ่อย

      ประวัติฯ - อันนี้พี่ใช้ดวงเข้าไป ถ้าน้องไม่ทันจริงๆจะทิ้งไปเลยก็ได้ (แต่พาร์ทที่เหลือต้องได้นะ) เพราะพาร์ทนี้จะมีเซอร์ไพรส์ทุกปี และก็อย่างที่พี่บอกเสมอ ถ้าน้องมีเวลาเยอะ เตรียมตัวเร็ว อ่านสะสมไปเรื่อยๆ จะดีที่สุด

      พี่ไม่ได้เรียนพิเศษที่ไหนเลย แต่พี่ไปซื้อชีทสังคมของ สังคมแมวส้ม มาอ่าน พี่เค้ามีเพจในเฟซบุ๊ก และแอคในทวิต ไปตำกันได้



                                 twitter:    https://twitter.com/socialbycat

                                facebook:   https://www.facebook.com/socialbycat/



4.วิชาเฉพาะแพทย์

     วิชานี้สำคัญมากๆ เพราะคะแนนสอบ 100 คะแนนจะใช้วิชานี้ถึง 30 คะแนนเลย วิชานี้พี่เรียนของออนดีมานด์ทั้งคอร์สเนื้อหาและคอร์ส upskill น้องคนไหนที่ไม่ได้ซิ่ว พี่แนะนำให้เริ่มอ่าน/เรียนตั้งแต่ช่วงกันยา (ช่วงซิ่วพี่เริ่มเรียนช่วงมกรา) ข้อสอบมี 3 พาร์ท พาร์ทละ 1 ชั่วโมง 15 นาที

      เชาวน์ - มี 45 ข้อ จะใช้สกิลการคิดเลขหนักๆเร็วๆ (พวกอนุกรม โจทย์ปัญหาบวกลบคูณหารธรรมดา) การวิเคราะห์ความเพียงพอของข้อมูลที่ให้มา มิติสัมพันธ์ และการอ่านจับใจความภาษาไทย(ตรงนี้ฝึกควบคู่ไปกับไทยสามัญได้) ต้องเน้นทำโจทย์เยอะๆ โดยเฉพาะเลข เพราะข้อสอบเป็น speedtest เวลาต่อข้อน้อยมาก วิชานี้ไม่เคยมีใครทำได้เต็มเลย ดังนั้น ถ้าน้องไปจับจดว่าต้องเก็บทุกข้อจะทำให้น้องเครียด และลน ให้ทำในพาร์ทที่น้องถนัดไปก่อน ข้อไหนไม่ได้ข้ามทันที

      เชื่อมโยง - บทความจะยาวกว่า GAT และไม่มีตัวหนาในบทความให้แบบ GAT พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่เก็บเต็มได้ง่ายที่สุด แต่ก็ต้องอ่านอย่างระมัดระวังและตีความดีๆ อย่างพี่อ่านจบสักประโยคสองประโยคจะกลับไปเช็คกับตารางคำที่โจทย์ให้มา ว่ามีหรือไม่ การฝึกโจทย์เชื่อมโยงเยอะๆช่วยน้องได้

      จริยธรรม - อันนี้ไม่ต้องอ่านและเรียนเลย เพราะพี่ก็ไม่ได้แตะเลย พี่จะมีอยู่ในใจ 3 คำ คือ เสียสละ เมตตา และเคารพอิสระการตัดสินใจของผู้อื่น (autonomy)



เดี๋ยวมาต่อทิ้งท้ายในเม้นนะ :)







 

 

แสดงความคิดเห็น

>

11 ความคิดเห็น

CuriousKitty 10 พ.ค. 63 เวลา 20:32 น. 1

สำหรับน้องที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ (ปรบมือออออ) พี่จะพูดถึงสิ่งหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของกระทู้นี้เลยก็ว่าได้ นั่นคือ

"คำเตือนก่อนเข้าห้องสอบ!!!"

• ในห้องสอบบางครั้งจะมีภาวะที่จะทำให้น้องรู้สึกไม่สะดวกชีวิต เช่น อากาศร้อนนรก พัดลมเสีย แอร์ตกที่หัวน้องพอดี ข้างสนามสอบมีงานก่อสร้าง อยากเข้าห้องน้ำฉุกเฉิน ปวดเมนส์ฯลฯ ให้น้องนึกถึงตรงนี้ไว้ด้วย และเตรียมตัวหาวิธีแก้ไว้เนิ่นๆก่อนวันสอบ เช่น เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย เตรียมเสื้อกันหนาว หรือใครอยากจะฝึกความอดทนกะอะไรแนวๆนี้ก่อนสอบจริงให้ชินก็ได้นะ

• บางสนามสอบ เช่น กสพท.จะมีกฎระเบียบที่เคร่งครัดจุกจิกกว่าสนามสอบอื่นๆ น้องต้องอ่านกฎหน้าข้อสอบดีๆ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เตือนละนะ!

• เซ็นชื่อที่ที่ช่องเซ็นชื่อก่อนเลยเมื่อได้กระดาษคำตอบมา (หรือเมื่อกรรมการอนุญาติให้เปิดกระดาษคำตอบในสนามสอบวิชาเฉพาะแพทย์) ไม่ใช่กรรมการทุกคนที่จะใจดีตามน้องมาเซ็นชื่อหลังเก็บข้อสอบ เตือนละนะ!! (รอบ 2)

• ห้ามขีดเขียนสิ่งใดๆแม้แต่จุดปากกาลงในกระดาษคำตอบนอกจากการฝนรหัส (ที่ปกติจะฝนมาให้อยู่แล้ว) ฝนคำตอบ เซ็นชื่อ เด็ดขาด การขีดเขียนอะไรแปลกๆนอกเหนือคำสั่งในกระดาษคำตอบอาจมีผลร้ายแรงถึงเครื่องเมินไม่ตรวจคำตอบน้องเลยทีเดียว ซึ่งรวมไปถึงการที่น้องทำกระดาษเปียก ขาด เสียหายด้วยสาเหตุต่างๆด้วย เตือนละนะ!!! (รอบ 3)

• สำหรับน้องที่ชอบทำข้อสอบให้เสร็จก่อนค่อยฝนทีเดียว ก็เป็นวิธีที่รวดเร็วดี (พี่ก็ใช้แหละ) แต่อย่าทำเพลินจนเหลือเวลาฝนไม่พอล่ะ ให้น้องกะเวลาฝนดีๆ ให้พอเหมาะ (โดยเฉพาะเชื่อมโยงที่ฝนเป็นร้อยจุดเอาไปเลย 20 นาที) หรือจะแบ่งเป็นชุดๆ เช่น น้องทำไป 10 ข้อ ก็ฝนที่ทำไปให้หมด แล้วค่อยทำอีก 10 ข้อถัดไปจนหมดก็ได้นะ

• ยางลบก็สำคัญนะ อย่าซื้อยางลบถูกๆ เช่น ยางลบการ์ตูนก้อนละ 2 บาทมาใช้เด็ดขาด เพราะยางลบพวกนี้นอกจากจะลบยาก ไม่สะอาดแล้ว ยังอาจจะทำให้กระดาษขาดได้อีกด้วย อย่างพี่จะใช้ของเพนเทลแบบในรูป ลบง่ายและสะอาดมาก (ไม่ได้ค่าโฆษณา)

https://cdn.shopify.com/s/files/1/1452/5590/products/Pentel_ain_eraser_500x.jpg?v=1579749030

• เพื่อลดความลนและความเครียดที่จะไปลดประสิทธิภาพของสมองน้องในห้องสอบ พี่แนะนำว่า ก่อนสอบ 1-2 วัน น้องปล่อยวางไปเลย อ่านได้เท่าไหนเท่านั้น ให้น้องชิลให้เต็มที่ นอนให้เพียงพอ และหน้าห้องสอบ อย่าเอาเนื้อหาทั้งหมดมาอ่านใหม่ อ่านแค่สรุปสั้นๆในประเด็นที่น้องพลาดซ้ำๆ ประเด็นจุกจิกยิบย่อยที่น้องชอบลืมบ่อยๆดีกว่า หรือดีที่สุดคือไม่อ่านเลย วันสอบพกไปแค่ตัว(เสื้อผ้าด้วย!!!)กับสมอง ดินสอ ยางลบ ปากกาไปพอ จะดีที่สุดจ้า


สุดท้ายนี้ขอให้น้องๆทุกคนที่อ่านกระทู้นี้โชคดีจ้า สู้ๆ ปีหน้าน้องก็จะได้มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว การจะทำการใหญ่ ใจต้องคิดบวกให้มากๆ อย่าบั่นทอนตัวเองเกินไป พี่เชื่อว่าน้องทุกคนสามารถทำได้จ้า สู้ๆhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-01.png

2
ผปค 10 พ.ค. 63 เวลา 21:48 น. 1-1

ขอชื่นชมหัวจิตหัวใจน้องมากๆครับ ใช้เวลาแค่ ๕ เดือน กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ขอแสดงความยินดีด้วยครับ Where there is a will,there is a way.

0
Guest 13 พ.ค. 63 เวลา 23:09 น. 2

เรากำลังมีความคิดอยากจะซิ่วไปทันตะ รบกวนขอช่องทางติดต่อเจ้าของกระทู้หน่อยได้ไหมครับ มีเรื่องอยากจะปรึกษาครับ

1

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

myndmyld 8 ธ.ค. 63 เวลา 11:55 น. 3

อยากสอบถามคอร์สความถนัดแพทย์ค่ะ คือว่าดีมั้ยคะ พอดีกำลังหาที่เรียน หรือว่าสามารถอ่านเองได้มั้ยคะ

1
CuriousKitty 10 ธ.ค. 63 เวลา 00:15 น. 3-1

คอร์สของออนดีมานด์ที่แนะนำไปก็ดีนะ มีโจทย์ให้ทำหลากหลายแนว มีเทคนิคให้ใช้เยอะมากด้วย ถ้าถามว่าฝึกเองได้มั้ย ฝึกเองก็ได้ได้นะ แต่ถ้าเรียนพิเศษเค้าจะมีเทคนิคเพิ่มเติมให้ด้วย

0
TTT 15 ธ.ค. 63 เวลา 20:07 น. 4

จขกท.เรียนพวก upskill วิทย์คณิตจบเดือนไหนเหรอคะ ขอไทม์ไลน์แบบละเอียดได้ไหมคะ พอดีสถานการณ์เราคล้ายๆ จขกท.เลย เราก็พึ่งตัดสินใจซิ่วตอนตุลา ตอนนี้คือเคว้งมาก กังวลไปหมดว่ากลัวจะเรียนไม่ทัน รู้สึกเวลามันน้อยมากเลยค่ะ

2
CuriousKitty 5 ม.ค. 64 เวลา 14:09 น. 4-1

ขอโทษที่ตอบช้านะครับ เราเรียน upskill ของวิทย์คณิตจบเดือนมกรา ถ้าไทม์ไลน์ละเอียดๆ ก็จะเป็น

ชีวะ (ปลาย ตค - ต้น ธค)

เคมี (พย - ธค)

คณิต (พย - มค)

ฟิสิกส์ (ธค - ต้น กพ)

ความถนัดแพทย์ (มค - กพ)

อังกฤษ (ธค - กพ)

อาจจะดูช้าๆนิดนึงนะ เพราะอันนี้เราซิ่วแบบอยู่บ้านตลอด ไม่ได้เรียนที่มหาลัยไปด้วย

0
Bearytoey 9 ธ.ค. 64 เวลา 21:30 น. 4-2

ตารางนี้ก็คือช่วงที่พี่เก็บเนื้อหาใน upskill จบใช่มั้ยคะ พี่เก็บเนื้อหาแต่ละวิชาจบแล้วเริ่มทำโจทย์ตอนไหนหรอคะ เราก็จะซิ่วทันตะแต่ตอนนี้ยังเก็บเนื้อหาไม่จบเลยค่ะ กลัวไม่ทันมากๆ T—T

0
CuriousKitty 3 มิ.ย. 64 เวลา 22:44 น. 6-1

จำราคาตอนนั้นไม่ได้แล้วครับ แต่เท่าที่ไปดูมาแพคเดียวกันราคาปัจจุบัน 4500 บาท เป็นพาร์ทเชาวน์ปัญญา กะพาร์ทเชื่อมโยง และก็ upskill แต่ไม่มีพาร์ทจริยธรรม

0
CuriousKitty 4 พ.ย. 64 เวลา 20:00 น. 8-1

พี่พอจำเนื้อหาได้บ้างจากปีที่จบ ม.6 มา แต่ตอนซิ่วนี่ก็แทบจะอ่านใหม่หมดเลยแหละนะ 555 (โดยเฉพาะวิชาเลข) พี่ก็เลยลงอัพสกิลไปอย่างเดียว และก็ทบทวนเนื้อหาไปพร้อมคอร์สนั้นเลย

ปล. ขอโทษที่ตอบช้านะะ ช่องทางติดต่อเดี๋ยวหลังไมค์ไปหา

0
กิตติศักดิ์ 9 ธ.ค. 64 เวลา 02:39 น. 9

ช่วง ธันวา-กุมภา พี่เรียน+เก็บเนื้อหาไป + ทำข้อสอบเก่าไปด้วยหรือเปล่าครับ ผมอยากถามถึงทามไลน์การทำข้อสอบเก่าครับ ว่าทำช่วงไหน : (

0
Yimmiz 2 ส.ค. 65 เวลา 15:34 น. 11

หนูขอคอนเเทคพี่เจ้าของกระทู้ได้มั้ยคะ ตอนนี้หนูอยากได้ที่ปรึกษามากๆ ค่ะ

0