Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ช่วยแนะนำทีค่ะ หนูอยากเข้าคณะเศรษฐศาสตร์ อยากรู้ว่าจบมาจะหางานยากมั้ยคะ เพราะข้อมูลในอินเทอร์เน็ตมีน้อยมากค่ะ (ช่วยแนะนำหนูหน่อยนะคะ)

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูกำลังจะขึ้นชั้น ม.6  หนูชอบวิชาในหมวดสังคมทุกวิชาเลยโดยเฉพาะวิชาเศรษฐศาสตร์ และหนูก็คิดว่าอยากเรียนคณะนี้ด้วย เพราะหนูฝันไว้ว่าอยากทำงานกับกระทรวงการคลัง แบงค์ชาติ หรือตลาดหลักทรัพย์ประมาณนี้ค่ะ ซึ่งพอคุยกับทางครอบครัวแล้วก็เข้าใจกันดี (หนูอาศัยอยู่นอกตัวอำเภอในต่างจังหวัดซึ่งคนส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้จักคณะนี้) แต่หนูติดปัญหาอยู่ข้อหนึ่งคือ เศรษฐศาสตร์เป็นสายวิชาการ ดังนั้นตอนหางานก็ย่อมจะยากกว่าสายวิชาชีพอยู่แล้ว อีกทั้งหนูเห็นหลาย ๆ คนพูดว่าเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่ต้องลงทุนสูงในเรื่องเวลา เพราะหากอยากจะได้งานที่มีเงินเดือนพอสมควรหรือหางานง่ายหน่อยก็ต้องจบอย่างต่ำคือปริญญาโท   ซึ่งหากหนูได้ทุนเรียนต่อในระดับป.โทมันก็คงจะไม่มีปัญหา   แต่หนูก็ไม่อาจล่วงรู้ว่าอนาคตว่าจะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าหนูขี้ขลาดจนไม่กล้าที่จะลองหรือเสี่ยงกับชีวิตของตัวเองนะคะ  หากแต่ครอบครัวของหนูก็ไม่ได้มีฐานะที่ดีมากพอที่จะส่งหนูเรียนไปได้ตลอด (คนแถวบ้านหนูมีค่านิยมส่งลูกหลานเรียนสายสุขภาพเพราะคิดว่ามั่นคงและมีคนนับหน้าถือตา อีกทั้งจบมาก็มีงานทำทันที หรือไม่ก็คณะที่จบมามีโอกาสได้รับราชการ เช่น ครู)   ถ้าเกิดหนูเรียนจบแล้วไม่มีงานทำขึ้นมาก็จะเป็นภาระของครอบครัว   หนูเลยอยากสอบถามว่าหากหนูเรียนคณะเศรษฐศาสตร์หนูจะหางานยากมั้ย(ในกรณีที่จบปริญญาตรี)   แล้วมีคณะอื่นอีกหรือไม่ที่จะตอบโจทย์ความชอบของหนู(สังคม เศรษฐศาสตร์ วัฒนธรรม การเมือง) โดยคณะเศรษฐศาสตร์ที่หนูเล็งไว้ คือ มธ. มช. จุฬา   ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะติดหรือเปล่าแต่อยากสอบถามคนที่มีประสบการณ์มาก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกทีค่ะ
ปล.หนูไม่ได้ฐานะดีเวลาจะเลือกเรียนอะไรก็เลยคิดหนักเพราะกลัวว่าหากจบมาแล้วจะไม่สามารถแบ่งเบาภาระครอบครัวได้ดีเท่าที่ควร(อย่าดราม่าหนูนะคะอันนี้แค่อยากชี้ให้เห็นว่าการเลือกคณะมันสำคัญต่อหนูจริงๆ)
#หนูมีฝันอีกอย่างคืออยากเป็นนักเขียน นักข่าวหรือผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองค่ะ#
#ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบค่ะ#

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

mrssomsri 15 พ.ค. 63 เวลา 18:08 น. 1

ถ้าจบ เสดสาด ธรรมศาสตร์ นั่นคือ เสดสาดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของเสดสาดใน ปท.นี้แล้ว

เดี๋ยวจะมาเขียนต่อนะ เพราะคำถามมีคำตอบที่ยาวมาก

ถ้ามีเวลาก็ลองค้นประวัติของ นักเสดสาดที่เป็น idol ของนักเสดสาดธรรมศาสตร์ทั้งหลาย ท่านชื่อ ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์

ชีวิตของท่าน เป็นเด็กจากครอบครัวยากจน ใช้ความมานะ เรียนเสดสาดที่ มธ.แล้วสอบชิงทุนไปต่อนอก ทำงานกระทรวงการคลังและแบงก์ชาติ จนภายหลังเป็นอธิการบดีของ มธ.

หนูต้องลองอ่านประวัติท่านก่อน แล้วจะเข้าใจ อาชีพของคนที่เป็นนักเสดสาด ที่เป็นทั้ง คนเก่ง และ คนดี


http://www.econ.tu.ac.th/puey100th/

2
mrssomsri 15 พ.ค. 63 เวลา 19:34 น. 2

#หนูมีฝันอีกอย่างคืออยากเป็นนักเขียน นักข่าวหรือผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองค่ะ#

แนะนำให้ติดตามท่านอาจารย์ท่านนี้ รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง


https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B9%8C_%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87

1
mrssomsri 16 พ.ค. 63 เวลา 13:53 น. 3

1. หนูชอบวิชาในหมวดสังคมทุกวิชาเลยโดยเฉพาะวิชาเศรษฐศาสตร์ ....

ชอบวิชาในหมวดสังคมนั้นดีแล้ว แต่ยังไม่เพียงพอเพราะ ต้องชอบวิชาคณิตศาสตร์และภาษาอังกฤษด้วย เพราะเสดสาดใช้ 2 วิชานี้เยอะมาก


2. อยากทำงานกับกระทรวงการคลัง แบงค์ชาติ หรือตลาดหลักทรัพย์...

ความรู้ทางเสดสาด ตรงกับสายงานของ 3 สถาบันนี้ แต่ก็ยังมีวุฒิอื่นๆที่สามารถทำงานในสถาบันเหล่านี้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนจบ บัญชี และการเงิน (คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี)


3. “เศรษฐศาสตร์เป็นสายวิชาการ ดังนั้นตอนหางานก็ย่อมจะยากกว่าสายวิชาชีพอยู่แล้ว อีกทั้งหนูเห็นหลาย ๆ คนพูดว่าเศรษฐศาสตร์เป็นวิชาที่ต้องลงทุนสูงในเรื่องเวลา เพราะหากอยากจะได้งานที่มีเงินเดือนพอสมควรหรือหางานง่ายหน่อยก็ต้องจบอย่างต่ำคือปริญญาโท”…

ก็มีส่วนทั้งจริงและไม่จริง ขึ้นกับว่า เราคาดหวังความก้าวหน้าในอาชีพการงานแค่ไหน

เช่น ถ้าหวังเพียงให้ได้งานในสถาบันการเงิน เช่น ธนาคารพาณิชย์ หรือ กระทรวงการคลัง โดยไม่คิดอะไรมากเรื่องความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่ ก็จบ ป.ตรีก็เพียงพอ ไม่ต้องเรียนต่อ

แต่ถ้าหวังจะได้งานในสถาบันระดับสูง เช่น แบงก์ชาติ หรือ ตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือสถาบันการเงินอื่นๆโดยหวังได้ตำแหน่งหน้าที่ๆดีเป็นหัวหน้างานในอนาคต ยังไงๆก็ต้องเรียนเกิน ป.ตรี

ซึ่งจริงๆ คนทำงานในยุคนี้ (และเป็นมานานแล้ว) ก็มักเรียน ป.โท ในสาขาใดสาขาหนึ่งอยู่แล้ว เช่น คนจบ ป.ตรีวิศวะ ก็นิยมเรียนต่อ ป.โท บริหารธุรกิจ คนจบ ป.ตรีเสดสาด ก็นิยมเรียนต่อ ป.โท เสดสาด หรือ บริหารธุรกิจ (ขึ้นกับว่าจะมุ่งเติบโตในสายงานวิชาการ หรือเป็นผู้บริหารในองค์กรธุรกิจ)

หรือแม้แต่พวกเรียนหมอ หลังจบ 6 ปี ก็มักจะเรียนต่อเฉพาะทางเพื่อเรียนรู้ทางสาขาเฉพาะต่างๆให้เข้มข้นขึ้นอีก

สำหรับชาวเสดสาด หากมุ่งจะไปเป็นนักวิชาการ นักวิจัย เช่น อาจารย์มหาลัย นักวิจัยในสถาบันวิจัยต่างๆ เช่น TDRI ก็มักจะเรียนต่อ ป.โท จนอาจถึง ป.เอก เพราะสิ่งที่เรียนใน ป.ตรียังไม่พอ


4. ซึ่งหากหนูได้ทุนเรียนต่อในระดับป.โทมันก็คงจะไม่มีปัญหา …

ไม่มีใครตอบได้ล่วงหน้าว่า คนไหนจะได้ทุนเรียนต่อ ทั้งหมดขึ้นกับตัวผู้เรียนเองว่า ตั้งใจและเรียนดี ไหน เราเองเคยเห็นทั้งคนที่เข้ามหาลัยแล้ว ตั้งใจเรียนเป็นเทพ จบไปด้วยเกียรตินิยม มีแผนจะเรียนชิงทุนเรียนต่อเมืองนอก ในขณะที่ก็เห็นบางคนเอาแต่สนุกไปวันๆ เอากีต้าร์มานั่งเล่นใต้อาคารเรียน จีบสาวไปวันๆ จบด้วยเกรดเกิน 2.00 นิดๆ ถึงเวลาระบบก็จะคัดกรองเองว่า คนไหนควรได้เรียนต่อ

ส่วนเรื่องทุนเรียนต่อ ป.โท นั้น จากประสบการณ์ก็ไม่เป็นปัญหา เช่นที่ คณะเสดสาด ธรรมศาสตร์ ซึ่งจัดสอน ป.โท เสดสาดภาคภาษาอังกฤษ เขาก็จัดทุนการศึกษา (จากองค์กรต่างๆ เช่น แบงก์ชาติ ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทใหญ่ๆ) ให้คนเรียนไม่เสียค่าเรียน แถมยังได้เงินรายเดือนเป็นค่าใช้จ่าย (พูดง่ายๆจ้างให้เรียน)

แต่ถ้าเรียนต่อในหลักสูตรภาคค่ำ คนเรียนก็สามารถทำงาน(ด้วยวุฒิ ป.ตรี) ตามหน่วยงานต่างๆ แล้วจ่ายค่าเรียนเอง ซึ่งก็ไม่แพงมากนักแถมได้ประสบการณ์ทำงานด้วย


มีข้อสังเกตว่า สาขาเสดสาด มีทุนการศึกษาไปเรียนต่อต่างประเทศจำนวนมาก เช่น ทุนรัฐบาลไทย (ทุน กพ) ทุนรัฐบาลต่างประเทศ ทุนธนาคารแห่งประเทศไทย ทุนธนาคารพาณิชย์ และทุนจากองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เช่น ทุนฟูลไบรท์(ของอเมริกา) ฯลฯ โอกาสการไปเรียนต่อเมืองนอกจนจบ ป.โท หรือ ป.เอก ที่ให้กับคนเรียนเก่ง จึงเป็นไปได้สูงมาก ต่างจากบางสาขาอาชีพที่จะต้องใช้ทุนส่วนตัวในการไปเรียนต่อ


5. ไม่ใช่ว่าหนูขี้ขลาดจนไม่กล้าที่จะลองหรือเสี่ยงกับชีวิตของตัวเองนะคะ หากแต่ครอบครัวของหนูก็ไม่ได้มีฐานะที่ดีมากพอที่จะส่งหนูเรียนไปได้ตลอด…

คงไม่สมควรที่จะคิดเรียนทีเดียวยาวไปถึง ป.โท ป.เอก ตั้งแต่ตอนอยู่ ม.6

ขั้นนี้ควรคิดเพียงจะไปเรียน ป.ตรีในสาขาไหน ส่วนที่จะเรียนระดับ บัณฑิตศึกษา คงขึ้นกับปัจจัยหลายๆอย่างในอนาคต เช่น ผลการเรียน ป.ตรี โอกาสต่างๆที่จะได้เรียนต่อ(หรือไม่) เช่น บางคนก็อยากทำงาน อยากมีครอบครัว ก็อาจไม่เรียนต่อ หรือ เรียนต่ออีกทีภายหลัง หรืออาจเปลี่ยนสายการเรียน เช่น จบ ป.ตรีเสดสาด ก็ไปเรียนต่อ ป.โท บริหารธุรกิจ (MBA) เพื่อเรียนรู้วิชาที่เป็นภาคปฎิบัติในธุรกิจมากกว่า เสดสาด

ขึ้นกับเป้าหมายชีวิตแต่ละคน ว่าในระยะยาวอยากไปทำงานด้านไหน


6.ถ้าเกิดหนูเรียนจบแล้วไม่มีงานทำขึ้นมาก็จะเป็นภาระของครอบครัว หนูเลยอยากสอบถามว่าหากหนูเรียนคณะเศรษฐศาสตร์หนูจะหางานยากมั้ย(ในกรณีที่จบปริญญาตรี)

ที่บอกว่า คนจบ ครู ได้งานแน่นอน ก็ไม่ใช่ความจริงในปัจจุบันนะ เพราะคนสมัครสอบบรรจุครู เป็นหมื่น อัตราบรรจุมีน้อยกว่าคนจบมากมาย ครูจำนวนมากเป็นแค่อัตราจ้าง นั่นคือ ลูกจ้างชั่วคราว ไม่ได้สวัสดิการ

สำหรับเสดสาด เหมือนแทบทุกสาขาอาชีพ(ยกเว้นแพทย์ที่ไม่ตกงานเพราะทุนบังคับทำงานชดใช้ และยังขาดแคลน) ถ้าจบด้วยเกรดที่ไม่เลวร้าย สอบตกแล้วตกอีก และจบจากมหาลัยที่มีชื่อเสียง เช่น ธรรมศาสตร์ จุฬา เราก็ยังไม่เคยเห็น บัณฑิตจากคณะนี้มหาลัยเหล่านี้ที่ตกงาน(อย่างไม่สมัครใจ) ถ้ายังไม่ทำงานก็คือเลือกงาน รอสมัครสอบงานที่อยากได้ การรับสมัครพนักงานของพวกจบเสดสาดมักจะกลมกลืนไปกับพวกจบพาณิชยศาสตร์ หรือ บริหารธุรกิจ

อีกเรื่องที่สำคัญ คือ เวลาเรียน นอกจากเรียนวิชาเสดสาดแล้ว มหาลัยมักจะให้เรียนวิชาโท สาขาอื่นๆ เช่น เราอาจเลือกเรียน โทสาขา การเงิน การตลาด หรือ ภาษาอังกฤษ เพื่อเสริมความรู้ให้เราพร้อมที่จะไปทำงานในองค์กรต่างๆ


จุดเด่นของหลักสูตรที่ธรรมศาสตร์คือ ในคณะเสดสาด มีสาขาให้เลือกเรียนจำนวนมาก เช่น เสดสาดการเงิน การคลัง ระหว่างปท. แรงงาน อุตสาหกรรม +++.... ในขณะที่มหาลัยที่ไม่ดังเท่า ก็จะมีสาขาให้เลือกเรียนน้อยกว่า ควรเปิดดูใน website เปรียบเทียบหลักสูตรของแต่ละมหาลัยด้วยตนเอง

แถมมีศิษย์เก่ารุ่นพี่ในวงการเพียบ เช่น

ศ.ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ อดีตคณบดี สมาชิกขบวนการเสรีไทย, อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย, ผู้ได้รับรางวัลแมกไซไซ

มรว.ปรีดิยาธรณ์ เทวกุล อดีต รมว.คลัง และผู้ว่าการแบงก์ชาติ

ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ (ปัจจุบัน)

ดร.วีรไท สันติประภพ ผู้ว่าการแบงก์ชาติ (ปัจจุบัน)

ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกฯ

อีกเยอะมาก อ่านเองใน


https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C_%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%8C

8
at2545 16 พ.ค. 63 เวลา 15:02 น. 3-1

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ พี่ทำให้หนูมองเห็นภาพหลังจากที่หนูเข้าเรียนคณะนี้ได้ชัดเจนขึ้นเยอะเลย หนูยอมรับเลยค่ะว่าก่อนหน้านี้มีแต่ความชอบที่ทำให้หนูอยากเรียนคณะนี้ แม้ว่าหนูจะพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับคณะนี้มากแค่ไหนแต่มันก็ยังไม่ทำให้หนูเห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับชีวิตหนูหลังจากเรียนจบเลย ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ดี ๆ ทุกคอมเม้นต์นะคะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-06.png

0
mrssomsri 16 พ.ค. 63 เวลา 16:13 น. 3-2



หากมีคำถามเพิ่มเติม ถามได้นะคะ

น้ามีลูกสองคน แม้พวกเขาเรียนสายวิทย์กันหมด คนโตเรียนวิศวะที่จุฬา ลูกสาวเพิ่งสอบเข้าแพทย์จุฬาปีล่าสุดนี้ น้ากับสามีไม่ได้บังคับพวกเขา อยากให้เขามีความสุขเลือกเอง

เดี๋ยวจะเขียนเล่าชีวิตของคนในบ้าน นั่นคือสามี ผู้จบเสดสาด ธรรมศาสตร์ และเป็นแรงบันดาลใจของลูกทั้งสอง ชีวิตของคุณพ่อคนนี้ลำบากมาแต่เด็ก และฝ่าฟันจนสอบชิงทุน กพ.ไปเรียนจบดอกเตอร์ที่อเมริกา ทำงานสำคัญๆทั้งที่แบงก์ชาติ ตลาดหลักทรัพย์ และกระทรวงคลัง (เหมือนที่หนูสนใจเลย) กว่าจะได้มาถึงจุดนี้

อาจเป็นตัวอย่างที่หนูเรียนรู้ได้ไม่มากก็น้อยค่ะ คอยอ่านต่อนะคะ


0
mrssomsri 16 พ.ค. 63 เวลา 16:42 น. 3-3

อยากให้ฟังบทวิเคราะห์ของ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง เกี่ยวกับ ปัญหาของการบินไทย หนูจะได้เข้าใจวิธีการคิดของนักเสดสาด ธรรมศาสตร์คนหนึ่ง ว่ามองปัญหาด้วยหลักอะไร หนูจะได้เข้าใจอาชีพนี้มากขึ้น

https://youtu.be/277TRQ9mOw0


0

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

at2545 18 พ.ค. 63 เวลา 21:31 น. 3-5

ขอบคุณค่ะ หนูจะรออ่านเรื่องสามีของคุณน้านะคะ หนูเชื่อง่าจะมีอีกหลายคนได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ที่คุณน้ามาแบ่งปันในเด็กดีค่ะ

0
mrssomsri 18 พ.ค. 63 เวลา 23:50 น. 3-6

ขออนุญาตคุณพ่อแล้ว แต่แกเป็นคน low profile จึงยังไม่เห็นด้วยที่จะเล่าเรื่องส่วนตัวของแกในบอร์ดแบบนี้


อย่างที่เล่าคร่าวๆแล้วคือ แกเป็นคนที่เห็นคุณค่าการศึกษาเป็นอย่างมาก ใช้ความเพียรในการเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ทำงานไปเรียนไปตั้งแต่ยังเด็ก เหตุที่อยากจะเล่าให้หนูฟังเพราะ เป็นตัวอย่างของคนที่เคยยากจนแบบติดดิน กำพร้าแต่เล็ก อดมื้อกินมือ แต่กลับสร้างตัวด้วยสติปัญญาและความเพียร จากที่หนึ่งของ เสดสาด ธรรมศาสตร์ กลายเป็นนักเรียนทุนเรียนเมืองนอก เป็นผู้บริหารทั้งภาครัฐบาลและเอกชน เป็นแกนหลักในการสร้างครอบครัว เป็นบันไดให้ลูกทั้งสองไต่ไปจนถึงการศึกษาระดับมหาลัยชั้นนำของปท.


จนถึงวันนี้แกยังใช้ชีวิตสมถะ เรียบง่าย และสอนลูกแบบเดียวกัน ..แกบอกลูกเสมอว่า แกเดินตามรอย ท่าน อจ.ดร.ป๋วย นั่นเอง


ที่น้าอยากเล่า ไม่ใช่เพื่ออวดความเก่งของคนที่บ้าน แต่เพราะจะให้หนูได้รับรู้ว่า ในสังคมนี้ยังมีคนที่ด้อยโอกาสอีกมาก ที่เขาไม่ยอมแพ้ ไม่มัวนั่งตัดพ้อว่า โลกนี้ไม่เป็นธรรม ไม่มัวถามว่า เราจะมีโอกาส โน่นนี่นั่น เหมือนคนอื่นไหม เพราะโอกาสทั้งหมดเกิดจากฝีมือของตัวเรานั่นเอง


ดังนั้นเมื่อหนูตั้งพันธกิจว่าจะทำอะไรแล้ว จะทำพันธกิจสำเร็จหรือไม่ ก็อย่ามัวโทษใครอื่น นอกจากตนเอง เมื่อตระหนักข้อเท็จจริงนี้ได้แล้ว ก็จงอย่าย่อท้อต่ออุปสรรคทุกอย่างที่ถาโถมเข้ามาในชีวิต เสมือนเรือสำเภาที่ต้องฝ่าคลื่นพายุไปให้ถึงฝั่งให้ได้


คุณพ่อสอนลูกทั้งสองคนเสมอว่า "จงอย่าแข่งขันกับคนอื่น แต่จงแข่งขันกับตนเอง เพราะเมื่อลูกชนะตนเองได้แล้ว ลูกก็จะอยู่ที่เส้นชัยเรียบร้อยแล้ว"


0
at2545 12 ก.ค. 63 เวลา 19:56 น. 3-8

หนูอยากถามว่านอกจากสายงานราชการแล้ว ด้านเอกชนมีงานรองรับสาขาเศรษฐศาสตร์เยอะมั่ยคะ

0