Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[ชวยคุย] มีใครเขียนนิยาย แล้ว 'อิน' จัดถึงกับต้องร้องไห้ไปเขียนไปไหมคะ?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


เบื่อๆ + ยังไม่อยากจับนิยายหนึ่งวัน เลยมาชวนคุย 55555

ตามหัวข้อเลยค่ะ ช่วงนี้เราเขียนนิยายไป แล้วพบว่ายิ่งตัวเอง 'อิน' กับเรื่องได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งถ่ายทอดออกมาดีมากเท่านั้น แล้วก็ค่อนข้างสามารถทำให้นักอ่านสัมผัสได้และ 'อิน' ตามเหมือนกันค่ะ

เช่นล่าสุด ซีนปะทะอารมณ์ แบบหน่วง โกรธ ร้องไห้ กดดัน ตอนเขียนนิยายเนี่ยเราบิ๊วอารมณ์ด้วยการเปิดหนังฟังเพลงจนได้ที่ จากนั้นค่อยเริ่มเขียน และพอเขียนไปเราร้องไห้ไปโกรธไปแค้นไปมากเลยค่ะ อินเกิน55555 แต่ผลตอบรับจากนักอ่านก็ดีมาก ภูมิใจมากๆ เลยแอบมาอวดนิดนึง555


เลยมาถามค่ะ ว่าเพื่อน ๆ นักเขียนมีใครเป็นเหมือนเราบ้าง?
มาลองแชร์ประสบการณ์กันนะคะ





ปล. เป็นความโรคจิตของเราเองค่ะ ถ้าเราสามารถทำให้นักอ่านร้องไห้และอินกับนิยายเราได้เนี่ย ดีใจมากเลยค่ะ แบบภูมิใจ555555

Edit คำผิดค่ะ

แสดงความคิดเห็น

>

21 ความคิดเห็น

ซ่านจื่อ 16 พ.ค. 63 เวลา 15:42 น. 1

เราเป็นค่ะ

ตอนพิมพ์น่ะ ฉากเศร้า ซึ้ง ก็น้ำตาซึมเองทุกที

ฉาก ฟินๆ บางทีนึกขึ้นได้ระหว่างกำลังทำงานประจำอยู่ ก็นั่งยิ้มคนเดียว


แต่ตอนอัพลงไปแล้ว รู้สึกขนลุกเกรียวเลยค่ะ มันเงียบยังกะป่าช้า

จนน่าขนพองสยองเกล้า ฮ่าๆๆๆๆ


เลยไม่รู้ว่าคนอ่านจะรู้สึกอินแบบเราไหม

1
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 15:45 น. 1-1

ถ้าเราเขียนแล้วอิน คนอ่านต้องอินแน่นอนค่ะ

เนอะๆๆๆๆ


นี่ก็เคยเขียนซีนดราม่าตอนนั่งรถไฟ จู่ ๆ มันก็เข้ามาในหัว ต้องหยิบมาเขียนค่ะไม่งั้นอาจลืม.... ปรากฏว่าต้องนั่งแบบหันหน้าหาหน้าต่างค่ะ น้ำตาไหล55555 อายมากเลยเหมือนกัน

0
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 15:46 น. 2-1

จริงค่ะ เขียนเสร็จนี่เหมือนโดนสูบพลังงาน เนหื่อยมาก เลยขอหยุดเขียนไปอีกหลายวันเลยละกัน 55555

0
เด็กหญิงจากโลกอดีต 16 พ.ค. 63 เวลา 15:45 น. 3

เราค่ะ ตอนเขียนร้องไห้หลายๆ ฉากเลยค่ะ หน่วง จุก ดราม่าอยู่คนเดียว บางตอนก็หวีดร้องคนเดียว ยิ้มแก้มแทบแตกเหมือนคนบ้า แล้วเรื่องล่าสุดที่เขียน เราเขียนจบก่อนแล้วค่อยลงทีเดียว เลยแบบเหมือนคนบ้ามากๆ รู้สึกอะไรบ้าบออยู่คนเดียวอะ 555


แต่พอเอามาลง ตอนไหนที่เราเขียนแล้วร้องไห้ มีนักอ่านมาร้องไห้เป็นเพื่อนค่ะ เราดีใจมาก เหมือนมันไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่รู้สึกแบบนี้ นิยายเราจะมีฉากที่ตัวละครสูญเสียพ่อ และทะเลาะผิดใจกับแม่ แล้วก็มีตอนที่คืนดีกันด้วย นักอ่านบางคนอ่านแล้วร้องไห้ บอกว่าคิดถึงพ่อแม่ที่เสียไปแล้ว บางคนบอกว่าขอบคุณที่ทำให้เขาได้รู้สึกเหมือนพ่อแม่กลับมาอีกครั้ง เราอ่านแล้วตื้นตันใจมากค่ะ มันเป็นเหมือนรางวัลชิ้นใหญ่ของนักเขียนเลย

1
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 15:48 น. 3-1

จริงค่ะ รู้สึกเหมือนกันเลย 5555

เป็นเหมือนรางวัลชิ้นใหญ่จริง ๆ ค่ะ


คือดีใจที่นักอ่านร้องไห้เพราะอินกับนิยายมากกว่าคำชมอีกค่ะ 55555 (โดนนักอ่านตบหน้า) มันแบบ เหย นี่เราไม่ได้ร้องไห้ฟรีนะ นิยายที่เราเขียนเนี่ยมันให้ใครหลายคนร้องไห้เป็นเพื่อนกันได้อ่ะ รู้สึกชนะมากเลยค่ะ555555

0
A.L. Lee 16 พ.ค. 63 เวลา 15:53 น. 4

มีค่ะ

ล่าสุดก็พิมพ์ไปน้ำตาซึมไป เรารักตัวละครนั้น แต่ด้วยบทมันทำร้ายมาก ตัวละครไม่ได้ร้องไห้นะคะ แต่เราเนี่ยร้องแทน เจ็บแทนตัวละครตัวนั้น //ถึงไม่มีใครเข้าใจแต่แม่เข้าใจหนูนะ


เราเขียนดราม่สลื่นไหลมากนะคะ เหมือนเราเป็นพวกชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว 555

1
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 16:14 น. 4-1

เข้าใจค่ะ ด้วยความผูกพันกับตัวละครเนอะ ถึงแม้จะร้ายแต่ฉันก็รัก เชิงนั้นค่ะ เราคิดเหมือนกันเลยว่าไม่มีใครสุดโต่งโดยไม่มีเหตุผล เช่นเดียวกับตัวละครฝ่ายร้ายในเรื่องที่ก็ไม่ร้ายแต่เกิด เพียงแต่นักเขียนจะหยิบยกเรื่องราวเบื้องหลังความร้ายกาจของตัวละครออกมาโชว์ให้นักอ่านดูไหมนี่สิ


สู้นะคะ กัดฟันทั้งน้ำตา และเขียนต่อไป~

0
ริญญดา 16 พ.ค. 63 เวลา 16:05 น. 5

ฉากเศร้า รันทด ต้องเอาตัวเองไปอยู่กับตัวละคร ต้องสร้างเหตุการณ์ให้กระชากอารมณ์สุดๆ (อารมณ์คนเขียนต้องได้ก่อนค่ะ)


ฉากนี้เลยค่ะ อยากแชร์เพราะเป็นตอนแรกของการเขียนนิยายเรื่องแรกและเรื่องเดียวของเรา กว่าจะเขียนฉากแรกบทแรกในบทบาทนักเขียน เราก็เสียน้ำตาไปเยอะเชียว เพราะต้องสร้างเหตุให้นางเอกตาบอดเพื่อจะได้ดำเนินเรื่องต่อไปได้ ...


“วันนี้พวกเราพากันไปทำบุญวันเกิดที่โรงพยาบาลสงฆ์เมื่อเช้า พ่อมอบรถพยาบาลให้กับโรงพยาบาลแทนลูกมาด้วยนะ แต่วันเกิดลูกคราวหน้าลูกต้องไปทำบุญวันเกิดเองนะคะ”

พงศ์พันธุ์พูดกับลูกราวกับว่าเธอฟังเขาเข้าใจ ถึงแม้ว่าลูกจะไม่ได้โต้ตอบกลับมาได้แต่ก็ทำให้เขาสุขใจที่ได้คุยกับลูกทุกวัน


“พรเดียวที่พ่อขอพระคือขอให้ลูกฟื้นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาคุยกับพ่อเหมือนเดิมนะลูก”

พงศ์พันธุ์จูบลูกเบาๆ ที่หน้าผากเหมือนทุกครั้งที่เขาจะออกจากบ้านไปทำงาน เขา ภรรยาและลูกต้องส่งกันทุกวันด้วยกอดและจูบกัน วันนี้ก็เช่นกันเขาจะไปทำงานที่โรงแรมต่อจากเยี่ยมลูกเขาก็ปฏิบัติกับลูกเช่นเคย เพียงแต่วันนี้เป็นวันสำคัญคือวันเกิดลูกครบยี่สิบปีบริบูรณ์แต่ลูกกลับฉลองวันเกิดอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและหนำซ้ำลูกยังไม่รู้ตัวว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเธอเพราะเธอไม่เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้รับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ได้เลย


หยดน้ำตาของคนเป็นพ่อไหลตกลงบนหน้าลูกสาวอย่างยากที่กลั้นเอาไว้อยู่

“พ่อรักลูกมากที่สุดเลยนะคะ ตื่นขึ้นมาบอกรักพ่อบ้างนะลูก”


คนอื่นๆ มองดูคุณท่านของพวกเขาแอบเช็ดน้ำตาของความเป็นพ่อแล้วแต่ละคนก็พลอยเศร้าไปกับเขาด้วย ประนอมและหนูนาเป็นสองคนที่ไม่สามารถจะกลั้นเสียงสะอื้นไว้ได้


2
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 16:17 น. 5-1

เข้าไปอ่านมาแล้วค่ะ เปิดมาได้ดำดิ่งจริง ๆ ค่ะ ดราม่ามากกก อ่านแล้วเข้าใจได้เลยค่ะว่าคุณริญอินกับบทนี้จริงๆ และก็ชื่นชมมากเลยนะคะที่พอตัดสินใจเขียนนิยายเรื่องแรกแล้ว ยังเลือกการเปิดเรื่องมาด้วยคัทซีนดราม่าเรียกน้ำตาอีก แข็งแกร่งมากเลยค่ะ


เราเนี่ยนิยายเรื่องแรกๆที่เขียนแบบแนวเบาสมองทั้งนั้นไม่กล้าดึงดราม่าเลยค่ะ ต้องรอผ่านไปเกือบสิบปี มีประสบการณ์มากพอถึงกล้าเขียนฉากเรียกน้ำตาค่ะ นับถือใจเลยค่ะ


สู้ๆๆๆๆน้าาา รีไรท์นิยายใกล้จะเสร็จแล้วรึยังค้า?

0
ริญญดา 16 พ.ค. 63 เวลา 16:44 น. 5-2

ไม่ได้คิดอะไรมากเลยค่ะ ไม่ได้อยากจะเป็นนักเขียนมาก่อนเลย แต่ว่าอยากจะเอาความรู้เรื่องคนพิการมาบอกให้คนทั่วไปทราบเท่านั้นเลยจริงๆ ค่ะ และเรื่องราวนิยายของเรามันก็เหมือนเป็นการเล่าเรื่องเสียมากกว่าค่ะ แต่เพิ่มบทพูดและอื่นๆ เพื่อให้เนียนพอจะเป็นนิยายกับเขาได้บ้าง


รีไรท์ไปสองรอบแล้วค่ะ แต่รอบสองปรับไปแค่ 15-20 % แต่รอบนี้ปรับมากกว่า 50-60 % เพราะอยากทำให้ดูเป็นนิยายรักมากขึ้นหน่อยค่ะ


ดีใจที่คุณแวะไปดูนะคะ จริงๆ ก็ไม่ได้รู้เรื่องการเขียนนิยายเลย รู้แต่ว่าต้องสร้างเรื่องให้ไปต่อได้คิดไปวันต่อวันไม่รู้จักพล๊อตค่ะ 555+ ไ่ม่รู้ว่าตัวเองไปอยู่ไหนมา แต่ความตั้งใจสูงมากที่จะเอาเรื่องคนพิการมาเขียน บังเอิญว่าโชคดีที่เรื่องไม่ออกทะเลและนักอ่านให้กำลังใจคนเขียนมาเรื่อยๆ เลยเขียนจบได้สมบูรณ์แบบ


รีไรท์คงใช้เวลาอีกสักเดือนมังคะ พอดีมีนักวิจารณ์ท่านหนึ่งเขาแวะกลับมาดูเหมือนจะช่วยดูให้อีกเขาน่ารักมากเลย เราไม่เคยรู้จักคนเหล่านี้แต่ทุกคนกรุณาเรามากๆ อาจจะเพราะเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาแปลกประหลาดทำให้เขาเข้ามาช่วยวิจารณ์ ทั้งที่เราก็กลัวว่าเขาจะไม่อ่านให้เนื่องจากตัวเอกเป็นผู้หญิงสองคนซึ่งจะถูกตีตกว่าเป็นนิยายขายฉาก


อยากให้เรื่องจบก่อนเปิดเทอม คุณครูไม่มีเวลาจะเขียนแล้วค่ะ 555+

ช่วงนี้ก็ต้องเตรียมสอนยกใหญ่ รูปแบบการสอนต้องเปลี่ยนไปเยอะมาก โควิดสร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกใบนี้ที่อาจทำให้หลายอย่างพัฒนาขึ้นกว่าเดิมๆ ค่ะ


0
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 16:18 น. 6-1

ขอบคุณมากนะค้าาาา ฮิๆๆ ต้องขอบคุณนักอ่านมากกว่าที่ตอบรับและคอยผลักดันให้เราพยายามเขียนจนมาถึงจุดนี้ได้

0
16 พ.ค. 63 เวลา 16:36 น. 7

เป็นอยู่แล้วค่ะ แบบสุดๆ ดราม่าก็มาเต็ม น้ำตาก็ตีตื้นขึ้นมา เมื่อเขียนฉากรุนแรง (ฉากขืนใจ) อย่าว่ากันนะ แต่ไม่สำเร็จ ดาร์กสุดที่เคยเขียนมา เรื่องนั้น จบไปแล้ว จบแบบดีไม่มีเสียหาย

เพิ่มเติม:นักอ่านเราอินตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ ถึงขนาดนั้นว่าตัวร้ายเลยนะ อิอิ


2
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 19:39 น. 7-1

โหว ถ้าเราต้องไปเขียนฉากนี้บอกเลยค่ะว่าจิตตกแน่ๆค่ะ ดีไม่ดีน่าจะนอนไม่หลับแหงม

0
16 พ.ค. 63 เวลา 20:26 น. 7-2

แน่นอนค่ะ เราเองก็เกือบดึงตัวเองออกมาแทบไม่ทันเหมือนกัน ทั้งโกรธแค้น และชังน้ำหน้าของชายผู้นั้นไม่ได้ แต่ก็จบด้วยดี คือตัวพระเอกช่วยนางเอกได้ทัน ก่อนที่ตัวร้ายจะจับนางเอกไปอีกครั้ง

0
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 19:40 น. 8-1

โธ่ไม่น่าเลย แปลว่าตัวละครที่ชอบถูกตัดข้ามไวเกินไปใช่ไหมคะ

0
JAMBENZ 16 พ.ค. 63 เวลา 17:17 น. 9

เป็นค่ะ ฉากดราม่าส่วนใหญ่เราเอามาจากเรื่องจริงของตัวเองเลยอินมากกว่าปกติ ร้องไห้ไปแต่งไป

1
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 19:41 น. 9-1

เข้าใจดีเลยค่ะ ยิ่งถ้ามาจากประสบการณ์หรือมุมมองจริงนี่ยิ่งอินเพราะรู้สึกเรื่องนี้เป็นเรื่องของเราสินะคะ

0
Me'Gan 16 พ.ค. 63 เวลา 17:32 น. 10

เคยค่ะ แต่งฉากตัวละครโดนยานอนหลับค่ะ แล้วอินจัดจนตื่นอีกที เช้าเลย ฮ่าๆ

3
ปากกาเรืองแสง 16 พ.ค. 63 เวลา 17:48 น. 11

แน่นอนว่าทุกคนต้องเป็นค่ะ(รวมถึงเราด้วย) เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เขียนจะมีอารมณ์ร่วมไปกับสิ่งที่เขียน เพราะเราเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราว แน่นอนว่าจินตนาการหรือภาพในหัวจะชัดเจน

1
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 19:44 น. 11-1

ได้ยินมาหลายครั้งเหมือนกันค่ะว่าส่วนใหญ่คนที่หันมาจับการเขียนเป็นทั้งงานอดิเรกและเป็นอาชีพก็จะเป็นคนสัมผัสเรื่องราวต่างๆได้ละเอียดอ่อนสินะคะ ไม่แปลใจว่าจะสามารถนำตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมหรืออินกับตัวละครและเรื่องราวได้มากกว่าปกติสิเนอะ

0
Jaruad_prayfah 16 พ.ค. 63 เวลา 18:39 น. 13

เราเป็นค่ะ ช่วงที่เขียนฉากพี่ชายเห็นน้องชายตัวเองที่ไม่หายใจแล้ว ร้องไห้ ตาบวม สรุปคือนอนไม่หลับเลยค่ะคืนนั้นเพราะหายใจไม่ออก5555 เราชอบเอาตัวเองไปอยู่กับตัวละครเอาให้แบบกระชากความรู้สึกให้ดิ่งมากที่สุด ถลำลึกแห่งความเศร้าสรุปแล้วอินอยู่คนเดียว ;_;


1
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 19:46 น. 13-1

เข้าใจมากๆเลยค่ะ ฉากดราม่าที่เราเขียนก็เขียนเกี่ยวกับการตายหลายๆรูปแบบ และเขียนถึงความรู้สึกของคนที่ตายและคนที่ถูกทิ้ง ตอนเขียนนี่ก็เรียกได้ว่าใจสลายไปพร้อมๆกับตัวละครทีเดียวค่ะ

0
Asmarah 16 พ.ค. 63 เวลา 19:49 น. 14

กำลังอินอยู่กับการเขียนตอนล่าสุดนี่เลยค่ะ ตอนน้ำตาเสือ ในเรื่องเมียตัวน้อยของนายหัวเล็ก เป็นฉากที่ต้องเขียนให้ผู้ชายเข้มแข็งคนหนึ่งต้องร้องให้ แอบหลบมาเขียนในห้องคนเดียว สามีเดินเข้ามาเจอนางตกใจมาก ว่าเมียนั่งร้องให้ทำไม วันนี้เลยต้องยอมสารภาพ ว่าแอบเขียนนิยายลงไปได้หลายตอนแล้วค่ะ

2
อรัณย์ Arunne 16 พ.ค. 63 เวลา 19:59 น. 14-1

55555 เข้าใจเลยค่ะ เวลาเขียนพวกนี้ต้องขังตัวเองไว้ในห้องคนเดียว เดี๋ยวคนอื่นจะมองว่าเราบ้า555555 อีกอย่างหนึ่งเราว่าฉากที่เขียนยากคือการร้องไห้ของผู้ชายคนหนึ่งแหละค่ะ เพราะโดยส่วนตัวแล้วผู้ชายรอบตัวเราที่เคยพบเจอ ครอบครัว เพื่อน ทุกคนไม่ชอบการร้องไห้ค่ะ เหมือนมันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่กดดันว่าผชไม่ควรร้องไห้ ซึ่งเสียเปรียบผญ มากเลยนะคะ และการที่เขาคนนั้นจะร้องไห้ออกมา โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น มันต้องเป็นอะไรที่บีบหัวใจมากๆแน่ๆเลยค่ะ


ถึงจะว่ายาก แต่ในอนาคตก็อยากจะเขียนให้ตัวพระเอก+ตัวเอกชายในเรื่องของเราเป็นฝ่ายร้องไห้บ้าง ให้นางเอกเป็นคนปลอบค่ะ 55555

0
Asmarah 16 พ.ค. 63 เวลา 20:12 น. 14-2

กำลังจะลงในตอนต่อไปเลยค่ะ ให้นางเอกเป็นคนปลอบ..555

0
ระเบียงแคคตัส 16 พ.ค. 63 เวลา 21:24 น. 15

แต่งให้ลุงตัวประกอบคนหนึ่งตาย สะเทือนใจเบา ๆ พอบทบรรยายย่อหน้าต่อมาเขื่อนแตก

ไม่อยากคิดเลย ถ้านิยายต้องมีตัวเอกตายจะขนาดไหน

0
17 พ.ค. 63 เวลา 08:54 น. 18

เราก็ร้องครับ แต่ไม่ต้องเปิดหนังเรียกอารมณ์นะครับ เขียน ๆ ไป น้ำตาไหลพราก ไหลแบบความรู้สึกอัดโศกาจนเขียนต่อไม่ได้เลยครับ

0
Zzz 19 พ.ค. 63 เวลา 19:40 น. 20

การเขียนนิยายเหมือนการส่งmassegeลงไปในข้อความของเรา เหมือนฝากฝังความรู้สึกเราเพื่อถ่ายทอดให้คนอ่านรับรู้ ทุกครั้งที่เขียนฉากเศร้าเราเลยอินจนร้องไห้ตลอดค่ะ แล้วก็ได้รับฟีคแบคจากคนอ่านหลายๆคนว่าเขาก็อินจนร้องไห้เหมือนกัน มันคอมพลีทสุดๆไปเลยค่ะ

1