Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวสอบเข้านิติมธ.แต่ละรอบ+เทคนิคอ่านหนังสือสอบฉบับคนไม่มีเวลา

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
สวัสดีค่ะ ขออนุญาตแนะนำตัวก่อนเลยเนาะ เราเป็นdek63 เรียนสายวิทย์คณิตที่เบนสายมาสอบนิติศาสตร์
ของมธ.ค่ะ ไหน ๆก็สอบติดแล้วและก็เคยบนในใจไว้เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ก่อนจะลืมเสียก่อน เผื่อเป็นแนวทางในการเตรียมตัวให้คนที่สนใจนะคะ
                  หลังจากที่อยู่มาทุกรอบแล้วในที่สุดเราก็ติดรอบ4 หรือรอบรับกลางร่วมกัน ก็เลยอยากจะมารีวิวแต่ละรอบของนิติมธ.ว่าเป็นยังไงบ้าง มีกฎเกณฑ์ยังไง ใช้คะแนนอะไรบ้างนะคะ
 
               
       เริ่มจากรอบแรก หรือรอบ portfolio ก่อนเลย รอบนี้จะสมัครช่วงธันวาคมค่ะ ของคณะนิติศาสตร์นี่จะมีโครงการ ความสามารถกีฬาค่ะ รับทั้งหมด10คน อันนี้เราไม่ได้สมัครเลยไม่ค่อยรู้ขั้นตอนเท่าไหร่ แต่เดี๋ยวจะแปะลิงค์ไว้ให้นะคะ
รายละเอียดตามนี้เลยค่ะ https://www.tuadmissions.in.th/img/2019120209294745.pdf
 
   

                  ต่อไปเลยก็คือรอบ2 หรือรอบโควตานั่นเอง

                รอบ 2 ของนิติมธนี่ก็มีหลายโครงการอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ละโครงการก็จะรับจำนวนคนต่างกันไป ซึ่งผู้สมัครจะสามารถเลือกสมัครได้เพียง 1 โครงการเท่านั้น โดยส่วนตัวของเราสมัครโครงการจิตอาสาค่ะเพราะโควตาเรียนดีไม่ถึงจังหวัดเรา เศร้ามากแง

               โครงการจิตอาสานี่จะเน้นกิจกรรมจิตอาสาที่จัดโดยองค์กรสะส่วนใหญ่ เช่นกิจกรรมที่มีการรับรองโดยจังหวัดอะไรประมาณนี้ จิตอาสาผ้าพันคอเหลือง ๆก็ใช้ได้เช่นกันนะคะ โดยการยื่นผลงานจะยื่นทั้งหมด 7 กิจกรรม เขียนรายละเอียดและแนบรูปภาพไปในแบบฟอร์มที่ทางมหาลัยลงไว้ และก็เลือกมา 1 โครงการเพื่อรีพรีเซนต์ตัวเองว่าเราทำอะไรในกิจกรรมนี้บ้าง กิจกรรมนี้มีประโยชน์ยังไง ส่งผลอะไรต่อสังคมประเทศชาติบ้าง แล้วก็อัดเป็นคลิปลงไว้ในกูเกิลไดร์ฟเพื่อให้กรรมการเข้ามาดูได้ค่ะ เมื่อรวบรวมกิจกรรมครบแล้วก็จะต้องมีการให้บุคลากรในโรงเรียนเขียนรับรองให้ด้วยนะคะ ถ้าผ่านการคัดเลือกแล้วก็จะมีการสัมภาษณ์ต่อไปอีกค่ะ  ซึ่งตอนแรกในเอกสารระบุว่าจะต้องไปเข้าค่ายเพื่อคัดเลือกอีก แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิดเลยเปลี่ยนเป็นสัมภาษณ์แทนค่ะ
                คุณสมบัติอื่นๆเพิ่มเติมนะคะ
1.กำลังเรียนหรือเรียนจบม.6 เกรดเฉลี่ย 5 เทอมไม่ต่ำกว่า 3.00 หรือจะใช้วุฒิต่างประเทศหรือสอบเทียบยื่นก็ได้เช่นกัน เช่นวุฒิ GED, IB, NCEA เป็นต้น
2.ONET ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ35 หรือ 175 คะแนน
3.GAT ไม่เกิน2ปีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 หรือ 150คะแนน

ค่าสมัคร 200 บาท สมัครผ่านทางเว็บ www.tuadmissionlaw.com
รับสมัครช่วงกุมภาพันธ์ ประกาศผลประมาณปลายมีนาค่ะ
 
ซึ่งโครงการจิตอาสาที่รังสิตรับ 5คน ลำปาง 2คนค่ะ แล้วก็มีปรับรับคนเพิ่มทีหลัง จำไม่ได้ว่ารับเท่าไหร่ค่ะ ซึ่งนิติโครงการนี้คนสมัครค่อนข้างเยอะ ถ้าจำไม่ผิดประมาณ 150กว่าคนได้  อัตราการแข่งขันสูงมากเลยทีเดียว
                   พูดถึงกิจกรรมที่เราใช้ยื่น กิจกรรมของเราส่วนมากเป็นกิจกรรมที่ทำกับโรงเรียนน่ะค่ะ แล้วก็มีกิจกรรมใหญ่ ๆระดับจังหวัดแค่กิจกรรมเดียวเอง ผลงานไม่ปังเท่าไหร่ก็เลยไม่ติด แหะๆ แต่เราไม่ได้ซีเรียสค่ะส่งเล่นๆ ถ้าใครสนใจแนะนำให้เก็บผลงานกิจกรรมไว้เยอะ ๆนะคะ
อย่าลืมถ่ายรูปทุกครั้งที่ร่วมกิจกรรมด้วยนะคะ อันนี้สำคัญมาก!!
อ้างอิง : https://www.tuadmissions.in.th/img/2020020409004830.pdf
 
พูดถึงโครงการอื่นกันบ้างดีกว่า
โครงการนักเรียนเรียนดีภาคกลาง ได้แก่จังหวัดปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี นครนายก สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง และลพบุรีค่ะ
โครงการนี้นิติศาสตร์รับ 4 คน ค่าสมัคร200 ประกาศช่วงเมษาเหมือนเดิม โครงการนี้ก็เป็นอีกโครงการที่คนสมัครเยอะค่ะ
คุณสมบัติ
1. GPAX 5 เทอมไม่ต่ำกว่า 3.00
2. ONET ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25
3. GAT ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 25
อ้างอิง : https://www.tuadmissions.in.th/img/2020012114493674.pdf
และก็โครงการอื่นๆ เราจะแปะรายละเอียดไว้ให้นะคะ
โครงการนักศึกษาพิการ https://www.tuadmissions.in.th/img/2020012909384055.pdf
โครงการรับนักศึกษาผู้มีความสามารถดีเด่นด้านกีฬา https://www.tuadmissions.in.th/img/2020010610050137.pdf
โครงการนักศึกษาชายแดนภาคใต้ https://www.tuadmissions.in.th/img/2020010614222310.pdf
 
 
 
     ต่อไปเลยก็คือรอบ3 รับตรงร่วมกัน รอบนี้ประกาศช่วงพฤษภาต้นเดือนค่ะ

รอบนี้เป็นรอบที่รับเยอะที่สุดเลยค่ะ รับประมาณ250-300คนได้ ลำปางจะประมาณ70กว่าคน
รอบนี้เริ่มเข้าระบบของ mytcas แล้ว แต่ละคณะจะใช้เกณฑ์รับต่างกัน ซึ่งคณะนิติจะใช้คะแนน GAT 30% และคะแนนวิชาเฉพาะ 70% ค่ะ

                   ซึ่งเราจะต้องสมัครสอบข้อเขียนวิชาเฉพาะกับทางมธ.ก่อนนะคะ ค่าสมัครสอบประมาณ 300 บาทค่ะ เสร็จก็จะมาสอบที่มหาวิทยาลัย มีให้เลือกสอบทั้งสองศูนย์ทั้งรังสิตและลำปาง ซึ่งไม่ว่าจะสอบที่ไหนก็นำคะแนนมาสมัครได้เช่นกัน ไม่จำเป็นว่าสอบรังสิตจะต้องลงเรียนที่รังสิต เลือกลงที่ลำปางไม่ได้ หรือสอบลำปางจะต้องเรียนที่ลำปาง ลงรังสิตไม่ได้นะคะ ไม่เกี่ยวกัน  เมื่อสอบเสร็จแล้วจะประกาศในเว็บ tuadmission เหมือนเดิม แล้วระบบจะดึงคะแนนไปใช้อัตโนมัติค่ะ

                   พูดถึงตัวข้อสอบวิชาเฉพาะหลายคนคงพอทราบแนวมาบ้างแล้ว แต่ก่อนตัวข้อสอบจะมี2พาร์ททั้งแบบชอยส์และข้อเขียนถูกไหมคะ แต่ปีนี้มีการปรับรูปแบบข้อสอบค่ะ นำทั้งสองพาร์ทมายำรวมกันหมดเลย กลายเป็นข้อสอบที่มี 3 พาร์ทแทน ประกอบไปด้วยพาร์ทตรรกะ พาร์ทจับใจความ พาร์ทการใช้เหตุผลทางกฎหมาย ทั้งหมด70ข้อ เป็นชอยส์ทั้งหมด ซึ่งง่ายต่อการตรวจมากกว่าการเขียนเรียงความแบบแต่ก่อน ให้เวลาสอบทั้งหมด3ชั่วโมงซึ่งแน่นอนว่าไม่พอค่ะ55555

                   ในส่วนพาร์ทตรรกะนั้น ในตัวอย่างข้อสอบที่มธให้มาจะเป็นรูปเรขาคณิตแล้วให้ตอบว่ารูปต่อไปจะเป็นรูปอะไร ซึ่งเราก็ตั้งใจกะจะเก็บคะแนนพาร์ทนี้เต็มที่เลย สรุปโดนแกงค่ะ55555 ในข้อสอบจะเป็นโจทย์ยาวๆ3-4บรรทัด เป็นสถานการณ์สมมติมาให้แล้วถามว่าตั้งอยู่ในสมมติฐานอะไรประมาณนี้ ค่อนข้างยากเลยเพราะอ่านโจทย์ไม่เข้าใจ แหะ
 ยกตัวอย่างเท่าที่เราจำได้นะคะ
 ทีมฟุตบอลของรร.หนึ่งได้สร้างชื่อเสียงและรางวัลให้กับโรงเรียนมากมาย โดยได้รับเงินสนับสนุนจากสมาคมศิษย์เก่า แต่ปีที่ผ่านมาทีมทำรางวัลได้ไม่มาก จึงคาดว่าจะได้เงินสนับสนุนน้อยลง
คำถาม: ตั้งอยู่บนสมมติฐานอะไร
 
                  ต่อไปพาร์ทจับใจความ พาร์ทนี้คล้ายก็ง่าย ๆ คล้ายข้อสอบภาษาไทยมัธยมนั่นแหละค่ะ แต่จะต่างตรงที่บทความให้มายาวมากกกกกกกก ยาวแบบสองหน้าเอสี่คงหยุดใจนี้บ่อยู่ 1บทความให้ตอบ5ข้อ คำถามจะเป็นลักษณะแบบย่อหน้าที่เท่านี้กล่าวถึงอะไร บทความนี้ต้องการสื่ออะไรประมาณนี้ จำไม่ได้แล้วว่าให้มากี่บทความแต่มากกว่า2แน่นอน
                ส่วนสุดท้ายคือการใช้เหตุผลทางกฎหมาย พาร์ทนี้จะให้กฎหมายที่แต่งขึ้นมาเอง แล้วสมมติสถานการณ์มาให้ เช่น อันนี้เราสมมติมั่ว ๆเป็นตัวอย่างให้นะคะ
หลักกฎหมาย: การบุกรุกคือการเข้าบ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต
คำถาม บุคคลใดต่อไปนี้มีความผิดฐานบุกรุก
ประมาณนี้ค่ะ ถึงแม้ชื่อพาร์ทจะเป็นการใช้กฎหมาย แต่ไม่จำเป็นต้องจำกฎหมายจริง ๆมาเลยแม้แต่มาตราเดียวค่ะ เพราะในข้อสอบเป็นกฎหมายแต่งเองทั้งหมด อาจจะคล้ายกฎหมายจริงบ้างแต่ก็ต้องยึดกฎหมายในข้อสอบนี้ในการตอบนะคะ!!
 
                 สำหรับเราเราว่าข้อสอบไม่ยากค่ะ แต่เราได้คะแนนค่อนข้างน้อยไปหน่อยเพราะว่าไม่มีเวลาได้คิดเลย อ่านโจทย์ต้องตอบทันทีเพราะว่าข้อสอบเยอะและโจทย์ยาวมาก ของเราผ่านไป 2 ชั่วโมงยังทำได้แทบไม่ถึงครึ่งเลยค่ะ ทำเสร็จอยากตรวจทานคือฝันไปเลย ฝนทันก็บุญแล้วค่ะนาทีนั้น หวังว่าปีต่อ ๆไปตัวข้อสอบจะปรับปรุงให้เหมาะสมกับเวลามากกว่านี้นะคะ
 
ข้อสอบจำเป็นต้องเรียนพิเศษไหม? สำหรับเราเราว่าไม่จำเป็นค่ะ ออกจะสิ้นเปลืองด้วยซ้ำ ของเราเราเรียนกับสถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งนี่แหละค่ะ ที่มีหนังสือขายเยอะ ๆ นึกออกใช่ไหม นี่รู้สึกไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ค่ะพี่เค้าสอนช้า แถมเราเรียนเป็นคอร์สออนไลน์ด้วยเลยไม่รู้เรื่องไปกันใหญ่ แต่ก็พอทำให้รู้แนวทางข้อสอบบ้างก็เลยโอเคอยู่
               ถ้าอยากจะฝึกจริง ๆลองหาข้อสอบมาทำเยอะ ๆก็พอค่ะ จะได้เป็นการฝึกไปในตัวด้วยเลย พวกข้อสอบนี่หาซื้อได้ตามเน็ตทั่วไปเลย ตามแท็กขายหนังสือในทวิตหรือตามร้านหนังสือทั่วไปก็ได้  แต่แนะนำให้วิเคราะห์โจทย์มากกว่าท่องจำนะคะ  หรือจะพวกบทความเอามาหัดย่อจับใจความดูแค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้วค่ะ
 
ต้องได้คะแนนประมาณเท่าไหร่ถึงจะติดรอบนี้? รอบนี้คะแนนเต็ม300นะคะ ข้อเขียนคะแนนเต็ม210 แล้วจะนำทั้งหมดทำให้เป็นเต็ม100อีกที ปีนี้ 2563 คะแนนต่ำสุดรังสิตอยู่ที่72 ถ้าสมมติให้แกทได้250คะแนน หารแล้วจะได้25คะแนนเต็ม100 เท่ากับว่าคะแนนวิชาเฉพาะเราต้องทำให้ได้มากกว่า 141คะแนนเต็ม210 หรือมากกว่า 47คะแนนเต็ม100 ของเราอย่างที่บอกค่ะว่าคะแนนวิชาเฉพาะน้อย ขาดไป2-3คะแนนก็เกือบติดแล้ว เสียดายมาก ๆ

!!!รอบนี้สมัครได้ทั้งหมด 6 อันดับค่ะ ค่าสมัครอันดับละ100 + 50บาทค่าส่วนกลาง กล่าวคือถ้าเราสมัคร 6 อันดับครบก็จะเสีย 650 นั่นเอง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสมัครครบหรอกนะคะ ของเราเลือกไปแค่4อันดับเองค่ะเพราะเปลืองเงิน
***รอบนี้ติดแล้วติดเลยไม่สัมภาษณ์****
 
 
          รอบ4 รับกลางร่วมกัน รอบนี้ประกาศพฤษภาปลายเดือนค่ะ รังสิตรับ63รับเพิ่มเป็น73 คน ลำปางรับ33คน
                รอบนี้จะใช้เกณฑ์ของทปอ.เป็นหลักค่ะ อยู่ที่ว่าคณะจะเลือกเกณฑ์กลุ่มไหน ของเราใช้ pat1 ยื่นค่ะ ก็คือเกณฑ์ 9.1 พื้นฐานวิทยาศาสตร์นั่นเอง จะเป็น GPAX20% (6เทอม) PAT120% GAT30% ONET30%
ส่วนของมช.จะใช้เกณฑ์ 9.2.1 พื้นฐานศิลปศาสตร์ รูปแบบที่ 1 จะเป็น GPAX20% (6เทอม) ONET30% GAT50%
แน่นอนว่าเกณฑ์ต่างคะแนนก็ต่าง ของเราคะแนนมช.เยอะกว่ามธ.อีกค่ะ555 แต่ในที่สุดเราก็ติดมธ.อย่างที่ตั้งใจไว้แล้ว เย้
**ของรอบนี้สามารถสมัครได้สูงสุด 4 อันดับนั้น ค่าสมัครสาขาละ100+50เหมือนเดิมเลยค่ะ
รอบนี้ติดแล้วก็ไม่มีสัมภาษณ์เหมือนกันค่ะ มีแค่ให้ยื่นเอกสารยืนยันเพิ่มนิดหน่อยเท่านั้นเอง
 
เรียกได้ว่ารอจนท้อกันเลยทีเดียวกว่าจะสมหวังอย่างที่ตั้งใจไว้ พอสำเร็จแล้วมันคุ้มค่ามากเลยนะคะ
               
                    ต่อไปจะเป็นเทคนิคการอ่านหนังสือพวกคะแนนต่าง ๆ ที่เราใช้ยื่นในรอบ 4นะคะ สำหรับเราอย่างที่บอกว่าเราเรียนสายวิทย์ค่ะ งานเยอะมากๆๆๆๆๆ มากจนไม่มีเวลาอ่านหนังสืออะไรทั้งนั้น เพราะแค่อ่านเตรียมสอบที่โรงเรียนก็แทบตายแล้วค่ะ ซึ่งถ้าเราจะเทตรงนั้นมาอ่านหนังสือก็ไม่คุ้มค่ะ เพราะเราต้องคงระดับเกรดเอาไว้ด้วย เกรดเนี่ยช่วยได้เยอะเลยนะคะในรอบ4ที่เราติด เพราะคะแนนอันอื่นเราก็ไม่ได้เยอะอะไรขนาดนั้น
                   หลังจากผ่านมรสุมสอบของที่โรงเรียนไป รู้ตัวอีกทีเราก็มีเวลาอ่านหนังสือทั้งหมดแค่เดือนเดียวเองค่ะ ถึงแม้เวลาจะน้อยแต่คะแนนก็น่าพอใจพอสมควร เลยอยากจะมาแชร์เป็นประสบการณ์ให้ทุกคนค่ะ
               
               1.ริ่มจากการวางแผนอ่านหนังสือก่อนเลย ก่อนสอบสทศ.จะลง test blueprint ไว้ในเว็บ ทุกคนทราบกันเนอะ -เจ้านี่แหละค่ะที่ช่วยให้การวางแผนอ่านหนังสือง่ายขึ้น ในวิชาที่เราต้องสอบเราจะจดไว้ว่าออกอะไรบ้าง เรื่องไหนคะแนนเยอะคะแนนน้อย ออกแนวยังไงบ้าง เมื่อเราทราบจำนวนเรื่องที่ต้องอ่านแล้วเราก็จะจัดสรรเวลาได้ดียิ่งขึ้น
                 2. เริ่มอ่านหนังสือจากเรื่องที่คะแนนเยอะที่สุดไปน้อยที่สุด เพราะเวลาคนเราอ่านหนังสือแรก ๆจะมีสมาธิมากกว่าหลังจากอ่านไปนาน ๆ ซึ่งหมายความว่าถ้าเราอ่านไม่ไหวหรืออ่านไม่ทันจนอยากจะเทก็สามารถทำได้ เพราะคะแนนที่เราเทไม่ได้เยอะเท่าไหร่ ยังไงก็รักษาคะแนนส่วนมากไว้ได้อยู่นั่นเอง
                 3. ทำข้อสอบเก่า การทำข้อสอบจะทำให้เรารู้ว่าเรายังไม่เข้าใจเรื่องไหน  เข้าใจมากน้อยแค่ไหน และทำให้เราสามารถไปอ่านเพิ่มเติมในจุดที่เราบกพร่องได้นั่นเอง
 
ทั้ง 3 ข้อนี้คือทริคหลักๆของเราเลยในการอ่านหนังสือในเวลาไม่ถึงเดือนให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่วนใหญ่ก็ได้ผลนะคะ สิ่งสำคัญเลยคือต้องตั้งใจเรียนห้องให้มากที่สุดค่ะ แล้วเราจะไม่ต้องอ่านหนังสือเพิ่มให้เยอะแยะเลย
หนังสือที่ใช้อ่านสามารถเป็นเล่มไหนก็ได้ที่ชอบเลย เป็นไปได้ก็อ่านเตรียมตัวไปเรื่อย ๆ อย่าหาทำเหมือนเราเลยนะคะ เหนื่อยมากค่ะ55555
 
 
สรุปวิชาที่ต้องสมัครสอบเพื่อใช้ยื่นของมธ.นะคะ
1. GAT ค่าสมัคร 140  บาท
2. ONET ไม่เสีย
3. PAT1/7 ค่าสมัคร 140 บาทต่อ1แพท
4. วิชาเฉพาะของมธ. ค่าสมัคร 300 บาท
 
                สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณทุกคนที่อ่านกระทู้แสนยาว ๆอันนี้มาจนถึงตรงนี้นะคะ เราตั้งใจเขียนมากเพราะอยากให้เป็นแนวทางให้น้อง ๆหรือคนที่สนใจจริง ๆ เพราะตอนของเราสับสนมาก ต้องควานหาข้อมูลเองทุกอย่างเลย
                ยังไงก็ขอให้ทุกคนโชคดี ถ้าพยายามแล้วมีความตั้งใจแล้วยังไงโชคดีก็อยู่ข้างคุณแน่นอนครับ ไม่ว่ามันจะเหนื่อยจะท้อยังไงก็ขอให้สู้จนถึงที่สุด เพราะความสำเร็จมันคุ้มค่าเหนื่อยมาก ๆเลยค่ะ
 
สู้ ๆนะคะ
 
 

แสดงความคิดเห็น

>

4 ความคิดเห็น

อยากติด นิติ มธ. 22 มิ.ย. 63 เวลา 01:12 น. 1

พพอมีหนังสือการใช้เหตุผลทางกฎหมายในการสอบตรงแนะนำมั้ยคะ


ขอบคุณที่รีวิวนะคะ แล้วก็ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ

0
anize 20 ก.ย. 63 เวลา 11:14 น. 2-1

ของเราเรียนพี่ผู้ชายค่ะ สถาบันดังๆจะมีอยู่2ที่ถ้าเคยเห็น อันนี้เราเรียนแบบออนไลน์นะคะเลยคิดว่าไม่ค่อยเวิร์ค แต่พี่เค้ามีสอนสดอยู่ที่พญาไท คิดว่าน่าจะสอนคนละแบบ เพราะคนไปเรียนสดก็ติดกันเยอะมากๆเลย อีกสถาบันเป็นพี่ผู้หญิงสอน อันนี้เพื่อนเราเรียนค่ะของที่นี่มีข้อสอบอะไรให้เยอะกว่า แถมมีสรุปเนื้อหาปี1ให้ด้วย แต่ราคาก็ต่างกันอยู่ค่ะ

0