Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

หาตัวช่วยบำรุงสมอง กินวิตามินอะไรดี??

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
 อยากหาตัวช่วยบำรุงสมอง กินวิตามินอะไรดี??

คำถามนี้เจอบ่อยมาก เราก็คนนึงแหละ บางคนก็แนะนำวิตามินบี บางคนก็แนะนำน้ำมันปลาที่มีดีเอชเอ จนสับสนไม่รู้จะเลือกอันไหน งงในงง #ยืนงงในดงวิตามิน 555555 แต่ช้าก่อน อย่าค่ะ! อย่าเพิ่งงงเพราะจะบอกว่ามันไม่ได้มีแค่ 2 ตัวนี้นะที่ช่วยบำรุงสมองได้ แต่! ความรู้ใหม่จ้า ยังมีเลซิตินอีกตัวนึงด้วย

วันนี้ใครยังไม่รู้จะเลือกกินแบบไหนดี งั้นเรามาทำความรู้จักกับวิตามินทั้ง 3 ตัวนี้กันก่อนดีกว่า โดยกระทู้นี้เราได้รวบรวมข้อมูลมาซึ่งจะบอกถึงปริมาณที่ควรกิน และแหล่งอาหารต่างๆ และมีทางเลือกเสริมสำหรับคนที่ต้องการความสะดวก ไปค่ะ ลุยยยย

ขอเริ่มที่เลซิตินกันก่อนเลยจ้า จากผลงานการวิจัยต่าง ๆ พบว่าเลซิตินเป็นสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายอย่างมาก ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบประสาท บำรุงสมอง ช่วยเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ จดจำ ช่วยป้องกันละลายนิ่วในถุงน้ำดี บำรุงตับ ลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล ภาวะหลอดเลือดอุดตันและโรคหัวใจ

อย่างว่าค่ะสภาพสังคมในปัจจุบันคนส่วนใหญ่เกิดความเครียดสูง ทำให้เกิดอาการหลงลืม หงุดหงิด นอนไม่หลับ และอารมณ์เสียง่ายขึ้นมากๆๆ ซึ่งหากปล่อยไว้นาน ๆ อาจเป็นอาการเริ่มต้นของโรคเส้นประสาทเสื่อมได้ อาการพวกนี้สามารถป้องกันได้โดยการรับประทานเลซิติน
โครงสร้างของเลซิติน มีสารประกอบสำคัญชนิดหนึ่ง คือ โคลีน ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างสารสื่อประสาทที่สำคัญของสมองคือ Acetylcholine หากร่างกายได้รับเลซิตินในปริมาณที่เพียงพอ (1,200 มิลิกรัมต่อวัน) ก็จะป้องกันและรักษาอาการผิดปกติของระบบประสาทบางประเภทได้ รวมถึงเลซิตินยังช่วยบำบัดโรคทางสมองต่าง ๆ เช่น
-พาร์กินสัน (Parkinson’s)
-อัลไซเมอร์ (Alzheimer’s Disease)
-โรคทางสมองที่เกิดจากเซลล์ประสาทขาดสาร Acetylcholine

ซึ่ง “เลซิติน” จะพบได้ในอาหารหลากหลายชนิดเลยค่ะ ทั้งพืชและสัตว์ เช่น ถั่วเหลือง ข้าวโพด เมล็ดฝ้าย กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก แครอท เนื้อสัตว์ ปลา รวมทั้งไข่แดง นม เนย ถั่วลิสง หากคิดว่าวันไหนกินไม่ครบ หรือได้รับเลซิตินไม่เพียงพอ แนะนำให้กินแบบเม็ด เพื่อเสริมให้ครบต่อความต้องการของร่างกายจะได้บำรุงประสาทและสมองแบบครบจัดเต็ม!



ตามมาด้วย น้ำมันปลา  ที่มีดีเอชเอ ซึ่ง ดีเอชเอ คือกรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมองและจอประสาทตา ในสมองและเซลล์ประสาทตาของคนเราประกอบด้วยกรดไขมันหลายชนิด แต่ชนิดที่มีมากที่สุดคือ ดีเอชเอ โดยพบในสมอง 40% และพบในจอประสาทตา 60% เท่ากับเป็นองค์ประกอบหลักของเซลล์สมอง ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาท ซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน จึงได้ชื่อว่าเป็นสารอาหารบำรุงสมองที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาสมองมากทีเดียวเลยล่ะค่ะ



ซึ่งร่างกายของเราไม่สามารถสร้างดีเอชเอขึ้นเองได้นะจ๊ะพี่จ๋า ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น!!! ซึ่งแหล่งอาหารของดีเอชเอคือ นมแม่ ปลาทะเลน้ำลึก ปลาน้ำจืด เช่น ปลาสวาย ปลาช่อน และสาหร่ายทะเลบางชนิด และร่างกายต้องการ ดีเอชเอ อย่างน้อยวันละ 100 มิลลิกรัม ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย และอีกเช่นเคยบางมื้อ บางวันเราอาจจะได้รับวิตามินที่มาจากอาหารได้ไม่ครบตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ ทางเลือกที่ดีที่สุด คือการกินแบบเม็ดเพื่อเสริมให้ร่างกายได้รับวิตามินที่เพียงพอต่อความต้องการนั่นเองค่ะ



และตัวสุดท้าย วิตามินบี ซึ่งวิตามินบีก็มีหลายประเภท ในแต่ละประเภทร่างกายก็ต้องการในปริมาณที่ไม่เท่ากัน



• วิตามินบี 1
            ร่างกายมีความต้องการ วิตามินบี 1 ใน ปริมาณ 1.5 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีมากในอาหารจำพวก ข้าวซ้อมมือ เนื้อหมู ถั่ว ตับ รำข้าว ประโยชน์สำคัญของวิตามินบี 1 คือ ช่วยให้ระบบประสาททำงานสัมพันธ์กัน บำรุงสมอง ลดความเครียด และยังช่วยป้องกันโรคเหน็บชา และเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหัวใจให้ทำงานได้ดีขึ้น
• วิตามินบี 2
        ร่างกายมีความต้องการ วิตามินบี 2 ใน ปริมาณไม่เกิน 35 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีมากในอาหารจำพวก ถั่ว ผักใบเขียว ไข่ นม โยเกิร์ต ชีส ปลา ตับวัว เนื้อสัตว์ หมึก ปลาแซลมอน อัลมอนด์ งา เห็ด  ประโยชน์ของวิตามินบี 2 คือ ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้ถูกทำลาย ลดอาการปวดศีรษะจากการใช้สมองอย่างหนัก ลดอาการปวดหัวจากไมเกรนได้เป็นอย่างดี มีคุณสมบัติคล้ายกับสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น
 • วิตามินบี 6
            ร่างกายมีความต้องการ วิตามินบี 6 ใน ปริมาณ 2 มิลลิกรัม ซึ่งมีมากในอาหารประเภทจำพวกอกไก่งวง ปลาทูน่า เมล็ดทานตะวัน อกไก่ อะโวคาโด้ ลูกพรุนแห้ง เนื้อวัวไม่ติดมัน กล้วย ผักโขม เป็นต้น ประโยชน์ของวิตามินบี 6 ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย คลื่นไส้ ในร่างกาย ช่วยสร้างกรดอะมิโน สร้างโปรตีนและการทำงานของเซลล์ ช่วยสร้างฮีโมโกบิลและสารที่จำเป็นในการสื่อสารทางประสาทและสมอง
 


ซึ่งถ้าหากพูดตามความเป็นจริงวันๆนึง เราอาจจะไม่สามารถได้รับวิตามินบีจากการกินอาหารที่มีความหลากหลายขนาดนี้ได้แน่ๆ 5555555 ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ถ้าคิดว่ากินไม่ครบ แนะนำให้กินแบบเม็ดเพื่อเสริมวิตามินให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สะดวก ง่าย บำรุงสมองโดยตรง เลิศ!



สุดท้ายก็หวังว่ากระทู้ของเราจะมีประโยชน์นะคะ (ต้องมีประโยชน์สิ นั่งหาบทความงานวิจัยตั้งนาน) 555555

เอาจริงคนวัยทำงานอย่างเราๆ นี่ควรหาตัวช่วยมากินบำรุงสมองกันอย่างด่วนเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินบีก็ดี น้ำมันปลาก็ได้ เลซิตินก็โอเค เพราะว่าสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งเรื่องงาน การเดินทาง สภาพสังคม เศรษฐกิจ ทำให้เรามีเรื่องน่าปวดหัว ชวนให้เครียดมากขึ้นทุกวัน! หากปล่อยปละละเลย อาจจะได้โรคทางประสาทเพิ่มมาอีกอย่างก็เป็นได้

หวังว่าทุกคนจะมีสุขภาพที่ดีนะคะ ^^ ขอบคุณที่อ่านกระทู้ของเรามาจนถึงตรงนี้นะคะ เลิฟเล้ยยยย

แสดงความคิดเห็น

>

1 ความคิดเห็น

fonggnamnumnum 10 ส.ค. 63 เวลา 13:20 น. 1

เป็นคนเลือกกิน และกินยากมาก อาหารเสริมเลยต้องซื้อกินทุกเดือน เคยไม่กินละ ชีวิตอยู่ยากมาก 555 ซื้อซ้ำบ่อยสุดก็เลซิตินของแบลคมอร์ ลดความเครียดได้ดี

0