รีวิวและเล่าประสบการณ์นักเรียนEP ม.ต้น โรงเรียนรัฐบาล

[Prongmannei]

สวัสดีค่ะ  วันนี้เราจะมาเล่าประสบการณ์ที่เรา พบ และ เจอมากับตัวเกี่ยวกับห้องเรียนพิเศษ    EP หรือ English program   ห้องเรียนภาคภาษาอังกฤษค่ะ   ปล.เรียนมาให้เพื่อทราบว่าประสบการณ์ที่เราเล่ามานั้นอาจจะไม่ตรงกับโรงเรียนในหลายๆโรงเรียน แต่เรามาเพื่อเล่าประสบการณ์เฉยๆให้ฟังนั่นแหละค่ะ อันนี้เป็นกระทู้แรกของเราค่ะแค่อยากจะมาแชร์นะ

ห้องEP เป็นห้องเรียนที่จะมุ่งเน้นให้ผู้ศึกษาไปในด้านทางวิชา 'การสื่อสาร การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ'   วิชาในการเรียนการสอนส่วนใหญ่จะได้รับการสอนเป็นภาษาอังกฤษ   แต่บางวิชาก็จะได้รับการสอนเป็นภาษาไทย   ซึ่งมันขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนว่าโรงเรียนนั้นๆจะได้จัดการเรียนการสอนแบบไหนไว้ให้นักเรียนค่ะ

การจัดการเรียนการสอนในแต่ละรายวิชาที่เป็นภาษาอังกฤษ
ในแต่ละโรงเรียนจะมีการจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียนแบบแตกต่างกันออกไปค่ะ ซึ่งวิชาที่เราได้เรียนเป็นภาษาอังกฤษก็คือ   คณิตศาสตร์,วิทยาศาสตร์,สุขศึกษา,คอมพิวเตอร์ แต่บางโรงเรียนอาจจะมีเพิ่มเป็นสังคมแล้วก็ประวัติค่ะ
-การเรียนทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ  ครูผู้สอนคือชาวต่างชาติค่ะ   โรงเรียนเราจะมีครูผู้สอนทั้งหมดสองท่่านภายใน1คาบ ครูไทย1คน ครูต่างชาติ1คน   และท้ายคาบครูไทยก็จะช่วยเราสรุปเนื้อหาเป็นภาษาไทยให้ค่ะ  อาจจะแค่10-15นาที 
-หนังสือ  จะมีหนังสือที่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษให้ค่ะ  ซึ่งเนื้อหาจะตรงกับของหนังสือไทยเป็นบางส่วน เช่นหนังสือScience solution ของPW. INTERหรือ พว. นั่นเองค่ะ แต่การเรียนการสอนอาจจะมีหนังสือให้กับนักเรียนเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับในแต่ละโรงเรียน
-การสอบจะมีทั้งภาคไทยและอังกฤษ  อันนี้ของโรงเรียนเราจะเป็นการสอบแบบทั้งสองภาคเลยค่ะคือ เราจะต้องสอบภาคภาษาอังกฤษด้วย ไทยด้วย นั่นเลยหมายถึงว่าการสอบของห้องเรานั้นเราจะต้องเหนื่อยคูณสองนั่นเองค่ะ เพราะยังเรียนเป็นภาคภาษาอังกฤษไม่พอแล้ว เราจะยังต้องมาปวดหัวกับการสอบของภาคไทยแบบปกติอีกค่ะ  ปล.ขึ้นอยู่กับการเรียนการสอนในแต่ละโรงเรียน 

การทำกิจกรรมในโรงเรียน
ไม่ได้แตกต่างกันจากที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้เลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น ค่ายทัศนศึกษา,ชุมนุม,ชมรม,ค่ายพักแรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวฯ 
-แต่ทางโรงเรียนของเราจะแยกออกไปจากพวกปกติเลยก็คือ ชุมนุม เราจะมีชุมนุมหรือชมรมของepโดยเฉพาะที่จัดขึ้นมาเพื่อนักเรียนep เช่นชมรม crossword,boxing,write essay

คุณครู/อาจารย์ผู้สอน
วิชาไหนที่เราเรียนเป็นภาษาอังกฤษเราก็จะได้เรียนกับอาจารย์ชาวต่างชาติท่านนั้นค่ะ ส่วนวิชาไหนที่เป็นไทยเราก็จะได้เรียนตามแบบปกติ

ชั่วโมงการเรียนการสอน
เหมือนกับภาคไทยเป้ะๆเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับการจัดตารางเรียนของแต่ละโรงเรียน

สิ่งที่เราจำเป็นจะต้องเตรียมตัวก่อนสอบเข้า
การสอบเข้าจะเป็นการกำหนดการสอบของแต่ละโรงเรียนค่ะ คือมันไม่เหมือนกัน หากว่าเราต้องการที่จะสอบเข้าเราควรจะที่ศึกษาหรือถามผู้รู้หรือรุ่นพี่ค่ะ และแน่นอนมันจะต้องมีภาษาอังกฤษแน่ๆ ปล.ในบางโรงเรียนอาจจะมีการสอบสัมภาษณ์นะคะ 
-ส่วนตัวเราห้องเรียนEPของเราไม่ค่อยมีคนมาสอบเข้าเนื่องจากค่าเทอมสูง  ดังนั้นการรับเด็กในแต่ละครั้งเลยมีเด็กที่จะมาสมัครไม่มากนักอันนี้ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง
-บางโรงเรียนอาจจะมีการเขียนessayหรือการเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษค่ะ หรืออาจจะมีlistening testเข้ามาด้วย
-บางโรงเรียนเป็นการสอบแบบรวมๆไปเลยค่ะ แต่จะมีให้เลือกก่อนว่าจะเข้าห้องไหน น่ันหมายถึงว่าข้อสอบจะเหมือนกันหมดนั่นเองค่ะ

พื้นฐานไม่ค่อยแน่นเลย ทำไงดี
-จะบอกว่าไม่ยากเท่าไรค่ะ ขึ้นอยู่กับการพยายามความตั้งใจ และความขยันในการแสวงหาความรู้ ตอนที่เราเข้าไปเรียนครั้งแรกเราก็ต้องปรับตัวค่ะ เพราะว่าการสื่อสารมันเปลี่ยนภาษาไปหมดและมันจะต้องใช้ทุกๆวัน
-เราจะต้องใช้ทักษะ ฟัง พูด เขียน อ่าน ในการเรียนและการสอบเข้า ที่สำคัญหากเราเข้าไปเรียนแล้วทักษะที่สำคัญที่สุดคือการฟังค่ะ เพราะถ้าหากเราฟังteacherไม่ออกเนี่ย ทั้งคาบ1คาบ มันจะสูญเปล่าทันทีเลยนะคะ รองลงมาคือการเขียน อ่าน และพูดค่ะ แต่ถ้าเราเอาไปใช้จริงๆทักษะ4อย่างพวกนี้เราว่ามันก็เท่าๆกันหมดแหละค่ะขึ้นอยู่กับสถานการณ์นั้นๆด้วย
*เราแนะนำว่าลองหาหนังที่ชอบเปิดดูเป็นภาษาอังกฤษและเปิดซัพไปด้วยค่ะ ไม่ก็หารายการที่เราชอบเปิดดู และหาสมุดเล่มเล็กๆมาจดพลอยตามไปด้วยก็ได้ค่ะ หรืออาจจะเป็นเพลงฟังไปด้วยเปิดเนื้อร้องไปด้วยก็ดีค่ะ

จบไปแล้วรู้สึกได้อะไรบ้าง?
-หลักๆเลยเราได้ความกล้าแสดงออกค่ะ เพราะส่วนมากครูภาษาอังกฤษจะชอบให้เราทำการพรีเซ้นสะส่วนใหญ่ หรือไม่เขาก็ชอบให้เราออกไปทำโจทย์
-ทักษะในการพูดรู้สึกได้พัฒนาขึ้นมาเยอะมากๆ จากการที่เราเคยเป็นคนที่พูดภาษาอังกฤษไม่เป็นเลยการมาเรียนในครั้งนี้มันกลับทำให้เราพูดได้เกือบคล่องมากเลยค่ะ ส่วนการฟังฝรั่งชาวต่างชาติแต่ละคนจะมีสำเนียงในการพูดแตกต่างกันไป อันนี้เราจะต้องปรับตัวในการฟังค่ะ แต่รวมๆแล้วคือสามารถฟังได้และแปลออกมาได้
-การเขียนก็พัฒนาขึ้นมาเยอะเช่นกันค่ะ โดยเฉพาะการเขียนessayที่มีผลต่อการสอบเข้าและการทำข้อสอบต่างๆ
-การอ่านเราสามารถแปลได้เองโดยอัตโนมัติเลยค่ะ เพียงแค่เห็นคำศัพท์เราก็แปลออกแล้ว อันนี้ถือเป็นอะไรที่น่าภาคภูมิใจสำหรับเรามากค่ะ เราสามารถดูหนัง,อนิเมะที่ชอบเป็นซัพภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องง้อหรือรอซัพไทยแปลได้แล้วค่ะ โดยเฉพาะการอ่านมังงะเรารู้สึกชอบมากกับผลที่เราได้รับมาบวกกับความคุ้มค่าของความขยันด้วย

กิจกรรมค่ายของEP
กิจกรรมค่ายของโรงเรียนเราจะจัดเป็นค่ายEnglish camp, Science camp, Open house ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียนค่ะ ซึ่งในการจัดค่ายในโรงเรียนเราจะเป็นการจัดนอกสถานที่หรือต่างจังหวัดนั่นเองค่ะ แต่ละค่ายสนุกมากเราได้รับทั้งความรู้และความสนกจากกิจกรรมที่ค่ายเป็นคนจัดให้ รวมถึงทั้งยังได้ใช้เวลากับเพื่อนๆด้วย

อาจารย์ชาวต่างชาติ
ต้องยอมรับเลยว่าวิธีการสอนของอาจารย์/ครูชาวต่างชาติกับครูไทยเป็นอะไรที่แตกต่างกันอยู่พอสมควรเลยค่ะ
-อาจารย์ต่างชาติ สามารถสร้างความแสดงออกให้แก่เด็กนักเรยนทุกๆคนได้ค่ะ ไม่ว่าเราจะทำผิดเรื่องอะไร พูดผิด สื่อสารผิด เค้าก็จะบอกกับเราว่าไม่เป็นไร ดีมาก ทำดีแล้วตลอด มันทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่โดนตอกย้ำค่ะอีกทั้งเรายังสามารถจดจำการทำผิดได้ดีด้วยครั้งหน้าเราจะได้ไม่พลาดอีก
-การถามในชั้นเรียนในระหว่างการสอน ครูต่างชาติคนนึงของเราพยายามที่จะให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นหรือตอบโต้กันตลอดเวลาค่ะ ในบางครั้งเค้าถึงกับขนาดบอกเราว่า 'ถามทุกอย่างมาที่คุณสงสัย ไม่ต้องอายเพราะคำถามของคุณมีความหมายเสมอ' มันเป็นอะไรที่แบบว่าเรารู้สึกดีมากเลยค่ะ อาจารย์ชาวต่างชาตท่านนี้สอนคณิตฯเวลาใครถามเค้าหลังจากการการสอนเสร็จแล้ว เค้าก็จะพยายามแสดงวิธีทำให้ทุกคนดูค่ะ หรืออาจะไปตัวต่อตัวเลยก็ได้
-การพรีเซ้นหลังจากเราพรีจบแล้วอาจารย์ก็จะคอยติเราว่าเราพลาดตรงไหนไปบ้าง เช่นการออกเสียงคำ การพูดเสียงดัง หรือการแสดงออกท่าทีต่างๆระหว่างการพรี

เราควรไปต่อสายไหนในม.ปลาย
ขึ้นอยู่กับความถนัดและความต้องการของแต่ละคนเลยค่ะ ใครอยากจะเอาทักษะไปต่อยอดก็ได้ในด้านของสายภาษาหรืออยากจะไปในสายของวิชาการ คณิต-วิทย์ก็ได้ค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่าสายที่จะเลือกต่อไปในม.ปลายมันจะต้องส่งผลต่อการสอบเข้าคณะต่างๆที่เราอยากเข้าด้วย







ทั้งนี้ก็ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ ไม่ว่าจะเป็นน้องๆที่สนใจในการสอบเข้าหรืออยากเรียน ไม่ก็คนที่กำลังเรียนอยู่ค่ะ
ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้ของเรานะคะ
PS.ค่าเทอมแพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก