อยากลาออกจากคณะทันตะ ตอนปี4
ตั้งกระทู้ใหม่
CrYy
24 ส.ค. 63 เวลา 22:19 น.
11,863
views
21 ความคิดเห็น
ถ้ามันไม่ใช่ทางจริงๆอย่าฝืนเรียน ไปหาทางที่คิดว่าใช่กับเรามากกว่าจะดีที่สุด
ไม่ใช่ "ทาง" ก็ไม่ต้องฝืนค่ะ
แต่ที่บอกว่าถนัดทางเลคเชอมากกว่า อันนี้ไม่ใช่ "ทาง" หรือเปล่า มันคือวิธีการเรียนที่เราค่อนข้างถนัดมากกว่า แต่ไม่ใช่ "วิชา" ที่เราอาจจะถนัด เช่น บอกว่าน่าจะเรียนนิติศาสตร์ ใช่ค่ะ คนเลคเชอร์เก่ง จำเก่ง อาจจะเก่งนิติศาตร์ด้วย แต่อาจไม่ชอบวิชากฎหมายก็ได้ มันต้องวิคิดวิเคราะห์ อาจจะไม่ชอบไม่ใช่ทางเหมือนกันก็ได้
นั่งเรียนเฉยๆ ฟังครูเลกเชอ ไม่พรีไม่แลป ไม่พร้อมรับแรงกดดัน อันนี้ใครๆ ก็ทำได้นะคะ
คิดว่า แนะนำให้ทบทวนดีกว่าว่า ถ้าไม่ชอบสิ่งที่กำลังเรียนจริงๆ ไม่ชอบแล็บหรืออะไรที่ต้องทำในเชิงทันตะจริง ๆ ก็เปลี่ยนก็เลิกค่ะ แต่ต้องไม่ใช่การรับแรงกดดันไม่ได้เพราะยังไม่ได้ลองตั้งใจพยายาม
แต่ถ้าลองได้พยายามตั้งใจแล้ว คิดทบทวนเชแล้ว เยอะ งานทำฟันคนอื่นไม่ใช่ทางเราจริงๆ ก็ต้องคิดต่อว่า แล้ว วิชา อะไรที่เราจะชอบจริงๆ ไม่ใช่คิดแค่ว่าเรียนได้ ก็น่าจะชอบนะคะ คิดดีๆ มันคืออาชีพที่เราต้องทำในอนาคตนะ
แต่ เอ๊ะ ถ้ามีงานอาชีพหรืออนาคตอะไรที่คิดอยากจะทำในใจแล้ว แต่แค่จะเรียนปอตรีให้จบๆ เอาปริญญา แบบนั้นเรียนอะไรก็ได้ค่ะ คือ เรามีเพื่อนไง จบปอตรีนิตินี่แหละ สิ่งที่เขาทำคือ แต่งงานกับแฟน เป็นแม่บ้าน เลี้ยงลูก ไม่ได้ทำอาชีพตามที่เรียนอะไร เป็นแม่บ้านที่น่ารักและออกงานคู่สามีได้แบบไม่อายใคร (ชาติตระกูลดี การศึกษาดี เลี้ยงลูกดี ดูแลสามีดี) ซึ่งแบบนี้ก็คืออนาคตที่ดีแบบนึงเหมือนกัน ชัดเจน แม้ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่เรียนจบ
ชีวิตคนเรา มองอนาคต ต่างกัน
เราเข้าใจคุณนะ
ถ้าไม่ไหวจริงๆ ปีนี้ดร็อป เพื่อเตรียมซิ่ว อาจจะซิ่วไปเข้าสายสุขภาพที่ไม่ต้องใช้ทักษะด้านฝีมือมากนัก
เหมือนทันตะ เช่น แพทย์ เภสัช ถ้าซิ่วแล้วไม่ได้
ค่อยมาเรียนต่อกับรุ่นน้องคงไม่เสียเวลาเท่าไหร่
ถ้าเรียนทันตะต้องลาออกถึงจะสอบใหม่ได้นะคะ ดรอปไว้แล้วสอบไม่ได้
พี่เป็นทันตแพทย์นะคับ พี่เข้าใจนะคับ
สิ่งนี้มันเกิดกับพี่และเพื่อนพี่หลายๆคน (บางทีเค้าก็มีปัญหา แต่ไม่ได้เล่าให้ฟัง) พยายามคุยกับเพื่อนเยอะๆคับ บ่นให้กันฟังจะได้เป็นการระบาย
ตัวเราจะรู้ตัวเองดีที่สุดครับ พี่เคยเกือบลาออกและซิ่วไปคณะอื่น คิดว่าตัวเองทำไมกากขนาดนี้(ทั้งเลคเชอร์และแลป) ดูถูกตัวเองสารพัดว่าโง่ละแฮนด์สกิลไม่ดีพอ(แต่คะแนนสำหรับคณะอื่นหมดอายุแล้ว) เลยกัดฟันสู้ต่อ (กำลังใจสำคัญมากๆคับ) เมื่อปีสูงขึ้น พี่เริ่มเจอคนไข้เริ่มรู้สึกว่าเราพยายามได้ ทุกคนจบได้ เราก็ต้องทำได้เช่นกัน
ตอนจบมาน้องจะไม่ต้องพยายามหางานและมีทางไปต่อได้อีกหลายทาง คณะนี้เรียนจบได้ทุกคนครับ คนเก่งเลคเชอร์ไปเมคอัพคลินิค/แลป มีเยอะแยะครับ หรือบางคยไม่เก่งเลคเชอร์แต่เก่งแลป/คลินิค ก็มีเต็มไปหมด ยืนยันถ้าไม่มีปัญหาทางจิตหรือขาดความรับผิดชอบ จบทุกคน100%ครับ อาจารย์ดันสุดๆครับ
ในมุมมอง ของคนเป็นแม่ มองว่า ทนเรียนอีก 2 ปี ให้จบ ได้วุฒิทันตแพทย์ สักใบก่อน แล้วค่อยมาเรียนเสริม อีกใบ ก็ ยังได้ มีปริญญา 2 ใบ
โอนไปเรียน จิตแพทย์ ก็ดีนะ
แนะนำว่าอย่าเพิ่งลาออก แล้วให้ปรึกษา อ.ที่ปรึกษาเรื่องปัญหาการเรียนและการขอย้ายสาขาวิชาค่ะ อาจไปขอจบ วท.บ. แทนถ้าทางหลักสูตรเห็นชอบ แต่ถ้าอยากไปนิติศาสตร์จริง ๆ ก็คงต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ตั้งแต่สอบ TCAS ปรึกษา อ.ที่ปรึกษาก่อนนะ
ย้ายไปเรียนอย่างอื่นก็ต้องแน่ใจนะว่าจะไม่เครียด ไม่กดดัน งานไม่โหลด หรือว่าจบไปทำงานไม่ต้องไปเจอลูกค้าให้แก้งาน เปลี่ยนนุ่นนี่ หรือให้ทำตามความต้องการเหมือนเดิมอีก เพราะเดี๋ยวจะต้องเริ่มใหม่อีก บางทีอาจมีวิธีจัดการกับความเครียด ความกดดัน เปลี่ยนวิธีการทำงานก็ได้ อาจทำให้เรารู้สึก ok มากขึ้น และหันกลับมาชอบได้ ตอนแรกที่เลือกเรียน เพราะอะไรถึงเลือก ? เราอาจจะลืมไปรึเปล่า ทบทวนเอาเนอะ ถ้าไม่ชอบก็ต้องแลกกับเวลาที่เสียไปกับความเสี่ยงใหม่ๆที่เราอาจยังไม่ได้เจอจึงยังไม่รุ้
เราเรียนมาจนถึงปี5ก็มีความคิดอยากลาออกตั้งแต่ปีสองจนถึงทุกวันนี้ แต่ที่ยังไม่ออกเพราะไม่กล้า เราเองก็มีปัญหาเรื่องคนไข้กับอาจารย์ เข้าใจเลยอ่ะว่าทรมานมากๆ จนไม่อยากอยู่ต่อแล้ว ถ้าไม่คิดมากเรื่องเวลาเราก็แอบเชียร์ให้ไปเรียนตามสิ่งที่ชอบนะ ถือว่า4ปีในคณะก็ทำให้รู้ว่ามันไม่ใช่ทางของจขกท. แต่ว่าถ้ายังโอเคกับวิชาการ เนื้อหาที่เป็นสายสุขภาพแล้วยังพอทนอีกสองปีได้ เรียนให้จบแล้วอาจจะลองทำงานสายวิจัยดูก็ได้นะ สู้ๆ เราเป็นกำลังใจให้
ถ้าไม่มีความสุขเราว่าถอยดีกว่าค่ะเพราะถ้าเราทนมันอีก 2 ปีเเล้วที่ผ่านมาจขพ ก็ไม่มีความสุขเเล้วถ้าเราทนเรียนต่อพอจบไปถ้ามันไม่ใช่ทางของเราเราก็ทำมันไม่ได้ดีหรอกค่ะเพราะเราไม่ได้รักมันจริงๆเราต้องอยู่กับมันไปทั้งชีวิต เราว่าถ้าการเงินพร้อมที่จะเริ่ม เริ่มใหม่ดีกว่าค่ะเลือกสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุขกับมันดีกว่าถ้ากลัวเสียเวลาลองมองว่าถ้าทนสิ่งที่ไม่ชอบมันคือทั้งชีวิต เเต่หากออกมาเเล้วเลือกเริ่มเรียนสิ่งที่ชอบมันจะทำให้เราไม่เสียดายทีหลังค่ะ เราว่าจขพรู้ตัวเองดีที่สุด ทุกทางเลือกที่จขพเลือกคือสิ่งที่ดีที่สุดเเล้วค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ เราเป็นเด็กซิ่วตอนเเรกเราก็คิดหนักค่ะพอเราเลือกออกมาทำสิ่งที่ชอบโล่งและมีความสุขขึ้นมาก อย่าไปฟังเสียงป้าข้างบ้านหรือคนอื่นมากฟังใจตัวเองให้เยอะๆ เป็นกำลังใจให้จขพ นะ
เราก็เรียนแล้วไม่ชอบเหมือนกัน อึดอัดไปหมดอยู่แล้วไม่มีความสุข เราเลยลาออกมาจากเภสัชเราออกมาตอนปี4เทอม2ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงซิ่วไปเรียนบัญชี สำหรับเราแค่ลำพังตัวเองแบบไม่สนใจสังคมกับคนรอบข้าง มันดีมากเลยกับการตัดสินใจออกมาจากสิ่งที่ไม่ชอบ แต่การฮีลตัวเองในช่วงระหว่างซิ่วคือเรื่องยากมาก ทั้งคำพูดของเพื่อนของครอบครัวที่เขามองว่าที่เรียนอยู่มันดีอยู่แล้ว ใกล้จบแล้ว เสียตังไปตั้งเยอะ ประมาณนั้น เราก็ต้องพยายามไม่เก็บมาคิดเหมือนกัน ยังไงก็สู้ๆนะ️
เลือกทำในสิ่งที่มีความสุข ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไรดีกว่า
อดทน อีกสองปีก็จะเรียนจบแล้ว บางครั้งชีวิตอาจไม่ได้ดั่งใจเราทุกอย่างมีปัญหาเข้ามาบ้าง แต่ปลายทางน้องจะสวยงามแน่นอน อาชีพทันตะมีเวลาว่างมากกว่าแพทย์ ไม่มีเวรนอกเวลาราชการ ไม่ค่อยมีเคสฉุกเฉิน รายได้เหมาะสม
ผมก็เคยเจอเหตุการ์ณอย่างนี้นะครับ แต่ถ้าเราใจเลือกจะหนี บางทีพยายามเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ครับ ลองเปลี่ยน mildset อย่าหาเหตุผลมาสนับสนุนความคิดที่จะหนีเลยครับ ลองสู้อีกสักตั้งคิดแค่ว่าเอาหนักเข้าสู้กว่านี้ มันจะแพ้ไปอีกกี่ครั้งกันเชี่ยว
ถ้าไม่ไหวจริงๆก็ออกเลยค่ะ อย่าคิดว่าฝืนเรียนแค่สองปีก็จบ พูดมันง่ายนะคะแต่คนที่ต้องอยู่ในสถานการณ์นั้นจริงๆมันยากมากเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้คุณเจอเส้นทางที่ใช่สำหรับคุณแล้วก็มีความสุขกับมันจริงๆ
อีกสองปี อดทนหน่อยนะคะ
ถ้าสนใจนิติศาสตร์ก็ลงเรียนรามควบคู่กันไปได้ค่ะ ถ้าไปได้ดีก็จบไล่เลี่ยกับทันตะ ต่อเนติ เก็บอายุงาน สอบผพษ.ได้สบายๆ
แต่ไม่อยากให้ทิ้งทันตะ เพราะนิติก็ไม่ได้ง่ายนะคะ เรียนๆ ไปอาจจะไม่ชอบ หรือลองงานสายกฎหมายแล้วอาจจะไม่รักก็ได้
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?