ก่อนวาเลนไทน์อันแสนตราตรึง [เดอะ รีเทิร์น ออฟ ปล่อยอึ่ง]
ตั้งกระทู้ใหม่
ย้อนกลับไปในวันที่ 13 กุมมือภากันไปผสมพันธ์สมัยยังเรียนอยู่ชั้น ม.2 วันนั้นผมชวนเพื่อนบีเข้าเมืองไปด้วยกันโดยหวังว่าจะซื้อกุหลาบดอกงามไปให้กับพี่ซีที่หลงรักในวันต่อไป ซึ่งก็แน่นอนดอกละ 10 บาทนั่นแหละไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น หรือว่ามันอยู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน บัต
หลังจากที่ซื้อกุหลาบมาได้ผมกับบีก็แวะไปกินจ้ำบ๊ะด้วยกันต่อ
(ฮ่า ๆ ๆ ทำไมกูขำวะ แม่งไม่มีชื่ออื่นให้ตั้งอีกแล้วรึไง)
ก็พูดคุยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นแหละว่าจะเอายังไงกันต่อ จะเข้าไปคุยกับพี่ซีดีมั้ย แล้วถ้าเจอคนอื่นคาบไป-ก่อนนี่กูไม่แห้วเลยหรือ
แต่แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันมันก็เกิดขึ้นเว้ย มันดันมีผู้หญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามากินจ้ำบ๊ะในร้านเหมือนกัน และพี่ซีที่ว่าโคตรสวยแล้วแต่อีดีนี่แม่งโคตรสวยยิ่งกว่า
(-มองคนที่หน้าตาหนิ)
(คบไปเรื่อยกับหาคู่ชีวิตมันคนละเรื่องกันเว้ย อย่าเอามาปนกัน เจอกันวันแรกถ้าไม่มองที่หน้าจะให้มองไปที่นิสัยใจคอกันเลยรึไงวะ -ทำได้เหรอถามจริง)
ณ เวลานั้นเองกุหลาบในมือมันก็สั่นขึ้นมาทันทีทันใด
(แล้วพี่ซี-อะ)
(ช่างหัวพี่ซีกูซี่ เอาอีนี่ก่อน)
อีอีนี่ตัดทิ้งไปเลย ไม่ใช่ไม่สวยนะแต่อีดีมันเด็ดกว่า จากนั้นผมก็ปรึกษากับเพื่อนเล็กน้อยแล้วตัดสินใจถือกุหลาบไปหาเธอทันที
“ผู้สาวครับ”
(ผู้สาวเลยเหรอ)
“ผมเอากุหลาบมาให้”
“เอ่อ ขอบคุณค่ะ”
เธอรับกุหลาบผมไปจริง ๆ ครับ จะด้วยทำตัวไม่ถูก ไม่กล้าปฏิเสธ หรือว่าไม่อยากทำลายความรู้สึกของผมก็ตาม แต่ ณ เวลานั้นโลกทั้งใบก็กลับกลายเป็นสีชมพูไปอย่างไม่น่าเชื่อ
(มันง่ายขนาดนั้นเลย)
แล้วผมก็กลับมาคิดอีกทีว่าจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อกุหลาบดอกใหม่ให้พี่ซีดีวะ...
หลังจากที่ผมกับเพื่อนกินจ้ำบ๊ะกันจนเสร็จเรียบร้อย
(กูเกลียดชื่อนี้)
ผมก็ตัดสินใจเดินผ่านโต๊ะที่สองคนนั้นกำลังนั่งอยู่ไป
“ผู้สาวครับ”
(ผู้สาวอีกแล้ว)
“ขอดอกกุหลาบคืนหน่อย”
(ฮ่า ๆ ๆ ความจริงใจ-อยู่ตรงไหน)
จากนั้นผมก็รับกุหลาบที่เธอยื่นมาให้แล้วเดินจากไปด้วยความภาคภูมิ
หวังว่าทุกวันนี้เธอจะลืมความทรงขำอันเลวร้ายนี้ไปได้แล้วนะ
เบส ออน ถรู สตอรี ก่อนวาเลนไทน์อันแสนตราตรึง
...
*** ชื่อ ปล่อยอึ่ง บนหัวกระทู้มีความหมายตามนี้
- อาจมีการพูดจาหยาบคาย
- อาจมีการพูดคุยนอกเรื่อง
- อื่น ๆ
...
ไฮ ว่าไงทุกคน ปล่อยอึ่งกลับมาแล้ว หมกตัวอยู่ในป่าอ้อยมาตั้งนาน โควงโควิดนี่ไม่เคยเจอ ทุกคนสบายดีกันมั้ย มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า หวังว่ายังแฮปพีกันดีทุกคนนะครับ
กระทู้นี้ไม่ใช่ว่าอะไรหรอก แค่อยากลองเล่าประสบการณ์จริงที่เคยเจอมากับตัวก็เท่านั้นแหละ เผื่อมันอาจจะเรียกเสียงฮาได้บ้าง หรือไม่ก็อาจจะเป็นไอเดียในการเขียนนิยายก็ว่ากันไป แต่เฮ้ย ของแบบนี้ใช่ว่าจะเจอกันได้ง่าย ๆ นะเว้ย ฮ่า ๆ ๆ
ใครมีประสบการณ์อะไรแปลก ๆ ฮา ๆ มาเล่ากันบ้างมั้ยครับ เชิญปลดปล่อยมันออกมาให้เต็มที่
เอ้อ ระว่างที่ผมไม่ได้เข้าเว็บมาเจ็ดแปดเดือนนี่มันมีอะไรเปลี่ยนไปเยอะมาก บางอันอาจจะดีขึ้น หรือบางอันก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไหร่ แต่อันที่ผมรับไม่ได้สุด ๆ นี่มันก็มีเหมือนกัน หน้าเขียนนิยายแบบใหม่อะ คือผมเปิดลิงก์ขึ้นมาเพื่อเขียนเป็นเรื่องสั้นไง แต่เข้าไปใช้งานมันเท่านั้นแหละ โอ้โห นี่มันอะไรวะเนี่ย ทำไมมันดูไม่คุ้นแบบนี้ อ้ะ แต่ไม่เป็นไร ของแค่นี้แค่เราปรับตัวตามมันไปมันก็จบเรื่องแล้ว แต่เฮ้ย ตัวอักษรขนาด 18 พอยน์แบบใหม่มันเล็กมาก มันต้องเพิ่มเป็น 24 พอยน์ถึงจะมีขนาดเท่ากับตัวอักษร 18 พอยน์ของแบบเก่าอะ ทำไมเป็นงั้นวะ ผมว่าผมชอบหน้าเขียนนิยายแบบเก่ามากกว่านะ หมายถึงเวอร์ชันก่อนแบบปัจจุบันน่ะ รู้งี้น่าจะเปิดลิงก์ทิ้งไว้เยอะ ๆ สักหน่อยก็น่าจะดี
อ้ะ ไม่เป็นไร ทำมาให้ใช้ก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว แต่ถึงยังไงผมก็อยากให้ทุกคนรู้ว่า “เงินทองเป็นของหายาก” และ “ความจริงใจมันคือใจจริง”
ไอ แอม ปล่อยอึ่ง
643
views
4 ความคิดเห็น
สวัสดี และยินดีต้อนรับการกลับมาค่ะ
จริงแล้ว คุณกลับเข้าเด็กดีหลายวันแล้วนะคะ
ได้มีโอกาสเห็นนิยายของคุณแสดงขึ้นมาเตือน บอกว่ามีการอัพค่ะ
เรื่องของ หน้าเขียนนิยายแบบใหม่...นั้นไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงขึ้นค่ะ เพราะเจ้าของเม้นต์นี้ ไม่มีโอกาสได้ลงนิยายนานๆ แล้วค่ะ
แต่ ได้มีโอกาสเห็นๆ เพื่อนๆ ลงความเห็นเกี่ยวกับหน้านิยายแบบใหม่ ซึ่งมีข้อความบอกเล่าเข้ามาคล้ายๆ ใจความของคุณนี้ค่ะ
คือหน้านิยายแบบใหม่ หลายๆ คนอาจจะยังไม่ชิน แบบนั้นค่ะ
อีกไม่นานคงจะชินค่ะ(เพราะคนเรานะคะ มีความเคยชิน ซึ่งเกิดขึ้นได้เป็นธรรมชาติของเราของเราอยู่แล้ว เดี๋ยวคุณคงจะชินค่ะ)
เป็นกำลังใจ ให้งานเขียนของคุณค่ะ
สำหรับเรื่องราว เกี่ยวกับเหตุที่มีจุดเริ่มต้นดังต่อไปนี้...
ทุกวันนี้ผมยังคงตั้งคำถาม “ทำไมถึงยังไม่มีแฟนกับเขาซักที”
ย้อนกลับไปในวันที่ 13 กุมมือภากันไปผสมพันธ์สมัยยังเรียนอยู่ชั้น ม.2
เป็นเรื่องจริงของคุณ(หรือว่าเรื่องเขียน)คะ?
โอยยยย เด็กไร่อ้อยนี้นะ ก็น่ากลัว ด้วยเช่นกันเนาะ
อื้อออ
คิดว่าเด็กไร่อ้อยนะ จะไร้เดียงสา เปล่าเลยด้วยเนาะ
โฮ โฮ่ โฮ๊
คุณนะคะ เป็นเด็กไร่อ้อยในยุคโลกาภิวัฒน์จริงด้วยดิ
เดี๋ยวขอออนุญาต ลงข้อมูลเกี่ยวกับผล...ของยุคสมัย ซึ่งอาจจะมีส่วนทำให้เกิดเป็นปัจจัย ให้คุณปล่อยอึ่ง ไหล ไปทำในสิ่งที่หลายๆ คนอาจจะทำ ดังที่คุณกล่าวมานี้ ด้วยนะคะ
ขออนุญาตค่ะ
(ผลกระทบของโลกาภิวัตน์ต่อสังคมโลก)
ผลกระทบด้านสังคม
การครอบโลกทางวัฒนธรรม เนื่องจากระบบสื่อสารไร้พรมแดน ทำให้เกิดการครอบโลกทางวัฒนธรรม อิทธิพลของวัฒนธรรมและอำนาจของเศรษฐกิจจากประเทศที่พัฒนาแล้วได้ไหลบ่าเข้าสู่ประเทศอื่นอย่างรุนแรง ก่อให้เกิดกระแสวัฒนธรรมโลก (Neo - Westernization) ครอบงำทาง ความคิด การมองโลก การแต่งกาย การบริโภคนิยม แพร่หลายเข้าครอบคลุมเหนือวัฒนธรรมประจำชาติของแต่ละประเทศ ผลที่ตามมา คือ เกิดระบบผูกขาดแบบไร้พรมแดน
ผลกระทบของโลกาภิวัตน์ต่อสังคมโลก
มีข้อมูลมากมาย หากเด็กๆ ต้องการอ่าน สามารถอ่านได้ ภายในเพจจากลิ้งข้างล่างนี้นะคะ
https://sites.google.com/site/xaseiynniyukhlokaphiwathn/sangkhm-lok-yukh-lokaphiwathn
คือจริงแล้วนะคะ วันวาเลนไทน์ และเด็กๆ ผู้ที่ไม่รู้เรื่อง หรือไร้เดียงสา ถือวันนี้ผสมพันธุ์กันนั้น หรือ ก็เป็นวัฒนธรรมของตะวันตกเขานะคะ
และ เรื่องเหตุการณ์ในวันวาเลนไทน์ ที่ดูจะเป็นวันพิเศษของคุณ
(ดูน่ากลัว สำหรับเจ้าของเมนต์นี้มากๆค่ะ
)
คือ ส่วนของตน(คือของเจ้าของเม้นต์นะคะ) นั้นไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้ค่ะ คือเหตุที่สื่อเกี่ยวกับความรัก(หรือชู้สาว)ซึ่งเกิดขึ้นในวันดังกล่าวนี้ ไม่มีแลกเปลี่ยนค่ะ
เป็นคนที่ปิดกั้นตัวเอง เกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ
คือ ตั้งแต่รู้ความ ก็เรียนรู้ หรือฝึกที่จะปิดกั้นตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยด้วยค่ะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แก่แดดมากๆ สิบขวบกว่าๆ นะคะ รู้แล้วว่า เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องไม่ดี และต้องเรียนรู้ด้วยว่าต้องปิดกั้นด้วยค่ะ
คือหากใครๆ เพื่อนคนใดส่อแววว่า สนใจเราเกี่ยวกับเรื่องของความรู้สึก ในแบบชู้สาวนะคะ รังเกียจเขามากๆ รังเกียจมากจริงๆ รู้สึกว่าเขานะจะนำทุกข์มาให้ แปลกมากเลย ทั้งที่ในส่วนลึกๆ รู้ด้วยค่ะ ว่าความรักนะนำควมสุขมาได้เช่นกัน
แต่ส่วนตัวไม่ชอบค่ะ มีอาการย้อนแย้งนะเรา ฮ่า ฮ่า ฮ่า
อาจจะมีโอกาสเรียนรู้จากคู่รัก ที่เขารักกัน(คือความรักของผู้ใหญ่) เช่น คุณพ่อกับคุณแม่ ท่านรักกันมากๆ รักมากจนเรารู้สึกได้ ถึงความรัก และจริงใจของท่านทั้งสองมีต่อกันได้นะ
คือ เป็นคนรักที่ดีให้กันและกัน เป็นเพื่อนทุกข์ เพื่อนสุข เป็นเพื่อนรัก และเพื่อนยากในยามทุกข์ คือเห็นๆ ความสัมพันธ์ของท่านในรูปแบบนั้นค่ะ
หรือแม้คุณตา กับคุณยาย และคุณปู่กับคณย่า ก็เช่นกัน คือเห็นท่านรักกันค่ะ
เห็นว่าท่านเป็นคู่รักที่มีความสุข
แม้บางครั้งท่านจะถกเถียงกันบ้าง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แง่มุม หรือแลกเปลี่ยน แบ่งปัน ความต้องการของทั้งสองฝ่าย ในการอยู่ร่วมกัน แต่ภาพโดยรวมแล้ว เห็นๆ ได้ว่า ท่านทุกคนรักกันค่ะ
คือ เห็นความเป็นมิตร เห็นความเป็นกัลยาณมิตรที่ดี เห็นความจริงใจ เห็นความห่วงใย เอื้ออาทร และเมตตา เห็นความละมุนละไม นอบน้อม และการให้เกียรติ์ เคารพ และยํ่าเกรง ที่ท่านทุกๆ คูุ่ที่กล่าวมา ได้แสดงออกต่อกันและกัน ในทุกๆ วัน ในการอยู่ร่วมกันของท่านๆ ค่ะ
เพียงเห็น ก็รู้สึกได้ว่านั้น คือความสุข ของกันมีกัน และกันของท่านค่ะ
คือ เห็นได้แบบนั้นจริงค่ะ
หากแต่ โดยส่วนตัวจะให้คิดว่า ความรักนะ น่าจะเป็นสิ่งที่ดี สำหรับตนได้...ด้วยหรือไม่?
นั้นไม่เคยคิดค่ะ
เพราะเข้าใจว่า การที่จะมีคู่ ที่จะสามารถเป็นคู่ที่มีความสัมพันธ์(ไม่ใช่ผสมพันธุ์นะคะ อ่านให้ดีๆเน๊อออ
)
ที่ดีเยี่ยมได้ เช่น คุณพ่อ คุณแม่ คุณตา คุณยาย และคุณปู่ คุณย่านั้น คงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับใครๆ หลายๆ คน อย่างแน่นอน
คือ เข้าใจว่าต้องมีจิตใจที่เข้าใจหลายสิ่ง หลายอย่าง เกี่ยวกับการอยู่ร่วมกัน เป็นอันดี เป็นองค์ประกอบนั้น ต้องมีอยู่เป็นปัจจัยสำคัญค่ะ
คือกลัวตัวเราเองไม่ดีพอ หรือกลัวคนที่เราไปหลงรักนั้น เขาจะไม่เข้าใจในความรักได้ดีพอ กลัวว่าจะเป็นคู่ที่ไม่สามารถเป็นได้ เช่นทุกคู่ที่เราเห็นว่า เป็นความรักที่ดีได้ แบบนั้นค่ะ
คือมีความคิดดังที่ว่า เมื่อไม่แน่ใจในสิ่งใดๆ(เกี่ยวกับตนเองนะคะ) ก็จะปล่อยผ่าน...น่าจะเป็นวิธีที่สงบ สันติที่สุดค่ะ
ทั้งหมดนี้ จึงทำให้ก่อเกิดเป็นเหตุที่ตนปิดกั้นตนเอง...เกี่ยวกับปัจจัยที่จักนำมาซึ่ง เหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับวันแห่งความรัก หรือในในวันวาเลนไทน์ค่ะ
แต่ ก็มีนะคะ ได้รับดอกกุหลาบมากมาย แทบทุกๆ ปี ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นๆ ได้เป็นหอบๆ ทุกๆปีเลยด้วยค่ะ
หากแต่ได้ในวันแห่งความรัก...จากเพื่อน คือจากเพื่อนๆ คือเป้นเพื่อนรัก หรือจากความรู้สึกที่มีมิตรภาพที่ดีต่อกัน นั้นมีค่ะ
ได้ของขวัญเป็นหอบๆ เป็นกุหลาบสีต่างๆ มีกลิ่นหอมๆ และตุ๊กตาน่ารักๆ และช็อคโกแล๊ต หรือบางครั้งได้นํ้าหอม (เพื่อนบอกว่า เธอใช้เมื่อไร ได้คิดถึงฉันไง)มีโอกาสได้รับของขวัญลักษณะนี้ ค่ะ และมีการโอบกอดกันและกัน เพื่อมอบความรู้สึกดีๆ คือความเป็นมิตร ไมตรี หรือมิตรภาพที่ดี จากเพื่อนๆ มากมายค่ะ
มาวันนี้ โตๆ กันแล้ว วัฒนธรรมดังกล่าวนี้ ก็ยังคงยึดมั่น ในกลุ่มเพื่อนๆ ค่ะ
ยิ่งมาวันนี้น๊าาา กุหลาบบางช่อที่ได้นั้น สวยงามมากๆ ช่อโตๆ ด้วยค่ะ
หรือกุหลาบเดี่ยวบางดอก ที่ตนได้จากเพื่อนๆ ที่แสนดีนะ มีสีที่แปลกมากมาย เพื่อใช้ในการสื่อ... เช่นสีดำ(ความหมายแห่งอมตะ) หรือสีขาว(ความหมายของความบริสุทธิ์) ดอกโตๆ เป็นต้นค่ะ
(ของเหล่านี้ ในวันสำคัญนี้หรือ ก็แน่หล่ะว่าแพงเอาการ คือเคยผ่านร้านดอกไม้ และเห็นราคาติด ในแบบที่เราได้รับจากเพื่อนๆ ค่ะ)
เพราะด้วยที่ว่า เราๆ โตแล้วในวันนี้นะคะ ทุกๆ คนมีงานทำ มีเงินพอที่จะซื้อดอกไม้ให้เพื่อนๆ ในโอกาสพิเศษนี้ (ในราคาที่พิเศษ แบบนั้นค่ะ)
วันวาเลนไทน์... ระลึกถึงเมื่อไรนะ รู้สึกถึงความสดชื่น และมิตรภาพที่ดีๆ ทำให้ยิ้มได้ ด้วยอารมณ์ดีๆ เสมอๆ ค่ะ
ทั้งหมดนี้ คือความมี...ในเหตุการณ์ที่ว่า....อาจจะไม่มีอยู่...จริงด้วยสิเนาะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
คือก็มีนะคะ หากแต่ เป็นเหตุการณ์ ที่แตกต่าง...จากของคุณนั้นเองค่ะ
แลกเปลี่ยน ความคิดเห็น และภาคปฎิบัติที่แตกต่าง ในเหตุ หรือเรื่องราว เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ หรือ เหตุการณ์(ในส่วนบุคคล และความเข้าใจ ที่มีอยู่) ในวันแห่งความรักค่ะ
ยินดี ต้อนรับคุณปล่อยอึ่ง กลับสู่เด็กดีค่ะ
-ที่มันไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องจริงน่ะครับมันเป็นเรื่องจริงมาเยอะแล้ว ฮ่า ๆ ๆ
แต่ก็นะ พอมองย้อนกลับในตอนที่ยังเป็นเด็ก เรื่องเกรียน ๆ ที่เคยก่อเอาไว้นี่ก็มีอีกตั้งเยอะแยะเลย
สนุกจริงหรือคะนั้น?
จริงแล้วเป็นเด็กๆ นะ เรื่องแบบนี้น่า(จะ)กลัวดิ
แต่คุณกลับรู้สึกว่าสนุก
ขอบคุณที่ช่วยตอบให้เป็นหลักฐานค่ะ
หลักฐานที่ได้ ในที่นี้ คือ คนเรานะ มีความรู้สึกแตกต่างกันได้ จริงด้วยสิเนาะ
อ้าวววว~~~~
คุณนะคะ เปลี่ยนข้อความในเม้นต์...นะคะ
ทำให้เม้นต์ก่อนหน้านี้ ที่ส่งเข้ามาเค้วงงงคว้างงงง เลยด้วยค่ะ
ฮื้อ
ลอยออกนอกโลกไปสิเรา
(คุณต้องไม่ทำแบบนี้ดิค๊าาา)
หาทางลงั๊ยยย นะนี่เรา????
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เรื่องทำในสิ่งที่ว่านี้นะคะ คุณไม่ใช่เกรียนใครๆ เขานะคะนั้น
หากแต่เกรียนตนเองเสียมากกว่า
เป็นเด็ก เป็นเล็กริทำสิ่งที่เกรียน หรือไม่ดี ต่อตนเอง ไม่ดีนะคะ
เดี๋ยวคุณพ่อ คุณแม่ท่านจะเสียใจ และห่วงใย จนท่านเป็นทุกข์ คือผลที่ไม่ดี อย่างยิ่งค่ะ
เจ้าของเม้นต์นี้ เป็นคนหัวโบราณค่ะ สงสารพ่อแม่ค่ะ
กลัวท่านจะทุกข์เพราะห่วงใยเราค่ะ
เคว้งคว้าง
ว. อาการที่หมุนหรือลอยไปตามกระแสลมกระแสนํ้าเป็นต้น อย่างไม่มีจุดหมายหรือไม่มีที่ยึดเหนี่ยว โดยปริยายหมายถึงลักษณะที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น เขาเดินเคว้งคว้างไม่รู้จะไปไหนดี คว้างเคว้ง ก็ว่า.
จะให้ว่ายังไงดี แบบว่า ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กอยู่ใช่มั้ย อายุยัง 14 อยู่เลย ตอนนั้นคิดอะไรบ้างก็ไม่รู้หรอก จะดีจะชั่วจะสนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แต่ว่านะ นั่นมันก็เด็กไม่ใช่เหรอครับ ความสนุกมักจะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ลอยเข้ามาในหัวเสมอ
แต่ผมไม่ได้มองว่าเรื่องแย่ ๆ ในวัยเด็กจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีเสมอไปนะ เพราะเคยทำและเคยผิดพลาดมันจึงกลายเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาให้ดีกว่าเดิมไงครับ พอจะซ้ำรอยเดิมมันก็มักจะเบี่ยงไปทางอื่นเสมอ แต่ไม่ได้บอกว่าผมในตอนนี้เป็นคนที่ดีหรือว่าให้เกียรติผู้หญิงเป็นแล้วนะ ฮ่า ๆ ๆ นิสัยแย่ ๆ อันเดิมหาย แต่นิสัยแย่ ๆ อันใหม่ก็เข้ามาทดแทนอยู่ดี
นี่แหละครับที่เขาบอกว่า "ห้ามรับของจากคนแปลกหน้า"
อ้อ ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะเปลี่ยนข้อความครับ
ตอนนั้นผมเขียนไว้ยาวมาก แต่ยังเขียนไม่จบ แล้วมือดันกดโพสต์ ผมเลยกลัวว่าจะสื่อสารผิดพลาด ทีนี้เวลามันกระชันชิด ข้อความที่เหลือก็ยังอีกยาว แต่ผมกลัวคุณเข้ามาอ่านข้อความก่อน เลยก็ตัดสินใจลบข้อความทั้งหมดนั้นทิ้งไป แล้วเขียนอันใหม่ให้สั้นกว่าเดิมเพื่อทำเวลาแทน สิ่งที่ต้องการจะสื่อจากครั้งแรกและครั้งที่สองจึงไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง
จะให้ว่ายังไงดี แบบว่า ตอนนั้นผมยังเป็นเด็กอยู่ใช่มั้ย อายุยัง 14 อยู่เลย ตอนนั้นคิดอะไรบ้างก็ไม่รู้หรอก จะดีจะชั่วจะสนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย แต่ว่านะ นั่นมันก็เด็กไม่ใช่เหรอครับ ความสนุกมักจะเป็นสิ่งแรก ๆ ที่ลอยเข้ามาในหัวเสมอ
คุณนะคะ พยายามสร้างสรรค์ประสบการณ์ หรือเรียนรู้ด้วยวิธีที่น่าจะเรียนยากพอสมควรเลยนะคะ
นั้นคือ ด้วยวิธีที่ เต็มไปด้วยปัญหา หรือด้วยวิธีที่ต้องผ่านขวากหนาม ( to learn the hard way(adj)
คือวิธี หรือหนทางที่เรียนรู้ ที่หนักหนาสาหัสค่ะ
เป็นนักสู้จริงด้วยดิ
(วิธีง่ายๆ ก็มี แต่ไม่เอาเนาะ)
และผลที่ได้...
เรามาดูกันนะคะ
แต่ผมไม่ได้มองว่าเรื่องแย่ ๆ ในวัยเด็กจะเป็นสิ่งที่ไม่ดีเสมอไปนะ เพราะเคยทำและเคยผิดพลาดมันจึงกลายเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อพัฒนาให้ดีกว่าเดิมไงครับ พอจะซ้ำรอยเดิมมันก็มักจะเบี่ยงไปทางอื่นเสมอ แต่ไม่ได้บอกว่าผมในตอนนี้เป็นคนที่ดีหรือว่าให้เกียรติผู้หญิงเป็นแล้วนะ ฮ่า ๆ ๆ นิสัยแย่ ๆ อันเดิมหาย แต่นิสัยแย่ ๆ อันใหม่ก็เข้ามาทดแทนอยู่ดี
อย๊ากกกกกกกกกกกกก
ทั้งที่คุณนะคะ ลงทุน ปล่อยตัว ปล่อยใจ ใช้เวลาของชีวิต เพื่อเรียนรู้ ในแบบที่หนักๆ(หนักหนาสาหัสด้วยเนาะ) แต่ผลที่ออกมาก็ยังไม่ดีพอ
ยังจะกลับแย่อยู่อีกด้วยนะคะนี่
แบบนี้แล้ว เอาวิธีที่เรียนได้ง่ายๆ และปลอดภัย ทั้งคุณ และคน(คือผู้หญิง)ที่คุณพบเจอ ไม่ดีกว่าเหรอคะ?
ชีวิตคนเรานะคะ ไม่ยาวนานนักนะค๊าาา คุณปล่อยอึ่งงงง)))))))
คืออยากให้คุณค้นพบความต้องการของคุณในแบบง่ายๆ ค่ะ
นี่แหละครับที่เขาบอกว่า "ห้ามรับของจากคนแปลกหน้า"
คนแปลกหน้า ในที่นี้ คือหญิงต่างๆ ที่คุณผสมพันธ์ด้วยบ่อยๆ แบบนั้นใช่ไหมคะ?
ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว คุณเล่าประสบการณ์ที่ว่าดี หรือไม่ดี ให้เป็นแบบอย่าง เพื่อการเรียนรู้ ก็ดีนะคะ
คืออยากให้คุณเล่าต่อ เกี่ยวกับผล ที่ได้ จากคนแปลกหน้าค่ะ
จะเก็บไว้เป็นครูสอนตนค่ะ
เรื่องการปรับเปลี่ยน ข้อความในเม้นต์ข้างบนนั้นนะคะ ไม่ซีเรียสนะคะ
จริงแล้วปรกติจะก็อปประโยค หรือคำ ของคู่สนทนาวาง เพื่อให้เห็นได้ว่าเราสนทนาเกี่ยวกับสิ่งใดกันค่ะ
และ เมื่อไม่ก็อป ก็(แน่หล่ะ
)เกิดเหตุคล้าย...ที่เห็นนี้ค่ะ
เคว้งงงงงงงงงงงไปดิเนาะ ฮ่า ฮ่า
แต่ ไม่ซีเรีสนะคะ
มันก็ยังมีเรื่องที่ว่า "ใกล้กว่า ถูกกว่า แล้วไง ก็เราชอบก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นนี่หว่า" อยู่อีกนะครับ
ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวของมัน และต่อให้มันอาจจะมีข้อเสียอาจจะมีซัก 70 เปอร์เซนต์ก็ตาม แต่บางที 30 เปอร์เซนต์ที่เหลือนั้นมันก็อาจจะมีอะไรดีกว่าที่คิดจนถึงขึ้นที่ว่าสามารถมองข้าม 70 เปอร์เซนต์นั้นไปเลยก็ได้
เอางี้ดีกว่า ไหน ๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว ผมว่ามันก็เป็นอะไรที่น่าสนใจและก็น่าลองเหมือนกันนะ น่าลองนะไม่ใช่น่าทำ
แบบว่า มันเป็นเรื่องของทางเลือกและก็ความชอบส่วนตัวน่ะ เหตุผลอาจจะไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่คุณเคยอยากลองเป็นขอทานดูมั้ยครับ -ขอทานเนี่ยะมันไม่ใช่ว่าจะเป็นกันได้ง่าย ๆ นะ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีด้วยที่จะต้องไปนอนอดอยากอยู่ข้างถนนแบบนั้น แต่คุณไม่เคยอยากรู้บ้างเหรอว่าความรู้สึกของคนที่เป็นขอทานมันเป็นยังไง ขอไม่นับ-พวกที่ปลอมตัวเป็นขอทานนะ -พวกนั้นมันอยู่ดีกินดีกว่าใครบางคนซะอีก นั่นล่ะครับคือความรู้สึกใหม่ ๆ ที่หาได้ยากยิ่ง ได้ดอกไม้เหรอ โอ้ยกูได้ทุกปี ได้ฟันแล้วทิ้งเหรอ โอ้ยกูทำอยู่เรื่อย ๆ ของพวกเนี้ยะมันตื่นเต้นดีเวลาทำเวลาได้ แต่มันเป็นอะไรที่ได้มาอย่างง่ายดายจนเกินไปและใคร ๆ เขาก็ทำกัน มันดูไม่พิเศษ มันดูไม่ใช่หนึ่งในล้าน ดังนั้นการตามความรู้สึกใหม่ ๆ มันจึงมีค่าแม้ใครจะมองว่าโง่แค่ไหนก็ตาม อย่าลืมว่าชีวิตเรามันสั้น อย่าลืมว่าตัวเองไม่ได้เป็นอมตะ บางทีเราอาจเกิดมาได้แค่เพียงชาติเดียว ถ้าไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำมันก็เหมือนกับการเกิดมาเสียเปล่า พอไม่ได้ทำก็กลับมาโทษตัวเองหรือสิ่งอื่นภายหลัง
ผมว่าการที่ผมไปแกล้งผู้หญิงคนนั้นแบบนั้นมันไม่ใช่เรื่องที่แปลกหรือผิดอะไรนะ เพราะแม้ว่าเราจะไม่เคยฆ่าใครก็ตาม แต่อย่างน้อย ๆ เราก็ต้องเคยคิดที่จะฆ่าใครแน่นอน แค่ความกล้าเรามีไม่พอก็เท่านั้นเอง และประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่สุดท้ายแล้วทำหรือเปล่า แต่มันอยู่ที่สุดท้ายแล้วเราคิดหรือเปล่า แค่คิดน่ะมันก็ผิดแล้ว แค่ไม่มีใครรู้ก็เท่านั้น แต่ใจเรารู้ดี
อีกล้ะ มันกดโพสต์เองอะ
ที่อยากจะบอกก็คือ ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองแล้วลองดูสักตั้ง ก็เท่านั้นล่ะ
ย้ำอีกทีนะ น่าลอง ไม่ใช่น่าทำ
น่าลอง ไม่ใช่น่าทำ
ขอบคุณ ที่ตอบ ให้เป็นบทสรุปค่ะ
หากแต่ น่าลอง และคนที่อ่อนแอ เขาลองแล้ว...ก็เท่ากับเขาได้ทำ...ลงไปแล้วสิคะ?
จริงแล้ว เป็นคำตอบทีย้อนแย้งมากนะคะนี่
เป็นงง นิดๆ หล่ะ ต้องเคาะหัวตัวเอง และอ่านสลับกลับไปมาหลายๆ ครั้ง เพื่อแยกแยะ
(อ่านแล้วมีมึนๆ
)
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แต่ เจ้าของเม้นต์จะไม่แม้จะลองค่ะ
คือ เป็นคนว่านอนสอนง่ายค่ะ
เรื่องไหนๆ ที่มีผู้บอกเล่ามาอย่าทำ อย่าลอง ก็จะไม่ลอง หรือไม่ทำค่ะ
คือเอาเวลาที่จะไปเสี่ยงลอง กับสิ่งที่มีผู้ทำวิจัย หรือเคยทดลองมาแล้ว...ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ดีนั้น จะไม่ทำค่ะ
คือเป็นคนที่ว่านอนสอนง่ายจริงนะคะ
เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่สนุกดีกว่า คุ้มกว่าค่ะ
(หรือจะเรียกอีกชื่อว่า เป็นคนขี้ขลาด ก็น่าจะได้เนาะ
)
ผมว่าการที่ผมไปแกล้งผู้หญิงคนนั้น
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
คุณเคยแกล้งผู้หญิงด้วยหรือคะ?
แปลกเนาะ ผู้ชายหลายๆ คนชอบแกล้งผู้หญิง ผู้หญิงซึ่งเป็นเพศที่อ่อนแอกว่า เป็นเรื่องที่เขารู้สึกสนุก
ในฐานะ ที่เป็นผู้หญิงนะคะ อยากบอกคุณว่า เธอทั้งหลายอาจจะไม่สนุกไปด้วยกับคุณก็ได้ค่ะ
หากแต่ กลับเป็นเรื่องของความสับสน และวุ่นวาย และทุกข์ทรมาน นั้นก็อาจจะเป็นได้ค่ะ
แต่ก็นะ โตๆ แล้ว คุณปล่อยอึ่ง เลิกที่จะแกล้งผู้หญิงเสียทีนะคะ
ทั้งนี้ คุณก็รู้แล้วว่า มีผล หรือเกิดเป็นผลที่ไม่ดีต่อจิตใจของคุณเอง เป็นคนแรกนะคะ
ขอบคุณที่ชี้แนะ และแลกเปลี่ยน แบ่งปัน ประสบการณ์ที่แตกต่าง ซึ่งเกิดขึ้นได้ และมีประโยชน์มากมาย ในการเรียนรู้นี้ ด้วยค่ะ
Hi คุณปล่อยอึ่ง เห็นชื่อคุณแล้ววิ่งเข้ามาป่วนเลยค่ะ555+
ว่าไงตัวเอง
มีใครเอาดอกกุหลาบไปให้บ้างป่าว
ระวัง-พวกที่เอาชื่อตัวเองไปติดไว้บนหัวกระทู้หน่อยนะ
ใครคือคุณ คุณคือใคร อิอิอิ
เดี๋ยวเข้าไปกระซิบข้าง ๆ หูเลย
อ่อ งั้นเหรอ อ่อ...
บอกแล้วว่ามาป่วน...มาเกรียนด้วยกันเปล่าร่า เอาป่าวร่า 555
ฮั่นแน่ มีเชิญ มีเชิญ
เป็นนายนี่เอง? สวัสดี ซำบายดีบ๊ออออ
อ่อ เราก็มีเรื่องนึง ประสบการณ์ตรงจากคนใกล้(ไม่ได้)เคียง
เรา "เฮ้ยพี น้องที่ให้กุหลาบ-อยู่คณะไหนวะ"
เพื่อน "ไม่รู้ กูไม่ได้ถาม"
เรา "เอ้า -นี่ เขาอุตส่าห์ให้กุหลาบแดงวาเลนไทน์ -จะไม่สนใจเขาหน่อยเลยเหรอ? มั้ย"
เพื่อน "สนใจสิ กุหลาบเยอะขนาดนั้น ท่าจะเหมามาทั้งปากคลองตลาด เผลอ ๆ รวมตลาดไท ด้วยเลย- กูว่าแจกทั้งมหา ลัย ยันจิ้งจกตามซอกตึกเลยล่ะ"
เรา".."
เรา "เอ้า -นี่ เขาอุตส่าห์ให้กุหลาบแดงวาเลนไทน์ -จะไม่สนใจเขาหน่อยเลยเหรอ? มั้ย"
เพื่อน "สนใจสิ กุหลาบเยอะขนาดนั้น ท่าจะเหมามาทั้งปากคลองตลาด เผลอ ๆ รวมตลาดไท ด้วยเลย- กูว่าแจกทั้งมหา ลัย ยันจิ้งจกตามซอกตึกเลยล่ะ"
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
อ่านข้อความของเม้นต์นี้แล้วหลงตัวระเบิดหัวเราะ ด้วยที่อารมณ์ดีๆ เพราะเห็นด้วยค่ะ
น้องเขานะ น่าจะรู้จริง...ถึงความหมายของวันวาเลนไทน์ มั้งเนาะ
ให้กุหลาบแดงแก่จิ้งจก ทุกๆ ซอกตึก ในวันวาเลนไทน์
น่ารักมากเลยด้วยค่ะ
ภายใต้เม้นต์นี้ ขออนุญาต ลงข้อมูลที่ดูจะถูกต้อง เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์นะคะ
20 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์
เมื่อวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์เวียนวนมาอีกครั้ง หันไปทางไหนก็มีแต่คนรักกัน แต่ถึงอย่างนั้นวันวาเลนไทน์ก็ควรจะเป็นวันดีๆ ที่มีแต่เรื่องดีๆ ใช่ไหมล่ะ จึงขอนำเสนอ 20 เรื่องที่ควรจะรู้ไว้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์ เพื่อให้ทุกๆ คนทำวันวาเลนไทน์ของเราให้เป็นวันวาเลนไทน์ที่มีคุณค่ามากกว่าวันที่เสียเงินซื้อของขวัญ หรือแสดงออกว่ารักกันแบบที่ไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของความรัก ว่าแล้วเราก็มาดูกันเลย
ทั้งหมด 20 เรื่อง ที่ควรรู้เกี่ยวกับวันวาเลนไทน์
มีอยู่ในลิ้งค์ค่ะ
ขอบคุณ และขออนุญาตค่ะ
https://www.sanook.com/campus/931822/
อ๋อ ไม่ใช่ผมแน่นอนครับ
อืม.... หายไปนาน
ถามว่ามีอะไรแปลกประหลาดเกิดขึ้นบ้างหรือ อืม... ไม่มี เดือนนึงอาจจะมีเหตุการณ์ดราม่าแบบอาหารว่างพร้อมรับประทานโผล่มาให้เห็นขั้นต่ำหนึ่งกระทู้ และก็เหมือนเดิม ช่วงมีโรคระบาด นักเขียนเพิ่มขึ้นเยอะมาก แต่เมื่อรัฐบาลอนุญาตให้กลับไปเรียนได้เหมือนเดิม ค่อนข้างเงียบเหมือนป่าช้าเลยครับ
ถ้าโผล่มาเดือนละ 1 กระทู้นี่ถือว่าเรื่องปกติมั้ยครับ
มันดูเหมือนใช่นะ
สวัสดีคุณไวต์ เคน
ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอ เหมือนดังคำกล่าวที่ว่า เว็บไซต์ที่ยิ่งใหญ่ มักจะมาพร้อมกระทู้ดราม่าอันใหญ่ยิ่ง(ในบางเดือน) ฮ่าๆ
จะว่าไป ช่วงมีโควิดแล้วมีนักเขียนหน้าใหม่งอกขึ้นมานี่ผมนึกไม่ถึงมาก่อนเลยว่ามันก็สามารถเกิดขึ้นได้ แล้วมันเยอะกว่าช่วงปิดเทอมในระดับไหนเหรอครับ พอจะกะ ๆ ได้มั้ย
ปกติที่บอร์ดโฆษณานักเขียนจะมีมานำเสนอนิยายตัวเอง วันละประมาณหนึ่งถึงสามคน แต่ช่วงอยู่บ้านมามากกว่า 10 คนขึ้น
และคำถามยอดฮิตเลยก็คือ “แต่งนิยายยังไง”
อืม... ใจอยากจะตอบว่า น้องก็เริ่มแต่งสิครับ คิดอะไรได้ก็ปล่อยมันออกมา ไม่เข้าใจอะไรค่อยมาถามนักเขียนรุ่นพี่ที่บอร์ดนี้ (ส่วนใหญ่น้องเขามาถามแบบครอบจักรวาลมาก ตอบไม่ถูกว่าจะตอบยังไง คำถามมันวงกว้างมาก ตามที่กล่าวไปข้างต้น) ดี
ที่จริงผมก็เขียนประมาณนั้นไปหลายรอบแล้ว จนขี้เกียจเขียนแล้ว
3 เท่า โอ้แม่เจ้า
นั่นแหละค่ะ ตามที่เจ้าของเม้นบอกแหละ มีเยอะมาก บางทีก็เงียบก็มีในบางวัน และในขณะเดียวกันก็จะมีกระทู้ฝากนิยายไม่ต่ำกว่า5กระทู้ค่ะ (โดยรวม)
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?