ช่วยคิดพล็อตเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยหน่อยค่ะ
ตั้งกระทู้ใหม่
คุณต้องการจะลบกระทู้นี้หรือไม่ ?
3 ความคิดเห็น
ผีถ้วยแก้วค่ะ เคยเล่นกับเพื่อนตอนอยู่หอสมัยม.ปลายช่วงเก็บตัวอ่านหนังสือเตรียมสอบเอ็นฯ โคตรหลอน พอตกดึกมีเสียงเหมือนคนมาเคาะตามประตู หน้าต่างข้างนอกทั้งคืน เล่นเอาไม่มีใครกล้าหลับกันเลยสักคน
น่าสนใจมากค้าา เดี๋ยวจะนำไปใช้น้า
พลอตประมาณว่า ตัวเอกไปกับเพื่อนสนิทที่มหาลัยตอนกลางคืน เพราะต้องไปตามหาของที่หายบนตึก แต่ทว่าตัวเอกผลักเพื่อนพลัดตกตึกจากชั้น10ทำให้เสียชีวิตคาที่เพราะไม่พอใจที่เพื่อนเป็นแฟนกับคนที่แอบชอบ เช้าวันถัดมาตำรวจก็ดำเนินคดีและสอบปากคำตัวเอก แต่ตัวเอกก็ตีเนียนจนสุดท้ายหลุดจากการเป็นผู้ต้องสงสัย และการตายของเพื่อนสนิทก็จบลงที่ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ แต่เรื่องมันยังไม่จบเพราะผีของเพื่อนสนิทตามมาอาฆาต และมาเอาชีวิตตัวเอกไปอยู่ด้วย ตัวเอกถูกผีเพื่อนหลอกและพยายามวิ่งหนีและหาหมอผีให้มาช่วย แต่หมอผีก็ช่วยไม่ได้เพราะเป็นหมอผีปลอม จนในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวและไปมอบตัวกับตำรวจพร้อมกับหลักฐาน จากนั้นตำรวจก็จับเธอเข้าห้องขังไว้ก่อนเตรียมส่งตัวไปเรือนจำพรุ่งนี้เพร่ะตอนนี้มันดึก แต่ไม่นานหลังจากที่ตำรวจกลับมาจากข้างนอกก็พบว่าตัวเอกได้แขวนคอตายในห้องขังพร้อมกับเชือกที่ไม่รู้ว่าเอามาจากที่ไหน(ผีเพื่อนเอาเชือกมาให้) จบ////
เป็นแนวสยองขวัญเฉย ประมาณนี้ถือว่าผ่านไหมครับ คิดสดๆ
อันนี้น่าสนใจมากเลย เราจะนำไปแต่งดู
พล็อตนิยายถ้าไม่คิดเอง มันจะมีความหมายอะไรเหรอคะ?
คือที่เราตั้งกระทู้เพราะเราอยากฟังความเห็นคนอื่นเฉยๆอะค่ะว่าเขาคิดว่าถ้าเกี่ยวกับแนวนี้จะทำเรื่องอะไรได้บ้าง ตัวเราเองก็คิดไว้แล้วค่ะแต่เผื่อมีอันไหนน่าสนใจเราจะได้เอาไปต่อเติมในส่วนที่สามารถเอาเข้าไปเติมได้ คือเราฟังความคิดคนอื่นแล้วบางทีอาจจะเอาไปดัดแปลงแล้วแต่งลงอะไรแบบนี้ค่ะ
สำหรับเรามันมีความหมายนะคะ
คือพอใช้คำว่า "ช่วยคิดพล็อต" กับ "ขอแนว..." เราว่ามันดูเหมือนให้คนอื่นคิดให้มากกว่าขอความเห็นต่อพล็อตเรื่องที่ตัวเองคิดเองนะคะ ถ้าเกิดคิดเองรบกวนเอามาเล่าให้คนอื่นอ่านดีกว่า เขาจะได้ทราบว่าคุณทำงานด้วยตัวเองไปแล้ว ไม่ใช่รอคนอื่นทำงานให้แล้วเอาไปเขียนค่ะ
ความหมายของการเป็นนักเขียนคือ "เป็นคนสร้างสรรค์งานเอง"
โอเคค่ะ เราใช้คำผิดเอง ต้องขออภัยด้วยนะคะ งั้นเราขอเล่าพล็อตของเราให้ฟังนะคะ คือเป็นเพื่อนกลุ่มหนึ่งอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่คนละคณะแล้วทีนี้เพื่อนก็ไปได้ยินตำนานผีมาจากพันทิปหรืออื่นๆก็เลยเอามาเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วมันก็จะมีข้อห้ามว่าตรงนั้นอย่าไปยุ่งอย่าไปทำอะไรนะ แต่เพื่อนอีกคนในกลุ่มดันทำไปแล้วแต่ไม่กล้าบอกเพื่อน วันต่อมามีคนทักเพื่อนเยอะมากว่าใครเดินตามหลังมาหน้าดูซีดๆชวนคุยก็ไม่คุยด้วยอะไรงี้อะค่ะ แล้วหลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์แบบว่าอยู่คนเดียวแล้วเก้าอี้เลื่อนเองทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้ทำอะไร ทีนี้มันก็เจอเหตุการณ์แบบนี้มาตลอดเรื่อยๆจนมันหนักขึ้นอะค่ะก็เลยตัดสินใจบอกเพื่อน เพื่อนก็ทำอะไรไม่ได้เลยต้องช่วยกันหาทางแก้ แล้วเราจะตัดจบไปที่เด็กนักเรียนอีกกลุ่มนึงที่กำลังอ่านหนังสือเรื่องนี้อยู่ค่ะ แต่ครูดันมาเข้าสอนก่อนพอดีเลยจบไว้แค่นั้น
เท่าที่อ่านเหมือนยังไม่รู้ว่าจะลงยังไง หรือไม่ก็อยากจบแบบหักมุมงี้ใช่มั้ยคะ? เราว่ามันก็ได้แหละค่ะ ยิ่งถ้าไปเสริมส่วนสถานการณ์การกลอนให้น่ากลัวมากๆ พอจบแบบนี้รับรองคนอ่านอยากบีบคอดีค่ะ เราว่ามันสำเร็จอีกแบบนะ ลองดูจากแนวสยองขวัญบางเรื่องของญี่ปุ่นจะมีการใช้กลวิธีคล้ายกันในการเดินเรื่อง อย่างงานของเอโดงาวะ รัมโป จะมีเก้าอี้พิศวาส (ชื่ออาจแตกต่างกันไปตามสนพ.ที่แปล) แต่เส้นการเล่าคล้ายกัน ถ้าใช้สเต็ปแบบนั้นได้ จะสุดมากค่ะ 555
เค้าอยากจบแบบว่าพีคๆไปเลยอะค่ะะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?