Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

เราคงไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นนักเขียนได้

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ถ้าใครไม่ชอบฟังคำบ่นหรือดราม่า ก็ข้ามไปก่อนนะคะ

ตอนเขียนนิยายแรกๆ เราเห็นผู้ติดตามน้อย ก็เลยพยายามโปรโมทให้คนเห็นมากๆค่ะ แต่พอคนเห็นนิยายเรามากๆ แล้ว ก็ยังมีผู้ติดตามน้อยอยู่ดี

เราเลยได้รู้ว่า ที่มีผู้ติดตามน้อย เพราะเราเขียนไม่สนุกพอนั่นเอง

เราก็พยายามแก้นิยายให้สนุกขึ้น ใช้เวลาวันละสองสามชั่วโมง แต่ก็ยังมีผู้ติดตามน้อยอยู่ดี

คือ คนติดตามน้อยนั้น ไม่เป็นไร

ปัญหาจริงๆ คือ เราเขียนนิยายไม่โดนใจคนอ่านเอง พยายามแก้งาน ปรับปรุงงานแล้ว ก็ยังไม่สนุก ไม่โดนใจคนอ่าน

เราไม่ใช่วัยรุ่น เราอายุมากแล้ว สมัยที่มีนิตยสาร เราเคยพิมพ์นิยายส่งนิตยสารแปดสำนักพิมพ์ แต่ก็เงียบหาย
เรามาเขียนนิยายออนไลน์ เพราะอยากทำความฝันชั่วชีวิตให้เป็นจริง เราเคยคิดว่าตัวเองเป็นนักเขียนได้ เพราะนี่เป็นความชอบความถนัดของเราจริงๆ

แต่ก็ได้มาพบความจริงว่า สุดท้าย จริงๆ เราก็ไม่มีความสามารถพอที่จะเขียนให้สนุก ไม่สามารถพอที่จะเขียนให้คนอยากอ่านได้ ไม่สามารถจะเป็นนักเขียนอาชีพได้ ความฝันชั่วชีวิตของเรา สุดท้ายเราก็ทำไม่สำเร็จ

จะโทษใครได้ ต้องโทษที่ตัวเราไม่มีความสามารถพอ เราร้องไห้มาสองวันแล้ว คิดว่าจะร้องไห้ทุกวันไปอีกหนึ่งปี ก็จะทำใจได้ เพราะเราเสียใจและเจ็บปวดมากจริงๆ

เราก็คงจะเขียนนิยายออนไลน์ต่อไป แต่คงไม่หวังผลอะไรอีกแล้ว เราจะพยายามต่อไป แต่ไม่หวังอะไรอีกแล้ว เพราะเราเจ็บมามากพอแล้ว เขียนมาสองเรื่อง ไม่มีคนติดตามเลย เรื่องที่สามก็มีคนติดตามน้อยมากจนต้องพิจารณาตัวเอง เรามันไม่มีพรสวรรค์ ไม่มีอะไรเลย

ขอบคุณมากค่ะ ทุกคนที่เข้ามาอ่าน ถ้าจะด่าเรา ก็ด่าได้เลยค่ะ เพราะคงไม่มีใครด่าเราได้เจ็บ เท่ากับที่เรากำลังด่าตัวเองอีกแล้ว

แสดงความคิดเห็น

26 ความคิดเห็น

น่ารักอารมณ์เสีย 28 ต.ค. 63 เวลา 09:51 น. 1

(จะกลับมาดูกระทู้ไหม เห็นถอดล็อคอิน?) ให้กำลังใจนะคะ แต่ละคนให้ความสำคัญกับสิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกันและความเจ็บปวดก็เพิ่มมากขึ้นตามความคาดหวัง จริง ๆ แล้วเราอาจไม่สามารถขอความเห็นคนอื่นเพื่อเทียบบางสิ่งกับบางสิ่งได้ เพราะ "ค่า" ของมันในสายตาของเขากับเรานั้นไม่ได้เท่ากัน


เราเองก็มีคำถามกับตัวเองอยู่บ่อย ๆ ว่าทำไมสิ่งที่เราชอบ เราถึงไม่มีโอกาสทำให้มันดีได้ รู้สึกอิจฉาคนที่ประสบความสำเร็จบนสิ่งที่ชอบได้ทั้งที่ตัวเองก็พยายามมากเหมือนกัน แต่สิ่งที่มักจะสำเร็จก็ดันไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองชอบหรือต้องการ มันเป็นความคิดแวบ ๆ ที่เข้ามาอย่างควบคุมไม่ได้ ช่วงนั้นก็จะเสียใจ หมดกำลังใจ หรือร้องไห้ไปบ้าง แต่เปิดธรรมะฟังสักชั่วโมงสองชั่วโมงก็หาย วนไปแบบนี้เลยไม่ได้อะไรกัับมันมาก (ของเราคือเรื่องเกม คือเน็ตมันแย่มาก แล้วเผอิญเป็นคนที่มั่น ว่าเล่นเก่ง [ขอขิงหน่อยเถอะ555] แต่ต้องมาแพ้ให้กับคนอื่นตลอดเพราะเน็ตและเครื่อง แล้วก็โดนด่าว่าขยะบ้างกากบ้าง คือมันโมโหมากจนร้องไห้อยู่บ่อย ๆ มันไม่ใช่เพราะเรามั้ย? มันเพราะอุปกรณ์ไม่เอื้ออำนวย แต่ก็แก้เรื่องเน็ตกับเครื่องก็ไม่ได้เพราะไม่สะดวกติดไฟเบอร์และไม่สะดวกจะเสียตังเพื่อเกมขนาดนั้น 5555)


ส่วนเรื่องนิยายล่ะก็ สิ่งที่จขกท.ชอบเขียนกับสิ่งที่คนจำนวนมากชอบอ่าน บางครั้งก็อาจจะสวนทางกันก็ได้ค่ะ ยอดคนติดตาม+คนอ่านมันมีหลายปัจจัยมาก ทั้งเรื่องกระแส รุ่นอายุคนอ่าน จำนวนตอนที่มี ช่วงเวลาที่อัพ ฯลฯ มากมายก่ายกอง ที่หลายกระทู้ก็พูดเรื่องนี้กันไปแล้ว นิยายมันก็เป็นธุรกิจแล้วแหละค่ะ


ถ้าเจ้าของกระทู้ให้ความสำคัญกับ "จำนวน" ก็อยากแนะนำให้ศึกษาวิธีเพิ่ม "จำนวน" ที่ว่าดูนะคะ มันไม่ได้มีแค่ "แก้นิยายให้สนุก" แล้วเราคิดว่ามันไม่ได้ยากที่จะศึกษา แต่อาจยากเมื่อต้องลงมือทำถ้าหากมันตรงข้ามกับความรู้สึกเท่านั้นแหละค่ะ ซึ่งมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับว่า จขกท.มีความสามารถหรือไม่มีความสามารถ แต่มันเป็นปัญหาทางอีโมที่แก้ยากกว่านั้น (ยกตัวอย่างเราเองก็แบบว่า จะให้ย้ายไปเขียนแนวกระแส แนววาย แนวรัก และแนวจีน มันทำไม่ได้จริง ๆ)


สุดท้ายแล้วหากจขกท.เห็นว่ามันเป็นความฝัน ก็ยังอยากให้พยายามต่อไปอยู่นะคะ ใจเย็น ๆ คิดทบทวนอะไร ๆ ไปพลาง ความทุกข์ก็อาจบรรเทานะคะ ถ้าเจ็บมากก็ร้องไห้ออกมา ตะโกนปลดปล่อย ให้มันผ่านไปแต่อย่าท้อค่ะ สู้ ๆ


ยาวมาก กลับมาอ่านเถอะนะ อุตส่าห์พิมพ์ 555555555555555

6

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

ถูกลบโดยเจ้าของความเห็น

เจ้าของกระทู็ 28 ต.ค. 63 เวลา 11:02 น. 1-2

จากเจ้าของกระทู้ค่ะ


ขอบคุณมากค่ะ คุณน่ารักอารมณ์เสีย เรากดรีเฟรชรอความเห็นแรกอยู่หลายครั้งแล้วค่ะ แล้วตอนนี้ก็กำลังร้องไห้อีกแล้ว แต่เจ็บน้อยลง เพราะตอนนี้เรามีความเห็นของคุณเป็นเพื่อนแล้ว ถ้าไม่มีความเห็นเลย คงจะเฟลมากๆ เลยค่ะ


เราเข้าใจเรื่องการแพ้เรื่องเกมของคุณเพราะเน็ตและเครื่อง แพ้ให้กับคนอื่นตลอด -->ประโยคนี้ของคุณเราเข้าใจ แล้วเราก็กำลังร้องไห้กับมันเหมือนกัน


เราชอบที่คุณวิเคราะห์ว่าเราให้ความสำคัญกับ "จำนวน" ถ้าเราอยากเขียนแล้วมีคนอ่านเยอะๆ ก็ต้องเขียนเพื่อสิ่งนั้น เราเห็นด้วยค่ะที่คุณบอกว่าสิ่งที่เราชอบอาจจะสวนทางกับสิ่งที่คนจำนวนมากชอบอ่าน มันเตือนสติเราได้ดี


เราถอดล็อคอินเพราะไม่อยากให้คนไปอ่านนิยายเราด้วยความสงสารค่ะ ไม่อยากรบกวนใครในแง่นั้น


เรามีวิธีใดจะเซฟกระทู้นี้ไว้อ่านในล็อคอินได้คะ เราจะเก็บความเห็นของคุณไว้อ่านทุกครั้งที่เราร้องไห้ ทุกครั้งที่เราเจ็บปวดเพราะทำอะไรก็ล้มเหลวทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องงานในชีวิตจริง เรื่องความสัมพันธ์ ชีวิตเราล้มเหลวทุกอย่าง


ขอบคุณมากนะคะ คุณน่ารักอารมณ์เสียสำหรับความเห็นของคุณ ความเห็นของคุณมีค่ากับเรามากค่ะ เราสัมผัสได้ถึงความจริงใจ คุณอยากจะช่วยเรา อยากจะปลอบเราจริงๆ ในวันที่เรารู้สึกสิ้นหวัง ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว


ถึงเราจะไม่มีความสามารถพอ แต่ก็ไม่ได้สิ้นไร้ ก็ยังมีคุณน่ารักอารมณ์เสียเป็นเพื่อนกับเราที่นี่ ขอบคุณมากๆ นะคะ

0
น่ารักอารมณ์เสีย 28 ต.ค. 63 เวลา 12:44 น. 1-3

ดีใจที่ความเห็นมีประโยชน์นะคะ


ความเสียใจกับความรู้สึกอัดอั้นบางทีคนเราก็แค่อยากจะได้ใครสักคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกัน มาเข้าข้างเดียวกันบ้าง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าบางครั้งความรู้สึกพวกนี้มันอาจจะน่ารำคาญ เสียเวลา ไร้เหตุผล ไม่แก้ปัญหา และไม่เกิดประโยชน์ แต่เรา ๆ ก็ไม่อยากจะรับรู้ว่ามันเป็นอย่างนั้น แค่อยากได้แบ็คอัพเพื่อให้เราสามารถผ่านจุดจุดนี้ไปได้ก่อน

(เราเป็นกับบางเรื่องที่พยายามแล้วไม่ได้ดั่งใจ ถึงแม้ในสายตาคนอื่นอาจจะมองว่า พยายามอะไรของมันวะ ไม่ตรงจุดเลย เอาแต่ย่ำวนในโคลนดูด แต่คืออยากจะบอกเหมือนกันว่า ก็โคลนมันดูดช้านอยู่ ช้านรู้ ช้านออกจากโคลนไม่ได้ พวกแกไม่ต้องมาคอมเม้นต์ถ้าไม่คิดจะ"ลงมือ"ช่วย อะไรแบบนี้) [คืองอแงแบบ พาล แล้วก็ไม่มีความตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเลยสักนิด 5555+]


เรามีเพื่อนเป็นไบโพลาร์ด้วย แล้วมันก็สอนเรา ช่วยให้เรามองเรื่องต่าง ๆ ทางด้านความรู้สึกของคนได้ละเอียดมากขึ้น


เราอาจไม่มีวิธีดี ๆ มาแนะนำในตอนที่หมดหนทางหรือหมดหวัง แต่ก็คิดว่าถ้าเรามีอะไรบางอย่างที่ทำให้เรานึกถึงมันขึ้นมาได้ และทำให้เรามีกำลังใจได้ไม่ว่าจะในตอนที่เราสุขหรือเราทุกข์ น่าจะพอเป็นเสาหลักให้ยึดได้อยู่ระดับหนึ่งนะคะ (ของเราเป็นพ่อแม่)


เอาเป็นเรื่องเล็กน้อยก็พอ เป็นความดีที่เราได้ลงมือทำ ช่วยเหลือคนอื่น หรือเรื่องดี ๆ ที่เคยอ่าน ไม่ก็เรื่องสะใจที่เคยทำ (แบบเฮ้ยได้ต่อยหน้าคนที่เกลียดแล้ววันนี้!/หยอกค่ะ!!) มันอาจจะพอช่วยแทรกความรู้สึกว่าทำอะไรก็ล้มเหลวไปหมดก็ได้นะคะถ้าหาก สโคป ของความล้มเหลวมันกว้างมาก แบบ "งาน" "ความสัมพันธ์"


ในคำพวกนั้น เราอาจคิดว่ามันล้มเหลวเมื่อมันมีเรื่องดีเพียง 10% แต่ 90% เป็นเรื่องแย่ ก็ลองลดขอบเขตให้แคบลง สนใจเพียง เรื่องดี 10% ทำให้มันเป็น 100% ในขอบเขตของมัน


แล้วมายิ้มกันนะคะ (TUT)Y


ปลาลิง. ไม่รู้วิธีเซฟกระทู้อะ ไม่เคยเซฟเลยค่ะ คิดได้อย่างเดียวคือ bookmark แหะๆ

0
ปล่อยอึ่ง 29 ต.ค. 63 เวลา 07:11 น. 1-4

คัดลิกลิงก์กระทู้ วางลิงก์ลงในไฟล์เวิร์ด (เผื่ออีกชั้นกันหาย ส่งไฟเวิร์ดไปในแชทในเฟซบุ๊คของเพื่อนหรือของสำรองของตัวเอง)

0
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:01 น. 1-5

ขอบคุณมากค่ะ คุณน่ารักอารมณ์เสีย เราอยากมีคนมารับรู้และให้กำลังใจค่ะ เลยอยากได้ความเห็นมากๆ เลยค่ะ แล้วความเห็นของเพื่อนๆ ก็ช่วยเราได้มากจริงๆ


ความรู้สึกที่ติดในโคลนดูด เราเข้าใจค่ะ มันไม่รู้จะออกไปยังไง แต่แค่มีเพื่อนคอยให้กำลังใจ มันก็ทำให้เรามีแรงดิ้นรนต่อไป


ความเห็นของคุณอบอุ่นและน่ารักมากค่ะ เราโชคดีมากๆ ที่ได้รับความเห็นจากคุณนะคะ นี่เราก็คิดว่าถ้าเขียนนิยายเรื่องต่อไป แล้วมีผู้ติดตามหลักสิบเหมือนเดิม ก็จะบอกตัวเองว่า "ถึงจะเฟล แต่ก็มีเพื่อนให้กำลังใจอยู่นะ"


แล้วน้ำใจที่เพื่อนๆ ให้ก็ไม่มีวันหายไปไหน เพราะเราจะไม่เคยลืม เรายังต้องอ่านกระทู้นี้ซ้ำอีกหลายครั้งเวลาที่เรารู้สึกล้มเหลวและไม่มีใคร


ขอบคุณมากนะคะคุณน่ารักอารมณ์เสีย ดีใจที่ได้อ่านความเห็นคุณอีกค่ะ

0
ButlerofLOVE 28 ต.ค. 63 เวลา 10:49 น. 2

ไม่มีใครที่ปรุงอาหารแล้วถูกปากทุกคน นิยายก็เช่นกัน

ถ้าวันหนึ่งเราเปลี่ยนแล้วเขียนตามที่สังคมอยากให้เขียน ถึงจะถูกจริตคนอ่านแต่คุณก็ไม่มีวันสนุกกับมันไปได้ เพราะมันไม่ใช่สไตล์ของคุณ


ส่วนเรื่องว่าไม่ใช่วัยรุ่น อายุมากแล้ว หลายคนในนี้ก็อายุขึ้นหลักสามหลักสี่เหมือนกัน (จากทู้เก่า ๆ ที่เป็นกระทู้ดักอายุ) วัยไม่ได้มีผล แต่อาจจะต่างกันที่การถ่ายทอด การใส่ประสบการณ์ชีวิต และกลุ่มคนอ่าน


ถ้าเขียนในเด็กดี...จำนวนวัยรุ่นมากอยู่แล้ว งานเขียนที่จะลงขายได้ ภาษาสมัยใหม่ก็จะโดนใจกว่าเพราะเขาอินง่ายกว่า ถ้าย้ายไปอีกแพลตฟอร์มหนึ่ง ตั้งหมวดให้ตรง ตั้งเวลาให้ไม่ชนกับ prime time ยอดคนอ่านอาจจะเยอะขึ้น นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้นิยายเรื่องหนึ่งมีคนเห็นมาก หรือเห็นน้อย


งานเขียนแต่ละคนมีกลิ่นที่เฉพาะ นักเขียนบางคนกว่าจะดังก็ใช้เวลาเป็นสิบปี บางคนตายแล้วผลงานเขียนถึงเป็นที่รู้จักก็มี


คุณสนุกกับงานเขียนของคุณหรือเปล่าละคะ


เขียนเพราะอยากเขียน เขียนเพราะมันคือโลกของคุณหรือเปล่า

ถ้ามีความสุขก็เขียนเถอะค่ะ จะมีคนอ่าน 1 คนหรือสามคน หรือจะร้อยคน เขาก็มาแชร์ความรู้สึกกับคุณเท่านั้นเอง สำคัญคือตัวนักเขียนเองนั่นล่ะ ที่สนุกกับโลกใบเล็ก ๆ ของคุณไหม


ถ้าเขียนเองยังไม่สนุก จะให้คนอื่นมาสนุกด้วย จะแก้ให้สนุกด้วย มันก็คงไม่ใช่ใช่ไหมคะ


นักเขียนสมัยก่่อน ไม่เห็นต้องพิมพ์ออนไลน์ เขาเขียนเงียบ ๆ ที่บ้านใต้ต้นไม้จิบกาแฟ ละเลียดปล่อยอารมณ์ไปกับตัวอักษร เสร็จทั้งเรื่องค่อยส่งสนพ. หรือส่งขาย เขายังมีีความสุขกับมันได้ แล้วทำไมคุณถึงไม่มีความสุข ?


การเปรียบเทียบตัวตนกับรอบข้าง...ทำให้ความสุขลดลงเสมอ จริง ๆ นะคะ

4
เสียใจ 28 ต.ค. 63 เวลา 12:53 น. 2-1

จากเจ้าของกระทู้ค่ะ


ขอบคุณมากค่ะ คุณ ButlerofLOVE


เราเห็นด้วยกับคุณค่ะ สนุกกับการเขียนในโลกของเรา คนอ่านแค่มาแชร์โลกนี้ด้วย แต่ความจริงมันเป็นโลกของเรา ที่ไม่ต้องไปแคร์ว่าจะมีคนอยากมาแชร์ไหม ถ้าเราทำตามที่คุณแนะนำได้ ก็จะมีความสุขขึ้นค่ะ


เราจะพยายามนะคะ คุณให้ความคิดที่ดีมากๆ ค่ะ แก้ไขความคาดหวังให้เราได้ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ คุณ ButlerofLOVE

0
ButlerofLOVE 28 ต.ค. 63 เวลา 16:39 น. 2-2

เราก็เป็นสายบรรยายเช่นกันค่ะ ดีไม่ดีอาจจะยุคเดียวกัน 555 ลองทำอย่างที่คุณมิรันแนะนำก็ได้ค่ะ เว็บนั้นค่อนข้างมีนิยายสไตล์บรรยายเยอะอยู่


การทำตามความฝัน...มันยากที่สุดตอนที่เราสู้กับความท้อแท้ในหัวใจเรา

ถ้าผ่านมันไปได้..อะไรก็ขวางเราจากการเขียนนิยายไม่ได้หรอกค่ะ


เป็นกำลังใจให้นะ

0
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:07 น. 2-3

ขอบคุณมากค่ะ คุณButlerofLOVE

มันยากที่สุดตรงที่ต้องสู้กับความท้อแท้ในหัวใจ เราชอบคำพูดนี้ค่ะ

เราควรจะลองไปฝากนิยายในเว็บอื่นบ้าง เผื่อจะได้ฟีดแบ็คใหม่เพิ่มค่ะ


ขอบคุณมากนะคะ ButlerofLOVE สำหรับความเห็นและกำลังใจ ซึ่งมีค่ากับเรามากๆ ค่ะ

0
ButlerofLOVE 29 ต.ค. 63 เวลา 09:20 น. 2-4

มีนักเขียนน้องใหม่คนหนึ่งที่เรารู้จัก ผลงานของเขาในนี้ยอดวิวไม่ถึง 500 (ตั้งแต่เปิดเรื่องมาจนถึงตอนนี้) ยอดเฟบไม่มาก แต่เขาเลือกจะทำตามความฝันตัวเอง และลองส่งสนพ. เมื่อสองวันก่อนได้รับการตอบรับแล้วว่านิยายของเขาจะได้รับการตีพิมพ์ค่ะ


แนวของเขาไม่เหมือนใคร ภาษาละมุนละไมสอดแทรกความอ่อนโยนอยู่ในนิยายเรื่องนั้น จบนิยายได้อย่างประทับใจคนอ่าน ต้องบอกว่าไม่ใช่นิยายแนวที่คนในเด็กดีจะอ่าน แต่เขาค้นคว้าตั้งใจและใ่ส่ใจในทุกรายละเอียด ภาษางดงาม อ่านแล้วต้องขบคิด และวันนี้มันก็ออกดอกออกผลที่สวยงามให้กับผู้เป็นเจ้าของ


งานของคุณเจ้าของกระทู้อาจจะไม่เหมาะกับการอยู่บนแพลตฟอร์ม แต่อาจจะเข้าตาสนพ.สักแห่ง ลองเขียนให้จบก่อนนะคะ แล้วเดินหน้าค่ะ :) เป็นกำลังใจให้นะคะ

0
varunyanee 28 ต.ค. 63 เวลา 11:20 น. 3

ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง....คำนี้ยังใช้ได้อยู่

วัตถุประสงค์ของการเป็นนักเขียนคืออะไร

ทุกวันนี้มันตอบโจทย์ไหม.....

ถ้าไม่ตอบโจทย์...เรายังจะทำอยู่ไหม หรือจะลดความต้องการลงมาสักหน่อย...

เพื่อให้เรายืนตรงนั้นอย่างสบายใจ...

#ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง ค่ะ

เป็นอีก 1 กำลังใจค่ะ

1
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 12:57 น. 3-1

จากเจ้าของกระทู้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ คุณvarunyanee


ไม่คาดหวัง ไม่ผิดหวัง

เราเห็นด้วยค่ะ ถ้าไม่คาดหวังอะไร ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ เพราะเราคาดหวังกับตัวเอง คาดหวังกับคนอ่าน ก็เลยต้องผิดหวัง


ขอบคุณมากนะคะ คุณvarunyanee สำหรับข้อมูลและกำลังใจค่ะ ดีใจที่ได้ความเห็นจากคุณค่ะ

0
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:06 น. 4-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณ Marcelline


เราชอบที่คุณบอกว่าคุณสวนกระแสอยู่ตลอดและยอมรับผลที่ตามมา


เราอยากทำแบบคุณให้ได้นะคะ แม้ว่าตอนนี้เราจะยังทำไม่ได้ แต่เราก็ต้องการตัวอย่างที่เข้มแข็งแบบคุณค่ะ


เราเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น แล้วรู้สึกล้มเหลวมากค่ะ แต่เราก็ยังมีความเห็นของคุณเป็นกำลังใจให้ บางทีเราก็ต้องเลือกที่จะมอง มองคนที่ให้กำลังใจเราแบบความเห็นในนี้ ดีกว่ามองอะไรที่ทำให้เสียใจ


ขอบคุณมากนะคะ คุณ Marcelline สำหรับความเห็นที่ดีมากๆ และกำลังใจค่ะ

0
Itlamp 28 ต.ค. 63 เวลา 11:29 น. 5

กับทุก ๆ อย่าง ต่างเเตกต่างกับทุก ๆ คน ถ้ารู้ตัวเร็วว่าไม่เหมาะกับตัวเองเเล้วหันไปใส่ใจกับอย่างอื่นเเล้วประสบความสำเร็จก็เป็นเรื่องที่ดีครับ จะได้ไม่เสียเวลา เเต่บางคนยังสามารถเขียนขยะให้ดังเเละรวยได้เลย เพราะงั้นเเล้วผมอยากให้คุณพยายามอีกหน่อยก็ดีครับ จะได้ไม่เสียโอกาส

1
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:08 น. 5-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณ Itlamp

เราชอบที่คุณบอกว่าบางคนยังสามารถเขียนขยะให้ดังและรวยได้เลย เราอยากพยายามต่อ จะได้ไม่เสียโอกาสเหมือนความเห็นของคุณค่ะ


ขอบคุณมากนะคะ คุณ Itlamp

0
Briss 28 ต.ค. 63 เวลา 11:48 น. 6

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


เราเองก็เป็นคนหนึ่งที่เขียนมานาน เขียนๆ หยุดๆ จนหยุดไปหลายปีเหมือนกันหว่าจะกลับมาอีกครั้ง สมัยเด็กเคยมีงานตีพิมพ์บ้าง แต่ก็เป็นงานเด็กๆ งานตลาดสมัยนั้นซึ่งก็ขายได้ตามสภาพค่ะ


เราเชื่อว่าแต่ละคนมีจังหวะเวลาของมัน หลายปีก่อนเคยเขียนนิยายจีนย้อนยุคก็ไม่ปังค่ะ ทุกวันนี้มีคนอ่านมากขึ้นก็ยังงงๆ อยู่เลย


คิดว่าช่วงนี้คนที่เล่นเด็กดีบ่อยๆ น่าจะเป็นวัยรุ่นมากกว่า อย่าเราเองเลยวัยนั้นก็แวะมาหานิยายอ่านสามเดือนครั้งได้ ยิ่งหานิยายได้ยากมากๆ เลยค่ะ เพราะนิยายเยอะขึ้นกว่าสมัยก่อนมากจริงๆ


เราไม่รู้ว่า จขกท. เขียนนิยายจบหรือยัง ถ้าเขียนจบแล้วลองลงอีบุ๊คดูไหมคะ ตลอดอีบุ๊คใน Meb เป็นตลาดที่มีผู้ใหญ่ค่อนข้างมากเหมือนกันค่ะ อาจจะถูกจริตกับแนวนั้นมากกว่าก็เป็นไปได้นะคะ


ในความรู้สึกเราเราก็อยากเขียนนิยายที่ตัวเองสนุกก่อน แม้หลายคนจะบอกว่าบรรยายมากไปก็ตาม อยากให้เชื่อมั่นค่ะว่าสักวันจะมีคนเห็นนิยายเรา แต่ว่ามันจะเมื่อไหร่นั้นเราก็ตอบไมไ่ด้เหมือนกัน

3
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:13 น. 6-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณ Briss


เราได้อ่านนิยายของคุณแล้วค่ะ เห็นบทบรรยายของคุณแล้ว กลับทำให้เรามีกำลังใจกล้าเขียนบรรยายมากขึ้น เพราะแต่ก่อนไม่กล้าบรรยายเยอะ เพราะกลัวคนอ่านไม่ชอบ แต่เมื่อเห็นคุณ Briss กล้าเป็นตัวเอง เราก็กล้าที่จะบรรยายมากขึ้นอย่างสบายใจขึ้น เราคิดว่าการได้อ่านงานของคุณ Briss ทำให้เราเขียนได้ดีกว่าแต่ก่อนนะคะ


เราจะลองฝากความหวังกับ meb เพิ่มอีกทางค่ะ ขอบคุณมากนะคะ คุณ Briss สำหรับข้อมูลและกำลังใจ เราจะติดตามคุณตลอดไปนะคะ

0
Briss 28 ต.ค. 63 เวลา 14:28 น. 6-2

ถ้า จขกท. เป็นคนที่เราได้ไปเม้นนิยายคราวนั้นละก็บอกเลยว่าชอบนิยายของคุณมากเลยค่ะ ใส่อะไรหลายอย่างลงไป แต่นั่นละค่ะ ไม่ต้องรีบเร่งไปเนอะ ค่อยๆ เขียนค่อยๆ ละเลียดออกมาดีกว่าค่ะ


เราเองก็บ้งมาตลอด เขียนๆ ลบๆ ไม่รู้กี่เรื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ถอดใจไปก็เยอะ แต่เราก็ตัดไม่ขาด ทุกวันนี้ก็ยังมีเพื่อนๆ พี่ๆ ที่เคยลงนิยายตั้งแต่สมัยเก่า หรือบางคนที่ได้เจอในงานประกวด งานอบรมต่างๆ ที่จัดขึ้นคอยซับพอร์ทกันอยู่เนืองๆ ค่ะ


เราเคยมีเรื่องนึงที่เขียนจบแล้วส่ง สนพ. สุดท้ายก็ต้องแก้เยอะมาก แล้วยิ่งเวลาผ่านไปกลับมาอ่านอีกครั้งก็รู้สึกว่าควรแก้เยอะกว่านั้นอีก ดีใจที่ตอนนั้นไม่ได้ตีพิมพ์มากค่ะ 555


เรารู้สึกดีนะคะเวลาเขียนงานบรรยายให้คนอ่านบอกเราได้ว่าเขาอ่านบทบรรยายเราได้ ทั้งที่ปกติไม่ชอบอ่าน ก็เหมือนเราสมัยก่อนที่ไม่ค่อยได้อ่านบทบรรยาย ต่อมาก็ค่อยๆ อ่านมากขึ้นเรื่อยๆ


เราว่าคุณมีวัตถุดิบในตัวที่ดีอยู่แล้วค่ะ เหลือแค่ค่อยๆ เรียบเรียงออกมาให้ละเมียดละไมเหมือนที่คุณเคยอ่านงานของครูทั้งหลาย จริงๆ นิยายหลายเรื่องในหมวดซึ้งกินใจก็จะประมาณนั้นนะคะ ยอดคนอ่านในเด็กดีไม่เยอะ เพราะกลุ่มนี้กลายเป็นกลุ่มที่อ่านหนังสือหรืออ่านอีบุ๊คไปแล้ว รวมตัวเราด้วยค่ะ 555 นานๆ ทีถึงจะได้เข้ามาอ่านบนเว็บสักที


นิยายเราเองลง 2 ที่เด็กดีกับ RaW เพราะมีคนแนะนำว่าลงรีดดีกว่า แต่ปรากฏว่าคนอ่านในเด็กดีมากกว่า ดังนั้นเราก็ไม่รู้หรอกค่ะว่าคนอ่านจะมาแบบไหน เว็บไหน ยังไง เสี่ยงดวงล้วนๆ เหมือนกัน


ถ้าคุณเป็นคนที่เราเดาก็รออ่านงานของคุณอยู่นะคะ

0
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:12 น. 6-3

ขอบคุณมากค่ะ คุณ Briss


เราเองก็รู้สึกเหมือนคุณค่ะ ถอดใจไปก็เยอะ แต่ตัดไม่ขาดค่ะ ยังไงก็จะวนกลับมาเขียนอยู่ดี


เราเห็นคุณในหลายกระทู้ เราชอบการตอบกระทู้ของคุณค่ะ มีความตรงประเด็นและแก้ปัญหาให้ได้จริงค่ะ


เราเป็นคนเขียนนิยายแบบรีบเร่งจริงค่ะ ชอบคำว่า ค่อยๆ เขียน"ละเลียด"ออกมา มันให้ความรู้สึกละมุนในการเขียนนิยายค่ะ


ขอบคุณมากนะคะ คุณ Briss สำหรับความเห็นและกำลังใจค่ะ

0
peiNing Zheng 28 ต.ค. 63 เวลา 11:53 น. 7

เราอายุไม่น้อยแล้วเหมือนกัน ยอมรับว่าการแข่งขันสูงมาก และสิ่งที่ต้องคำนึงมากๆ คือ platform ในการลงงานค่ะ


ถ้ารุ่นๆ เรา เกิดมากับการอ่านงานเขียนผ่านหนังสือรูปเล่ม หรือเป็นนิตยสารรายตอน แต่สมัยนี้ มีงานเขียนลงในพื้นที่หลายรูปแบบ


คุณจขกท บอกว่าพบว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอที่จะเขียนให้สนุก แท้จริงแล้ว มันเป็นแบบนั้นจริงหรือเปล่า


แชร์ประสบการณ์ว่า งานเขียนเรามีคนชอบอยู่กลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นกลุ่มรุ่นใกล้เคียงกับเราซึ่งมันอยู่ในรูปแบบหนังสือ เพราะเราเป็นพวก slow starter ค่ะ มีแค่เป็นรูปเล่มที่จะบังคับคนอ่านกลายๆ ให้อ่านไปจนกลางเล่มจึงค่อยสนุกขึ้น แต่งานเขียนเราถ้าลง platform ของ Dek-D นี่โดนเททิ้งตั้งแต่แรกเลยค่ะ เพราะถ้าจับความสนใจคนอ่านใน 5 ตอนแรกไม่ได้คือจบ ไม่มีคนอ่านสนใจ


งานเขียนคุณจขกท ถ้าลงที่นี่ ทำให้สนุกได้ตั้งแต่ 5 ตอนแรกหรือเปล่า (ซึ่งมันไม่ง่ายโดยเฉพาะคนที่เสพงานเขียนแบบหนังสือมา คนละแบบกับนักเขียนรุ่นใหม่ที่เสพงานเขียนด้วย platform นี้แต่เริ่มแรก พวกเขาคุ้นกับจังหวะงานเขียน)


ก่อนจะร้องไห้ ผิดหวังจากความคาดหวัง ก่อนจะโทษตัวเองว่าเราไม่ดีพอ ไม่เก่งพอ ลองศึกษาดูก่อนไหมคะว่า จังหวะงานเขียนตัวเองเป็นยังไง เหมาะกับคนอ่านรุ่นไหน เหมาะกับ platform ที่ลงงานเขียนหรือไม่


เช็กดูก่อนว่าเราอยู่ผิดที่ผิดทางหรือเปล่า เราพยายามแสดงรำดาบในพื้นที่ของคนเล่นมายากลหรือเปล่า เราจะเลือกเปลี่ยนไปเสาะหาพื้นที่คนชอบรำดาบแทน หรือเราจะฝึกตัวเองให้เล่นมายากลได้ ก็ลองดูค่ะ

3
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:21 น. 7-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณpeiNing Zheng


เราโตมากับนวนิยายเป็นเล่มค่ะ ขอคำแนะนำคุณpeiNing Zheng เพิ่มค่ะ ถ้านิยายเราเป็นแนวนิยายสมัยเก่ารุ่นคนอ่านว.วินิจฉัยกุล กิ่งฉัตร พวกนี้น่ะค่ะ เราควรจะไปลงนิยายเราที่ไหนคะ


ขอบคุณมากนะคะคุณ peiNing Zheng ที่ทำให้เรามีความหวังขึ้นมาอีกครั้งค่ะ

0
peiNing Zheng 28 ต.ค. 63 เวลา 13:48 น. 7-2

เราอาจแนะนำได้ไม่ค่อยดีในเรื่องพื้นที่ที่ลง เพราะคนละยุคกัน ตอนนี้เราลงเป็นอีบุ๊กอย่างเดียว ลงมาได้ 7 ปีแล้ว มันลงตัวไปเรียบร้อยแล้ว เราเลยไม่ได้สนใจพื้นที่ใหม่ๆ ในการลงงานเขียนอีก ข้อมูลเราจึงไม่อัพเดต อาจจะรอคห ถัดไปแนะนำ


แต่ถ้าจะมาทางสายอีบุ๊กเลยโดยไม่มีแฟนคลับติดตัวมา อาจจะโหดกว่าการลงในเว็บนี้ก็เป็นได้ ถ้าคุณจขกท ไม่ใส่ใจเรื่องขายได้ไม่ได้ เขียนจบแล้วทำเป็นอีบุ๊กให้โหลดอ่านฟรีก็ได้นะ (ทำแบบบ้านๆ นี่แหละ หาข้อมูลในเว็บเอา) สะสมแฟนคลับไปเรื่อยๆ อาจต้องอดทนเพราะกว่าจะมีคนมาอ่าน กว่าจะมีคนมาโหลด ใช้เวลานานเป็นปี


ในระหว่างนี้ก็อดทนเขียนงานลงเว็บไป มีคนอ่านก็มี ไม่มีคนอ่านก็ไม่ต้องสนใจ ไปโฟกัสส่วนที่เป็นพื้นที่ของเรา ส่วนพื้นที่ในเว็บ ลงไปเผื่อตกคนอ่านได้เพิ่ม แต่ไม่ได้เพิ่มก็ไม่เป็นไร รอคอยฟีดแบ็กทางอีบุ๊กว่าประมาณไหน แล้วจากนั้นจะขยับขยายไว้โหลดขายก็ตามแต่


แต่ถ้ามาสายอีบุ๊ก มันจะคาดหวังฟีดแบ็กทันทีไม่ได้เลย เหมือนเขียนแล้วทิ้ง ไปโฟกัสงานเขียนปัจจุบันเท่านั้น นานๆ ทีเข้าไปเช็กจึงเห็นความเคลื่อนไหว เช็กทุกวันใจแป้วเปล่าๆ


แชร์เป็นไอเดียในสิ่งที่เราเห็นค่ะ ถ้าอดทนไม่ได้ขนาดนั้น ไม่มีฟีดแบ็กจากคนอ่านแล้วไม่มีแรงใจเขียน อีบุ๊กอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีค่ะ

0
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 15:49 น. 7-3

ขอบคุณมากค่ะ คุณpeiNing Zheng


เราคิดว่าอีบุ๊กก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ เราก็อยากได้รับข้อมูลหลายๆ ทางค่ะ แฟนคลับเราแค่หลักสิบ ไม่ถึงร้อย ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไรค่ะ


ขอบคุณมากนะคะที่สละเวลาเข้าตอบกระทู้เราค่ะ แค่มีคนใส่ใจ พยายามช่วยเหลือ เราก็รู้สึกดีขึ้นแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะคุณ peiNing Zheng

0
Charlotte russe 28 ต.ค. 63 เวลา 12:07 น. 8

คุณเขียนแนวไหน ดำเนินเรื่องยังไง

คุณอ่านนิยายคนอื่นไหม นิยายที่ฮิต เคยลองอ่านไหม อ่านแบบตั้งใจ อ่านจนจบ ไม่ใช่อ่านผ่านๆ

เคยเห็นไหมว่านิยายตัวเองต่างจากนิยายพวกนั้นยังไง

ที่ว่าตัวเองเขียนไม่สนุก ไม่สนุกยังไง

การบอกว่าตัวเองไม่เก่ง มันไม่มีประโยชน์ค่ะ คุณอาจคิดว่า อย่างน้อยการยอมรับว่าไม่เก่ง ดีกว่าไม่รู้ตัว ก็ดีมันทำให้ไม่เหลิง แต่ถ้ามันเป็นการทำร้ายตัวเอง มันก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ การร้องไห้โทษตัวเองก็เหมือนกัน แน่นอนคุณทำได้ คุณอยากร้องไห้แค่ไหนก็ได้ พื้นที่ของคุณ ถ้าร้องแล้วสบายใจก็ร้องไป แต่พอหยุดร้อง คุณทำอะไรต่อ? ก็เขียนนิยายแบบเดิมๆ ที่เคยเขียน เพียงแต่ไม่มีความหวังแล้ว แบบนั้นเหรอ?

เราเคยอยู่ในจุดคล้ายๆ คุณ ชั่ววูบหนึ่ง เราบอกทุกคนว่าจะเลิกเขียน จะหางานอื่นทำ เพราะคิดว่าการเขียนนิยายมันไปต่อไม่ได้ เสียเวลาเปล่า

ผลคือร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร เพราะการให้เลิกเขียนนิยายมันเหมือนชีวิตที่เหลือเราหายไปเลย

สุดท้ายก็ต้องเขียนต่อ ถึงต้องเห็นว่าตัวเองไม่เก่ง สู้คนอื่นไม่ได้ ก็ต้องเขียนต่อ เรื่องนี้ไม่ดี เรื่องหน้าเอาใหม่ วนเวียนไปมาแบบนี้้

บางคนมีพรสวรรค์ แค่เขียนบรรทัดเดียวก็รู้แล้วว่าสนุก

บางคนการจะเขียนให้สนุกมันโคตรต้องพยายามเลย กว่าจะเค้นออกมาจากสมองได้ เค้นออกมาแล้วยังไม่สนุกก็มี ต้องอ่านทั้งเรื่องกว่าจะรู้ว่าความสนุกมันอยู่ไหน (พิมพ์ไปก็เหมือนด่าตัวเอง) ต้องพึ่งพรแสวงและแรงใจสุดๆ

ปล.ก็ไม่รู้ว่าพูดแรงไปหรือเปล่า ถ้าเห็นผลงานคุณ เราอาจจะให้กำลังใจได้ตรงจุดกว่านี้มั้ง ไม่อยากให้คนอื่นเห็น แปะข้อความลับมาก็ได้นะ

ว่าแต่โปรโมทนี่โปรโมทยังไง บางทีอาจจะโปรโมทผิดที่ ถึงคนเห็นเยอะเขาก็ไม่อ่านนะ

3
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:26 น. 8-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณ Charlotte russe

เราก็อยากเลิกเขียนนิยายค่ะ แต่เรารู้สึกเหมือนคุณค่ะว่า การให้เลิกเขียนนิยาย มันเหมือนชีวิตเราส่วนหนึ่งหายไปเลย


เขียนต่อแต่คนอ่านน้อย ก็เจ็บค่ะ แต่ถ้าให้เลิกเขียนเลย มันเจ็บกว่าค่ะ ดีใจที่ได้อ่านความเห็นตรงนี้ของคุณนะคะ สุดท้ายเราก็ต้องเขียนต่อไปเหมือนกันค่ะ


เราไม่รู้จะแปะข้อความลับถึงคุณยังไงค่ะ คือ เราก็เพิ่งเข้ามาเล่นจริงจัง เดี๋ยวเราจะลองหาวิธีดูนะคะ

0
Charlotte russe 28 ต.ค. 63 เวลา 14:21 น. 8-2

ใช่ที่เพิ่งแอดเรามามั้ย ถ้าใช่ เราว่าคุณไม่ใช่เขียนไม่เก่งนะคะ เนื้อเรื่องก็น่าสนใจเข้ากับกระแส แต่วิธีเขียนวิธีเล่าอาจจะไม่ถูกจริตคนรุ่นใหม่ ซึ่งตรงนี้ เราเข้าใจว่ามันปรับยาก เราเขียนแบบไหน อ่านแบบไหนไปนานๆ เราก็ติดและเปลี่ยนยาก ถ้ามันเป็นสไตล์เราแล้ว

ลองเขียนให้จบแล้วค่อยลง หรือเขียนไปเยอะๆ แล้วค่อยลง เราว่าการแก้ระหว่างเขียนเพราะเห็นว่าผลตอบรับไม่ดี มันอาจจะทำให้งานเราเป็นรูพรุนแทนที่จะออกมาดีนะคะ คือแก้นิดๆ หน่อยๆ ได้ แต่อย่าถึงกับเปลี่ยน (แต่ก็นะ วิธีของแต่ละคนอาจจะต่างกันก็ได้)


ถ้าคุณไม่ได้ต้องดิ้นรนให้งานเขียนมันทำเงิน คุณก็น่าจะเขียนแบบสบายๆ ได้ ลองปล่อยตัวเองไปตามสบาย ดื่มด่ำกับงานเขียนดูค่ะ ต้องใจเย็น อย่ารีบร้อนการปรับเปลี่ยนก็ต้องค่อยๆ อาศัยอ่านงานคนอื่นค่อยๆ ซึมซับเอาก็ได้ เพราะของแบบนี้ มันเปลี่ยนทันทีทันใดไม่ได้ค่ะ

0
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 17:49 น. 8-3

ใช่ค่ะ คุณCharlotte russe เราเพิ่งแอดคุณไปค่ะ


เราจะลองเลิกอ่านนิยายรุ่นเก่า แล้วอ่านนิยายรุ่นใหม่ดูค่ะ จะได้เปลี่ยนสไตล์ได้ค่ะ


เราเห็นด้วยค่ะว่าจะลองเขียนแบบสบายๆ ขึ้นดูค่ะ เดาว่าสไตล์การเขียนเรามันบรรยายละเอียดไป หรือช้าไปสำหรับเด็กรุ่นใหม่หรือเปล่า เราก็ได้แต่เดาน่ะค่ะ


ขอบคุณมากนะคะสำหรับความเห็นของคุณค่ะ เราจะลองปรับการเขียนใหม่ค่ะ มีความเห็นของคุณช่วยคิด เราก็รู้สึกดีขึ้นค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

0
Asmarah 28 ต.ค. 63 เวลา 12:30 น. 9

เข้ามากอดด้วยคนค่ะ เราเป็นอีกคนที่อายุมากแล้วแต่เพิ่งเริ่มมาเขียนจริงจัง คนติดตามเราก็ไม่ได้เยอะมาก แต่ที่ยังเขียนอยู่เพราะคิดว่าความรู้และประสบการณ์ที่เรามีน่าจะถ่ายทอดออกมาแล้วเป็นประโยชน์กับคนที่อ่านงานของเราได้บ้าง เลยยังเขียนต่อไป เรื่องสำนวนการเขียน ถ้าจะเขียนเกี่ยวกับวัยรุ่นเราอาศัยดูซีรี่ย์วัยรุ่นเอาค่ะ ดูสำนวน การพูดการจา พยายามนำมาปรับให้ทันสมัย ส่วนเรื่องรสนิยม โทนเรื่องและเวลาอัพก็สำคัญค่ะ ตอนนี้เราอัพอยู่สองเว็บ คือเด็กดีกับรีดอะไรท์ ในเด็กดียอดเฟบขึ้นช้ามาก แต่ในรีดฯจะขึ้นเร็วกว่าถ้าเทียบกับการอัพในช่วงเวลาเดียวกัน เดี๋ยวนี้เราจะอัพช่วงหัวค่ำ ช่วงเวลาประมาณ ๑ ทุ่มกว่าๆค่ะ ในรีดอะไรท์จะมีช่องทางให้นักอ่านเห็นได้มากกว่าเพราะเวลาเราอัพเรื่องใหม่แล้วมีคนกดเข้ามาดูเยอะประมาณหนึ่งมันจะไปโชว์ในหน้าเรื่องใหม่มาแรง ไม่ต้องรอยอดเข้าชมเป็นพันเป็นหมื่นเหมือนในเด็กดีค่ะ แล้วมันจะอัพเดตแบบเรียลไทม์ ลุ้นสนุกทุกครั้งที่อัพเนื้อหาเพิ่ม ลองศึกษาข้อมูลพวกนี้ดูนะคะ ถ้าใจรักจริง เราเชื่อมั่นว่าคุณต้องทำได้ในสักวัน

ปล.การเขียนให้จบก่อนแล้วค่อยเอามาลงแบบเราอาจช่วยสร้างความมั่นใจให้นักอ่านได้ส่วนหนึ่งว่าเราจะอัพไปให้จนจบ ไม่เททิ้ง เขาอาจกดเฟบมากขึ้นก็ได้ค่ะ ที่สำคัญคือเราได้ขายอีบุ๊คไปด้วยได้เลย (ของเรายอดเฟบไม่ขึ้นเท่าไหร่แต่ยอดขายมันขายได้เรื่อยๆ เลยค่อนข้างมีกำลังใจอัพต่อไปค่ะ)

1
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:31 น. 9-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณAsmarah


เราจะลองไปอัพในรีดอะไรท์ดูนะคะ เราอ่านความเห็นของคุณแล้วมีความหวังและกำลังใจขึ้นค่ะ เราอยากจะพยายามต่อไปค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณAsmarah ที่ให้ข้อมูลและช่องทางใหม่ๆ แก่เราค่ะ


ขอกอดคุณกลับด้วยค่ะ เพื่อนๆ ที่นี่ไม่เคยทิ้งเรา ขอบคุณมากนะคะ

0
มังกรพลัดถิ่น 游龙 โหยวหลง 28 ต.ค. 63 เวลา 13:09 น. 10

เอาเทคนิคผมไปใช้ไหมครับ ?


เขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากอ่าน ซึ่งก็อาจจะมีคนที่ชอบเหมือนๆกับเรา โดยที่เราไม่ต้องบิดความรู้สึกของเรามากจนเกินไป และท้ายที่สุดแม้แต่ตัวนักเขียนเองก็ไม่มีความสนุกกับมัน


แล้วนักอ่านจะอ่านสนุกได้อย่างไร ?

1
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:38 น. 10-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณมังกรพลัดถิ่น 游龙 โหยวหลง


จริงๆ เมื่อคืนเราพยายามจะแก้นิยายให้สนุก จนตัวเองเครียดและมึนไปเลยค่ะ


เราชอบเทคนิคของคุณมากค่ะ อย่างน้อยก็จะมีตัวเราคนหนึ่งที่จะได้สนุกกับนิยายของตัวเอง เราเห็นด้วยกับคุณค่ะ


ขอบคุณมากนะคะสำหรับเทคนิคที่ดีมากๆ คุณมังกรพลัดถิ่น 游龙 โหยวหลง

0
เจ้าของกระทู้ 28 ต.ค. 63 เวลา 13:44 น. 11

ขอความเห็นเพิ่มเติมค่ะ


ถ้านิยายเราเป็นแนวนิยายผู้ใหญ่ รุ่นคนอ่านว.วินิจฉัยกุล กิ่งฉัตร นิยายเป็นเล่มหนังสือแบบเก่าๆ


ควรจะไปฝากนิยายที่เว็บไหนเพิ่มดีคะ เราจะลองไปอัพที่ readawrite fictionlog ด้วยน่ะค่ะ


ขอบคุณมากค่ะ สำหรับทุกความเห็น

2
Miran/Licht 28 ต.ค. 63 เวลา 14:02 น. 11-1

ไปลงที่ 108Novel ดูสิคะเว็บนั้นนักเขียนรุ่นนั้นเขารวมตัวกันไปเปิดเว็บลงนิยายอยู่ค่ะ โดยกติกาการลงคล้ายเด็กดีคือ ไม่รับ NC18+ ในความเห็นส่วนตัวเรานั้น ลงหลายที่พร้อมกันมันเปิดประสบการณ์ดีค่ะ เราเลยลงเรื่องหนึ่ง 4-5 ที่เป็นอย่างต่ำเพราะแต่ละที่มีฐานคนอ่านต่างกัน เคยลองเสี่ยงไปลง mareads คือคนแทบไม่มี แต่ตอนนี้ลบไปแล้วเพราะแพลตฟอร์มไม่เสถียรรำคาญมาก กับ wattpad ซึ่งต้องสตรองพอควรเพราะป่าช้ายิ่งกว่า fictionlog เสียอีก แต่นักเขียนบางท่านก็ลงแค่ที่เดียวและยึดคติไม่โฆษณา ไม่โปรโมท เพราะ 'ฆ้องดีไม่ตีก็ดัง' ก็มีค่ะ ส่วนเรา...ขี้เกียจค่ะ

0
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:15 น. 11-2

ขอบคุณมากค่ะ คุณMiran/Licht ลองลงอีกเว็บหนึ่ง ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งค่ะ


เราเพิ่งเคยได้ยินชื่อเว็บนี้เป็นครั้งแรก อันที่จริง เราก็เคยขี้เกียจค่ะ แต่อายุชักเยอะแล้ว ขี้เกียจไม่ได้น่ะค่ะ อิอิ


ขอบคุณมากนะคะ คุณMiran/Licht สำหรับข้อมูลและกำลังใจค่ะ

0
นักเขียนไร้ชื่อ 28 ต.ค. 63 เวลา 14:24 น. 12

เมื่อประมาณต้นปีผมมีความรู้สึกแบบเดียวกับเจ้าของกระทู้เลยครับ ท้อมากและคิดว่าความฝันคงไม่เป็นจริงแล้ว และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็ทำใจและยอมรับความจริง แต่ก็แต่งต่อมาเรื่อย ๆ จนเวลาล่วงเลยมา 7 เดือนเต็ม ๆ


และสิ่งที่ผมพบหลังจากที่แต่งนิยายต่อไปเรื่อย ๆ ระหว่าง 7 เดือนมานี้คือ ผมได้แต่งนิยายเรื่องหนึ่งจบ เป็นนิยายที่ไม่โด่งดัง คนติดตามก็น้อย แต่ตอนที่ผมลงตอนจบนั้นจู่ ๆ ยอดคอมเม้นท์ก็ขึ้นมาพร่วด ๆ เลยครับ


สิ่งที่ผมตกใจที่สุดคือ...ผมแต่งนิยายแนววัยรุ่ง รักคอมเมดี้ ไลท์โนเวลที่มีแต่วัยรุ่นแน่นอนที่จะอ่านมัน (ส่วนมากนะครับ) แต่ปรากฏว่าวันนั้นที่ผมลงตอนจบ มีนักอ่านหลายท่านประกาศตัวเองว่าเป็นคนมีอายุแล้วและบอกกับผมเป็นว่า "เขียนสนุกจัง คนแก่อย่างผม/อย่างฉันยังอ่านเพลินเลย"


รู้อะไรไหมครับตอนนั้นผมเข้าใจอยู่เรื่องหนึ่งว่าจริง ๆ แล้วผมไม่ได้ไม่มีฝีมือเลยครับ ผมเก่งใช่เล่นเลยล่ะ แต่ว่า...ผมแค่ดูถูกตัวเองมากเกินไปจนเกือบปิดนิยายที่ดีสำหรับทุกคนไปแล้ว ถ้าผมเขียนไม่จบวันนั้น ผมคงไม่รู้ว่าตัวเองเจ๋งมากแค่ไหน ... ถึงตอนนี้ผมจะยังไม่โด่งดัง จะมียอดติดตามที่น้อยต่ำเตี้ยเรี่ยดินอยู่ แต่ผมก็รู้สึกมีไฟในการเขียนนิยายดี ๆ ออกมาต่อไปครับ


ผมคิดว่าสักวันหนึ่งคนที่ยังไม่เคยเห็นผลงานของเราจะต้องได้เห็นแน่นอน แต่ผมคงกลับไปหวังสูงเหมือนตอนแรกไม่ได้แล้ว ทำให้เข็มทิศของผมมันเปลี่ยนทิศไปจากแต่ก่อนที่ต้องการเป็นนักเขียนชื่อดังสร้างอาชีพได้ แต่ตอนนี้ผมต้องการเป็นนักเขียนที่ดีคนหนึ่งที่สามารถทำให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านได้มีความสุขจนหน้าสุดท้ายของเรื่องครับ


ผมแค่มาแชร์ความรู้สึกเฉย ๆ นะครับ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้นะครับ ผมคิดว่าความตั้งใจของคุณเป็นสิ่งที่สวยงามและมีคุณค่ามาก ๆ เลยครับ อย่าดูถูกตัวเองเลยนะครับ ^^

1
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:20 น. 12-1

ขอบคุณมากนะคะคุณนักเขียนไร้ชื่อ


เราชอบที่คุณบอกว่า "จากแต่ก่อนที่ต้องการเป็นนักเขียนชื่อดังสร้างอาชีพได้ แต่ตอนนี้ผมต้องการเป็นนักเขียนที่ดีคนหนึ่งที่สามารถทำให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านได้มีความสุขจนหน้าสุดท้ายของเรื่องครับ"


เป็นแนวคิดที่อบอุ่นและให้กำลังใจได้มากมายค่ะ


ขอบคุณมากนะคะคุณนักเขียนไร้ชื่อที่บอกว่า "อย่าดูถูกตัวเอง" เพราะมันตรงกับเราจริงๆ ค่ะ =)

0
Echo9 28 ต.ค. 63 เวลา 14:41 น. 13

เราเองก็เคยเขียนจนจบ คนอ่านน้อยมาก แต่แนวแฟนตาซีนะคะ (ทุกวันนี้ก็คนอ่านน้อยอยู่) คือ มันต้องคิดก่อนว่า อยากเขียนให้คนกลุ่มไหนอ่าน แล้วแพลตฟอร์มที่ลงตอบโจทย์ไหม? อย่าบอกว่าให้คนทุกเพศทุกวัยอ่านได้ อยากให้ลองคิดว่าจะเขียนให้คนวัยใดอ่านจริงจังไปเลยอะค่ะ คนแต่ละช่วงวัยจะมีการรับรู้ที่ต่างกัน ดังนั้นบอกว่านิยายไม่มีคนอ่าน คนอ่านน้อย ต้องดูด้วยว่าแนวที่เขียนของคุณ มันคือฐานของคนส่วนใหญ่ในแพลตฟอร์มไหม? เหมือนเอาดินไม่เหมาะกับเมล็ดพันธุ์มาใช้ โตได้เหมือนกัน แต่ผลที่ได้ไม่เป็นตามที่ต้องการ


ทุกคนมีช่วงเวลาท้อ คิดว่านิยายตัวเองไม่ดี เอาจริงแค่คิดว่า นิยายเราสนุกนะ อ่านเองก็สนุก คนอ่านน่าจะมีบ้าง ถ้าไม่มี สำหรับคนที่เขียนเป็นงานอดิเรกเช่นเรา ก็ไม่อะไรมาก ต้องยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดโควิด หลายคนหันมาเขียนนิยายสร้างรายได้กัน การแข่งขันในแนวนั้น ๆ ยิ่งสูงไปอีก คุณท้อนี่ไม่แปลกนะคะ อยู่ที่จะกลับมาได้ไหม? ก็แค่นั้น ผลงานไม่สนุก ลองดูกระแสสัก 5 - 10 ตอนดีกว่าค่ะ ว่าพอมีคนอ่านหรือไม่ ถ้าไม่มีหรือจำนวนน้อย ก็ลองปรับปรุง ค่อย ๆ ศึกษาแนวทางกันไป


สุดท้ายนี้เป็นกำลังใจนะคะ เราเองก็ตามฝันมาสิบกว่าปี กว่าจะได้เป็นจริง สู้ ๆ ค่ะ

2
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:23 น. 13-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณEcho9


เราเองก็รู้สึกว่าผู้อ่านในเว็บเด็กดีส่วนใหญ่น่าจะไม่ชอบนิยายของเราค่ะ ดูจากยอดแฟบที่แทบไม่ขยับเลย อยู่ที่หลักสิบน่ะค่ะ แต่ถ้าย้ายไปเว็บอื่นแล้ว คนอ่านยังน้อย เราก็จะยอมรับค่ะ เราชอบที่คุณพูดถึงการเลือกกลุ่มเป้าหมายค่ะ มันทำให้เราคิดได้มากขึ้นค่ะ


ขอบคุณมากนะคะ คุณEcho9 สำหรับความเห็นและกำลังใจค่ะ =)

0
Echo9 29 ต.ค. 63 เวลา 09:30 น. 13-2

เรื่องยอดไม่ขยับเนี่ย อยากให้่มองอีกมุมนะคะ เด็กดีเราว่าฐานผู้ใหญ่มันมีแน่ แค่เขามีคนที่เชื่อมือ ต่อมาการอัปเดตนิยายตกหน้าแรกไว หมายความว่า คนไม่เห็นนิยายเรา ทำยังไงให้คนเห็น อันนี้พูดยากค่ะ เราไม่เคยศึกษาส่วนนี้จริงจัง แค่ชอบอัปทิ้งไว้ตอนดึก ๆ พวกคำโปรย ชื่อเรื่อง ก็มีผล ยิ่งเป็นแนวผู้ใหญ่ บางคนจะมีการเดาตอนจบไปก่อนแล้ว ดังนั้นเขียนไปสักระยะ ถ้ายังมีความสุขกับมันนะคะ ปัญหาโลกแตกค่ะอันนี้

0
ธามธีระ 28 ต.ค. 63 เวลา 19:13 น. 14

สู้สิครับ อุปสรรคมีตลอดเวลาอยู่แล้ว ถ้าอยากเขียนก็ไม่ต้องสนใจสิ่งใด เขียนเพื่อฝึกปรือภาษาและสำนวน ยิ่งถ้าเป็นนักเขียนในปัจจุบันนี้ต้องปรับเยอะเลย ให้เข้ากับยุค งานนิยายทุกวันนี้ทำให้คนอ่านคล้อยตามเขาอยากมีส่วนในเนื้อเรื่อง คอยลุ้นกับตัวละครตลอดเวลา มันไม่ใช่แบบเมื่อก่อน

1
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:27 น. 14-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณธามธีระ


เราเห็นด้วยค่ะว่าตลาดการเขียนนิยายไม่เหมือนเมื่อก่อน เราชอบที่คุณบอกว่า "ถ้าอยากเขียนก็ไม่ต้องสนใจสิ่งใด" ถ้ายังสนยอดผู้ติดตาม มันก็ทำใจได้ยากจริงๆค่ะ เพราะผู้ติดตามหลักสิบมันก็บอกแล้วว่าผู้อ่านส่วนใหญ่ไม่ชอบค่ะ


เราจะสนใจแค่ว่าเราอยากเขียน ไม่สนใจสิ่งใดตามที่คุณแนะนำนะคะ ขอบคุณมากนะคะคุณธามธีระสำหรับความเห็นและกำลังใจ



0
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:29 น. 15-1

ขอบคุณมากนะคะ คุณปล่อยอึ่ง


เราก็อยากได้ยินเพื่อนๆ บอกว่าให้สู้ต่อไปค่ะ เราไม่อยากเลิกค่ะ แม้เราจะท้อแท้จริง ก็อยากจะทำต่อไปค่ะ


ขอบคุณมากนะคะคุณปล่อยอึ่งสำหรับกำลังใจค่ะ =)

0
เมล่อนเมย์ 29 ต.ค. 63 เวลา 00:19 น. 16

จับจุดได้แล้วใช่มั้ยคะว่าเขียนเพราะชอบเขียน ถ้าเป็นแบบนั้นก็สู้ต่อไปเลยค่ะ คนเราถ้าไม่สู้หรือก้าวไปข้างหน้ามันจะไม่อยู่เท่าเดิมหรือที่เดิม แต่มันจะถดถอยหลังไป **พัฒนาตัวเองต่อไป อย่างน้อยถึงใครไม่เห็น ตัวเราก็รู้แหละว่าเราพยายาม ต่อให้มันจะไปข้างหน้าได้ช้า แต่มันก็ดีกว่าถอยหลังนะ ยิ้มสู้เท่านั้น จบ แฮ่ :)


1
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:31 น. 16-1

ขอบคุณมากนะคะ คุณเมล่อนเมย์


เรารู้สึกว่าเราจับจุดได้แล้วค่ะว่า "ต้องเขียนเพราะอยากเขียน" จากทุกความเห็นที่ผ่านมา ถ้าเขียนแล้วดูยอดแฟบ ก็เจ็บไม่จบจริงๆค่ะ


ขอบคุณมากนะคะคุณเมล่อนเมย์สำหรับความเข้าใจและกำลังใจค่ะ

0
B 13 s.t 29 ต.ค. 63 เวลา 00:40 น. 17



อือ... ปัญหาโลกแตกเลยนะเนี่ย

แต่ก็มีหลายความเห็นบอกไปแล้วล่ะเนอะว่า ชอบอะไรก็เขียนแบบนั้น เดี๋ยวก็เจอคนชอบแบบเดียวกันมาอ่าน แต่ถ้าคนเขียนอ่านเองแล้วก็ยังไม่สนุกเอง อันนี้คงต้องมาคิดกันว่าที่ไม่สนุกมันคือตรงไหน ถ้าเจอก็แก้ง่าย ถ้าไม่เจอก็...


เอาว่า ไม่ว่าท่านจะเป็นคนยุคไหน สิ่งที่ผมอยากแนะนำเพิ่มเติมคือ นอกจากเขียนอะไรที่ตัวเองชอบ ลองเปิดหูเปิดตาด้วยการเสพอะไรหลายๆ ด้านครับ วางนิยายที่เราชอบ ลองไปอ่านแนวที่ไม่เคยอ่าน หรือแม้แต่วางนิยาย แล้วไปเสพ หนัง การ์ตูน ซีรี่ย์ ไม่ว่าจะฝรั่ง จีน ไทย เกาหลี ญี่ปุ่น หรือชาติอื่นๆ ไม่ว่าจะแนวใดๆ หรือแม้แต่ฟังเรื่องเล่าผีในเว็บ(เชื่อเถอะผมได้คำมาแต่งนิยายจากการฟังเรื่องผีหลายครั้งเลย) สารคดีต่างๆ แฟ้มคดีสืบสวนในแต่ละเคส เรื่องเล่าในอดีต อะไรก็แล้วแต่ เสพมันเข้าไปเยอะๆ อย่าหมกตัวแต่กับสิ่งอะไรที่เราคุ้นเคย ไม่อย่างงั้นเราก็จะเขียนได้แต่อะไรเดิมๆ มุขมันจะหมดไวมาก แล้วจะเขียนวนเวียนอยู่แต่แบบเดิม ออกจากเซฟโซนตัวเอง ไปสัมผัสอะไรที่ไม่เคยบ้าง จะช่วยเพิ่มคลังเรื่องราว วิธีการ เทคนิค วัตถุดิบ และอื่นๆ สารพัดในหัวเรา เวลาผมหัวตัน ผมก็หนีจากหน้านิยายไปหาเสพอะไรต่างๆ แบบนี้แหละ และมักได้ไอเดียกลับมาทุกครั้ง ทั้งใหม่ หรือของที่ลืมไปแล้ว


เอาจริงๆ ผมก็ไม่ใช่สายนักอ่าน ผมอ่านนิยายน้อยมากถ้าเทียบกับคนที่เขียนนิยายคนอื่น เพราะผมเป็นสายหนัง เกมส์ ซีรี่ย์และการ์ตูน ฉะนั้นนิยายผมจะเขียนออกมาด้วยการอิงบรรยากาศการ์ตูน เกมส์ หนัง ซีรี่ย์เป็นหลัก พร้อมมีกลิ่นนิยายแปลอีกนิดๆ ซึ่งผมก็ผ่านการถูกต่อว่าและวิจารณ์จากกลุ่มคนอ่านสายเก่ามาแล้วเช่นกัน ด้วยคาแร็กเตอร์ตัวละครนางเอกที่สุภาพไม่พอ ด้วยเนื้อเรื่องที่เวอร์วังเกินไป แต่ผมก็เขียนมันต่อเพราะถ้าให้เขียนแบบนิยายไทยสายเก่า ผมก็เขียนไม่ได้เช่นกัน เพราะมันไม่สนุกสำหรับผม ฉะนั้นก็ เอาที่สบายใจครับ เป็นเรื่องรสนิยมล้วนๆ


และผมไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่สนุกมันมีกฏตายตัวยังไงหรอกนะ แต่เท่าที่รู้ คือมันต้องมีกราฟขึ้นลงเสมอ เนื้อหาที่ทำให้คนอ่านรู้สึกอยากลุ้นกับไปตัวละคร อยากช่วย รู้สึกอินไปกับเขาหรือเธอ มีรสชาติที่หลากหลาย และกลมกล่อมไปพร้อมกัน เรื่องราวมีการพลิก ซ้อน ตัวเอกแพ้บ้าง ชนะบ้าง หรือเนื้อเรื่องไม่ต้องอะไรมาก เป็นแบบพื้นๆ พล็อตเดิมๆ คนอ่านรู้ดีอยู่แล้วว่านิยายจะไปทางไหน เนื้อเรื่องเป็นยังไง แต่คาแร็กเตอร์กลับทำให้คนอ่านรู้สึกรักจนอยากเอาใจช่วย หรือถ้าคุณจะชอบแนวเรื่อยๆ นั่นก็อีกเรื่อง ซึ่งถ้าเน้นที่เนื้อเรื่องเรื่อยๆ ก็คงเน้นที่ภาษา ถ้าอยากจับนักอ่านรุ่นใหม่ ต้องไม่เวิ้นเว้อมาก ภาษาสละสลวยโดยที่ไม่ต้องบรรยายเยอะแต่ชัดตรง เห็นภาพง่าย แต่เรียงร้อยต่อกันแล้วอ่านลื่นไหล ซึ่งผมมองว่านิยายแปลช่วยได้เยอะในเชิงภาษาที่ชัดง่าย ตรง เห็นภาพและเรียงร้อยออกมาได้ลืนไหลสวยงาม โดยไม่เวิ้นเกินไป


และอย่าลืมว่านิยาย หนัง หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันเป็นเรื่องราวให้เสพ มันมีคำคำนี้ด้วยว่า "มันเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่สนุก" และ "มันเป็นเรื่องที่สนุก แต่ไม่ดี"


ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าตัวเองเป็นสาย "ดีแต่ไม่สนุก" แล้วอยาก "ทั้งดีและสนุก" ก็ควรวางคำว่า "ดี" ลงบ้าง ไปหาอะไร "หยาบๆ" มาผสมบ้าง บางครั้ง "ความสมบรูณ์แบบ" "เฟอร์เฟค" ก็เป็นอุปสรรค์ในการสร้างเรื่องสักเรื่องให้สนุก บางครั้งเราสร้างกรงให้ตัวเองมากไป บอกตัวมากไปว่าต้องดี ต้องสมบรูณ์แบบ ต้องไม่มีช่องโหว่ ข้อมูลทุกอย่างต้องเป๊ะ ต้องถูกต้อง 100% จนลืมอารมณ์ ลืมหัวใจ ลืมความรู้สึกในการเขียน มั่วแต่กลัวมันจะไม่สมเหตุสมผล กลัวมันจะออกมาเยอะไป น้อยไป หรือคิดว่าเราต้องทำให้ภาษาออกมาดูดี สละสลวยที่สุด แต่บางครั้งคำง่ายๆ ก็ส่งถึงใจคนอ่านได้ ถ้าจังหวะในการส่งนั้นถูกต้อง


อย่าไปสร้างกรอบในการเขียนของตัวเอง เราเขียนนิยาย ทำงานอาร์ต ไม่ได้คำนวณสูตรเลขาคณิต มันจะเวอร์บ้าง หลุดเหตุผลบ้าง แต่ถ้ายังมีความเหมาะสมรองรับแค่นั้นก็พอแล้ว ถ้าไม่น่าเกลียดมากก็บิดเบื้อนบ้าง ผมเองยังอยากได้ความรู้สึกครั้งแรกที่ตัวเองเขียนนิยายกลับมาเลย ผมเด็กมากตอนที่เริ่มเขียน และมันมีอิสระมาก และมันสนุกมาก ต่อให้เห็นข้อผิดพลาดเป็นล้าน แต่ปัจจุบันผมทำแบบนั้นได้ยากมาก เพราะโตขึ้น เหตุผลมากขึ้น แน่นอน นิยายผมสมบรูณ์ขึ้น แต่บางครั้งมันก็ขาดอารมณ์ หรือแม้แต่อารมณ์ร่วมของผมเองจนบางครั้งดูแห้งแล้ง ไม่เป็นตัวเอง รับรู้ได้เลยว่ามันช่างน่าเบื่อ จนผมต้องกลับไปหางานอะไรแนวเก่าๆ ที่ตอนเด็กเคยชอบแล้วคิดว่าตัวเองโตเกินจะกลับไปหามันมาเสพอีกครั้ง และนั้นเพิ่งทำให้รู้สึกว่า "โอ้ นี่แหละเรากำลังหา อารมณ์นี้แหละ ความรู้สึกนี่แหละ เราลืมไปได้ยังไงเนี่ย เรียบง่ายแต่ยังทรงพลัง" ผมจึงเขียนนิยายต่อได้ และปล่อยตัวเองมากขึ้น ช่างมัน ไม่ว่าใครจะว่ามันเวอร์ไป เพราะนี่แหละที่ผมต้องการ... อย่าใช้แค่หัวเขียน ให้หัวใจด้วย ใส่ความหยาบในนิยายบ้าง(ไม่ใช่หนาบคายนะ 555) ดิบบ้าง ช่างหัวมันบ้าง อย่าไปตีกรอบมันนัก และอย่างที่ผมบอก ออกจากเซฟโซนและความคุ้นเคยเก่าๆ ของตัวบ้าง กล้าๆ หน่อย





2
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:40 น. 17-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณB 13 s.t


ที่คุณบอกว่า"บางครั้ง "ความสมบรูณ์แบบ" "เฟอร์เฟค" ก็เป็นอุปสรรค์ในการสร้างเรื่องสักเรื่องให้สนุก"


ตรงนี้คือจุดอ่อนของเราจริงๆ ค่ะ เราพยายามเขียนให้สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะงั้นเวลาเขียน เราจะเกร็งและเครียดด้วยซ้ำ ไม่นึกว่าคุณจะวิเคราะห์ได้ในสิ่งที่เราไม่รู้ตัวจริงๆ ค่ะ ตรงนี้เราจะแก้ไขให้ได้นะคะ ต้องวางคำว่า "ดี" ลงไปบ้าง --> เราชอบที่คุณแนะนำมากเลยค่ะ มันช่วยเราได้มากจริงๆ


แล้วเราก็ชอบอ่านแต่นิยายแบบเดิมๆ ก็เลยไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ ควรจะลองเสพสื่อที่หลากหลาย แหวกแนว อะไรที่เราไม่ชอบบ้าง เราจะไปลองอ่านนิยายวายดูค่ะ เพราะวัยรุ่นชอบ แต่เราไม่ชอบ ยิ่งต้องอ่านค่ะ อิอิ


คุณB 13 s.t แนะนำเราในจุดที่เป็นจุดอ่อนของเราจริงๆ คุ้มจริงๆที่ตั้งกระทู้นี้แล้วได้มาอ่านความเห็นของคุณ แล้วนิยายเราก็คงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แค่เราไม่ระวังตัวมากเกินไปเวลาเขียน ไม่พยายามดีมากเกินไป มันก็สร้างความแตกต่างในทันทีแล้ว


ขอบคุณมากนะคะคุณ B 13 s.t ความเห็นของคุณช่วยเราได้มากจริงๆ ค่ะ

0
no one know 30 ต.ค. 63 เวลา 00:11 น. 17-2

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ เป็นประโยชน์มากมาย...

0
29 ต.ค. 63 เวลา 01:39 น. 18

เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ ละกันนะคะ เราทุกคนคงไม่ดีพร้อมเสมอ แต่เราเลือกที่จะทำมันออกมาได้ ถ้าจขกททำตามใจเพื่อให้คนอ่านได้อ่าน แต่ไม่ได้ทำตามที่ตัวเองอยากอ่าน มันก็เปล่าประโยชน์ เพราะคุณไม่อินและสนุกไปกับมัน แล้วผลสุดท้ายมันก็จะออกมาไม่ดีแหละค่ะ เพราะมันจะออกมาดีก็ต่อเมื่อ ทำให้เราอินไปกับมันรู้สึกสนุกไปด้วยนั่นเองค่ะ ทีนี้ไม่ต้องกลัวเลยว่า จะไม่มีคนอ่านหรือเขียนไม่จบนั่นเอง.....

2
เจ้าของกระทู้ 29 ต.ค. 63 เวลา 09:57 น. 18-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณโรสลิน


เราเห็นด้วยค่ะว่าเราทุกคนคงไม่ดีพร้อมเสมอ แต่เราเลือกที่จะทำมันออกมาได้ เราอยากเขียนแบบตัวเองอินก่อนแล้วสนุก ไม่ใช่เขียนเอาใจคนอ่านอย่างเดียว เพราะมันฝืนความเป็นตัวเองค่ะ


ขอบคุณมากนะคะ คุณ โรสลิน สำหรับความเห็นและกำลังใจค่ะ

0
Nineteen_PT 29 ต.ค. 63 เวลา 11:27 น. 19

ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจค่ะ


เราก็อายุไม่น้อยตอนเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก (จริงๆพึ่งเริ่มเมื่อสองเดือนก่อน) ไม่รู้พอจะช่วยเจ้าของกระทู้ได้มั้ย แต่ลองวิธีเราดูค่ะ

เราโพสนิยายสองเวลาค่ะ ช่วงแรกๆที่ลง คือเที่ยงกับค่ำ คนติดตามเพิ่มขึ้นเร็วเหมือนกัน


ในส่วนของงานเขียน เรามีความเชื่อส่วนตัวว่าทุกงานเขียนในโลกนี้จะมีคนที่ชอบอยู่เสมอค่ะ จะต้องมีคนที่ชอบนิยายที่จขกทแต่ง แต่เค้าแค่ยังหานิยายของจขกทไม่เจอ เพราะอย่างนั้น ทำต่อไปนะคะ แต่งต่อเพื่อคนติดตามในอนาคตจะมาเจอและชื่นชอบงานคุณแน่ๆ


ท้อได้ เสียใจได้ แต่อย่านานนะคะ ลุกมาแต่งนิยายเพื่อให้ (อนาคต)ผู้ติดตามหาผลงานคุณเจอไวๆดีกว่า สู้ๆนะคะ((:

1
เจ้าของกระทู้ 30 ต.ค. 63 เวลา 12:52 น. 19-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณNineteen_PT


เราก็หวังค่ะว่าน่าจะมีคนในอนาคตที่ตามมาเจอนิยายของเรา


เราเห็นด้วยกับคุณค่ะว่า "ท้อได้ เสียใจได้ แต่อย่านาน" จะสู้ต่อไปค่ะ


ขอบคุณมากนะคะ คุณ Nineteen_PT สำหรับความเห็นและกำลังใจค่ะ =)

0
YoungYoung 1RatIndra 29 ต.ค. 63 เวลา 20:20 น. 20

นี่ก็แก่ใช้ได้ค่ะ เพิ่งเริ่มเขียนได้ 3 เดือนเพราะเจอพิษโควิด ทำให้ว่างงาน เหงา เลยเขียนน่ะค่ะ และมีคนติดตามน้อย คนเห็นน้อย คนเมนต์น้อย คนซื้อน้อย(เป็นบางเรื่อง) น้อยไปหมดค่ะ แต่ไม่น้อยใจ 555 เพราะคิดว่าคนเราชอบไม่เหมือนกัน

ปรกติอยากเขียนแนวฆาตกรรม สืบสวน ซอมบี้อะไรอย่างนี้ แต่ปรากฏว่าเขียนพวกรัก ๆ ใคร่ ๆ จะเขียนง่ายกว่าและคนอ่านเยอะกว่าน่ะค่ะ เวลาเขียนแนวฆาตกรรมและซอมบี้ไม่ค่อยมีคนอ่านเลยท้อนิดหน่อย หลัง ๆ เลยวางแผนไว้ว่าเขียนแนวรัก ๆ ตามความนิยมซัก 2 -3 เรื่อง แล้วค่อยเปลี่ยนไปเขียนฆาตกรรมหรือซอมบี้สลับสักเรื่อง สนองความต้องการของตัวเองน่ะค่ะ

อยากเป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้ เพราะเหมือนเป็นกำลังใจให้ตัวเองไปด้วย ลองเอาผลงานไปโพสต์ในแพลตฟอร์มอื่นด้วยก็ได้นะคะ จะได้มีคนอ่านหลาย ๆ แนว เช่น ReadaWrite อันนั้นก็คนอ่านเยอะค่ะ เวลาลงได้ยอดคนอ่านหลักพันขึ้นตลอด เพราะเหมือนแค่คลิ้กเข้าไปในหน้านิยายยังไม่ได้เปิดอ่านก็นับยอดแล้วค่ะ เผื่อจะมีกำลังใจมากขึ้น

1
เจ้าของกระทู้ 30 ต.ค. 63 เวลา 12:58 น. 20-1

ขอบคุณมากค่ะ คุณ YoungYoung 1RatIndra


เราชอบที่คุณบอกว่า "น้อยไปหมดค่ะ แต่ไม่น้อยใจ เพราะคิดว่าคนเราชอบไม่เหมือนกัน" คำพูดนี้ตรงกับกรณีของเราเหมือนกันค่ะ นิยายอาจจะไม่ได้แย่ แต่คนเราชอบไม่เหมือนกัน


เราลองไปลง readawrite แล้วค่ะ ได้ยอดคนอ่านหลักร้อย ผู้ติดตามหนึ่งคน แต่ก็เริ่มชินแล้วค่ะ อิอิ กับยอดน้อยๆ


ยังไงเราก็มีเพื่อนดีๆ ที่มีน้ำใจกับเราที่นี่ ยอดเราน้อย แต่กำลังใจที่เราได้รับมากมายค่ะทั้งจากคุณ YoungYoung 1RatIndra และความเห็นอื่นๆ


ขอบคุณมากนะคะ คุณ YoungYoung 1RatIndra สำหรับความเห็นและกำลังใจค่ะ

0