Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แม่อยากให้สอบหมอ ทำยังไงดีคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
          เรื่องเกิดตอนปิดเทอมโควิดคือกำลังนั่งกินข้าวกันค่ะ แล้วแม่เลี้ยงเราบอกว่าอยากให้ลองสอบหมอดู   ตอนนั้นเราเองยังไม่รู้ว่าอยากเรียนอะไรก็เลยตอบตกลงไปค่ะTT แต่มันไม่ธรรมดาเลยหลังจากนั้นเจอกันทีไรเข้าพูดเรื่องสอบหมอตลอด   พูดประมาณว่าพอเราเป็นหมอก็นู่นนี่นั่น อย่างล่าสุดที่เจอกันสิบรอบก็ถึงค่ะTT ในไลน์ก็ส่งคลิปเกี่วกับหมอมา   แรกๆเราไม่ได้อไรนะคะ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าอยากเรียนเกี่ยวกับศิลปะ อยากเข้าคณะดิจิทัลมีเดีย 
         ที่อยากปรึกษาคือ คุยกับเขายังไงดีคะ เราไม่ได้สนิทกับเขา แล้วเขาเป็นคนค่อนข้างพูดคุยด้วยได้ยากเลยค่ะ   ยึดความคิดตัวเองมากๆบวกกับเค้ามีทักษะทางการพูดด้วย ทำให้เรารู้สึกกดดัน   ทำให้เหมือนสิ่งที่เราคิดมันผิดน่ะค่ะTT   คือตอนนี้ที่เราคิดไว้มี 2 ทางค่ะ (แนะนำตามคคห.ทุกคนเพิ่มเติมได้เลยนะคะ)
1.สอบหมอก็ได้  ติดไม่ติดก็ไม่เป็นไร สุดท้ายเราจะเข้าม.เอกชน เนื่องจากคณะที่เราอยากเรียนเป็นมหาลัยเอกชนแล้วเราก็อยากเข้าที่นี่ค่ะ   แต่เราไปดูเอกสารที่ใช้สมัคร มันต้องมี  portfolio  เกี่ยวกับผลงานทางศิลปะน่ะค่ะTT ซึ่งแค่อ่านหนังสือสอบหมอก็หนักมากๆแล้ว   ต้องทำพอร์ต,ไปเรียนโรงเรียนศิลปะ  มันค่อนข้างหนักมากเลยค่ะ เราว่าคงไม่ไหว  หรือเราควรลองดู ยังไงตรงนี้ใครมีประสบการณ์แนะนำหน่อยนะคะ เราพึ่งม.5 อาจไม่เข้าใจมากเท่าไหร่ 
2. เตรียมสอบศิลปะอย่างเดียวไปเลย แต่จะคุยกับแม่เลี้ยงยังไง เขาหวังกับเรามากๆเลยค่ะ   เขาเคยบอกว่าอยากเห็นเราเป็นภาพที่สวยงามให้เขาดูแบบนี้ เราไม่ชอบเลยรู้สีกกดดันมากๆ   แล้วเทอมนี้เราต้องย้ายไปอยู่กับเขาสองคนด้วย  ไม่รู้ชีวิตจะเป็นยังไงเลยค่ะ
สรุปเลยคือ   อยากปรึกษาว่าจะคุยกับแม่เลี้ยงอย่างไร แล้วควรเลือกทางไหน หรือมีคคห.เพิ่มเติมแนะนำได้เลยนะคะTT


 

แสดงความคิดเห็น

>

3 ความคิดเห็น

งอง 6 ธ.ค. 63 เวลา 00:04 น. 1

บอกไปตรง ๆ เลยว่า "ไม่อยาก" อย่าเอาความคาดหวังมาไว้ที่หนู ชีวิตเป็นของหนู หนูขอกำหนดเอง ภาพที่สวยงามอะไรต่าง ๆ ของแม่ แม่ก็แค่อยากตอบสนองความต้องการของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่ความต้องการของหนู สิ่งที่เรียนนี้จะอยู่กับตัวหนูไปตลอดชีวิตของหนู ไม่ใช่ตลอดชีวิตของแม่ ฉะนั้นเลิกได้แล้ว กับความคิดที่ชอบยัดเยียดความเป็นหมอให้คนอื่น อย่าฝืนความรู้สึกกันเลย

ฯลฯ

ถ้ามั่นใจแล้วว่าไม่ต้องการ ก็สร้างจุดยืนให้ตัวเอง ใจแข็งหน่อย พูดอะไรมา เอามาคิดวิเคราะห์ให้ดี ๆ ก่อน อย่าเพิ่งคล้อยตาม

0
Pit_sTry 6 ธ.ค. 63 เวลา 01:16 น. 2

ก่อนหน้านี้เธอยังไม่มีความฝันไง ท่านเลยเอาความฝันมาใส่ไว้ให้ และตอนนั้นเธอเหมือนจะสนใจท่านจึงคาดหวัง แต่ถ้าตอนนี้เธอมีฝันใหม่เองแล้ว ก็ลองคุยกับท่านดีๆนะ บอกไปตรงๆเลยว่าไม่อยากจะเป็นหมอแล้วนะ หนูชอบศิลปะมากกว่า


ไม่ต้องห่วงนะ เธอไม่ผิดอะไรเลย ไม่ว่าพ่อแม่จะไม่ชอบใจอย่างไรก็ตาม


เราก็อายุยี่สิบกว่าแล้ว เราว่าชีวิตควรเป็นของเราตั้งแต่ตอนเรียน ถึงแม้เราจะเรียนตามที่แม่แนะนำ แต่สุดท้ายเราเลือกเอกด้วยตัวเองที่ขัดแย้งกับความเห็นของแม่ และพอได้เรียนเอกที่ตัวเองชอบยิ่งรู้สึกเลยว่าคิดถูกแล้ว เราดีใจมาก จบมามองย้อนกลับไปภูมิใจในตัวเองที่สุด และรู้สึกมีความสุขมาก เพราะนี่คือตัวของฉัน ฉันรู้ว่าฉันชอบอะไร


หลังจากจบออกมา ทางชีวิตของเรามันไม่ได้สวยหรูเลย แต่แน่ใจหรอว่าถ้าเราไปทางที่แม่บอกจะสวยกว่านี้ ? มันก็ไม่มีใครตอบได้ จริงไหม แต่ที่แน่ๆเลยก็คือวันนี้เรามีความสุข ทุกครั้งที่เราเหนื่อย เราตอบตัวเองได้เสมอว่าเรากำลังทำสิ่งที่ชอบอยู่ เราตอบได้ว่าเหนื่อยไปเพราะอะไร มันมีคุณค่ากับตัวเราเองมากเลยนะ แล้วหัวใจมันก็สู้อะ

ชีวิตเราสั้น เรายอมทนความลำบากไปกับสิ่งที่เราชอบ น่าจะดีกว่าต้องทนกับสิ่งที่ไม่ชอบโดยที่ไม่ได้รู้เหมือนกันว่าทางมันจะราบรื่นดีไหม

0
catzss 6 ธ.ค. 63 เวลา 17:31 น. 3

เห็นด้วย ไม่ต้องพูดอะไรมาก เดี๋ยวเค้าไม่พอใจแบบว่าทะเลาะกันเปล่าๆ แค่บอกความคิดเราไปว่าเราจะเรียนที่เราชอบเพราะอะไร เงินดีเหมือนกัน เป็นภาพที่สวยงามได้เหมือนกัน ก็ทุกครั้งที่เค้าถามเราๆก็ยืนยันความคิดเรา แต่ถ้าเค้าเล่าเรื่องจินตนาการอะไรของเค้าเราก็แค่ฟังไปไม่ต้องไปเถียง ให้พ่อช่วยกล่อมแม่เลี้ยงเมื่อทำได้ ยังไงเราก็ควรทำสิ่งที่เราถนัด ชอบ ทำได้ มีอนาคตและมีความสุขด้วย เพราะสิ่งที่เราอยากทำก็ไม่ได้เป็นภาพที่ ไม่ สวยงามซักนิด เค้าอยากกดดันก็เรื่องของเค้า เราก็ตัดสินใจวางแผนชีวิตของเราไป

1
Nadaramaki 13 ธ.ค. 63 เวลา 14:24 น. 3-1

ฮือ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ เราพอเข้าใจบ้างแล้วTT

0