7พฤติกรรมและนิสัยที่ทำให้จนแล้วจนอีก

[วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB]

7พฤติกรรมและนิสัยที่ทำให้จนแล้วจนอีก

 

ความจน เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากกว่าที่คุณคิด วันนี้ถ้าคุณยังหยุดอยู่กับที่ ไม่เริ่มต้นก้าวไปข้างหน้าด้วยการพัฒนาตนเอง ก็เท่ากับคุณกำลังก้าวถอยหลังสู่ความจนไปทุก ๆวัน นั่นเอง

 

และต้องยอมรับว่าผู้คนในปัจจุบันนี้ มีปัญหาเรื่องการเงินเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินที่มีอัตราหนี้สินครัวเรือนพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี แล้วทำไมคนมากมายถึงได้มีปัญหาด้านการเงินเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่จบสิ้น

หรือเพราะว่าผู้คนเหล่านั้นยังมีพฤติกรรม หรือลักษณะนิสัยที่ทำให้จน ลองมาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

 

1.ชอบนอนตื่นสาย

ในที่นี้อาจหมายถึงพนักงานออฟฟิศ หลายคนชอบที่จะปล่อยเวลาผ่านไปจนดึกดื่นโดยไม่ได้สร้างคุณค่าอะไรให้กับชีวิตตนเอง ทีนี้พอเวลาปล่อยให้ตัวเองเหนื่อยล้ายามดึกดื่น เราก็จะไม่มีแรงตื่นยามเช้า ทำให้โฟกัสงานได้น้อยลงและกว่าจะจบงานได้ก็เย็นแล้ว กว่าจะกลับถึงบ้าน ที่พัก ก็นอนดึก สุดท้ายชีวิตคุณก็จะวนอยู่แบบนี้

 

2.ใช้จ่ายโดยไม่คิด

การใช้จ่ายโดยไม่ยั้งคิด ถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้ผู้คนมีปัญหาทางด้านการเงิน ซึ่งข้อนี้คุณคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าลักษณะการใช้จ่ายโดยไม่คิดนั้นเป็นอย่างไร ก็คือมีเงินเท่าไหร่ก็ใช้จ่ายไปเรื่อย ๆ โดยไม่สนใจอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น อยากจะรูดบัตรก็รูดตามใจ มีเท่าไหร่ก็ใช้ หรือบางทีใช้มากกว่าที่มีเสียอีก และสุดท้ายคงหนีไม่พ้นในการเป็นหนี้สินโดยไม่จำเป็น

 

3.ผลัดวัน ไม่มีวินัย ชิลไปวัน ๆ

ชีวิตแบบไม่เร่งรีบ ไปนั่งจิบกาแฟเรื่อย ๆ อยากท่องเที่ยวก็บินไปเที่ยวตามอารมณ์ ใช้เงินซื้อความสะดวกสบายเท่าที่สบายใจ แต่นี่สำหรับคนที่มีความพร้อมทางด้านการเงินแล้วเท่านั้น แล้วคุณล่ะ คุณยังเป็นหนี้ อยู่หรือไม่ คุณยังไม่มีการเงินที่มั่นคง ยังไม่มีความสะดวกมือในการจับจ่าย เพราะคุณยังไม่มีวินัยทางการเงินที่ดี ที่สำคัญ คุณยังทำงานและเก็บเงินแบบผลัดวันประกันพรุ่งอยู่นั่นเอง

 

4.ชอบใช้บัตรเครดิตกับสิ่งที่ไร้ประโยชน์

หลักจำง่าย ๆ ที่ต้องจำคือการกู้ยืมเพื่อซื้อสิ่งของบางอย่างที่ก่อหนี้มากกว่าจะทำให้เกิดรายได้ เราก็ไม่ควรทำ คุณควรจะใช้บัตรเครดิตให้กับสิ่งที่คุณคิดว่ามันเป็นการลงทุน อย่าใช้เงินกู้เพียงเพื่อซื้อทีวีที่มีขนาดใหญ่ หรือเพื่อซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่เพื่อให้ทันยุคทันสมัยเท่านั้น เลือกใช้ในยามที่จำเป็นและสมเหตุสมผลก็เพียงพอ

 

5.ใช้ชีวิตเกินค่าครองชีพ

ความฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะจับจ่ายตามใจชอบ หรือแม้แต่ยอมเป็นหนี้บัตรเครดิต เพียงเพื่อต้องการซื้อสิ่งของที่ไม่จำเป็นมาประดับชีวิตคุณให้ดูดี คนอื่นที่อาจทำได้ เพราะสถานะทางการเงินของเขาอาจมั่นคงหรือพร้อมกว่า แต่การใช้เงินเกินค่าครองชีพที่จำเป็น หากรู้สึกว่าหนักใจที่จะจ่ายแต่อยากซื้อ นั่นคือสัญญาณอันตรายทางการเงินที่คุณกำลังใช้เกินตัวอยู่

 

6.ไม่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่น

"ไม่มีใครสามารถทำงานคนเดียวได้" แม้แต่อาชีพฟรีแลนซ์ ก็ยังต้องมีคอนเน็คชั่นเพื่อสร้างงานคุณภาพให้ประสบความสำเร็จ เมื่อคุณต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นในทีม สิ่งสำคัญไม่ใช่ผลงานที่ประสบความสำเร็จตามเป้าเพียงอย่างเดียว แต่คือประสิทธิภาพในการประสานงานให้เกิดผลลัพธ์สูงสุดตามที่ตั้งเป้าไว้ หลายคนพลาดโอกาสสำคัญในการก้าวหน้าหรือเลื่อนตำแหน่งงาน เพราะไม่สามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้ร่วมงานคนอื่นได้

 

7.หนักไม่เอา เบาไม่สู้

คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่า "เหนื่อยก็ทน เพราะความจนมันน่ากลัว" หากคุณลองถามมหาเศรษฐีทุกคนที่เริ่มต้นจากศูนย์ แต่ขยันทำมาหากิน พัฒนาตนเอง และกล้าก้าวข้ามความเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งสร้างตัวจนร่ำรวย พวกเขาเหล่านั้นจะตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่อยากกลับไปจนอีก" แต่สำหรับหลายคนที่ยังเป็นมนุษย์เงินเดือน หรือ เพิ่งเริ่มธุรกิจส่วนตัว แต่ยังไม่สู้งานหนัก หรือเดินหนีปัญหาที่อยู่ตรงหน้าที่ควรรับผิดชอบ ก็คงยากที่จะพัฒนาไปสู่ความมั่งคั่งทางการเงิน เพราะโอกาสทองมาพร้อมหยาดเหงื่อเสมอ
 

ถ้าหากชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ยังไม่ดีพอ ถึงเวลาแล้วที่จะหันมาจริงจัง และเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อชีวิตที่ดีและมั่นคงขึ้น จงจำไว้ว่า ใคร ๆ ก็ประสบความสำเร็จทางการเงินได้ ถ้าพร้อมสู้และไม่ท้อถอยไปเสียก่อน ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ง่ายไป เพียงคุณมีใจที่อยากจะทำมันอย่างเสมอต้นเสมอปลายแล้วละก็ กองเงินรอคุณอยู่ตรงหน้าแน่นอน

 

==================
วรัทภพ รชตนามวงษ์