Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

7 สาเหตุที่ทำให้บริหารเวลาไม่ลงตัว

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

7 สาเหตุ ที่ทำให้บริหารเวลาไม่ลงตัว
 
enlightenedคุณคิดว่า 24 ชั่วโมง ในหนึ่งวัน
ไม่เพียงพอจริงหรือ ?
 
yesในวันที่ยุ่ง ๆ 24 ชั่วโมง ก็ดูเหมือนยังไม่พอสำหรับการทำงานในออฟฟิศ หรือทำงานที่บ้าน เคยลองพิจารณาหาสาเหตุกันหรือไม่ว่า เพราะอะไรถึงจัดการเวลาไม่ลงตัวเสียที อะไรที่ควรให้เวลา อะไรที่ไม่ควรใช้เวลามากเกินไป ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ และยังมีเวลาเหลือสำหรับพักผ่อนได้ อีกด้วย อยู่ที่ว่า คุณได้ลองวางแผน และบริหารจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพแล้วหรือยัง
 
yesเอาจริง ๆ แล้วเวลาอาจไม่ใช่ไม่พอหรอก วันหนึ่ง ๆ เรามีเวลามากเกินพอที่จะทำในสิ่งที่เราอยากทำ แต่พอทำอะไรที่มีสาระได้สักพัก เราก็หันไปสนใจสิ่งรอบข้าง เช่น ดูยูทูป ส่องเฟซบุ๊ก ไปตามข่าวไร้สาระในโลกโซเชียลที่ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรต่อชีวิตเลย เป็นต้น
 
yesเชื่อว่าหลาย ๆ คนเลย ที่เวลาทำงานไปสักพักใหญ่ ก็จะเริ่มมีอาการวอกแวก เล่นมือถือ ดูโน่นนี่ เพลินไปเลย ซึ่งเวลาเหล่านี้นี่แหละที่ดึงความสนใจของเราไป และหลายครั้งก็ดึงพลังสมองของเราไปด้วย กว่าจะกลับมาสู่โหมดที่ทำงานอย่างจริงจังได้ก็กินเวลาไปเป็นชั่วโมงยังไงล่ะ ฉะนั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง ให้รู้จักแบ่งเวลาอย่างเด็ดขาด เวลาทำงานก็ทำงาน เล่นก็คือเล่น ให้ชัดเจนไปเลย ทีนี้ก็จะไม่เป็นปัญหาเวลาไม่พออีกต่อไป
 
heart1. จัดลำดับความสำคัญผิด ๆ
อีกหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด ในการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพคือ การแยกงานระหว่างงานที่สำคัญ และงานเร่งด่วน ซึ่งคนส่วนใหญ่จะทำงานด่วนก่อน อะไร ๆ ก็ด่วนไปหมด เรียกได้ว่าทั้งวันมีแต่งานด่วน ถ้ามัวแต่ทำงานด่วน คุณก็ไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของงานได้เลย อย่างแรก คุณต้องเริ่มต้นจากงานที่สำคัญจริง ๆ ตามมาด้วยงานด่วน งานฉุกเฉิน อย่าให้ความสำคัญของทุกงานเท่าเทียมกัน
 
heart2. ยุ่งตลอดเวลา
ซึ่งบางคนอาจบอกว่า “ไม่ว่างเลยงานยุ่งทั้งวัน” แม้จะรีบปั่นงานแค่ไหน ถ้าไม่มีการบริหารเวลา ก็มีความเป็นไปได้ว่างานก็ไม่เสร็จอยู่ดี หรือเสร็จแต่อาจไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะสอดคล้องกับข้อก่อนหน้านี้ที่บอกว่า คุณกำลังจัดลำดับความสำคัญของงานแบบผิด ๆ ยิ่งรีบยิ่งรนมากเท่าไร ความผิดพลาดก็ยิ่งอยู่ใกล้เท่านั้น ลองสละเวลานิดหน่อยเพื่อทำสมาธิ ใจเย็น ๆ และจัดลำดับความสำคัญของงานก่อนจะลงมือทำงาน
 
heart3. ผัดวันประกันพรุ่ง
ประโยคที่คุ้นเคยและอันตรายที่สุด คือ “เดี๋ยวค่อยทำก็ได้” เป็นประโยคที่ไม่ควรพูดอย่างยิ่ง เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งติดปาก และถ้ามีงานสำคัญรออยู่ที่ใกล้ถึงกำหนดส่งเต็มที เชื่อว่าวินาทีสุดท้าย คุณก็ยังปั่นงานอยู่ ซึ่งจะทำให้งานไม่มีคุณภาพ และคุณเองก็ไม่รู้สึกพอใจกับมันเท่าไรนัก หากคุณมีการบริหารจัดการเวลาที่ดี ทักษะนี้จะช่วยเสริมความเป็นผู้นำได้ พยายามเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ไปให้ได้ สุดท้ายผลประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่ตัวคุณเอง
 
heart4. ทำงานแบบไร้ทิศทางไม่มีเป้าหมาย
ในการทำสิ่งใดก็ตาม ถ้าคุณไม่ได้กำหนดเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนแล้ว แน่นอนว่าไร้ซึ่งทิศทางของการทำงาน มันก็เหมือนกับคุณทำงานไปวัน ๆ ขอแค่ให้ผ่านไปในแต่ละวันก็พอ แต่การกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้คุณรู้วิธีการทำงาน ทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จได้
 
heart5. ไม่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์
ในยุคสมัยนี้ที่เทคโนโลยีทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน อีกทั้งยังทำให้ประหยัดเวลาได้อีกด้วย เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ ไอแพด ติดต่อธุรกิจ การใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน อีกทั้งการประชุมในยุคปัจจุบันเรายังประชุมข้ามประเทศ ข้ามจังหวัด ได้เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต สะดวกสบายประหยัดเวลาอีกเพราะด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่ที่ก้าวไกลไปมาก
 
heart6. ไม่กล้าปฏิเสธ
ชีวิตจริง หลาย ๆ คนไม่กล้าที่จะปฏิเสธ มีความเกรงอกเกรงใจ แทนที่จะได้ทำงานของตนเองให้เสร็จทันเวลาหรือตามแผนที่วางไว้ กลับถูกผู้อื่นขอร้องให้ทำงานของคนอื่นให้ ไม่ได้บอกว่าช่วยเหลือไม่ได้ จริง ๆ การช่วยเหลือมีน้ำใจต่อกันเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องดูกาลเทศะด้วย และบางครั้งแทนที่จะใจแข็งรู้จักปฏิเสธไป แต่กลับให้การช่วยเหลือ ทำให้งานของตนเองที่จะทำกลับไม่ได้ทำ
 
heart7. เสียเวลาไปกับสิ่งไร้สาระ
เครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการบริหารเวลาคือ การรู้จักบังคับและมีวินัยในตัวเอง และรู้ว่าควรจะหยุดตอนไหน โดยเฉพาะเรื่องการหยุดใช้โซเชียลต่าง ๆ หากรู้จักบริหารเวลาเป็นก็ไม่ใช่ปัญหา แต่มีหลาย ๆ คนที่ให้ความสำคัญกับโซเชียลมากเกินไปจนทำให้เสียงานก็มีเยอะไป และมีบางคนอาจจะคิดว่าเล่นแค่ 2 นาที ไม่เป็นไรหรอก แต่ลองถามตัวเองดูว่าคำว่า 5 นาทีมีอยู่จริงหรือเปล่า เพราะกิจกรรมเหล่านี้จะรบกวนเวลาทำงานทำให้เสียสมาธิในการทำงานเป็นอย่างมาก
 
yesheartเพียงแค่คุณรู้จักจัดการแบ่งเวลาให้ลงตัว ว่าเวลาไหนต้องทำสิ่งใด เวลาไหนต้องหยุดอะไร คุณอาจจะทำด้วยวิธีการโน้ตออกมาเลยก็จะดีมาก ๆ เพราะเราจะได้รู้ว่าช่วงเวลาไหนถึงไหน ต้องทำอะไร และเป็นการฝึกตัวเองให้มีวินัยด้วย และที่สำคัญหากคุณสามารถทำได้อย่างมีระบบแล้วล่ะก็ ไม่ว่าจะมุ่งมั่นตั้งใจทำสิ่งใดก็ตาม เชื่อมั่นได้เลยว่าคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอนheartyes

==================
วรัทภพ รชตนามวงษ์
 

แสดงความคิดเห็น

>