จบไม่ลงและคงไม่ยอม(นิยาย) ตั้งกระทู้ใหม่ ตั้งกระทู้ใหม่ สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะตั้งกระทู้ดีไหม แต่มันมีเรื่องค้างคาในใจ พักหลังๆมานี้นอนไม่ค่อยหลับในหัวคิดแต่เรี่องนิยาย เพราะว่าเราเป็นคนที่เขียนนิยายไว้หลายเรื่องแต่ว่ามันยังค้างคาไม่จบสักที เหมือนพอเนื้อเรื่องผ่านจุดพีคมาแล้ว แล้วมันจบไม่ลงค่ะ ลองสักเกตตัวเอง 1. บางครั้งก็เป็นเพราะตัวเราที่ยื้อมันเอง 2.เพราะเราขาดช่วงการแต่งไปนานมันเลยไม่ต่อเนื่อง 3.ตอนที่เราดูซีรี่ห์ต่างๆ เราก็มักจะดูไม่จบ พอถึงจุดที่คลายปมเราก็เลิกดูเหมือนขาดจุดดึงดูด ประมาณนี้ค่ะ เราเลยอยากถามเพื่อนๆค่ะ ว่ามีใครเป็นแบบเราบ้างไหมแล้วมีวิธีการจัดการยังไง คือเราเองชอบเเต่งนิยายมากคิดเรื่องนั่นนี้ตลอด แล้วพอตอนนี้เราแต่งไม่จบ เราก็ค่อนข้างรุ้สึกผิดกับรีทที่มาอ่านนิยายเราแล้วค้างคา แต่เราก็ไม่อยากเขียนไปแบบส่งๆ เลยรอฟิลลิ่งร่วม เขียนๆลบๆมาหลายรอบแล้วค่ะ แต่ใจเลยคือไม่ทิ้งแน่นอน ยังไงถ้าเพื่อนๆท่านไหนเคยมีประสบการณ์ในเรื่องแบบนี้ แนะนำเราได้นะคะ เผื่อมีจุดที่เรามองข้ามไป ยังไงก็ขอบคุณล่วงหน้านะคะ 15 มี.ค. 64 เวลา 15:58 น. 1 like 458 views Facebook Twitter รายชื่อผู้ถูกใจกระทู้นี้ คน
white cane 15 มี.ค. 64 เวลา 18:46 น. 1 จากที่อ่านดู น่าจะไม่ได้ระบุจุดหมายปลายทางไว้ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ งั้นลองเอาวิธีหนึ่งของผมไปก็แล้วกัน นั่นคือเขียนตอนเริ่มต้นและตอนจบไว้ให้รู้จุดหมาย 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
น้องงงงงง 15 มี.ค. 64 เวลา 20:14 น. 2 เราเป็นค่ะ ก่อนนี้เราเปิดนิยายไว้หลายเรื่องด้วยสุดท้ายเลยหักดิบด้วยการลบเรื่องอื่นทิ้งให้เหลือแค่เรื่องเดียวที่สำคัญจริง ตอนนี้เริ่มมีไฟเรื่องอัพนิยายมากขึ้นเพราะอยากรีบแต่งให้จบจะได้ไปแต่งเรื่องใหม่ค่ะ อีกทางหนึ่งอยากแนะนำให้เขียนพล็อตกับรายละเอียดไว้นะคะจะได้ไม่ออกทะเลเยอะ 1 1 ถูกใจ 1 ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
ลู่อันซี 19 มี.ค. 64 เวลา 13:49 น. 2-1 ตอนนี้ไม่ใช่ดินพอกหางหมูแล้วค่ะ เป็นปูนโบกปิดตายไปเลย เยอะมากๆ ฟิลลิ่งเรื่องให้นี้เยอะแยะไปหมด เรื่องเก่าดันตัน555555 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ
Miran/Licht 15 มี.ค. 64 เวลา 22:59 น. 3 ด้วยความที่หากเขียนนิยายตามอารมณ์ ชาตินี้ไม่รู้จะเขียนนิยายจบกะเขาไหม เลยเปลี่ยนแนวทางตัวเองเป็นว่า จะมีอารมณ์ไม่มีอารมณ์ก็ต้องเขียนค่ะ ทำเหมือนนักเขียนอาชีพที่เขียนตามตารางเราจะเริ่มเขียนเมื่อได้วางแผนไว้มากพอที่จะเขียนโดยไม่ติดขัด และไม่ต้องไปเสียเวลาค้นข้อมูลอีก หรือเสียเวลาคิดว่าจะจบแบบไหนอย่างไร วางแนวทางทุกอย่างไว้ แล้วเขียนตามแนวทางที่วาง ถ้าจะบอกว่า ถ้าเขียนแบบวางแผนจะเกร็งจะนั่นจะนี่ ตัวละครไม่เติบโต ไม่ดิ้น ไม่เคลื่อนไหว ไม่หรอกค่ะ ถ้าตัวละครมีชีวิตในใจคุณ หน้าที่นักเขียนคือถ่ายทอดออกมาแล้วปล่อยเขาบ้างตบ ๆ กลับเข้าที่เข้าทางบ้าง และเพราะเขามีชีวิตในใจเรา เราถึงอยากส่งเขาให้ถึงฝั่งค่ะ อยากให้เรื่องราวของเขาได้จบลงตามที่ควรจะเป็นหรืออีกอย่างที่ลูกอยากบอกก็คือ เลิกทรมานทรกรรมตรูสักที ให้ตรูมีความสุขเถอะ 1 0 ถูกใจ 1 ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
หยิบสิ 16 มี.ค. 64 เวลา 09:57 น. 4 ทำไมต้องให้ฉันยอมด้วยเหรอ ที่เขาจะบอก ฉันก็จะบอก รักเธอ สิทธิ์จะหวงเธอ ก็ไม่แพ้กัน.. (คิดว่าต่อเพลง..)เราก็เป็นคนดูซีรีย์ในช่วงต้นถึงกลางสนุกมาก แต่ช่วงท้ายบางเรื่องก็เทเลย บางเรื่องก็ดองไว้แล้วค่อยเปิดตอนจบดู ไม่ชอบช่วงก่อนจะจบเท่าไหร่ ช่วงนั้นวุ่นวายมาก กดสคริปรัว ๆ แต่ถ้าเรื่องไหนชอบจริง ๆ ก็ดูจนจบจบ ส่วนเรื่องขาดช่วงแต่งนี้ เราพยายามจะไม่ขาดนาน แม้จะวุ่น ๆ กับการหัดทำช่องยูทูปอยู่ แต่ก็พยายามเขียนทุกวัน แม้มันจะน้อย แค่ประโยคเดียวก็เขียน เพราะเมื่อไหร่ไฟมอด จะจุดให้ติดอีกครั้งยากมาก เลยเลี้ยงไฟ โบกลมไปเรื่อย ๆ แม้มันจะไม่ร้อนแรง แต่มันก็ทำให้เนื้อที่เราย่างอยู่สุกขึ้นเรื่อย ๆ ได้ไปเรื่อย ๆ แต่ไม่หยุดครับ แม้มันจะไม่ได้ฟิล แต่เราก็รีไรท์ได้ พอเขียนจบสักบท พอมาลองอ่านดูค่อยแก้ก็ได้ ตอนนั้นไฟอาจจะติดก็ได้พอมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น 0 1 ถูกใจ ตอบกลับ 1 เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
NiGhTM@rE 16 มี.ค. 64 เวลา 12:37 น. 5 อืมมมมมมมลองเปิดประเด็นปัญหาดูไหมคะแบบลองหาในเรื่องว่าจุดไหนในช่วงแรกกับช่วงกลางเล่นประเด็นได้ หยิบเอามาปั่นหรือขยี้เลยค่ะหรือถ้ามันหาไม่เจอ ก็เอาเรื่องส่วนตัวจองตัวละครตัวใดตัวหนึ่งโพล่งมาให้เกิดความสงสัยแล้วให้นิสัยตัวละครจากที่ปกติเคยเป็น เปลี่ยนไปเพราะประเด็นนั้นก็ได้ค่ะแล้วตอนเฉลย ไปเฉลยตรงช่วงท้ายก้ได้ค่ะ ถ้าจบเพียงแค่ทุกคนมีความสุข อยู่กันดี แต่ก่อนหน้าไม่มีประเด็นอุปสรรคให้ตัวละครฟันฝ่า มันจะทำให้เรื่องมันจืดๆค่ะสมัยเรียนม.ปลาย ครูฟิลลิปปินส์ท่านนึง (จำได้เลย ชื่อ Miss Jen แกสอนหลักวรรณกรรมของการเขียนstoryได้ลึกมาก และเราก็ชอบมากเลยจำหลักการแกมาตลอด) เคยสอนเราเรื่องการเขียนstoryที่เป็นหลักพื้นฐานทั่วไปในวิชาEngเสริม เขาบอกว่า เรื่องทุกเรื่องจะเป็นเรื่องราวได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นเรื่องยาวจะต้องมีจุดclimax ก่อนจะthe endค่ะ เพราะงั้น ถ้าจะแก้ให้เร็วดีสุดคือ หาประเด็นทำให้เกิด Climaxของเรื่องค่ะไม่รู้ว่าช่วยได้ไหม แต่เราก็เคยเป็นแบบจขกท.ค่ะ ยังไงก็สู้ๆนะคะ =w= เอาใจช่วยค่ะ 0 0 ถูกใจ ตอบกลับ เมนู แก้ไข แจ้งลบ ปักหมุด
สายไอทีเซฟไว้เลย! Google เปิดคอร์สฟรี “Machine Learning Crash Course” (มือใหม่ก็เริ่มต้นเรียนได้) เด็กกิจกรรม
5 ความคิดเห็น
จากที่อ่านดู น่าจะไม่ได้ระบุจุดหมายปลายทางไว้ใช่ไหมครับ ถ้าใช่ งั้นลองเอาวิธีหนึ่งของผมไปก็แล้วกัน นั่นคือเขียนตอนเริ่มต้นและตอนจบไว้ให้รู้จุดหมาย
เราเป็นค่ะ ก่อนนี้เราเปิดนิยายไว้หลายเรื่องด้วยสุดท้ายเลยหักดิบด้วยการลบเรื่องอื่นทิ้งให้เหลือแค่เรื่องเดียวที่สำคัญจริง ตอนนี้เริ่มมีไฟเรื่องอัพนิยายมากขึ้นเพราะอยากรีบแต่งให้จบจะได้ไปแต่งเรื่องใหม่ค่ะ
อีกทางหนึ่งอยากแนะนำให้เขียนพล็อตกับรายละเอียดไว้นะคะจะได้ไม่ออกทะเลเยอะ
ตอนนี้ไม่ใช่ดินพอกหางหมูแล้วค่ะ เป็นปูนโบกปิดตายไปเลย เยอะมากๆ ฟิลลิ่งเรื่องให้นี้เยอะแยะไปหมด เรื่องเก่าดันตัน555555
ด้วยความที่หากเขียนนิยายตามอารมณ์ ชาตินี้ไม่รู้จะเขียนนิยายจบกะเขาไหม เลยเปลี่ยนแนวทางตัวเองเป็นว่า จะมีอารมณ์ไม่มีอารมณ์ก็ต้องเขียนค่ะ ทำเหมือนนักเขียนอาชีพที่เขียนตามตาราง
เราจะเริ่มเขียนเมื่อได้วางแผนไว้มากพอที่จะเขียนโดยไม่ติดขัด และไม่ต้องไปเสียเวลาค้นข้อมูลอีก หรือเสียเวลาคิดว่าจะจบแบบไหนอย่างไร วางแนวทางทุกอย่างไว้ แล้วเขียนตามแนวทางที่วาง
ถ้าจะบอกว่า ถ้าเขียนแบบวางแผนจะเกร็งจะนั่นจะนี่ ตัวละครไม่เติบโต ไม่ดิ้น ไม่เคลื่อนไหว ไม่หรอกค่ะ ถ้าตัวละครมีชีวิตในใจคุณ หน้าที่นักเขียนคือถ่ายทอดออกมาแล้วปล่อยเขาบ้างตบ ๆ กลับเข้าที่เข้าทางบ้าง และเพราะเขามีชีวิตในใจเรา เราถึงอยากส่งเขาให้ถึงฝั่งค่ะ อยากให้เรื่องราวของเขาได้จบลงตามที่ควรจะเป็นหรืออีกอย่างที่ลูกอยากบอกก็คือ เลิกทรมานทรกรรมตรูสักที ให้ตรูมีความสุขเถอะ
ทำไมต้องให้ฉันยอมด้วยเหรอ
ที่เขาจะบอก ฉันก็จะบอก รักเธอ สิทธิ์จะหวงเธอ ก็ไม่แพ้กัน.. (คิดว่าต่อเพลง..)
เราก็เป็นคนดูซีรีย์ในช่วงต้นถึงกลางสนุกมาก แต่ช่วงท้ายบางเรื่องก็เทเลย บางเรื่องก็ดองไว้แล้วค่อยเปิดตอนจบดู ไม่ชอบช่วงก่อนจะจบเท่าไหร่ ช่วงนั้นวุ่นวายมาก กดสคริปรัว ๆ แต่ถ้าเรื่องไหนชอบจริง ๆ ก็ดูจนจบจบ
ส่วนเรื่องขาดช่วงแต่งนี้ เราพยายามจะไม่ขาดนาน แม้จะวุ่น ๆ กับการหัดทำช่องยูทูปอยู่ แต่ก็พยายามเขียนทุกวัน แม้มันจะน้อย แค่ประโยคเดียวก็เขียน เพราะเมื่อไหร่ไฟมอด จะจุดให้ติดอีกครั้งยากมาก เลยเลี้ยงไฟ โบกลมไปเรื่อย ๆ แม้มันจะไม่ร้อนแรง แต่มันก็ทำให้เนื้อที่เราย่างอยู่สุกขึ้นเรื่อย ๆ ได้
ไปเรื่อย ๆ แต่ไม่หยุดครับ แม้มันจะไม่ได้ฟิล แต่เราก็รีไรท์ได้ พอเขียนจบสักบท พอมาลองอ่านดูค่อยแก้ก็ได้ ตอนนั้นไฟอาจจะติดก็ได้พอมันเป็นรูปเป็นร่างขึ้น
ขอบคุณนะคะิ
อืมมมมมมม
ลองเปิดประเด็นปัญหาดูไหมคะ
แบบลองหาในเรื่องว่าจุดไหนในช่วงแรกกับช่วงกลางเล่นประเด็นได้ หยิบเอามาปั่นหรือขยี้เลยค่ะ
หรือถ้ามันหาไม่เจอ ก็เอาเรื่องส่วนตัวจองตัวละครตัวใดตัวหนึ่งโพล่งมาให้เกิดความสงสัย
แล้วให้นิสัยตัวละครจากที่ปกติเคยเป็น เปลี่ยนไปเพราะประเด็นนั้นก็ได้ค่ะ
แล้วตอนเฉลย ไปเฉลยตรงช่วงท้ายก้ได้ค่ะ ถ้าจบเพียงแค่ทุกคนมีความสุข อยู่กันดี แต่ก่อนหน้าไม่มีประเด็นอุปสรรคให้ตัวละครฟันฝ่า มันจะทำให้เรื่องมันจืดๆค่ะ
สมัยเรียนม.ปลาย ครูฟิลลิปปินส์ท่านนึง (จำได้เลย ชื่อ Miss Jen แกสอนหลักวรรณกรรมของการเขียนstoryได้ลึกมาก และเราก็ชอบมากเลยจำหลักการแกมาตลอด) เคยสอนเราเรื่องการเขียนstoryที่เป็นหลักพื้นฐานทั่วไปในวิชาEngเสริม เขาบอกว่า เรื่องทุกเรื่องจะเป็นเรื่องราวได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสั้นเรื่องยาว
จะต้องมีจุดclimax ก่อนจะthe endค่ะ
เพราะงั้น ถ้าจะแก้ให้เร็วดีสุดคือ หาประเด็นทำให้เกิด Climaxของเรื่องค่ะ
ไม่รู้ว่าช่วยได้ไหม แต่เราก็เคยเป็นแบบจขกท.ค่ะ ยังไงก็สู้ๆนะคะ =w= เอาใจช่วยค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?