Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รุ่นพี่น่ารักกับเด็กหญิงสุดเอ๋อ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
อะหึ่ม .....
เรื่องราวทั้งหมดนี้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเพียงเเค่20เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่เหลือเป็นความมโนเเละปรุงเเต่งของไรท์เอง วอนทุกคนใช้วิจารณญาณในการอ่านพร้อมทั้งใส่จินตนาการไปพร้อมกัน นะคะ 

เริ่มมีอยู่ว่ามีนักเรียนสาว ที่เรียนไม่เก่งการเรียนพอปานกลาง ทักษะการเอาตัวรอดสูงมาก เธอได้เรียนอยู่ห้องคิงแต่หัวสมองของเธอนั้นเท่ากับเด็กม.3 ปีนี้เป็นปีที่เธอได้เรียนจบ สงสัยกันมั๊ยว่าทำไมเธอถึงเรียนจบ(สมมติสงสัยเถอะ) เธอใช้ทักษะการเอาตัวรอด  เช่นเวลาสอบเธอไม่เอาคะเเนะดี เอาเเค่ผ่าน กิจกรรม เธอก็ไม่เด่น กีฬาก็ได้คุณครูช่วย ยกตัวอย่างเช่นเพื่อนๆเล่นวอลเล่บอล เธออาสาเก็บลูก  พยายามเข้าไว้คุณครูจะได้เวทนา  จบมาได้เเบบสุดแสนจะน่าภูมิใจ วันก่อนจบ เธอเเละเพื่อนของเธอได้ทำโครงงานจบชิ้นนึงเพื่อที่จะได้ใช้เป็นคะเเนนพิเศษ เเต่ก็โครงงานนี้จะต้องใช้เครื่องวัดค่าที่ทางโรงเรียนไม่มีให้ต้องไปเอาที่มหาลัยเเห่งนึง ซึ่งไม่เป็นไรเราได้เดอนทางไปเอาเอง คิๆ  เราก้ถือจังหวะนี้เเหละเดินมันให้ทั่วมหาลัยซ้ะเลย เเต่เอาจริงๆก็แอบกลัวนิดนึง เพราะเราใส่ชุดนักเรียนทั้งๆทีพี่คนอื่นๆใส่ชุดนักศึกษากันสวยมากๆ  เราได้เข้าไปรับของเสร็จเรียบร้อย เเต่ดันปัญหามันอยู่ตรงที่ตึกที่เราไปเอาของมันอยู่ท้ายม.มั้ง ใช่มันไกลมาก เรากับเพื่อนที่ไปด้วย มองหน้ากันเเล้วพูดว่าเดินเถอะ แต่คือรถเมย์ที่วิ่งรับส่งนักศึกษาก็มีนะเเต่ไม่ใช้เพราะอายคือทุกคันที่ขับผ่านมีเเต่รุ่นพี่วิศวะมั้งแหละ พี่สาวสุดสวยนั้งมั้งแหละ เเล้วเราก็เอาว้ะเดินเอา เราเดินไปเรื่อยพร้อมกับเเดดที่เป็นใจมาก(ประชด)มันร้อนมากแล้วเราใส่เสื้อคลุมไหมพรม ดอ้พระเจ้ามันคันมากๆเเต่ไม่ถอด คีบลุคต่อไปเพราะเรากำลังเดินผ่านตึกวิศวะทั้งที่เอาจริงๆตรงนั้นไม่มีใครเลยเดินไปเรื่อยๆเพื่อนเดินไม่ไหวเเล้วเราก็เหมือนจะหลงเลยนั่งพักกันข้างถนนตรงนั้นเลย มีคุณป้าที่ทำความสะอาดอยู่เค้าเป็นมิตรมากเค้าบอกว่ามีร้านขายน้ำเปิดอยู่ไปพักตรงนั้นก็ได้ เราก็เลยไปกัน ไปถึงเราก็เลยพูดกับเพื่อนว่า เราเริ่มเจ้บเท้ารองเท้ามันกัดเพื่อนก็เลยบอกว่าทนหน่อยเดี๋ยวก็ถึงเลยถามทางออกม.จากคุณน้าร้านขายน้ำว่าจากตรงนี้ต้องไปตรงไหนต่อ เท่านั้นเเหละมีรุ่นพี่วิศวะคนนึงมาซื้อน้ำพอดี (หน้าตาดีมาก) น้าร้านน้ำก็บอกว่าเค้าไม่รู้เค้าพึงมาทำงานวันเเรก เพื่อนเราใจกล้าหันไปถามพี่วิศวะคนนั้น พี่เค้าก็บอกถามพร้อมกับเเนะนำว่าให้ขึ้นรถรับ-ส่งของทางม. แต่เพื่อนก็ดันใจกล้าอีกบอกว่าเราเจ็บเท้าเดินไม่ไหว พี่เค้าก็ถามว่าเดินไหวไหม เราก็ตอบตามมารยาทว่าไหว เเต่อิเพื่อนดันฉลาดบอกว่า มันเดินไม่ไหวเเล้ว พี่เค้าเลยช่วยพาเราไปทำแผลในตึกวิศวะ เค้าเเบบใจดีมากๆเราถอดถุงเท้ายังตกใจเลย เพราะมันพองใหญ่มาก ข้างนึง ส่วนอีกข้างมันเเตกเเล้วพี่เค้าเลยทำแผลให้บอกตรงๆเลยว่าอายตีนตัวเองมาก ทั้งเล็บยาว  ไม่มีรูปทรง เอาง่ายๆเท้าไม่สวยเลย พี่เค้าก็ถามว่าเดินไกลเเค่ไหนเเล้ว เราเลยบอกว่าไม่รู้ เเต่เดินมาจากตึกที่ไปรับของพี่เค้าได้ยินก็บอกว่าไกลอยู่นะ เเล้วโทรศัพท์พี่เค้าก็ดังขึ้น เราก้แบบเมียโทรตามเเน่ๆ เลยทำแผลเองจนเสร็จแล้วรีบชวนเพื่อนกลับ พอพี่เค้าวางสายเราที่กำลังจะก้มขอบคุณพี่เค้าก็บอกเดี๋ยวไปส่งที่หน้าม. เราก็ขอบคุณ เรายืนอยู่หน้าตึกวิศวะ กับเพื่อนสองคนเพื่อนบอกชอบอยากได้เราเลยห้ามไว้บอกว่าอย่าเลย พี่เค้ามีเเฟนเเล้วมั้ง หน้าตาดีขนาดนี้คงมีแล้วหละ เพื่อนยังเถียงกลับอีกนะว่าพี่เค้าอาจคุยกับเเม่ก็ได้ สักพักก็มีรถเก๋งสีดำเงามากจอดตรงหน้าเราก็สงสัยนะรถใครมาจอด เค้าจะเลี้ยวเข้าตึกรึป่าว กระจกลดลงเสียงตะโกนออกมา นี่น้องขึ้นรถสิ อิเพื่อนมองหน้า  แล้วก็อุทานว่าอยากนั่งข้างหลังเพราะจะได้ไม่เบียดใครเเล้วนางก็กระโดดขึ้นรถไปนั่งหลัง  พี่เค้าก็บอกมานั่งหน้าคนนึงสิ  เราก้เลยไปนั้งขึ้นรถไปโอ้วเเม่เจ้า สะอาดมาก เกรงใจเบอร์10เพราะรองเท้าเรามันสกปรกมาก รถก็หอม เรานะสิเหงื่อท่วมตัว เกรงใจเข้าไปอีก เเล้วสักพักก็คุยกันเรื่องทั่วไป เเล้วก็มีสายดทรเค้ามาอีก เราอ่านชื่อไม่ออกเพราะพี่เค้าไม่ได้เมมเเบบคนปกติ ฮัลโหล เออฟลุ๊คงานวันนี้ยกเลิกนะ อ่ะรู้ชื่อละนึง พี่เค้าก็ตอบ อ๋อครับงั้นเดี๋ยวกูกลับเลยนะ   ในใจเพื่อนเเหละกู- พี่เค้าก็เลยหันมาถามว่าเเล้วมีแผนจะไปที่ไหนต่อไหม  เราตั้งใจจะไปเดินห้างต่อ เลยบอกว่าส่งตรงหน้าห้าง...ก็ได้ค่ะ พี่เค้าก็บอกเอ้าหรอพดีเลยพี่ก็จะไปดูหนังพอดี เพื่อนโผล่หน้ามาพร้อมพูดว่า งั้นเราขอไปดูด้วยได้ไหมคะ ในใจเเบบเสร่อมากเลยทำเป้นเล่นมือถือเผื่อที่จะส่งข้อความไปด่ามันว่า พี่เค้ายังไม่ได้ชวนเลย- ส่งไปมันยังไม่ทันอ่าน พี่เค้าก็บอกได้สิ ดูกันเยอะๆมันส์ดี เราก้งง ในโรงเค้าห้ามส่งเสียงนี่หว่า เเล้วมันจะสนุกเหรอมีเด็กน้อยผู้หญิงสองคนคอยก่อความน่ารำคาน พอถึงห้างอิเพื่อนสงสัยกินน้ำเยอะไปหน่อยเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำเราก็เลยนั่งรอกันที่ศูนย์อาหาร  เพื่อนมันส่งข้อความมาว่านานเเน่เพราะปวดท้องถ่ายด้วย ชวนพี่เค้าไปดูหนังก่อนเลย เดี๋ยวมันตามไป  เราก้เลยบอกพี่เค้าว่า เออพี่คะ เพื่อนหนูมันมีธุระ พี่จะไปดูหนังก่อนไหมคะ พี่เค้าก็ตกลง ไปยืนงงอยู่หน้าตู้กดตั๋ว เพราะเราไม่เคยใช้ พี่เค้ายืนอยู่ข้างหลังเลยบอกมาเดี่ยวพี่กดเอง เเล้วพี่เค้าก็กดสองสามที เเล้วจ่ายตัง เราก็ดูละราคาตั๋วเท่าไหร่ เลยจะหยิบกระเป๋าตังจะควักตังมาให้พี่เค้าพี่เค้าเลยบอกว่า ไม่เป็นไรพี่เลี้ยง ป๋ามากเราก็นั่งรอเวลาหนังฉาย พี่เค้าก็ถามขึ้นมาโต้งเลยว่า เรามีเพื่อนเรามีเเฟนยัง เราก็ตกใจเพราะคิดว่าพี่เค้าต้องชอบเพื่อนเราเเล้วเเน่ๆเลยบอกยังไม่มีพี่เค้าก็อ๋อ เเล้วก็ถามต่อว่าเรามีรึยัง เราก็ตอบว่าไม่มีหรอก หนูไม่ได้สวยเหมือนเพื่อนขนาดนั้น พี่เค้าตอบผู้ชายเค้าไม่ได้ชอบผู้หญิงสวยอย่างเดียวหรอกนะ เราก็ขำกลบเกลื่อน จนเข้าโรงไปตกใจหนักกว่าเดิมคือ นั่งติดกันเลย 
เราก็นั่งเว้นที่ว่างข้างพี่แกให้เพื่อน หนังฉายไปสักพักเพื่อนก็โผล่มาพอดี พร้อมสะกิดในเราย้ายไปนั่งข้างเราก็ส่ายหัวเเล้วบอกให้เพื่อนไปนั่งนางก็กระซิบบอกว่าพึ่งลี่ขู้มาไม่มั่นใจ เราเลยนั่งใกล้พี่แก จังหวันี้แหละได้กลินน้ำหอม มันไม่ใช้กลิ่นบอยๆอ่ะมันหอมหวานเหมือนฟรุตตี้นิดๆด้วย เราก็คิดไปด้วยตอนดูหนัง ว่าพี่เเกเป้นคนที่สะอาดมากแน่ๆ ดูหนังไปสักพักเอ้า นังเพื่อนหลับ นังนี้อยู่ง่าย หันไปข้างๆเชี่ยพี่แกก็หลับ คอพับเลยนะเราก็มองต้นคอไปถึงหน้าไม่มีสิวสักเม็ดเลย คนอะไรทำไมพระเจ้าลำเอีงขนาดนี้ เราก็ดูหนัง หนังเเอคชั่นมาเต็มที่เเต่หลับแล้วพี่เเกก็ไหลไหลไปไหลมามาซบเรา ใจเต้นตุบตับ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอก ตัวเรามันไม่ได้น่าซบขนาดนั้นพึงเหงื่อออกมามันเหนียวเเต่เรากล้ายืนยันว่าเราไม่มีกลิ่นตัว สบายใจได้  พอหนังจบเราเลยปลุกพี่เค้า แกมันหน้าเอ็นดูมาก เหมือนเด็กงอแงอยากนอนต่อ  อิเพื่อนตื่นมาเห้นพี่เเกหลับเลยชาวยปลุก พอพี่เเกตื่นมา เลยพากันแยกย้ายกลับ   อิเพื่อนมันแกล้งถามพี่เค้า พี่คะไหนๆเราก็อยู่ด้วยกันเกือบทั้งวันเเล้วพี่ชื่ออะไรคะหนูไปร์ทนะคะ นี่เพื่อนหนู... พี่ฟลุ๊คค้าบ  เราจะได้เจอกันอีกไหมคะหนูขอไลน์พี่ได้ม้ะ  เพื่อนมันกล้า เลยปล่อยมันไป อ่อพี่ให้ไอจีเเทนได้มัีย เเล้วพี่เค้าก็ให้ไอจีมาเราสองคนก็ส่องนะตรงนั้นเลย ...เเล้วเราก็กลับบ้านมา เราก้กดฟอลโล่พี่เค้าไป   คืนอีกวันพี่เค้าทักมาถามเรื่องแผลเราก็เเบบงงๆนะ  เพราะเค้าดูไม่น่าจะเป็นห่วงเเผลเราขนาดนั้น เราก็ตอบไปหายดีเเล้วไม่เจ้บเเล้ว พี่เค้าค้าบๆจบบทสทนาไป เราไปสอบสัมภาษณ์ที่ม.นั้นเเต่คนละคณะ555ครั้้งนี้เตรียมตัวมาดีไม่มีรองเท้ากัดแน่ๆ เเล้วเราก็เอารถมาไม่ต้องเดินด้วย สัมภาษณืเสร็จเราขับรถไปที่สนามกีฬาของม.คุณพระนึกว่าบุเพ เจอพี่ฟลุ๊คอีกแล้ว เเต่เค้ามากับเพื่อนเค้าไม่ได้มองมาทางเราเลย เราก็เลยได้เเต่มองไม่กล้าเข้าไปทักด้วย แต่พี่เค้ามาวิ่งถอดเสื้อวิ่งอีก อกอีเเป้นจะแตกมีซิคแพคด้วย เรานั่งดูสักพักได้สติ รีบเดินลงไม่ทันดูทางสดุดเก้าอี้ที่เค้าวางตั้งเป็นชาติ หน้าทิ่มฟาดกับเก้าอี้ลุกมาเเบบวางมาดนิดนึงว่าชั้นไม่เจ็บ อย่ามีใครขำนะ เดินลงมาพี่ฟลุ๊ควิ่งมาถึงพอดี เลือดกำเดาไหลสิ หัวก็ปูดๆ พี่เค้าก็เอ้ย น้อง ไปห้องพักก่อน  พี่เค้าก็หัวเราะที่เราสะดุดเก้าอี้ แต่เหมือนพี่เค้าจะจำเราไม่ได้ด้วยซ้ำ เเต่พี่เค้าน่ารักนะที่เค้าใจดีกับทุกคนไม่ว่าจะใคร เราก็ได้เเต่มองพี่เค้าอยู่ห่างๆแบบนี้ไป

ฝากถึงคนที่กำลังเป็นแบบนี้นะคะ  ได้เเต่มอง เเต่ก็ไม่กล้าบอกชอบเค้า กลัวเค้าปฏิเสธ เพราะเค้าเป็นเทพบุตรเรามันนังทาส   เพราะคนสวยๆที่ชอบพี่เเกเองก็เยอะ  

ไรท์ขอฝากไว้เป็นิีกเรื่องราว ชอบกดไลก์ ใช่กดแชร์ เลิฟกดติดตาม แล้วก็คอมเม้นกันมาได้ถ้าใครมีเรื่องราวที่คล้ายกันหรือเรื่องอะไรใหม่ ก็มาพูดคุยกันได้เน้อ 

แล้วพบกันวันที่ชาติต้องการ

แสดงความคิดเห็น