ช่วยวิจารณืนิยายของเราหน่อยค่ะ
แสงสีส้มตกกระทบลงบนพื้นอาบย้อมทุกที่ให้กลายเป็นสีส้มที่สวยงาม บ่งบอกถึงช่วงเย็นที่มาเยือนและจะผ่านพ้นไปเพียงไม่นานยามราตรีที่แสนสงบสุขก็จะมาถึง แต่คงไม่ใช่กับเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและเร่งรีบ เพียงแค่มองไปตรงหน้าทุกคนก็จะพบแต่เพียงความวุ่นวายเท่านั้น
ชายหนุ่มเหม่อมองไปตรงหน้าและเหยียบย่ำไปตามทางเท้าเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน พักผ่อนร่างกายจากความเหนื่อยล้าทั้งหลายที่ประสบพบเจอในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องเงิน หากแต่ถ้าเป็นเรื่องที่ชายหนุ่มกังวลที่สุดคงไม่พ้นเรื่องที่ตอนนี้เขาได้พ้นสภาพจากการเป็นพนักงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง
ตัวของเขาเป็นเพียงพนักงานกินเงินเดือนธรรมดาๆคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตไปวันๆกับการทำงานที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถูกไล่ออก เปรียบเทียบง่ายๆ คือไก่ที่ไม่รู้ตัวว่าเมื่อไหร่จะถูกเชือด เขาก็เป็นเช่นนั้น
เฮ้อ คงช่วยไม่ได้ละนะที่ตัวผมจะถูกไล่ออก มันก็เป็นแค่สิ่งจะต้องเกิดขึ้นอยู่ดี ไม่ว่าจะเร็วหรือช้าก็ตามที หากถามผมว่าทำไมถึงยอมรับจาการที่ถูกไล่ออกง่ายจัง ทุกคนคงต้องย้อนมองดูเศรษฐกิจของเมืองไทยที่ประสบปัญหา ที่ทำให้พนักงานลูกจ้างหลายคนถูกเชิญออกจากบริษัทกันถ้วนหน้าไม่เว้นแม้กระทั่งผม เผลอๆบางบริษัทอาจต้องปิดตัวลง จะทำยังไงได้ละ สิ่งนี้จะต้องเกิดกับตัวผมอยู่แล้ว เพียงแค่เกิดขึ้นเร็วและยอมรับมันให้ได้ในที่สุด จากนั้นหางานอื่นทำเพื่อเลี้ยงปากท้องต่อชีวิตตัวเองอีกวัน ทำไงได้ละชีวิตก็มีแค่นี้
เจมส์คิดพลางเดินพลางไปตามทางเท้า เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงตัวของ เจมส์ หยุดเดินลงเพื่อรอผ่านไฟแดงไปยังอีกฟากของถนน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเขา
หากแต่รอไม่นานเสียงดังเซ็งแซ่ของนักเรียนกลุ่มใหญ่ค่อยๆปรากฏอยู่ข้างกายชายหนุ่ม สายตาของเขาบังเอิญเหลือบไปเห็นหนังสือที่เด็กนักเรียนกลุ่มนั้นถืออยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นหนังสือเรียนพิเศษ
ขยันจังนะเด็กเดี๋ยวนี้ ทั้งเรียนที่โรงเรียนแล้วยังเรียนพิเศษอีก ต่างจากตัวเขาลิบลับ ขี้เกียจตัวเป็นขนปีหนึ่งอ่านหนังสือไม่ถึงเล่มหนึ่งด้วยซ่ำ อ่าไม่สงสัยเลยว่าทำไมยังอยู่จุดเดิม...
ชายหนุ่มยังคิดไม่ทันจบสายตาของเขาดันไปเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งที่ถูกผลักจากกลุ่มเพื่อนที่ตนเองอยู่ทำให้ตัวเธอนั้นเซไปอยู่กลางถนน หากแต่เสียงรถที่ขับมาอย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจวิ่งไปผลักเด็กคนนั้นให้พ้นทางที่รถขับมาอย่างรวดเร็ว
เพียงเสี้ยววินาทีที่สายตาเขาสบมองใบหน้าของเด็กสาวที่เขาช่วยเหลือ สายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวังที่เอ่อล้นภายในดวงตาคู่นั้นของเด็กสาว หากแต่ความตกใจก็มีมากเช่นกัน พร้อมกับมือที่ยื่นออกมาราวกับว่าจะจับช่วยเขาไว้ แต่ว่า
คงไม่ทันแล้วแหละ
“โครม”
รถได้ชนชายหนุ่มเข้าอย่างรุนแรง ทำให้ร่างกายของเจมส์ไถลลงไปตามพื้นถนน ปรากฎรอยเลือดเป็นทางยาวแดงฉานที่กระจายจากตัวเจมส์
สิ่งเดียวที่ปรากฏในหัวของเจมส์ตอนนี้ คือความเจ็บปวดที่แล่นขึ้นตามร่างกาย สติของเขาตอนนี้พร่าเลือนเต็มที สายตาไม่สามารถที่จะโฟกัสสิ่งใดได้ต่อไปอีก ทั้งเสียงที่อื้ออึ่งเกินที่จะฟังไหว หากแต่สิ่งที่รับรู้ได้อย่างเดียวคือความวุ่นวายที่เกิดขึ้นต่อหน้า
ยังไงซะ ตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นห่วงแล้ว ทั้งครอบครัว เพื่อนฝูงและทรัพย์สินเงินทอง แต่รู้สึกเสียดายจังที่ยังไม่ได้บอกลา ชีวิตก็เป็นแบบนี้ละนะ ไม่รู้เวลาจะหมดเมื่อไหร่มีแต่ต้องใช้ชีวิตให้คุ้มค่า มันก็คงช่วยไม่ได้...
คิดได้เพียงแค่นั้น สติของชายหนุ่มก็พร่าเลือนหายไปพร้อมกับร่างกายที่อาบย้อมกลายเป็นสีแดง หากแต่เสียงที่ชายหนุ่มได้ยินก่อนหมดสตินั้นมีเพียงแต่เสียงกรีดร้องที่วุ่นวายและเสียงที่พยายามยื้อชีวิตของเขาไว้...
4 ความคิดเห็น
การเขียนบรรยายอ่านรู้เรื่องไม่ยากเกินเข้าใจ สำนวนที่ใช้ การเรียงลำดับเหตุการณ์ ถือว่าทำได้ดีมาก แนะนำให้อ่านทวนหลายรอบ เผื่อจะนึกคำที่ดีกว่าได้ ถือเป็นการขัดเกลาสำนวนไปในตัว
พระเอกย้อนเวลาหรือเปล่า
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เรื่องที่เราแต่งเป็นนิยายแฟนตาซี แต่ไม่ใช่ย้อนเวลาค่ะ ขอบคุณมากๆที่แนะนำนะ
ผมก็เป็นมือใหม่เหมือนกันครับ ด้วยรวมแล้วผมว่านิยายเรื่องนี้ใช้ได้เลยครับ จะมีบางจุดที่ผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจอยู่บ้าง แล้วก็พวกฟ้อนเอียง ส่วนตัวผมว่ามันอ่านค่อนข้างยาก แนะนำใช้เป็นฟ้อนตัวหนาดีกว่าครับตอนขึ้นเรื่อง
ส่วนอันนี้เป็นนิยายของผมเองครับ เป็นแนวสยองขวัญ
ฝากติดตามผลงานและวิจารณ์ได้ใน comment นะครับ
Missing in the dark หายไปในความมืด
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2215567
โอเคค่ะ จะพยายามปรับปรุงให้ดีที่สุดเลยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ
นิยายเรื่อง หายไปในความมืด
การบรรยายฉากที่แสดงถึงความตื่นเต้น ยังทำได้ไม่ดีพอ ลำดับเหตุการณ์ทำได้ดี แต่ยังเขียนออกมาไม่สุด ต้องทำการบ้านมากขึ้น ซีนอารมณ์ตื่นเต้น และหวาดกลัวต้องขยี้อารมณ์อีกหน่อย
การเลือกใช้คำยังไม่ลื่นไหล เนื่องจากเป็นแนวระทึกขวัญ ต้องใช้คำให้เหมาะกับสถานการณ์ จะทำให้นิยายเข้าถึงอารมณ์มากขึ้น
บทพูดของตัวละครไม่สมกับวัย ต้องสมบทบาทตัวเราเป็นตัวละครนั้น ไปด้วย อย่าเป็นตัวของตัวเองมากไป
เช่น อ๊ะ . . ประตูไม่ได้ล็อค นี่พ่อของฉันแก่แล้วสะเพร่า จนหลงลืมล็อคประตู แบบนี้เดี๋ยวขโมยก็ขึ้นบ้านกันพอดี
__________
" ตึก ตึก ตึ่กก ตึก "
เสียงฝีเท้าของบางสิ่ง กำลังเดินเข้าใกล้ชายหนุ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
กล้า ตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก ในหัวของเขาพยายามคิดหาวิธีที่จะออกไปจากที่นี่ให้ได้
" ปังงงงงงงง! "
เจ้าสิ่งนั้นพังประตูเข้าจนเกิดเสียงดังสนั่น
ชายแปลกหน้าในชุดสมัยโบราณ กำลังยืนอยู่หน้าประตู กล้ามองไปที่ใบหน้าก็พบว่า ดวงตาทั้งสองของเขามีสีแดงเหมือนกับลูกไฟ และปากที่เละไปด้วยเลือดยิ่งทำให้น่ากลัวมากขึ้นไปอีก
........
สติของกล้าเริ่มไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ชายคลุ้งคลั่งคนนั้น กำลังพยายามควานหาพวกเขาอยู่ เขากลัวมากจนคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป
กล้า พยายามควบคุมสติ แต่เสียงฝีเท้าก็ดังใกล้เข้ามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาไม่สามารถรวบรวมสมาธิได้ ความหวาดกลัวเริ่มครอบงำจิิตใจ เขากำลังกลัวมาก
" ตึ่กก ตั๊กก ๆ "
....
นายคนนั้น เปลี่ยนไปใชัคำว่า ชายคนนั้น หรือชายคนแปลกหน้า หรือชายลึกลับ จะทำให้ดูลึกลับน่ากลัวมากขึ้น
ถือว่าเป็นตัวอย่าง ต้องฝึกเขียนบรรยายให้เข้าถึงอารมณ์ รับรองได้ว่านิยายของคุณจะดูน่าสนใจมากขึ้น
การบรรยายค่อนข้างทำได้ดีเลยค่ะ
สำหรับเราแล้ว ไม่มีอะไรให้ติเลยค่ะ
ภาพรวมถือว่าทำได้ค่อนข้างดีเลยค่ะ
ติดอย่าเดียวเลย ไม่รู้ว่าเป็นแค่เราคนเดียวไหม
แต่รู้สึกว่าตัวอักษรค่อนข้างอ่านยาก ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ฟ้อนต์หรือขนาดตัวหนังสือมันเล็กเกินไป
คือฟ้อนต์อันนี้เราไม่ได้ทำค่ะ พอก็อปวางใส่มันก็เป็นแบบนี้เลย
ยังไงก็ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ
ในฐานะมือใหม่เหมือนกัน
ผมขอบอกว่าคุณบรรยายดีกว่าผมมากเลย
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?