Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

รีวิวเซรั่มหน้าใส ลดสิว 711 ตัวไหนเด็ดดวง ฉบับคนเก๋ร์ Quarantine

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

สวัสดีจ้าพส.ทุกท่านนนน กลับมาอีกแล้วกับคนดีคนเดิม เพิ่มเติมคือกักตัวอยู่บ้านกันวนไปอีกแล้วนะครับโผม เพื่อนที่เวิร์คฟอร์มโฮมก็ดีใจด้วย ท่านไหนที่ต้องออกไปเผชิญนังโควิดตัวดีก็ขอให้อยู่รอดปลอดภัยทุกท่านทั่วกันสาธุ ไม่ใช่ซิ!!

ในส่วนของวันนี้นั้น เราที่ต้องกักตัว ทำงานอยู่บ้านวนๆไป ก็อยากจะถือโอกาสนี้ ในการที่จะได้ดูแลตัวเอง เพราะเราเครียดกับสถานการณ์ของนอกมากแล้วอ่ะเนอะ เพราะฉะนั้น ก็เลยถือโอกาสนี้แหละ ได้ทดลองใช้สกินแคร์ต่างๆเพื่อผิวที่เรารักนั้นจะได้ชีพคืนจากการใช้อย่างหนักหน่วงในช่วงก่อนเคอร์ฟิวที่ผ่านมานี้ เพราะก็ต้องเจอทั้งความเครียด มลภาวะ ฝุ่นควัน ตั่งๆที่พร้อมจะเข้ามากระทำชำเราว์ผิวเราอย่างมิปราณี ซึ่งอะไรคะ สิวผด สิวแพ้ต่างๆจากการใส่หน้ากากร่วมด้วยก็ได้ถามหากันเป็นที่เรียบร้อย และหนทางที่ง่ายที่สุดที่ฉันจะหาซื้อ หาทำโดยง่ายและรวดเร็วที่สุด ก็คงไม่พ้นครีมซองที่711 หน้าปากซอยบ้านนี่แหละจ้า เอาเป็นว่าเดี๋ยวเรามาดูกันว่า เราเอาสกินแคร์แบบไหนมาแนะนำเพื่อนๆบ้างจ้าาา

 

เอาล่ะ ในส่วนของครีมบำรุงที่เราเพ่งเล็งเป็นพิเศษเพราะต้องการเห็นผลไว เห็นผลจริง เราจึงคิดละว่า ฉันจะหาเซรั่มหน้าใส พร้อมลดสิว กลับไปทำงานได้อีกรอบ เพื่อนๆต้องทักว่าผิวหน้าฉันเริศ!! วันนี้เราก็เลยจะมีรีวิวเซรั่มหน้าใส ที่ตะเป็นเซรั่มลดสิวได้ด้วย และที่สำคัญผิวต้องกระจ่างใสด้วย




มาดูที่ตัวแรกกันเลยจ้า นั่นก็คือ BK Acne Serum Brighrening Anti-Pollution น้องเซรั่มลดสิว หน้าใสตัวแรกจากแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องสิวอย่าง BK Acne นั่นเองค้าบผม น้องคนนี้ชูมาด้วย Niacinamide หรือ Vitamin B3 นั่นเองเพราะอยู่ลำดับที่ 2 ต่อจากน้ำเลยทีเดียว ซึ่งเป็นที่รู้กันสำหรับคนเป็นสิวเนอะ ว่าถ้าสกินแคร์ตัวไหนที่ใส่สิ่งนี้มาก็คือแฮปปี้มากสำหรับคนเป็นสิวอ่ะเธอ เพราะว่าเค้าช่วยลดการอักเสบของผิว ลดการสร้างเม็ดสีแน่นอนว่าใช้ระยะยาวอย่างต่อเนื่อง คงหวังผลได้เรื่องความกระจ่างใสของผิว แล้วก็ยังมี Ceraera ที่มีโครงสร้างเหมือน Ceramide ที่มาช่วยเสริม เกราะป้องกันผิว ซึ่งเค้าก็เคลมมานะว่าถ้าใช้ต่อเนื่องอย่างน้อย 4 สัปดาห์ เห็นผลได้เลยว่าผิวแข็งแรงขึ้น


 

จากที่เราได้ลองใช้แล้วก็แฮปปี้มากนะ เค้าไม่ใส่น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือพาราเบนมาเลย แต่มีกลิ่นหอมอ่อนๆอโรม่าดี ที่สำคัญตัวเนื้อที่ออกสีน้ำตาลใสๆนั้น บางเบาดีมาก ทำแล้วซึมไปเลย แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าผิวชุ่มชื้นดี เหมาะมากกับไทยแลนด์บ้านเราที่ Summer every days นะจ้ะ ส่วนเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้นั้นบอกเลยว่าค่อนข้างพอใจมากเลย เพราะว่าหลังจากที่ลองใช้ต่อเนื่องมา 1 อาทิตย์แล้วเนี่ย สิวที่เป็นอยู่ก็หายไป แล้วสิวใหม่ก็ไม่ได้ขึ้นเพิ่ม พวกรอยแดง ผิวที่มันดูอักเสบมันก็เห็นได้ชัดเลยว่า หายไปเลยนะ รูขุมขนกระชับขึ้นจริง ระหว่างวันที่เค้าบอกว่าคุมมันได้ ก็สามารถทำได้จริงๆไม่ขายฝันแต่อย่างใด เพราะเราลองแล้วว่าถ้าไม่ทำแป้งดูสักวัน ผิวจะมันขึ้นไหม ก็ไม่ได้มันขึ้นแต่อย่างใด เลยคาดว่าน้องตัวนี้นี่แหละที่สามารถช่วยได้ และที่พิเศษกว่าเซรั่มตัวอื่นที่เราไม่ค่อยเห็นในเซรั่มใน711คือ เค้าสามารถปกป้องผิวจาก PM2.5ได้ด้วยละเหวย โอ้ย ตายซองแค่นี้มันทำได้หลายอย่างจัง เพื่อนๆคนไหนที่อยากลองก็แค่ซองละ 49 บาท พิกัด 711 เลยจ้า หาไม่ยากนะ เราเข้า711สาขาไหนก็เจอตลอดเลย อยากให้ลองกันดูเพราะตัวนี้เราชอบจนไปซื้อแบบหลอด เดี๋ยวสรุปตอนท้ายให้ฟังอีกทีว่าเพราะอะไรเด้อจ้า




ถัดมาที่ตัวที่ 2 กันเลยแบบรวดเร็ว นั่นก็คือน้องเซรั่มหน้าใส Collagen Serum+Vit C จาก Royal Beauty นั่นเองค้าบ เซรั่มหน้าใสตัวนี้ชูส่วนผสมเด่นๆมาเลยด้วย Collagen และ Vitamin C ซึ่งก็แน่นอนครับว่า Collagen ที่เรารู้กันคือเค้าจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวเราเนี่ยมีความยืดหยุ่น ซ่อมแซมพวกริ้วรอยต่างๆให้มันดูตื้นขึ้น ผิวดูอิ่มฟูมากขึ้นนั้นเอง ถ้าถามว่าทำไมจะต้องทาเซรั่มหน้าใสที่ผสมคอลลาเจนมาใช้ด้วย เพราะคอลลาเจนเป็นสิ่งที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้ไงจ้ะเธอ และผิวเราที่ดูเสื่อมโทรมเนี่ยก็เพราะว่าแค่เพียงเธอพักผ่อนน้อย ไม่ค่อยเป็นเวลา แค่นี้ก็สามารถสูญเสียอิลาสตินในชั้นผิวได้แล้วนั่นเอง ซึ่งคอลลาเจนนี่แหละที่จะมาช่วยทำให้ริ้ว ความเหี่ยวต่างๆมันเติมเต็มให้ดูโอเคขึ้น ถึงแม้จะไม่ตึงทันทีเท่าโบท็อก แต่การที่เสริมคอลลาเจนให้ผิวเป็นผลดีกับผิวเราในระยะยาวแน่นอน และอีกส่วนผสมนึงที่ใส่มาในเซรั่มหน้าใสตัวนี้ นั่นก็คือ Vit-C ที่จะมาช่วยปรับสภาพผิว ทำให้จุดด่างดำนั้นดูจางลงได้





มาพูดถึงความรู้สึกหลังการใช้งานเซรั่มหน้าใสตัวนี้กันดีกว่า ตัวเนื้อเค้าจะเป็นเจลใสๆเลย แต่จะมีเม็ดบีทสีส้มๆซึ่งเราว่าน่าจะเป็นตัว Vit-C พอทาแล้วก็แตกตัว และซึมเข้าผิวไปพร้อมกัน แต่ตัวเนื้อเจลเค้าเป็นเจลที่ค่อนข้างมีน้ำหนักนิดนึง ไม่ได้บางเบาขนาดที่วน 2 รอบซึม แต่จะค่อนต้องเกลี่ยเค้าหน่อย แต่พอน้องเซรั่มหน้าใสตัวนี้ ซึมแล้วก็จะแห้งหายไป กลิ่นหลังจากที่ดูส่วนผสมก็เห็นว่าใส่น้ำหอมมานะ แต่ว่าฉันไม่ได้กลิ่นเลยอ่ะ555 น่าจะใส่มาน้อยมาก เพราะกลิ่นที่ได้กลิ่นจริงๆตอนทาเป็นกลิ่นเซรั่มหน้าใสที่มีวิตตามินซีเป็นส่วนผสมเลยเธอ กลิ่นวิตตาซีมันชัดเจนมาก ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบกลิ่นนางเท่าไหร่นะ หลังจากที่ลองใช้มา 1 อาทิตย์ เราก็ไม่ได้รู้สึกว่าสิวขึ้นเพิ่มนะ แต่ความกระจ่างใสก็ไม่ได้เห็นชัดเจนขนาดนั้น แต่แอบสังเกตพวกรอยดำที่เกิดจากสิวที่เคยเป็นนั้นแอบจางลง ผิวก็ดูอิ่มๆดี ถือว่าโอเคเลยนะสำหรับเซรั่มหน้าใสตัวนี้ ก็ถือว่าสิ่งที่เค้าเคลมมาถือว่าก็ทำได้โอเคจ้า อยากลองก็ไปเลยจ้า พิกัด 711  ราคาเบาๆ 39 บาทจ้าาา



มาเคิ้บ มาต่อที่ตัวที่ 3 กันนั้นก็คือ น้องเซรั่มหน้าใส Hyaluron Vit C Essence Serum จาก MoonA House นั่นเองเคิ้บบบบ หน้าตาน้องเซรั่มหน้าใสมุนอาเค้าก็ดูคุ้นเพราะเห็นขวดผลิตภัณฑ์ฝาม่วงชื่อดังที่คนชอบไฮยา ขนพรีจากญี่ปุ่นกันอย่างมหาศาลนั่นเอง ซึ่งก็แน่นอนว่าน้องเซรั่มหน้าใสของมุนอาตัวนี้เค้าต้องการที่จะชูเรื่อง HYA ที่ใส่มา และอีกหนึ่งสิ่งที่ชูมาเป็นส่วนผสมหลักอีกอย่างก็คือ Vit C นั่นเองซึ่งเป็นวิตามินซีที่ได้จากผลคามู คามู ซึ่งมีความเข้มข้นกว่ามะนาว 50 เท่า  โดยเซรั่มหน้าใสมุนอาเค้าเคลมว่าเป็นเซรั่มที่ผสาน 2 สิ้งเข้าด้วยกันคือ HYALURON และ Vit C จากประเทศเกาหลี โดยเมื่อ 2 สิ่งนี้ผสานเข้าหากันแล้วนั้น ก็จะเป็นเป็นเซรั่มหน้าใสที่ช่วยให้ความชุ่มชิ้นแก่ผิว ผิวจะดูอิ่มน้ำ  ปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใส รูขุมขนกระชับขึ้น แถมเคลมมาด้วยว่าใช้แล้วหน้าไม่มันเด้อ ยังไงเดี๋ยวมาดูกัน



มาดูกันครับว่าความรู้สึกหลังจากใช้เซรั่มหน้าใสมุนอามาแล้ว 1 อาทิตย์ของเราเป็นไงบ้าง เนื้อเซรั่มหน้าใสมุนอาจะเป็นสีขาวขุ่นแต่ก็ใสๆ  เนื้อค่อนข้างข้มข้นเลยนะ มีความรู้สึกว่ามีน้ำหนักตอนเกลี่ย แต่พอเกลี่ยแล้วก็ซึมหายไปเลย ไม่ได้ทิ้งความมันอะไรไว้ แต่ที่เรารู้สึกเลยว่าโดดเด่นมากก็คือกลิ่น กลิ่นน้ำหอมของเซรั่มหน้าใสของมุนอาตัวนี้ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว ถ้าใครที่ไม่ชอบกลิ่นเราว่าอาจจะต้องข้ามตัวนี้ไปนะ แต่โดยส่วนตัวไม่ได้แพ้น้ำหอมที่เค้าใส่มาก็พอใช้ได้ แต่ก็พยายามจะเลี่ยงให้ไม่มีก็จะดีกว่า ถ้ารู้ว่าเราผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว เรื่องการเติมความชุ่มชื้นเนี่ยก็ต้องให้เค้า เพราะเค้าใสไฮยาลูลอนมาเป็นลำดับต้นๆก็คงเข้มข้นน่าดูเลยล่ะ ส่วนเรื่องความกระจ่างใสเรามองว่าน่าจะต้องลองใช้อย่างต่อเนื่องดูนะ น่าจะพอช่วยรื่องการลดรอยดำต่างๆที่เกิดจากสิวได้ แต่ก็พูดได้ไม่เต็มปากนะว่าเค้าเป็นเซรั่มลดสิว เพราะว่าตอนใช้เราแอบมีสิวผดขึ้น แต่เค้าก็มีส่วนผสมที่ช่วยดูแลเรื่องของสิวอย่าง Niacinamide( Vitamin B3 ) มาด้วยนะ แอบเสียใจนิดหน่อยว่าช่วงที่ใช้สิวผดขึ้นเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากลองใช้ก็พิกัด 711 เลยนะ ราคาซองละ 39 บาท


 

และมาถึงตัวสุดท้ายในส่วนของการรีวิวในวันนี้ นั่นก็คือเซรั่มหน้าใสจาก Best Korea Tea Tree Perfect Anti-Acne Serum นั่นเองจ้า น้องเซรั่มหน้าใสของเบสโคเรียเนี่ยเค้าชูสารสกัดเด่นๆมาเลย 2 ตัวที่จะมาจัดการปัญหาสิวตัวดี นั่นก็คือ ใบบัวบก(Centella Asiatica) และ ทีทรีออยล์(Tea Tree oil) นั่นเองจ้า โดยเค้าเคลมแรงเคลมเร็ว ว่าสิวเคลียร์ทันใจ รอยสิวจางลง และผิวดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งเราว่าสารสกัดจากส่วนผสมเด่นทั้ง 2 ตัวของเซรั่มหน้าใสตัวนี้เหมือนจะเอนเอียงไปทางการรักษาสิวมากกว่า แต่ที่เรารู้สึกว่ามันดูไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่สำหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่ายนั้นก็คือ เค้าใส่ทั้งแอลกอฮอล์ และ น้ำหอม ซึ่งตรงนี้ก็เป็นข้อพึงระวังอยู่แล้วของคนที่เป็นสิวผิวแพ้ง่ายอ่ะนะ





เอาละมาดูกันดีกว่าว่าหลังจากใช้มา 1 อาทิตย์เหมือนกับเซรั่มหน้าใสตัวอื่นๆเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งก็ขอพูดถึงเรื่องนี้ก่อนเป็นเรื่องที่เราจึ้งมากที่สุดก็คือเรื่องกลิ่น เธอเอ้ยยย!! กลิ่นแรงมาก แรงในที่นี้ไม่ใช่หอมแรง ติดเป็นกลิ่นที่เหมือนเธอเอาเดตตอลถูพื้นมาถูหน้าอยู่ กลิ่นกระแทกจมูกสุดๆ ครั้งแรกที่ฉันลองใช้ฉันก็ตกใจสุด5555 ตัวเนื้อเป็นสีขาวขุ่น ไม่ได้เป็นเนื้อเจลสบายผิวเหมือนเซรั่มหน้าใส 3 ตัวที่ผ่านมา เท็กเจอร์ค่อนข้างลีนไปทางเนื้อครีมมากกว่านะ แต่พอเกลี่ยแปปนึงก็ซึมไป ไม่ได้ทิ้งความมันอะไรไว้บนผิว แต่ก็จะรู้สึกได้แหละว่าทาครีม ไม่ได้ซึมฉึบหายวาบไปขนาดนั้น เราว่าเซรั่มหน้าใสตัวนี้เหมาะกับทากลางคืนมากกว่า เพราะหากกลางวันเราว่ามันแอบหนักไปนิด แต่เรื่องการเป็นเซรั่มสิวของเค้าเนี่ยก็ค่อนข้างทำได้ดี เพราะช่วงที่ทดลองใช้ก็ไม่ได้มีสิวขึ้นเพิ่มมากมาย สิวที่เป็นอยู่ก็ค่อยๆหายไป แต่เอาจริงๆโดยความรู้สึกส่วนตัวนะ เวลาที่ทาน้องเซรั่มหน้าใสของเบสโคเรียตัวนี้แล้วฉันไม่ค่อยสบายใจเลยอ่ะ เพราะรู้สึกเหมือนกำลังเอาเดทตอลถูหน้าอยู่จริงๆ555 แต่ก็เพื่อการรีวิวให้เพื่อนๆได้รับชม ก็ต้องทำให้ดีที่สุด!! เอาเป็นว่าตัวนี้ใครอยากลองก็ซื้อได้ที่ 711 เลยจ้า ซองละ 49 บาทจ้า

และก็มาถึงช่วงท้ายที่เราจะมาสรุปกันแล้วจ้า ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ช่วงงงงงงง ถูกใจ ขอให้ดาวววว!!!!”


สรุปเลยก็คือเซรั่มหน้าใส ที่เราชอบและตอบโจทย์เราที่สุด ขอยกให้ BK Acne Serum Brighrening Anti-Pollution ไปเลยจ้า เหตุผลง่ายๆเพราะน้องเซรั่มหน้าใสของBK ตอบโจทย์ทั้งเรื่องหน้าใส และเป็นเซรั่มลดสิวที่ถูกกับผิวหน้าเราสุดๆ ที่สำคัญหาซื้อง่าย ไป711 ไหนก็หาเจอตลอด น้อยมากที่จะไม่เจอ เวลาเดินทางไปไหนถ้าลืมพกเซรั่มไปก็เข้า711 หยิบน้องคนนี้มาตลอดเลยอ่ะ คือฉันชอบขนาดที่ว่าสั่งแบบหลอดจาก Konvy มาใช้แล้ว แต่ล่าสุดวัตสันลดราคาเหลือหลอดละ 299 ฉันก็จัดมาตุนสักสองสามหลอด ชอบมากเพราะว่าใช้แล้วผิวแข็งแรงขึ้นจริง หลังจากใช้ไปได้ครบเดือนนึง จากผิวที่มันแพ้ง่าย เอะอะเดี๋ยวเป็นรอยแดง ก็กลายเป็นว่าเป็นยากขึ้น ใช้ครีมอะไรก็ไม่ค่อยแพ้ พักผ่อนน้อยจริง แต่สิวก็ไม่มาเลย ที่สำคัญผิวดูเด้ง รูขุมขนฟิตมาก  ไม่เหมือนคนที่ทำงานเจียนตายพักผ่อนน้อยแต่อย่างใดเลยจ้า ที่ชนะไปวันนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะเซรั่ม 3 ตัวอื่นที่เราได้ลอง ขาดเรื่องอะไรไป น้อง เซรั่มหน้าใสของBK ก็มีแทนให้เลย   ในส่วนของวันนี้ก็ขอป้ายไว้เท่านี้ พส.ทุกท่านก็ลองพิจารณาดูกันเด้อ ว่าจะใช้จะลองตัวไหนกันดี วันนี้นั้นกระผมก็ต้องขอตัวลาไปก่อน สวัสดีคร้าบบบบ

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เนื้อหาซ้ำ เคยโพสท์ไปแล้ว เพื่อความเป็นระเบียบกรุณาโพสท์กระทู้เพียงครั้งเดียว

ความคิดเห็นนี้ถูกลบ

เนื้อหาซ้ำ เคยโพสท์ไปแล้ว เพื่อความเป็นระเบียบกรุณาโพสท์กระทู้เพียงครั้งเดียว