Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

มาโชว์สกิลพรรณากันหน่อยครับ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ตามหัวข้อเลยครับ ผมทำกระทู้เกี่ยวกับโชว์สกิลนักเขียนก็หลายปีแล้ว วันนี้เลยอยากลองเก็บข้อมูลว่า  พวกเราพัฒนากันไปถึงไหนแล้ว(ถึงขนาดผ่านมาหลายปีผมก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย ฮ่า   ๆ ๆ ๆ )
และข้างล่างนี้ผมก็ใช้เวลาไปหลายสิบนาทีเลยกว่าจะได้แบบนี้ (ลองไปอ่านเล่น ๆ ดูน้าาา)

นภาลัยครามโอบล้อมเมฆารอบ ผุดสุริยันเหนือลิบลับขอบเวหา สาดเทแสงแวววาวประกายภา ดุจพระองค์สุริยาประทับกาย , หยางจื้อโหยวทอดนัยน์ตานิลกาฬ[1]เน้นปลายขอบฟ้า เวหาศปลายทางดุจพยัคฆ์ชะโลมโลหิตคืบคลานครอบครองปกคลุมคลุ้งทั่วโลกา 

ผืนดินกินชะอุ่มอุ้มชุ่มชื่นหยางถดถอย พฤกษาสง่าระพีบัดเหี่ยวเฉา อากร[2]นาคราชไกรสรหมู่สัตว์ตะหนักหนี หยางจื้อโหยวสะบัดอาภรณ์พร้อมเยื้องย่างก้าวกายอย่างระทียืนหยัด ภายใต้พระเนตรเปิดม่านคะนึงสิ้นหวังไร้นิมิตพลางชักดาบลีลาประหนึ่งอสูรฆาต

“กาลนี้ข้านำชัยหรือธงพลิ้วสูญ[3] ข้าก็ขอน้อมรับไว้…”

ติ้ง! [ปลดบริราช[4]ปลายทางค้างคร่ำวอดจากระบบ]

[เริ่มต้น…ภารกิจทำลายล้างโลก]

.

.

.

จริง ๆ ผมกะจะเขียนนิยายกำลังภายในอะนะ แต่เมื่อคิดว่าถ้าจะจริงจังแบบนี้มันสมองแตกแน่ ๆ แตกแบบ เฮือกก!!! ดิ้นไปนอนกองกำลังพื้นทีเดียว แล้วทุกคนละครับ ถ้าพรรณาแบบ แบบว่าสุด ๆ ของความเจ๋งของตัวเองไปเลยมันจะเป็นแบบไหนกันครับ (ผมอยากอ่านจริง ๆ นะ)

แสดงความคิดเห็น

>

2 ความคิดเห็น

faery 3 ต.ค. 64 เวลา 03:33 น. 1

เสียงเร่งเร้ากระตุ้นเคล้าเสียงกีบเท้าม้าดังก้อง ท่ามกลางฝุ่นทรายตลบฟุ้งตามหลัง ตลอดเส้นทางที่ทัพม้าเคลื่อนผ่าน

บ้านเรืือนสองข้างทางปิดเงียบล้าง ไร้ผู้คนแม้แต่สัญญาณการดำรงชีพก็ไม่เหลือให้เห็น

ผู้ขี้ม้านำ คาดผ้าสีดำปิดหน้า เหลือเพียงดวงตาดำวาวคู่งาม แฝงความกังวลจดจ้องไปเบื้องหน้านิ่งสงบแม้ในมือยังคงผ่อนสายบังเ-ยน แส้ในมือยังคงกระตุ้นม้าไม่หยุด

1
Kantachat2546 3 ต.ค. 64 เวลา 09:52 น. 2

พระอาทิตย์คล้อยต่ำลงจุมพิตขอบฟ้า สะท้อนแสงสีชาดบนผืนน้ำสีเงินยวง สันคลื่นผุดขึ้นลงราวเริงระบำ สายลมพัดหวีดหวิวกรีดผิวบาง มันโหยหวนอยู่ข้างใบหูของหล่อน นกนางนวลโผกลับเข้าฝั่ง สายลมทำให้สมดุลปีกของพวกมันเสีย ขนปลายปีกชี้ผิดทาง ปิ่มจะร่วงลงสู่ท้องธารไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง


คลื่นเคลื่อนเข้าสัมผัสชายฝั่งไม่รู้กี่ลูกต่อกี่ลูก พัดพาเอาเม็ดทรายละเอียดกลบฝังเท้าหล่อนไว้ในผืนทราย หล่อนพลันสงสัย คลื่นอีกกี่ลูก ทรายอีกกี่เม็ด จึงจะกลบฝังคนบาปอย่างหล่อนไว้ที่ริมหาดแห่งนี้ได้


แล้วหล่อนก็ส่ายหน้าแก่ความคิดนั้น


สถานที่แห่งนี้งดงามเกินกว่าจะเป็นหลุมฝังศพของหล่อน สถานที่เดียวที่หล่อนจะฝังร่างได้ คือใต้กองปฏิกูลมูตรเหม็น ใต้ฝ่าเท้าของผู้คนที่เดินผ่านไปมา เหยียบย่ำร่างของหล่อนให้สมแก่บาปที่หล่อนสร้างไว้


ชายหาดแห่งนี้เป็นอภิสิทธิ์ อภิสิทธิ์ของคนเหล่านั้น อภิสิทธิ์ของสุจริตชนที่ชีวิตต้องแดดิ้นลงด้วยน้ำมือของหล่อน


หล่อนเห็นร่างหนึ่งลอยไต่สันคลื่นอยู่ใกล้ คลื่นลูกใหญ่พัดมา กลืนร่างนั้นลงสู่พื้นสุธาธาร


หล่อนถอนหายใจแล้วหันหลังออกเดิน ทิ้งทิวทัศน์อันงดงามไว้เบื้องหลัง นี่เป็นค่าชดเชยเดียวที่หล่อนจะให้พวกเขาได้ การได้ทอดร่างอยู่ในสุสานอันงดงามที่สุด คงเป็นความสุขสูงสุดแก่คนตาย....

0