Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ต้องเขียนดี และเก่งระดับไหน คนถึงจะกล้าอ่านนิยายเรา?

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

        ใช่ครับ! ตามหัวข้อกระทู้เลย เราต้องเขียนนิยายให้ดีระดับไหน หรือ ความเก่งของนักเขียนมีผลมากน้อยแค่ไหนในการเลือกอ่านนิยาย เช่น นักเขียนชื่อดังเปิดตัวเรื่องไหนคนก็ตามอ่านตลอด นักอ่านก็ตามอ่านเฉพาะนักเขียนที่มีผลงานมามากแล้วในระดับ 


       การเป็นนักเขียนหน้าใหม่ต้องใช้เวลานานในการสร้างความนิยมให้ตัวเอง จนบางครั้งก็เกิดท้อกลางทาง  นักอ่านบางท่านก็เลือกที่จะไม่อ่านนิยายของนักเขียนหน้าใหม่เลยหรือแค่กดเข้าไปดูผ่านๆ

       ผมอยากรู้ว่านักเขียนหน้าใหม่หรือหน้าเก่ามีแนวทางยังไงในการทำให้นิยายตัวเองเป็นที่รู้จัก (ยกเว้นการแปะลิ้งค์ตามกลุ่มต่างๆ) หรือ ทำยังไงให้นักอ่านลองเปิดใจอ่านนิยายของเราครับ

แสดงความคิดเห็น

>

18 ความคิดเห็น

เลดี้ยู 8 ต.ค. 64 เวลา 17:27 น. 1

ก็เขียนให้สนุก ต่อให้เป็นนักเขียนหน้าใหม่ ตั้งเรื่องแรกเลย ถ้าสนุกก็มีคนอ่านเยอะ


ความประทับใจแรก ( ภาพปก/ชื่อเรื่อง/แท็ก/คำโปรย/ 1-3บางทีอาจ5ตอนแรก มีแนวทางการดำเนินเรื่องที่ชัดเจนและน่าสนใจ ) เป็นตัวตัดสินเลยว่าคนจะอ่านต่อไหม


(บางทีเวลาเราไปซื้ิอหนังสือ ภาพปกแย่ หน้าเบี้ยวๆ หน้าผากกว้างตาตี่ ดูไม่สมมาตรเราก็ไม่หยิบนะ ถึงจะพลาดเรื่องดีๆไปเราก็ไม่สนใจหรอก นิยายดีๆมีให้อ่านเยอะไป)


อย่างคนจะติดตามอ่านนิยายของคนๆนั้นเพียงแค่เปิดเรื่องก็มีคนอ่านเยอะแล้ว นั่นก็เพราะ

คนคนเดียวกัน จะมีการบรรยายที่ไม่ต่างจากเดิมมาก ทั้งภาษาที่ใช้และพลอตที่ชัดเจน ลักษณะการเขียนก็สนุก การใช้คำ และการดำเนินเรื่องแต่ละฉาก


แต่ถ้าหากเป็นในเว็บเด็กดี(เอาแค่เว็บนี้ก่อนนะ)

นิยายเรื่องก่อนๆที่เราเขียนจะเป็นตัววัดว่า

มีความรับผิดชอบต่องานไหม (คือเขียนจบไหมนั่นแหละ)

ถ้าเป็นสายดองมันก็เป็นตัวบั่นยอดลงไปอีก เนื่องจากดูแล้วว่า ยังไงนิยายเรื่องนี้มีไม่จบ


และส่วนใหญ่คนก็มักจะกลัวว่าจะเขียนนิยายไม่สนุก มันก็เลยทำให้ดองเรื่อยไป

1
PP-nana 8 ต.ค. 64 เวลา 17:34 น. 2

เราเพิ่งเข้ามาทำจริงจังได้ประมาณ 3-4 เดือนเอง ถือว่าหน้าใหม่มาก จนตอนนี้ก็ยังไม่ดังอย่างคนอื่น แต่เราไม่เคยมองเชิงเปรียบเทียบกับคนอื่นเลยนะ มองแค่ว่าคนที่เขาดังๆ มียอดวิวหลักแสนหลักล้านก็ต้องผ่านที่เรากำลังเดินด้วยกันทุกคน สักวันเราต้องไปให้ถึงจุดที่คนดังๆเขายืนให้ได้ ไม่จำเป็นต้องไปอิจฉา ไปเปรียบเทียบกับเขาให้เป็นการลดคุณค่าตัวเองเลย เอาเวลาคิดแบบนั้นมาพัฒนางานของตัวเองดีกว่า ตอนนี้เลยต้องมีความพยายาม ต้องศึกษาหาข้อมูลเติมคลังคำศัพท์ให้เต็มอยู่ตลอดเวลา ต้องคอยพัฒนาฝีมือ

เราไม่เคยกลัวคนไม่อ่านงานของเราเลยนะ เพราะเราคิดว่าตั้งแต่คิดที่จะเปิดเรื่องนั่นคือเปิดความรับผิดชอบ ที่ไม่ว่าจะมีคนชอบไม่ชอบ มีคนอ่านน้อยหรือไม่มีคนอ่านเลยยังไงก็ต้องพาเรื่องนี้ไปให้จบ เพราะนิยายเรื่องหนึ่งจะมีเราเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้มันสมบูรณ์ได้ เพราะงั้นเรื่องเล็กน้อยพวกนั้นอย่าไปสนใจมาก สนใจแค่คำติชมว่าสำนวนแบบไหน ต้องพัฒนาตรงไหนจะเป็นประโยชน์กว่า อย่าลืมว่าต่อให้มีคนอ่านเพียงคนเดียว คนติดตามเพียงคนเดียวนั่นก็แปลว่ายังมีคนที่ต้องการชมผลงานของเราอยู่

ถามว่าท้อมั้ย เราถามกลับดีกว่า เคยทั้งรักทั้งเกลียดนิยายที่ตัวเองเขียนมั้ย วันหนึ่ง ๆ อยากจะเขวี้ยงมันทิ้งวันละเป็น 10 รอบ เราเชื่อว่าหลายคนก็เป็น ท้อ เหนื่อย คอมเม้นไม่ดี แต่ถ้าเราผ่านช่วงเวลาแบบนั้นไปได้ จุดหมายปลายทางก็มักจะสวยงามเสมอ

สำหรับเราไม่มีวันไหนที่ไม่ท้อ ไม่มีวันไหนที่ไม่เหนื่อย ยิ่งไม่ปังยิ่งหมดแรง แต่เราก็หน้าด้านทำมันต่อไป หาจุดบกพร่องแล้วค่อย ๆ ปรับแก้

เชื่อเถอะคนที่เขาดังๆก็ต้องเคยผ่านจุดนี้มาเหมือนกันทุกคน ถ้าหากเรามัวแต่ท้อ ท้อแล้วเลิก หาข้ออ้างว่ารี๊ดเม้นไม่ดีแล้วหมดไฟเลยเลิกเขียน อย่างนั้นก็อย่าถามหาความสำเร็จเลย

2
Soul Ripper 8 ต.ค. 64 เวลา 17:50 น. 3

ตอนผมเริ่มผมก็ไม่ได้เก่งนะ อาศัยความขยันเข้าว่า เน้นลงเป็นประจำทุกวัน พอเรามีความสม่ำเสมอมาเรื่อยๆ คนอ่านก็ค่อยๆเข้ามาเอง

1
Soul Ripper 8 ต.ค. 64 เวลา 17:52 น. 3-1

นิยายที่ผมเขียนทุกวันนี้ผมบอกได้เลยว่าช่วงที่สนุกก็พอมี ช่วงที่น่าเบื่อก็มีไม่น้อย แต่ผมก็ยังดันตัวเองมาติด Top ได้ยาวเป็นเดือนแล้ว เพราะอาศัยความขยันลงล้วนๆ

0
SayWindy 8 ต.ค. 64 เวลา 17:52 น. 4

เริ่มจากอัพนิยายหลายตอน สม่ำเสมอ รู้ว่านิยายเราต้องการนำเสนออะไรแล้วนำเสนอมันออกมาได้ดี เหมือนเอานิยายไปอยู่ในร้านค้า คนเข้ามาก็ต้องเด่นแบบไหนคนถึงจะหยุดมองนั่นล่ะ

แนวทางตลาดก็สำคัญ

ถ้ามีเป้าหมายว่าต้องการคนอ่านเยอะๆ ก็ต้องเข้าหาคนอ่านก่อนว่าเขาชอบอะไร

ไม่ใช่ติ๊งต่างว่าชั้นเขียนแนวอินดี้นะ ขายแต่ความอินดี้ ขายแต่ความใต้กระแส อยากให้คนอ่านเปิดใจอ่าน เราว่าการรอคอยแบบนั้นมันไร้ความหมาย ต้องขายของเยอะๆ //การไล่แปะลงกลุ่มนิยายก็เป็นอีกทางเลือกที่สำคัญ

ชื่อเรื่องกับบทโปรยต้องดึงดูด แต่ทั้งนี้ถึงเวลาเนื้อหาข้างในต่างหากที่สำคัญ

ไม่มีอะไรถูกผิด แต่สิ่งที่ออกมาขึ้นกับว่าไปโดนใจคนกลุ่มไหนมากกว่า เด็ก วัยรุ่น คนโต ก็มีกลุ่มที่แต่งต่างกัน กลุ่มไหนที่จะเปย์กลุ่มไหนที่จะอ่านเยอะแต่ยอดซื้อน้อย อยากไปอยู่กลุ่มไหนต้องดูด้วย

อ่อ แล้วนักอ่านก็คนแบบเราๆนี่ล่ะ ไม่ได้วิเศษวิโสมาจากไหน เราเขียนนิยายแล้วก็ทำตัวเป็นนักอ่านตามปกติ จ่ายเงินซื้อนิยายบ้างไรบ้าง ไม่ต้องไปคิดอะไรมากมายหรอก อยากเขียนก็เขียน เขียนใจรักก็ทำตามความชบหรืออยากเขียนเอาเงินก็ทำความเข้าใจคนหมู่มากก็พอ

0
babybaby1234 8 ต.ค. 64 เวลา 17:53 น. 5

น่าจะไม่เกี่ยวกับความกล้านะ


อย่างแรก น่าจะเกี่ยวกับ ความชอบ


ไม่ใช่แนว ก็มองข้าม


แต่ที่น่ากลัวคือ อุปทานหมู่


คนไหนดัง ก็ดูดีไปหมด


เหมือนอารมณ์เวลาคลั่งไคล้ ประมาณนั้น


นักเขียนมือใหม่ก็เหมือนพ่อค้าแม่ค้ามือใหม่ ที่ลูกค้าอาจชำเลืองมอง และไตร่ตรอง ว่าจะอุดหนุน หรือไม่ก็เดินผ่านไปอย่างไม่ไยดี


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-13.png

0
이브KazYuto 8 ต.ค. 64 เวลา 18:43 น. 6

เอาตามความคิดผมนะ เก่งธรรมดากับเก่งแบบคนอ่านผ่านตาก็เลิฟเลยก็คือ ถ้าเรื่องมันสนุก คนเขียนก็ตามครับกับคุณต้องอัพให้สม่ำเสมอให้คนอ่านเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ได้คนเขียนเทแน่นอน กับถ้าดำเนินไปเรื่อย ๆ ไม่ถูกจริตเขาก็ไปกับคนใหม่เข้ามา ถ้านักอ่านประจำเขาชอบ เขาก็อยู่กับคุณไปนาน ๆ ครับ ตามประสบการณ์ 1 ปีที่ผมประสบมา หวังว่าจะมีประโยชน์ขอบคุณครับ ซ้ำคือเขาต้องการความแน่นอนถ้ามีพลิกก็ดราม่าเล็กน้อนนะครับ แหะ ๆ

0
Ciel En Rose 8 ต.ค. 64 เวลา 19:00 น. 7

ลงนิยายทุกวันถ้าทำได้ค่ะ เนื้อเรื่องมีประเด็นให้ชวนติดตาม

สำหรับเราเวลาเลือกอ่านนิยาย ดูจากเนื้อหาค่ะ คือถ้าตอนแรก ๆ สนุกน่าติดตาม เราก็จะติดตามอ่านเรื่องนั้นตลอดค่ะ

อีกทั้งคำโปรยและปกก็ทำให้นักอ่านสนใจนิยายค่ะ

ความเก่งฝึกฝนกันได้นะคะ แต่เราต้องเริ่มเดินขึ้นบันไดขขั้นแรกก่อนเสมอถึงจะเดินไปถึงจุดมุ่งหมายได้ค่ะ

เป็นกำลังใจให้นักเขียนทุกท่านนะคะ^^

0
นอนน้อยเสยๆ 8 ต.ค. 64 เวลา 20:41 น. 8

บางทีนักอ่านก็ไม่ต้องการอะไรเยอะแยะ ไม่ได้หวังว่าจะได้อ่านนิยายเลิศหรูซูซ่า อ่านแล้วอยากประดับขึ้นบนหิ้งหรอก ขอแค่พล็อตน่าสนใจ เขียนแล้วอ่านรู้เรื่อง ลงสม่ำเสมอก็พอแล้ว


ซึ่งสามอย่างนี้แหละ ที่นักเขียนหน้าใหม่มักจะละเลยกัน

-วางพล็อตแบบขอไปที เน้นด้นสดเผลอแปบเดียวออกไปอยู่กลางอ่าวไทย จนคนอ่านงงว่ามันมาถึงจุดนี้ได้ไงฟะ ส่วนนักเขียนก็งงเหมือนกัน จะวกเข้าฝั่งยังไงดี

- เขียนแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง อ่านแล้วงง พยายามใช้คำซับซ้อนทั้งที่คำง่ายๆ ก็ใช้ได้ ไม่รู้จักการใช้pov บรรยายวกไปวนมาบางทีก็กระโดดข้ามไปมาเป็นจิงโจ้เลย

- ไม่ลงต่อเนื่องสม่ำเสมอ ข้ออ้างหลักคือไม่ว่าง ทำงาน การบ้านงานเยอะ ซึ่งมันก็จริงแต่แก้ไขได้ด้วยการสต็อกตอน ก็ไม่ค่อยจะทำกัน เน้นเขียนสดลงสด สดจนงงว่าได้อ่านทวนที่เขียนบ้างหรือเปล่าน่ะ อีกข้ออ้างนึงคืออารมณ์มันไม่มาเลยไม่ได้เขียน กว่าจะรออารมณ์ของคุณคนเขียน บางทีต้องรอเป็นสัปดาห์ บางทีเป็นเดือน บิ้วด์นานจนงง นักอ่านเขาก็โบกมือบ๊ายบายก้นหมดแล้ว


ถ้าทำสามอย่างนี้ได้ ต่อให้ไม่ได้ดีมาก ยังขาดเทคนิคอีกเยอะ แต่ก็ถือว่าน่าอ่าน น่าเอาใจช่วยในระดับนึง

0
thii-8 8 ต.ค. 64 เวลา 21:00 น. 9

ต้องเขียนดีและเก่งระดับไหน คนอ่านถึงจะกล้าอ่านนิยายเรา…อ่านแล้วนึกถึงเพลง Blowing in The Wind ของ บ็อบ ดิลลัน ที่เริ่มต้นว่า How many roads must a man walk down before you call him a man? ซึ่งถ้าจะให้ตอบก็คงต้องตอบแบบเดียวกับเนื้อเพลงที่ว่า The answer is blowing in the wind.


แต่หนทางไปสู่การประสบความสำเร็จก็พอมีรูปแบบของมันอยู่ สมมุติว่าคุณเปิดร้านขายบะหมี่แบบใหม่เอี่ยมถอดด้าม ไม่เคยมีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน แถมยังทุนรอนน้อย อยู่ในทำเลที่หาคนเห็นยาก จะทำยังไงให้กลายเป็นร้านมีชื่อ ลูกค้าคับคั่ง คงพอเห็นภาพว่ากว่าจะทำให้ร้านบะหมี่นี้เป็นที่กล่าวขวัญถึง ต้องอาศัยปัจจัยหลายอย่างมาก เช่น ต้องตกแต่งร้านให้น่าเข้าไปลองทาน ต้องโปรโมทร้านให้เป็นที่รู้จัก กินบะหมี่แถมส่วนลด ฯลฯ 


ข้อสำคัญบะหมี่ของคุณต้องเด็ดจริง กินแค่ครั้งเดียวลูกค้าซึมซับความอร่อยได้ทันที ทำให้อยากจะกลับมาอีก นอกจากนี้ยังต้องอาศัยความมานะบากบั่น เปิดร้านสม่ำเสมอ มันจะมีช่วงเวลาวัดใจว่าร้านบะหมี่ของคุณ จะทนแรงกดดันจากชะตากรรมที่ฟ้าดินมอบให้ได้ขนาดไหน เช่น เกิดโรคระบาดแบบโควิด เกิดสงคราม เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ ฯลฯ ถ้ามีปัจจัยครบโอกาสที่ร้านบะหมี่จะมีลูกค้าจำนวนหนึ่งเป็นแฟนพันธุ์แท้ก็มีเปอร์เซ็นต์สูงมาก และสักวันหนึ่งอาจจะกลายเป็นร้านมิชลิน 3 ดาวไปก็ได้…ใครจะรู้


0
ปล่อยอึ่ง 9 ต.ค. 64 เวลา 08:14 น. 10

จงทำในสิ่งที่คนถูกใจ อย่าทำในสิ่งที่คิดว่าดี


สำหรับไอดอลที่เต้นเก่ง ร้องเก่งก็แล้วไป แต่กับคนเต้นไม่เก่ง ร้องไม่เก่ง แต่หน้าตาดี แล้วมีคนชอบเยอะก็ไม่แปลก ก็เขาชอบแบบนั้น เขาจะตามแบบนั้น ไอดอลคนนั้นก็แค่ไปหาวิธีที่ทำให้ตัวเองหล่อและสวยยิ่ง ๆ ขึ้นไปก็พอ หรือบางทีอาจจะไม่ต้องหน้าตาดีก็ได้ แต่อาจจะยิงมุกเป็น บางคนที่ชอบแบบนี้เขาก็มีเหมือนกัน กลับไปหัดยิงมุก เต้นและร้องแค่พอเป็นพิธีมันก็ได้แล้ว แบบนี้คนก็ตามเยอะเหมือนกัน

0
เมล่อนเมย์ 10 ต.ค. 64 เวลา 01:29 น. 12

เราไม่ได้เก่งและก็ไม่ดังค่ะ แต่อาศัยฐานคนอ่านกลุ่มเล็กๆที่ส่วนใหญ่จะเคยเห็นว่าเคยอ่านนิยายเรื่องแรกของเรามา **เราไม่เคยแปะลิงก์ในกลุ่มโฆษณานิยายนะคะ เรื่องโซเชียลมีเดียก็พึ่งเปิดเฟสบุ๊คเพจและทวิตเตอร์ไป ตอนแรกคือโลกส่วนตัวสูงมาก ตอนนี้ก็มีบ้างที่แชร์นิยายไปทวิตเตอร์ของตัวเอง **เรื่องทำยังไงให้เป็นที่รู้จักเราว่ามันอยู่ที่นิยายเลยค่ะ พลอตตรงจริตใคร คนนั้นก็เข้ามาอ่าน อัพสม่ำเสมอมีผล

0
mahafata 11 ต.ค. 64 เวลา 02:12 น. 13

ความดี ความเก่งในการเขียนเราว่ามีผลแค่ 25% ส่วนการตลาด 75% อาจจะมีบางเรื่องที่ไม่ต้องโปรโมตอะไรเยอะก็ขายดิบขายดี แต่ไม่ใช่กับนิยายส่วนมากที่ต้องอาศัยการตลาด+การโปรโมทเข้าช่วย เราเห็นมาเยอะแล้วนิยายดี ๆ ที่ได้วางขายตามร้านหนังสือชั้นนำ แต่ขายได้ไม่นานก็ถูกถอดออกเพราะขายไม่ค่อยได้ คนไม่ค่อยซื้อ คนเขียนอาจจะคิดว่านี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงของตัวเอง เป็นนิยายที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ อ่านสนุก น่าติดตาม แต่กับคนอ่านเขาไม่รู้ด้วยหรอก รู้แค่เห็นชื่อเรื่องแล้วไม่ค่อยน่าสนใจ หน้าปกไม่สวย เรื่องย่องง ๆ ภาษาเขียนแปลก ๆ แค่นี้เขาก็เดินผ่านแล้ว ไม่คิดจะหยิบมาเปิดอ่านบทนำด้วยซ้ำไป ยอมรับเลยว่าตอนเราจะซื้อนิยายมาอ่านสักเล่ม เราก็มองแค่ภายนอกแหละ ถ้าไม่ถูกใจเรา ก็คือเดินผ่านเลย ไม่ซื้อ

0
KGS. 11 ต.ค. 64 เวลา 21:06 น. 14

เขียนแนวที่มีคนอ่านเยอะ ๆ ครับ ส่วนฝีมือควรเขียนให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ คำผิดน้อยหรือไม่มีเลย ลดการใช้คำซ้ำ สำนวนอ่านง่าย ภาษาสละสลวย มีการเล่นคำ อุปมาอุปไมยตามหลักภาษา เนื้อหาดี ไม่ใส่ทัศนคติที่ไม่ดีลงไปในงานของตัวเอง พล็อตมีความเป็นเอกลักษณ์ ถ้าทำได้ครบหมดทุกข้อก็น่าจะมีโอกาสดังมากขึ้นครับ

1
KGS. 11 ต.ค. 64 เวลา 21:07 น. 14-1

ปล. ต้องขยันโปรโมตอย่างมีชั้นเชิงด้วยครับ

0
Funggier 12 ต.ค. 64 เวลา 04:18 น. 15

สำหรับผมที่เป็นคนอ่าน ก็เลือกตัดสินใจนิยายที่จะลองอ่านตามลำดับประมาณนี้นะครับ
1 ชื่อเรื่องน่าสนใจ และตรงกับความสนใจช่วงนั้น
2 คำโปรยเนื้อเรื่องย่อ (มีหรือไม่มีสำหรับผมข้อนี้จะไม่เน้น แต่ก็ใช้ประกอบตัดสินใจอ่าน)

3 จำนวนตอน และจำนวนคำต่อตอน (เนื่องจากชอบอ่านมาก ก็อยากได้เรื่องดีอ่านได้ยาว ๆ)

4 สำนวนบรรยาย การใช้คำอ่านลื่นไหลพอประมาณ

5 ความสมเหตุสมผลต่อทุก ๆ เหตุการณ์ของเรื่องราว
6 ความสนุกน่าติดตาม

ซึ่งในระยะยาวที่ทำให้อ่านได้เรื่อย ๆ ก็ขึ้นอยู่กับข้อ 5 และข้อ 4 นี่ละครับ บางเรื่องถึงจะสนุกน่าติดตามมาก แต่หากสองข้อนี้ไม่ดีมากเข้าจะทำให้เสียอรรถรสจนจำต้องตัดใจเลิกติดตามไป

0
Miraclemoon 12 ต.ค. 64 เวลา 20:22 น. 16

จากใจคนที่เปิดนิยายมา 31 เรื่องนะคะ ยังไม่มีเรื่องไหนปังเลยค่ะ ฮ่าๆ ไม่ต้องท้อนะสักวันคงมีคนเห็น

0
Boy13 13 ต.ค. 64 เวลา 15:59 น. 17

นิยายเรื่องปัจจุบันที่ผมลงอยู่ เป็นเรื่องแรกที่ลงอย่างต่อเนื่องตามกำหนด (จ.-ศ.) ไม่ได้มาๆหายๆเหมือนเมื่อก่อน ผ่านไปหนึ่งเดือนผลตอบรับถือว่าเรื่อยๆ แบบว่าพอจะเห็นแสงสว่างรำไรอยู่นะครับ คิดว่าความสม่ำเสมอสำคัญ แต่การเขียนนิยายให้ตรงตามตลาดก็จำเป็นพอกันเลย สังเกตจากเรื่องก่อนที่วางมือไปแล้ว อัปบ่อยใกล้เคียงกัน แต่เรื่องนั้นอัตราเติบโตน้อยกว่ามาก


สรุปคือเขียนดี เขียนเก่งมันเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่การพยายามอย่างต่อเนื่องก็ต้องมีครับ ทำให้มันสมดุลกันทั้งสามอย่างน่าจะโอเค

0
สมเหมียว ดุจพยัคฆ์ 15 ต.ค. 64 เวลา 09:51 น. 18

นักเขียนหน้าใหม่ ส่วนมากที่เจอคือชอบทับถมปม ไว้ตั้งแต่ต้นเรื่อง ซึ่งดูทรงแล้วน่าจะเอาไม่อยู่


การเคลียร์ปมนี่สำคัญ แม้แต่นักเขียนเก่งๆ ก็ต้องจัดวางให้เหมาะสม


อันนี้แค่ส่วนหนึ่ง ที่เจอ

0