Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ขายไอเดีย "เรื่องของผมกับพี่สาว" [ปล่อยอึ่งรีวิว]

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ตอนนั้นก็หาอ่านอะไรไปเรื่อยนั่นแหละ ชื่อเรื่อง รูปปก หรือเรื่องย่อก็ไม่ได้น่าสนใจอะไรเท่าไหร่ สุ่ม ๆ เลือกเอา แต่พอเปิดอ่านจริง ๆ เท่านั้น อื้อหือ ว้าวมาก ...แต่แค่ช่วงแรกเท่านั้นล่ะนะ

...

ชื่อ เรื่องของผมกับพี่สาว
ผู้เขียน babybaby1234
แหล่งที่เผยแพร่ meb
ที่อยู่ผลงาน เรื่องของผมกับพี่สาว
ผู้วิจารณํ ปล่อยอึ่ง



เรื่องของผมกับพี่สาว นิยายโรแมนติก เอ่อ...อีโรติกก็ได้อะ ว่าด้วยเรื่องราวของ “เจน” ที่เรียกให้น้องซายต่างสายเลือดอย่าง “เจ” เข้ามานวดหลังและไหล่ให้ในห้อง

ซึ่งก็...นะ เนื้อเรื่องจริง ๆ ต่อจากนั้นก็คงไม่มีอะไรมาหรอก อย่างที่เรา ๆ  ก็รู้กันดีนั่นแหละ เป็นอะไรที่คาดเดาได้ง่าย แต่ก็น่าอ่านต่อ เพราะเราคาดเดาได้ง่ายนั่นแหละมันจึงมีโอกาสที่จะถูกคนเขียนหักมุมตบหน้าได้สูง แต่ทำไม๊ทำไม อ่านไป ๆ แล้วจุดที่จะหักมุมมันกลับไม่มีสักทีล่ะนั่น นี่ไม่ใช่การหักมุมด้วยการไม่หักมุมนะ มันคือไม่หักมุมดี ๆ ตั้งแต่แรกนี่แหละ แต่เอาจริงเรื่องนี้ถูกเขียนมาเพื่อหักมุมมั้ย ก็...ไม่หรอก ผมคาดหวังไปงั้นเองแหละ คือมันควรจะมีไง แล้วมันมีได้ด้วย-การหักมุมที่ว่าเนี่ยะ

ไปที่ประเด็นอื่นต่อ

อันนี้น่าจะเป็นไอเดียหรือจุดขายหลักของเรื่องเลยนี่แหละ คือการที่นิยายทั้งเรื่องนั้นถูกเขียนด้วยบทสนทนาของตัวละครไปเพียงอย่างเดียว ไม่มีบทบรรยายมาแทรกเลยแม้แต่น้อย ตรงนี้เป็นอะไรที่ท้ายทายมากสำหรับคนเขียนที่ต้องการจะพิสูจนํว่าจะสามารถเล่าออกมาให้ดีหรือรู้เรื่องได้มากแค่ไหน ด้วยเนื้อเรื่องทำนองนี้ที่มีการเคลื่อนไหวอยู่น้อยและไม่มีเรื่องราวซับซ้อนและซ้อนซับจึงพูดได้ไม่ค่อยจะเต็มปากว่าทำออกมาได้ “เก่ง” แล้ว เอาจริงคือไอเดียไอเดียนี้ใคร ๆ หลายคนก็น่าจะเคยคิดกันมาแล้วล่ะ แต่จะลงมือเขียนจริง ๆ มั้ยนี่ก็อีกเรื่อง แต่ถ้าอยากจะยกระดับความสามารถขึ้นไปอีกหรือต้องการจะเอาไอเดียตรงนี้มาเป็นจุดขายแบบเต็มศักยภาพก็ลองเขียนเนื้อเรื่องที่มีการเคลื่อนไหวเยอะ ๆ หรือเรื่องราวซับซ้อนตามที่เราเข้าใจดู แต่ทางนี้ก็พอจะเข้าใจอยู่ว่ามันทำได้ยาก และความยาวอาจจะต้องเพิ่มมากขึ้นตามความซับซ้อน แถมจะมีใครอ่านให้หรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ถ้าเป็นผมนะถ้ากล้าเขียนก็กล้าอ่าน เพราะทางนี้ก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเวลาอ่านแล้วมันจะรู้เรื่องมั้ย เราจะปะติดปะต่อจากสิ่งที่เป็นเพียงแค่บทสนทนาอย่างเดียวได้จริง ๆ หรือเปล่า

อีกเรื่องคือเมื่อกี้ผมบอกไปว่าพี่สาวเรียกน้องชายให้มาทำธุระให้ใช่มั้ย ผมเลยสงสัยเหตุผลจริง ๆ ของตัวละครมันคืออะไร ? 1.แค่เมื่อยแล้วน้องชายดันคุมตัวเองไม่อยู่ หรือ 2.เพราะอยากเลยหาวิธีหลอกล่อให้น้องชายมา มันไม่มีการอธิบายตรงนี้ จะบอกว่าเพราะไม่มีบทบรรยายเลยหาจุดที่จะอธิบายไม่ได้ไม่ได้ เพราะเหตุผลตรงนี้มันออกจากปากของตัวละครก็ได้เหมือนกัน

แต่แน่นอนว่าถ้ายึดตามเนื้อเรื่องที่อ่านจริง ๆ คือพี่สาวมันห้ามน้องชายไปแล้วแต่สุดท้ายก็ห้ามไม่อยู่ แต่การห้ามไม่อยู่ไม่ได้แปลวว่าเรื่องในครั้งนี้พี่สาวไม่ได้เป็นคนหลอกล่อน้องมา ดังนั้นเรื่องทั้งเรื่องมันอาจจะเป็นการวางแผนของพี่สาวก็ได้ คือมันสั่งให้น้องทำนั่นทำนี่ด้วยนี่ จะบอกว่าเป็นการยั่วยุก็ไม่แปลกอะไรเลย แต่จะฟันธงไปเลยว่าใช่ก็ไม่ได้อีก เพราะอย่างที่บอกว่าเธอก็ห้ามน้องอยู่ เนี่ย ตรงนี้แหละที่มันคาใจ มันสมควรได้รับการอธิบายว่ามันคืออะไร คนอ่านคิดเองก็ได้ แต่ในกรณีนี้มันคือการทิ้งเบาะแสที่ทำให้คนอ่านไม่สามารถหาคำตอบที่ถูกต้องได้น่ะ อย่าบอกว่าคิดได้ทั้งสองแบบนะ เนื้อเรื่องทำนองนี้จะเอามุกนี้มาเล่นไม่ได้

จากประเด็นเมื่อกี้สุดท้ายแล้วผมไม่รู้ว่าคำตอบมันคืออะไร แต่ถ้าจะหาทางลงกับปัญหาตรงนั้นให้ดีผมว่ามันควรที่จะมีหักมุม เพราะถ้าไม่หักมุมแล้วเนื้อเรื่องทำนองนี้ที่เขียนขึ้นมามันจะมีอะไรให้เราว้าวอีกล่ะ เช่น น้องชายมันเล่นท่าพิสดารแล้วพี่สาวดันปวดไหล่ขึ้นมาจริง ๆ คนอ่านก็จะได้รู้กันว่า “เอ้า ปวดไหล่จริง ๆ งั้นเมื่อกี้ก็ไม่ได้ปวดจริง ๆ สิวะ งั้นก็แปลว่า-หาเหตุผลมาหลอกให้น้องชายไปเยเฮ้ใช่มั้ย” อะไรเงี้ยะ คนอ่านก็จะได้ยิ้ม นิยายก็จะมีการเล่าเรื่องที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น เออ เรื่องนี้คือผมอ่านจบแล้วรู้สึกโหวงเลยอะ “เอ๋า จบแล้วเหรอ”

ประเด็นที่จะพูดถึงมีแค่นี้ ไม่มีอะไรมาก เพราะนิยายมันมีแค่นี้ ว้าวได้นิดนึงตอนอ่านช่วงแรก ๆ เพราะยังคิดอยู่เลยว่าจะเขียนแบบนี้จริง ๆ น่ะเหรอ แต่หลังจากนั้นมันก็ไม่ได้ว้าวอะไร รู้สึกหงุดหงิดกับการไม่อธิบายถึงเหตุผลของพี่สาวว่ามันคืออะไร และก็ไม่ค่อยชอบตอนจบที่จบไปทั้งอย่างนั้นซึ่งถ้าเอาจริงคือนิยายที่มีตอนจบแบบนี้ไม่น่าอ่านอย่างแรง

และคะแนนที่ให้ก็คือ “ผมไม่ชอบเลย หงุดหงิดด้วย” ครับผม

...

ฮ่า ๆ ๆ ภาพรวมมันออกมาเป็นลบแฮะ คือข้อเสียมันอาจจะมีแค่นั้นแต่มันเป็นข้อเสียที่ค่อนข้างจะทรงพลังต่อความรู้สึกมากอะ เนื้อเรื่องมันก็ไม่ได้สนุกอะไรขนาดนั้นด้วย คือมันมีแค่นั้นด้วยแหละ ฮ่า ๆ ๆ แต่เรื่องความยาวนี่ผมว่ายาวอยู่นะ หลัง ๆ นี่คือมันเยอะแบบไร้สาระมาก ตอนเปิดอ่านนี่คือแบบ “จบซักที จบซักที จบซักที” วนเวียนอยู่นั่น เพราะเนื้อเรื่องมันไม่มีอะไรนั่นแหละ ดังนั้นจึงควรรู้ตัวด้วยว่าถ้าเนื้อเรื่องมันไม่เดินหรือสารที่สื่อมันซ้ำก็จำเป็นจะต้องรวบรัดหรือตัดจบให้ได้เพื่อขึ้นประเด็นใหม่หรือจบเรื่องไปเลย

เรื่องนี้ลองอ่านดู เผื่อใครอยากลองเขียนตามบ้างหรือไม่ก็เกิดไอเดียใหม่ ๆ
 

แสดงความคิดเห็น

3 ความคิดเห็น

ปล่อยอึ่ง 19 ต.ค. 64 เวลา 08:03 น. 1

"คนเขียนอึ่ง" เพจสำหรับการรังสรรค์และบอกเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการเขียนและอ่านนิยาย


Wail เสียงครวญครางในห้องน้ำหญิง

https://image.dek-d.com/27/0779/6170/132416418

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiNTUwNjE5NCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjE3MTkyMCI7fQ

0
babybaby1234 19 ต.ค. 64 เวลา 08:47 น. 2

ลำดับแรก ต้องชื่นชม คุณปล่อยอึ่ง ที่จับแกนประเด็นของเรื่องนี้ได้ถูกต้อง แม่นยำ


เรื่องนี้ผมต้องการเขียนโดยผ่านบทสนทนาล้วนๆ

(ยังมีอีกเรื่อง ที่เขียนแบบนี้ เรื่อง ถูกเรียกเข้าไปในห้อง


แต่เรื่องถูกเรียก.. มีบรรยายแทรกเล็กน้อย ซึ่งตอนแรกลังเลว่าจะสนทนาอย่างเดียวมั้ย แต่พอเรื่องของผมกับพี่สาวสนทนาอย่างเดียวไปแล้ว เรื่องถูกเรียกเข้าไปในห้อง จึงมีบรรยายเล็กน้อย แต่โดยรวม 90 % คือสนทนา)


ต่อมาเรื่องการจบ นี่คือสิ่งที่กระผมมักจะทำตัวเช่นนี้อยู่เสมอ คือ นักอ่านไม่ทันได้คาดว่าจะจบ หรือ ไม่อยากให้จบเช่นนี้ แต่สไตล์การเขียนของผม ซึ่งอาจทำขุ่นเคืองใจนักอ่าน

คือ มักจบ เพราะสมควรจบ (ใน คหสต)


จะไม่มี จบบริบูรณ์ แบบที่ได้เห็นกัน ในนักเขียนหลายๆท่าน


เหตุผลของผมคือ ตัวละครในนวนิยายล้วนมีชีวิตไม่ต่างจากเรา เพียงแค่ดำเนินชีวิตในชีวิตเสมือนอีกชีวิตหนึ่ง เพราะฉะนั้นชีวิตของตัวละครจึง must go on ต่อไป


เช่นเดียวกับชีวิตของนักอ่าน ที่อ่านจบ หรือ จบบริบูรณ์ ก็จะ must go on or read ต่อไป


https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/bb-11.png


1
babybaby1234 19 ต.ค. 64 เวลา 08:53 น. 3

เพิ่มอีกหน่อย


เรื่องความคิดของตัวละคร


บางเรื่อง ผมจะแสดงความคิดผ่านเรื่องราว


บางเรื่อง จะเชิงปรัชญา จิตวิทยา


ก็จะไม่แสดงความคิดผ่านตัวละคร


(ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆนะครับ ผมชอบนะ คือตรงดี

ชอบก็ชม ไม่ชอบก็ติ บายครับ)

2
ปล่อยอึ่ง 19 ต.ค. 64 เวลา 14:15 น. 3-1

โอเคครับผม จบการรีวิวด้วยดี


อีกเรื่องที่ขอไว้ไม่รู้ว่าจะมาวันไหน เพราะผมจัดรายการรีวิวไว้หลายเรื่องอยู่ ยังไงก็รออีกหน่อยนะครับ

0