Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ความในใจของนักอ่าน

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ตัวเราเป็นนักเขียนอยู่แล้ว แต่อยากระบายความในใจในฐานะนักอ่านบ้าง
เรื่องมันมีอยู่ว่าเรากดติดตามนิยาย (ที่ยังไม่จบ) ไว้ 17 เรื่อง ตอนกดติดตามแรกๆ นักเขียนทุกคนก็อัปเดตกันปกติ จนวันหนึ่งเรารู้สึกว่า "ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อ่านนิยายเลยนะ" ก็เลยกดเข้าไปดูปรากฎว่ามีหลายเรื่องที่อัปเดตครั้งสุดท้ายคือเมื่อสัปดาห์ก่อน

จนมาวันนี้เรารู้สึกว่า "เออะ เหมือนไม่ได้อ่านนิยายมาสามวันแล้ว" พอกดเข้าไปดูบางเรื่องอัปล่าสุดสัปดาห์ก่อน บางเรื่องอัปล่าสุดเดือนก่อน! ก็แอบช็อกเหมือนกัน เช็กดูแล้วยังมีเรื่องที่อัปเดตปกติแค่สองเรื่อง

พูดในฐานะนักอ่านแล้วก็ปวดใจ นี่เราโดนไรต์คิดเป็น 88% เทเลยนะ เศร้ามาก

แสดงความคิดเห็น

>

19 ความคิดเห็น

เมโลดี้ที่รักสายลม 26 ต.ค. 64 เวลา 23:33 น. 2

นั่นล่ะ เลยเลิกติดตามนิยายไปนานแล้วค่ะ ตอนนี้เข้าแต่บอร์ดอย่างเดียว ดวงเราคงไม่สมพงษ์กับนักเขียนละมั้ง เพราะเราโดนเทมันทุกเรื่องเลย บางเรื่องสัญญากันไว้อย่างดี สุดท้ายก็เทเรา เราเศร้ามากกกก เลิกอ่านแล้วจ้าาา

0
YoungYoung 1RatIndra 27 ต.ค. 64 เวลา 06:06 น. 3

หยังไม่เคยเทสักเรื่อง แต่ตรงข้ามเลยค่ะ ไม่มีคนรออ่านในเด็กดีเลย 5555 เลยพับโครงการลงที่เด็กดีไปก่อน เพราะคิดว่านักอ่านในนี้คงไม่ค่อยชอบนิยายแนวของหยัง หยังคิดว่าบางทีที่นักเขียนเทน่าจะเพราะเหตุผลหลายประการในชีวิตประจำวันน่ะค่ะ ทั้งงาน ทั้งชีวิตส่วนตัว หรือบางท่านอาจหมดกำลัง หมดไฟที่จะเขียน แต่คนอ่านมากน้อยยังไงหยังก็จะลงจนจบนะคะ เพราะอย่างน้อยถ้าคนรออ่านแค่หนึ่งคนก็จะพยายามลงให้จบเพื่อคนนั้นค่ะ (เคยมียอดคนอ่านขึ้นแค่หนึ่งคน แล้วเขาบอกว่าซื้ออีบุ๊กมาแล้วค่าาาา หยังคิดเลยว่าต้องอัปต่อไหมเพราะคนคนเดียวที่รออ่านซื้ออีบุ๊กไปแล้ว 555)

0
Omori22194 27 ต.ค. 64 เวลา 15:28 น. 4

ว้า แอบรู้สึกผิดเหมือนกันแฮะ เข้าใจความรู้สึกจขกท.เลยฮะ

ผมเคยเขียนนิยาย ละก็จะมีนักอ่านท่านนึงตามอ่านเสมอ

เรื่องล่าสุดใน raw เมื่อสองปีครึ่งที่แล้ว

ใช่ ไม่ได้เขียนมันอีกเลย แต่ถ้ามีแรงเมื่อไหร่ จะกลับไปเขียนต่อให้แน่นอน

0
นักเขียนพเนจร 28 ต.ค. 64 เวลา 10:20 น. 7

ยังมีเบื้องหลังของนักเขียนที่นักอ่านยังไม่รู้ ชีวิตมันไม่ได้เรียบง่ายเหมือนในนิยาย ปัจจัยหลักที่ทำให้นักเขียนเลิกเขียน คือสิ่งแวดล้อมรอบตัวทำให้เขาหมดไฟ ในตอนแรกที่เริ่มเขียนก็ไม่มีใครสนใจ พอนิยายที่คุณเขียนดันปังขึ้นมา เพียงแค่เขียนเรื่องแรกก็มีคนติดตามมากมาย ทำให้เขาเกิดความคิดขึ้นมาว่า มันเป็นเรื่องง่ายๆ หลังจากนั้นพล็อตเรื่องมากมายถูกนำมาเล่าแบ่งปัน เพื่อขอความเห็นและช่วยวิจารณ์ มุมมองในช่วงแรกยังคงตื้นเขินเพราะไม่มีประสบการณ์ ถึงแม้จะมีความสามารถในการอดหลับอดนอนนั่งดูซีรีย์ มันก็ไม่ช่วยให้เขียนนิยายได้ดีขึ้น สุดท้ายโยนงานมาให้เราทำแบบดื้อๆ เธอมีหน้าที่คิดพล็อตเรื่องนำเสนอเท่านั้น งานตัวเองก็ล่าช้า งานใหม่ก็เพิ่มมาอีก เลยตัดสินใจไม่เขียนแล้ว จะเปลี่ยนไปวาดปกนิยายขาย ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งลายเส้นใช้ได้ . . . ใช่! เธออยากวาดบ้างให้เราสอนวาด ถึงจะแนะนำให้ให้วาดเลียนแบบรูปง่ายๆ ให้ได้ก่อน แต่เธอก็ใจร้อนสั่งหนังสือฝึกวาดรูปในแบบต่างๆ มาเกือบ 30 เล่ม แต่สุดท้ายก็เป็นแค่คอลเลกชันหนังสือสะสม และมาบ่นว่าเราไม่ยอมสอน เรารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาทันที และงานวาดรูปก็เป็นอีกอันที่เลิกทำ เพราะเธอให้ผมวาดรูปให้เธอโดยที่เธอสเก็ตภาพด้วยดินสอ และให้ผมวาดลงดิจิตอล ลายเส้นไม่ใช่สิ่งที่จะก็อปกันได้ง่ายๆ เมื่อผมไม่ถนัดวาดแนวน่ารัก จิบิ วาดยังไงก็ไม่ถูกใจเธอผมก็เลยพักยาว ล่าสุดอยากเป็น ยูทูปเปอร์ ให้ผมทำช่องให้ มาตัดต่อใส่แอฟเฟคให้ เพียงแค่นี้ก็น่าจะมองเห็นแล้วนะว่า จะเอาเวลาที่ไหนมานั่งเขียนนิยาย บางครั้งการนั่งดูเฉยๆ ปล่อยให้คนที่เขาทำได้ ทำของเขาไปจะดีกว่า ถึงแม้การพยายามทำสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่ถนัดจะเป็นเรื่องที่ดีก็ตาม และอีกหนึ่งเหตุหนึ่งคือ รายได้มันไม่ตอบโจทย์

1
นักเขียนพเนจร 28 ต.ค. 64 เวลา 10:27 น. 7-1

งานเขียน และงานวาดรูป เป็นงานที่ต้องใช้สมาธิสูง ไม่ควรมีเรื่องมาคอยรบกวนใจ ในระหว่างทำงาน ลักษณะของงานไม่สอดคล้องกับการดำเนินชีวิต ทำให้นิยายหลายเรื่องที่เจอสภาพแวดล้อมแบบคล้ายๆ กันต้องเงียบหายไป

0
ladybrook 28 ต.ค. 64 เวลา 19:49 น. 8

คิดว่าหลายๆ คนน่าจะเขียนเป็นงานอดิเรกนะ แล้วคงเครียดและยุ่งกับเรื่องหลักที่ต้องทำแหล่ะ เช่นอาชีพหลักหรือเรียนหนังสืออะไรแบบนี้ เพราะงานเขียนมันหาเงินไม่ได้ง่ายๆ นี่นา(เรื่องน่าเศร้าเคล้าน้ำตา555) เลยทำเป็นหลักไม่ได้ แต่เชื่อว่าตัวนักเขียนเองก็คงไม่ได้อยากเทงานที่รักหรอกแต่มันคงเครียดและยุ่งจนเขียนไม่ออกจริงๆ คิดว่านะ ยังไงก็โอ๋นะคะ เราเองก็เป็นทั้งคนอ่านและเขียนก็เข้าใจทั้งสองฝั่งนะ

0
28 ต.ค. 64 เวลา 20:21 น. 9

มาอ่านของผมไหมครับ อ่านฟรี 50 ตอน แถมลงวันละ 2 ตอน 3 ตอน 5 ตอน บางวัน 7 ตอน (แอบโฆษณา)

0
♡โรสลิน ผู้ใฝ่ฝัน♡ 28 ต.ค. 64 เวลา 22:27 น. 10

ที่เทเพราะมีเหตุอันบังเกิด ที่เทเพราะมีเหตุเรื่องราวนานานัปการ สารพัดจะบังเกิด อาจดูเป็นข้อแก้ตัวให้กับตัวเอง แต่เหตุฉะนั้นมันคือเรื่องจริงทั้งนั้น จากใจคนที่เคยเทหลายเรื่อง

บ้างก็วางพล็อตไม่แน่นพอ บ้างก็ไม่สมบูรณ์ ดูขาดเกินๆเป็นที่ไม่พอใจ จึงลบมันออก และบางทีบางเรื่องที่เทไป ก็ไม่อยากให้ตัวเองดูเครียด หรือกดดันกับตัวเองมากเกินไป ก็อาจมีลบบ้างเป็นธรรมดา(มาลองดูบ้างสิ ว่าถ้าเกิดมีคนมาเค้นเรามากๆ จะเป็นอย่างไร?) ก็อาจมีลบบ้างล่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อตัวเอง เพื่อไม่เกิดการเค้นตัวเองและกดดันเครียดไปกับมันจนเกินไป เพื่อความสบายใจของตัวเองก็ต้องมีลบกันบ้างล่ะ (ถ้าเกิดว่าคุณเขียนไม่สบายใจ แล้วคุณจะเขียนมันไหมล่ะ?) ทุกเรื่องที่เราเขียนจากใจคนที่เคยเทมาแล้วหลายเรื่อง ก็ยังมีผลงานที่นับว่าประสบสำเร็จเช่นกัน นั่นถือว่าคัดเลือกสรรพพล็อต เนื้อเรื่องมาอย่างดีแล้วนั่นแหละค่ะ เราก็อยากให้นักอ่านของเรา ได้อ่านนิยายดีๆ เหมือนกันค่ะ กว่าจะได้นิยายดีๆสักเรื่อง ก็ใช้เวลานานพอสมควร ที่ทำให้มันดีโดยสมบูรณ์ได้ ใช้ระยะเวลานานมากๆค่ะ กว่าจะเขียนมันจนจบ ในแต่ละตอนได้ จนถึงจบเรื่อง เรื่องของเวลาในการอัปมันต้องใช้เวลาค่ะ อย่างที่เรากล่าวมาบรรทัดที่แล้วนั่นแหละ

หวังว่าคุณจะเข้าใจยิ่งขึ้นนะคะ จากประสบการณ์ของ'คนเคยเทนิยายหลายเรื่อง'

1
29 ต.ค. 64 เวลา 08:08 น. 10-1

เราขอแนะนำไปลุยที่อีบุ๊คเลยค่ะ ถ้าเป็นนักอ่านตัวยงจริงๆ เขาจะเก็บอีบุ๊คหรือรูปเล่มกันค่ะ เพราะจบแน่นอน คุ้มค่าแห่งการรอคอยเสียอีก ถ้าไม่อยากรอหรือไม่อยากโดนเท ซื้อไปเลยจบหมดทุกปัญหา

เราเองก็ยังมุ่งเน้นอ่านนิยายรูปแบบอีบุ๊ค หรือไม่ก็รูปเล่มเลยค่ะ ส่วนมากเราจะเลือกอ่านเฉพาะที่สนใจหรือว่าชอบทั้งนั้น แล้วค่อยเปย์ซื้อเก็บเอาไว้เลย ถ้ามีตังค์เปย์ซะอย่าง

0
ผ่านมา 28 ต.ค. 64 เวลา 23:35 น. 11

แอบเห็นใจจขกท.

ตอนนักเขียนเริ่มเขียนนิยาย ก็ชอบบอกนักอ่านไม่เข้าใจนักเขียน อยากได้ยอดเฟบ อยากได้ยอดรีด อยากได้คอมเมนต์ สัญญาดิบดีว่าจะเขียนจนจบ ได้โปรดเห็นใจว่านักเขียนต้องแรงผลักดัน


แต่พอได้รับแรงผลักดันกำลังใจแล้วยังไงต่อ


ทีนี้อยากเลิกเขียน อยากเท ก็เรียกร้องให้นักอ่านเข้าใจว่านักเขียนต้องใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าง ขี้เกียจ ตัน หมดไฟ ฯลฯ แล้วนักอ่านทำอะไรนอกจากทำใจ


ทีนักเขียนยังชอบมาตัดพ้อนักอ่านว่าถอนเฟบทำไม ทำไมอ่านแล้วไม่คอมเมนต์ เมนต์ติแบบสุภาพ=คำด่าได้เลย ทำไมนักอ่านมาตัดพ้อนักเขียนถึงโดนต่อว่า งงนะ


อาจจะเป็นเพราะนี่คือบอร์ดนักเขียนล่ะมั้ง


แต่ก็นั่นแหละสุดท้ายนักเขียนและนักอ่านต่างก็คาดหวังในกันและกัน คนที่ผิดหวังก็ต้องมีเฟลกันบ้าง ทางที่ดีก็ทำใจให้ชิน ไม่ต้องคาดหวัง ไม่ต้องบีบคอนักเขียนให้มาอัพ ชีวิตใครชีวิตมัน ใครไม่อัพก็อันเฟบโลด จะโดนนักเขียนนอยด์ว่าไม่อัพแค่เดือนเดียวก็ไม่รอ ก็ช่างแม่ม



0
WiXard 29 ต.ค. 64 เวลา 00:40 น. 12

สำหรับผมนักเขียนที่เทนิยายผมแบ่งเป็น 2 แบบนะ


แบบแรก คือ ตั้งใจมาเป็นนักเขียนจริงๆ ไฟแรงมาก แต่กลายเป็นกว่าเขียนๆ ไปกลางเรื่องแล้วหยุด เทไปเลย ไม่ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาอ้างก็ตาม นี่คือนักเขียนที่ไร้ความรับผิดชอบครับ ถ้ายังอยากจะอยู่สายนี้ต่อบอกเลยว่าอนาคตไม่สวยงาม


แบบสอง คือ คนที่ไม่ได้อยากเป็นนักเขียน แต่เห็นหลายคนเขียนแล้วได้เงินเลยลองมาเขียนบ้าง ประเภทนี้ส่วนใหญ่เกือบร้อยละ 80 มักจะเทนิยายแน่นอน เพราะไม่ได้มีใจรักการเขียนนิยายจริงๆ


เขียนนิยายมันต้องใช้ความพยามและความอดทนมาก ถ้าใจไม่รักจริงอยู่ยากครับ

0
จอมเวทแมวดำ 29 ต.ค. 64 เวลา 13:57 น. 13

จริงๆนักเขียนอาจจะไม่เทแค่ติดภารกิจและอาจจะกลับมาเขียนยังไม่ได้ แนะนำว่าลองไปให้กำลังใจดูนะ จริงๆนักเขียนบางคนก็ท้อที่ยอดอ่านยอดกำลังใจยอดเม้นไม่ขึ้นนะ เขาอาจจะไม่มีความมั่นใจถ้าคุณนักอ่านชอบนิยายของเขาลองทักทายพูดคุยกับนักเขียนดูน้าาา

0
ช็อกกาแล็ต บราวนี่ 30 ต.ค. 64 เวลา 19:43 น. 16

สำหรับเราเป็นทั้งนักอ่านและนักเขียนนะคะ

ตอนเป็นักอ่านเราก็จดจ่อให้นักเขียนอัพนิยายตลอดก็มีบ้าง บางครั้งอัพทุกวัน บางครั้งก็ไม่ได้อัพมานาน ค้างอยู่กลางเรื่อง


ในแง่นักเขียนเราอัพนิยายทุกวัน จดจ่อกับตัวเลขผู้อ่านมาก ตั้งหน้าตั้งรอให้นักอ่านสักคนมาหลงอ่าน ถ้ามีคนอ่านแล้วคอมเมนต์ด้วยเรารู้สึกดีมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นกำลังใจหรือวิจารณ์ให้แก้ไข เรารู้สึกว่าเราอย่างน้อยก็มีคนมาอ่านงานเราของจริง ๆ ไม่ได้หลงเข้ามาและออกไป เราจะรักษานักอ่านเหล่านั้นไว้ให้ดี

0
Sammael Sin 30 ต.ค. 64 เวลา 20:50 น. 17

ผมนี่เป็นสายขยัน สมัยก่อนอัพถี่จนโดนด่าว่าปั่นกระทู้เลย แต่กระนั่นก็ยังยืนกราน หัวเด็ดตีนขาดก็ต้องเขียนให้จบครับ ถ้าคุณหมดมุก ไปไม่ไหวจริง ตันแล้ว อย่างน้อยลงเรื่องสรุปย่อไว้เหมือนเรื่องผู้ชนะสิบทิศก็ได้ คนอ่านจะได้ไม่คาใจ


โดนด่าว่าปั่นยังดีกว่าเทคนอ่านครับ

0
สมเหมียว ดุจพยัคฆ์ 31 ต.ค. 64 เวลา 23:42 น. 18

จะเทเฉพาะเรื่องที่ฟีดแบคไม่ดีเพราะเขียนนิยายเรื่องนึงมันใช้พลังงานสมองเยอะนะ

เหมือนเราปลูกต้นไม้ ช่วงแรกก็พยามยามกระ-กระสนหาน้ำมารดประคับประคองไป แต่ฟ้าฝนดันไม่เป็นใจ เลยเหมือนต้องพยายามยามอยู่คนเดียว มันเหนื่อย ไม่ได้สตรองขนาด ต้องทนทู่ซี้เขียนจนจบอะไรเบอร์นั้น


0
voltaje 2 พ.ย. 64 เวลา 10:32 น. 19

การเขียนนิยายเป็นงานที่ต้องใช้สมาธิและไอเดียสูงครับ วันนึงเราไม่มีทางคาดเดาได้ครับว่าเราต้องเจอกับเหตกรณ์อะไรบ้าง เช่น วันนี้ ป่วย วันี้ทะเลาะกับแฟน วันนี้ลืมของ มันยิ่งทำให้ความคิดของนักเขียนไปโฟกัสกับเรื่องอื่นมากกว่าการคิดพล็อตนิยายครับ สิ่งที่ผมกล่าวมาเป็นแค่ในมุมของผมเท่านั้น แต่นักเขียนแบบผมก็จะคิดเสมอว่านิยายของผมมีคนกดติดตามนิยายนั่นก็เพราะว่าเขาอยากอ่านจนจบ จึงทำให้ต้องมีวินัยในการเขียนอย่างมาก

0