Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ฝีมือนักเขียนควรอยู่ระดับไหน ถ้า...

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

เขียนนิยายเกิน 5 เรื่อง แต่ไม่เคยเขียนจบสักที
ประกาศเรื่องใหม่ เทเรื่องเก่าจนดองไม่มีกำหนด
เขียนตามกระแสอย่างเดียว ไม่คิดจะเขียนเรื่องสั้น

พอกระแสเก่ากำลังหมดหรือมีกระแสใหม่ เตรียมเท
เรื่องที่ควรจบก็ไม่ยอมจบ มัวแต่ยืดเรื่องไปเรื่อย
อ้างว่าเขียนจบแล้ว ยอดวิว ยอดแฟ่บหดลง
บางทีตั้งค่าแลกเหรียญซื้อตอน แต่เขียนไม่เคยจบ

ควรเรียกว่ามืออาชีพมั้ย

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

แด้มยู 21 ก.พ. 65 เวลา 04:38 น. 1

ลืมบอกไป

ที่สำคัญ คนๆนี้ชอบสอนผู้อื่นเรื่องการเขียนนิยาย

ยังกะเป็นนักเขียนชั้นครูจบมหาลัยชั้นนำประเทศ

สอนเก่งมาก แต่ตัวเองเขียนไม่เคยจบสักเรื่อง

0
สหายนักเขียน 21 ก.พ. 65 เวลา 09:39 น. 2

ถ้าจะให้ตอบ ก็ถือว่าเป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์แล้ว เรียนรู้ที่จะอยู่ในกระแส และสร้างรายได้จากกระแสในช่วงนั้น


การให้คำแนะนำก็ถือเป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่ที่มาให้คำแนะนำในบอร์ด ก็อาศัยจากประสบการณ์ที่เคยพบเจอมาก่อน สามารถอธิบายในมุมมองที่กว้างกว่านักเขียนมือใหม่


นักอ่านส่วนใหญ่เสพติดพล็อคเรื่องที่เขียนมากกว่า ถ้าเขียนไม่ดีนักอ่านจะจดจำชื่อ นามปากกา ถ้าเขียนแย่มากๆ แค่เห็นชื่อนามปากกาก็ไม่กดเข้าไปอ่านแล้ว อย่าถามหาถึง ความเป็นมืออาชีพ มันเปรียบเทียบกันไม่ได้กับคำนั้น ส่วนจะบัญญัติคำเรียกพวกเขาว่าอะไรนั้น ก็ตามที่สบายใจ


สุดท้าย ยอดวิว ยอดแฟ่บอยู่ไม่นาน ถ้าไม่ลบนิยายทิ้งมันก็ยังคงอยู่อย่างนั้น เงินจากการติดเหรียญคือของจริง ส่วนตำนานก็แค่เรื่องเล่า

0
yurinohanakotoba 21 ก.พ. 65 เวลา 09:58 น. 3

ผมคิดว่าถ้าเขาหาเงินจากงานเขียนได้ เรียกว่ามืออาชีพก็ไม่แปลกอะไร พอรู้ว่าเรื่องไหนทำเงินน้อยลง ก็เทไปเขียนเรื่องใหม่ตามกระแสเพื่อให้ได้เงินคุ้มกับการลงแรง ก็น่าจะเรียกว่ามืออาชีพนะ


แต่มืออาชีพก็มีหลายอย่าง เก่งไม่เก่ง มีวินัย ขี้เกียจ รับผิดชอบต่อผู้อ่าน มั่นหน้ามั่นโหนก แต่ผมก็มองแค่ว่าหาเงินพอเลี้ยงตัวเองจากงานเขียนนั้นละพอแล้วที่จะเรียกตัวเองว่ามืออาชีพ


ส่วนเรื่องการสอน นักอ่านก็สอนนักเขียนได้ มันไม่ไม่ควรสำคัญว่าคนสอนจะเป็นใคร แต่สำคัญที่เนื้อหาที่สอน มันมีประโยชน์ไหม เห็นว่ามีประโยชน์ก็ตักเข้าปาก ดูแล้วกินไปท่าจะท้องเสียก็เขี่ยไว้ข้างจาน

0
21 ก.พ. 65 เวลา 13:51 น. 4

หันกลับไปมองผู้เขียนนิยาย Index ที่เข็นเรื่องใหม่ออกมาทุกปีทั้งที่เรื่องเก่าก็ยังไม่จบสักเรื่อง แต่รายนี้เขาขยันจนกองบก.ต้องไล่ให้ไปพัก แต่ก็ยังไม่วายเอาเวลาไปเที่ยวบ่อน้ำร้อน เขียนนิยายเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก

0
Prist 21 ก.พ. 65 เวลา 20:09 น. 5

ไม่รู้ว่าเข้าใจ จขกท ถูกไหม


แต่...

ทักษะการวิจารณ์ กับ ทักษะการเขียนนิยาย มันไม่เหมือนกันนะ

(บางคนเขียนเก่ง แต่ให้คำแนะนำไม่เก่ง ใช้คำพูดไม่ดี ก็มีมากไป

คล้าย ๆ กับอาจารย์บางคนเก่ง มีความรู้ความสามารถ แต่สอนเด็กไม่เก่ง ก็มี...)

0
วัชรกาญจน์ 21 ก.พ. 65 เวลา 21:30 น. 6

ถ้าเขียนไม่จบ ดองไว้หลายเรื่อง ไม่เรียกว่ามืออาชีพครับ มืออาชีพต้องม่ีความรับผิดชอบ ยิ่งถ้ามีนักอ่านเสียเงินให้แล้วก็ควรรับผิดชอบให้จบ ส่วนเรื่องที่เค้าชอบสอน อาจเพราะมีแฟนคลับติดตามเยอะละมั้งครับ เลยมั่นใจในฝีมือ อยากสอน อันนี้ก็แล้วแต่เค้า


คนแบบนี้เรียกฝีมือการเขียนดี ก็พอครับ

0
TunKoB 23 ก.พ. 65 เวลา 02:52 น. 7

เวรกรรม ทำไมอ่านแล้วผมรู้สึกร้อนๆหนาวๆตัวครับเนี่ย 555 ตรงกับผมบางส่วนเลยนะครับ 1.ผมเขียนนิยาย สี่เรื่อง ดีหน่อยจบไปหนึ่ง ดองสอง กำลังพยายามทำให้จบอีกหนึ่งคือเรื่องปัจจุบัน


2.ผมเก็บเงิน หาเงินจากการเขียน แปะรายตอนให้นักอ่านเขาจ่ายอ่าน


3.แนวที่ผมเขียนคือแนวที่ผมชอบ แนวที่ผมชอบดันตรงตามกระแส ทะลุมิติ กำลังภายใน ระบบเกม ตัวเอกเก่ง 4 เรื่องของผมเขียนติด topหมวดหมด จบไปหนึ่ง ทุกเรื่องที่เขียนเป็นเรื่องยาว


4. ผมชอบสอนหรือแนะนำคนในบอร์ด อ่านแล้วมีความคิด ใช่ผมรึเปล่าวะเลย? จริงๆคงไม่ใช่มั้ง 55 ตอบในมุมมองผมนะครับเผื่อคนที่บอกเป็นผม


1.ผมไม่คิดว่าตัวเองเก่งจนเรียกได้ว่าเป็นมืออาชีพแล้ว เพราะความรับผิดชอบผมยังไม่พอ

2.ด้วยเพราะผมเขียนหาเงิน ผมมีความคาดหวัง เรื่องที่ปังสุดของผมเคยทำเงินได้เดือนละหลายหมื่น ส่วนเรื่องที่ดองบางเดือนได้เจ็ดแปดพัน ถ้าฝืนเขียนต่ออาจเหลือเดือนละสามพัน มันอยู่ไม่ได้ เสียเวลาแล้วอยู่ไม่ได้ ต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่ากิน มันอยู่ไม่ได้ครับ นิยายเรื่องยาวมันใช้เวลาเขียนหลายเดือนกว่าจะจบ จะให้ฝืนเขียนจนจบนักเขียนไม่มีจะกิน ในใจคิดตลอดว่าถ้ามีสักเรื่องที่ทำให้เราได้เงินมากพอจนทำให้ใช้ชีวิตสบายๆมีเวลาว่าง ผมจะกลับไปดันเรื่องเก่าที่ดองไว้ให้จบหมด




3.ทำไมผมถึงชอบสอนหรือแนะนำคนอื่นในบอร์ด? มันเริ่มจากตอนผมจะตัดสินใจเดินทางสายนักเขียนนิยายหาเงินเมื่อหลายปีก่อนโน่น ผมพยายามหาข้อมูลในบอร์ด หาข้อมูลทาง Google ว่าอาชีพนี้จะไปรอดไหม รายได้มันเท่าไหร่กันแน่ เขาทำกันยังไง ตอนนั้นผมกลัวไปหมด ผลคือผมไม่ได้คำตอบ ไม่มีข้อมูลพวกนี้ให้ผมหาเลย เพราะแบบนั้นตอนผมเห็นกระทู้ของมือใหม่ หรือใครที่เขาอยากจะเอาดีทางนี้ ผมจะไปแนะนำตามความเป็นจริงและประสบการณ์ที่ผมผ่านมาแบบไม่กั๊ก บางทีการพิมพ์แนะนำให้ข้อมูลของผมอาจจะดูแรงอาจด้วยเพราะลักษณะนิสัยส่วนตัว แต่ช่วงหลังผมก็พยายามเบาลงแล้วนะ 55หรือยังนะ? แต่มันคือประสบการณ์จริงที่อยากจะบอกเล่า ผมไม่ชอบแนะนำแบบให้ความหวังที่สวยหรูหรือให้กำลังใจใครในสิ่งที่ผมคิดว่าทำไปแล้วไม่ช่วยให้เขาได้ประโยชน์น่ะ


อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมกล้าสอนกล้าแนะนำเพราะผมมีความมั่นใจในระดับหนึ่ง จะเรียกว่ามั่นหน้ามั่นโหนกก็ได้ ผมไม่ได้มั่นใจว่านิยายผมดีที่สุดหรือเลิสเลออะไรนะ นิยายผม ผมยังคิดว่ามันเป็นนิยายไร้คุณภาพอยู่เลย แต่มันเป็นนิยายที่ผู้อ่าน อ่านแล้วสนุก ติดตลาด อยากอ่านต่อจนเขาจ่ายเงินให้ก็แค่นั้น ซึ่งจุดนี้ผมตีโจทย์เรื่องความสนุกและการเขียนออนไลน์ออก ผมเขียน 4 เรื่องติด top ทั้งหมด ผมรู้วิธี เพราะแบบนั้นผมเลยคิดว่าตัวเองพอจะมีคุณสมบัติในการให้คำแนะนำคนอื่นได้ระดับหนึ่ง ผมพอจะรู้ตัวนะว่าในบอร์ดมีคนไม่ชอบผมระดับหนึ่ง แต่อย่างน้อยสิ่งที่ผมพยายามจะทำพยายามจะสื่อ มันก็ไปถึงนักเขียนใหม่หลายคน เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีคน DM ส่งข้อความมาปรึกษาขอคำแนะนำและขอบคุณอยู่เรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ได้รู้สึกแย่หรือเสียใจที่มีคนไม่ชอบผม เพราะเจตนารมณ์ในการให้คำแนะนำของผมมันสื่อไปถึงมือใหม่หลายคนที่เคยรู้สึกกลัวเหมือนอย่างผมได้จริงๆ ปล.แค่ตอบในกรณีเผื่อคนที่หมายถึงคือผม ผมไม่ได้ซีอะไรนะตอนพิมพ์ ข้อความนี้ผมก็ยังยิ้มสนุกอยู่


เส้นทางนักเขียนของผมยังอีกไกลเลย ผมผ่านมาทั้งช่วงที่คิดว่าตัวเองกากสุดๆ กับช่วงที่ทำตัวเป็นคางคกตัวพองคิดว่าตัวเองแน่ [ตอนเรื่องสองผมปังสุดๆ เลยมั่นใจว่าหนทางสายนี้ง่าย] สุดท้ายประสบการณ์หลายอย่างมันก็สอนให้ผมรู้ เจอความล้มเหลว ความไม่สมหวัง มันก็ทำให้ผมกลับมามองและพัฒนาตัวเองต่อไปได้ ยังไงก็ขอให้ทุกคนสู้ๆในเส้นทางสายนี้ก็แล้วกันครับ

0