Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ประเพณีภาคกลางพิธีการกวนข้าวทิพย์

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


จุดสำคัญ

พิธีการกวนข้าวทิพย์ ประเพณีภาคกลาง ได้ยึดมั่นปฏิบัติเป็นขนบธรรมเนียมประเทศไทยสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตกาลจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ในกลุ่มของพุทธศาสนิกชนทั่วๆไป เพื่อรำลึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้าแล้วก็เรื่องราวนางสุชาดาได้กวนข้าวทิพย์ในวันขึ้น ๑๔ เย็น แล้วค่อยนำไปมอบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนจะรู้ ๑ วัน โดยนับว่ามีผลานิพระสงฆ์มากมาย ดังนั้นพุทธศาสนิกชนก็เลยพร้อมใจกันกวนข้าวทิพย์ เพื่อมอบให้เป็นพุทธบูชา ยกย่องพระเกียรติคุณด้วยความกตเวทิตากตเวทิตาธรรม ข้าวทิพย์ข้าวทิพย์นี้เช้าใจกันว่า เมื่อทำครบถ้วนสมบูรณ์ตามพิธีการแล้ว จะเป็นมงคลแก่ผู้ที่ทำและก็ลูกค้า ควรจะเซ่นสรวงอารักษ์ คนที่ได้บริโภคข้าวทิพย์แล้ว จะได้รับโชคลาภต่างๆนานา ไม่มีความเจ็บป่วย ภัยอันตราย เผชิญสิ่งที่เป็นมงคล

พิธีบูชา
วัตถุที่กวน ดังเช่น นมวัวสด (ปัจจุบันนี้ใช้นมข้นแทน) น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ชะเอมเทศ น้ำตาลกรวด น้ำตาลหม้อ ข้าวตอกแตก ข้าวเม่า เมล็ดพืชต่างๆที่คั่วสุก ถั่ว งา ลูกเดือย เม็ดแตง เผือกมัน เม็ดบัว มะพร้าวแก่ มะพร้าวอ่อน ผลไม้สด ผลไม้แห้ง อย่างเช่น มะม่วง กล้วย ทุเรียน ละลอด ลำไย ส้ม ขนุน ฯลฯ ดังนี้สุดแท้แต่ความเหมาะสมเท่าที่จะหาได้หรือปรับปรุงแก้ไขให้มีรสชาติ หอมหวาน อร่อย ตามความอยากได้ของผู้กวนในแต่ละแคว้น บางท้องที่บางทีอาจใช้ผลไม้ประเภทต่างๆที่มี การตระเตรียมการในพิธีการกวนข้าวทิพย์ จำต้องเตรียมพร้อมสิ่งจำเป็น ดังต่อไปนี้ จำเป็นต้องปลูกโรงพิธีการขึ้น ๑ ข้างหลัง ให้กว้างพอเหมาะพอควร เพื่อจัดโต๊ะบูชาพุทธรูป อาสน์สงฆ์ โต๊ะหมู่บูชาเทวรูป และก็ที่ซึ่งผู้เข้าร่วมพิธีการหมายถึงพราหมณ์ โหราจารย์ (คนที่มีความเข้าใจในพิธีบูชาอย่างยอดเยี่ยม) เทวดา เทพธิดา นางสุชาดา สาวพรหมจารี แล้วก็ทายก ทายิกา อื่นๆอีกมากมาย นั่งฟังสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ รวมทั้งก่อเตาตั้งกระทะกวนข้างในโรงพิธีการ หาพายสำหรับกวนกระทะละ ๓ เล่ม หาฟืนให้พอเพียงรวมทั้งตากให้แห้งสนิท โรงพิธีการลงสีขาว เครื่องประดับตกแต่งควรจะใช้เครื่องขาว ตั้งราชวัฏ ฉัตร ธง ผูกต้นกล้วย อ้อย อีกทั้ง ๔ มุม หรือครบ ๘ ด้านยิ่งดี แล้วชูศาลเพียงตาขึ้นไว้ภายในด้านที่เป็นศรีของวันหมายถึงด้านที่เทพเทวดาสถิตในวันกวน ตั้งของเซ่นเป็นหัวหมู บายศรี เป็ด ไก่ ของหวานต้มแดง ของหวานต้มขาว มะพร้าวอ่อน กล้วย และก็มีการจัดที่นั่ง การให้หมอดู นั่ง ๑ ที่ รวมทั้งจัดให้เทพรวมทั้งนางสวรรค์นั่งเข้าคิวหน้ากระดานดังต่อไปนี้
แถวที่ ๑ จัดให้พระพรหมมากับพระอินทร์นั่งด้านหน้า
แถวที่ ๒ มหาราชทั้งยังสี่
แถวที่ ๓ นางสวรรค์
แถวที่ ๔ นางสุชาดา นั่งด้านหน้าสาวพรหมจารี
- เตรียมตะลอมพอก หรือยอดเทพเจ้า ๖ ยอด ที่สมมุติว่าเป็นพระพรหมมา พระอินทร์ (ท้าวสักกะ) ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักข์ ท้าวเวสวัณ มงกุฎเทพธิดา ๔ แล้วก็มงคลสวมหัวสาวพรหมจารี ใช้มงคลเส้นด้ายแบบมงคล ตัดจุก หรือใช้ดอกมะลิร้อยให้เป็นวงกลม เรียก มงคลดอกไม้ ให้ครบปริมาณเตาละ ๒ คน สมมุติว่าเป็นบริวารของนางสุชาดา

ศาสนพิธีการ
จัดหิ้งบูชา ๒ ที่ เป็น
-โต๊ะหมู่บูชาพุทธรูปหันหน้าไปทางทิศตะวันออก หรือทิศเหนือ หากสถานที่ไม่อวย มีไม้มหาโพธิ์ใส่กระถางตั้งไว้ข้างหลังพุทธรูป องค์ประกอบอื่นเสมือนการก่อตั้งโต๊ะหมู่ทั่วๆไป
-โต๊ะหมู่เทวรูป มีพรหม พระอิศวร พระนารายณ์ ฯลฯ แล้วแต่จะหาได้ พระฤาษี ๕ ตน ถ้าหากหายากก็จำเป็นต้องให้ได้ขั้นต่ำ ๑ ตน สมมุติเป็นฤาษีกไลยโกฏ มีของเซ่นเหมือนกัน ก่อตั้งอาสน์พระสงฆ์ทางด้านซ้ายของโต๊ะบูชาพุทธรูปให้สูงขึ้นมากยิ่งกว่าพื้นที่สัปผู้ชายทายกทายิกา และก็ผู้เข้าร่วมพิธีการนั่ง

การแต่งกาย
โหร นุ่งผ้าขาวโจงกระเบน ใส่เสื้อชั้นในชั้นนอกสีขาว แขนยาว มีผ้าสไบเฉียง ๑ ผืน หากมีครุยให้ใส่เสื้อชุดครุยแทนผ้าสไบ ส่วนทวยเทพเทวดาก็แต่งตัวราวกับผู้ทำนาย เทพธิดา ควรที่จะทำการเลือกสตรีสาวรูปงาม นุ่งผ้าจีบ คลุมผ้าสไบ ใส่มงกุฎนางสุชาดาแล้วก็สาวพรหมจารี แต่งชุดขาวทั้งยังชุด นุ่งผ้าจีบ คลุมผ้าสไบ โดยนางสุชาดาต้องเป็นหญิงที่มีผัวแล้ว แม้กระนั้นสาวพรหมจารีควรจะเป็นเด็กสาวที่ยังไม่มีระดู หรือสตรีที่ยังไม่เคยจำต้องร่วมรัก แล้วก็จำเป็นต้องไหว้พระเป็นและก็รับศีลได้ แต่ว่าจะพบว่าปัจจุบันนี้ ความเคร่งในหัวข้อการแต่งตัวได้ต่ำลง เพราะเหตุว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ผู้เข้าร่วมพิธีการก็เลยแต่งตัวงามตามแฟชั่นแทนก็มี

พระปริตรใช้สวดมนตร์ในพิธีการ ยกตัวอย่างเช่น เจ็ดตำนาน พระธรรมกัปปวัตนสูตร และก็มหาสมยสูตร เจ็ดตำนานกับพระธรรมกัปปวัตนสูตรใช้สวดมนตร์ก่อนประกอบพิธีกวน มหาสมยสูตรสวดมนตร์เมื่อกำลังกวน พิณพาทย์และก็ฆ้องชัย พิณพาทย์เล่นเพลงก่อนหน้าเจริญพระพุทธมนต์แล เมื่อจบแล้ว เมื่อสวมตะลอมพอกหรือสวมยอดมงกุฎแลมงคล เมื่อพระภิกษุพรมน้ำมนต์ เมื่อออกเวียนขวารอบโรงพิธีการ แล้วก็เมื่อเทนมหรือเครื่องกวนลงในกระทะ ฆ้องชัยตีเมื่อประกาศชักชวนเทพดา เมื่อสงฆ์สวดมนต์ไหว้พระจบทุกๆบท เมื่อสวมตะลอมพอกมงกุฎแลมงคล และก็เมื่อนางสุชาดาเทนมรวมทั้งเครื่องกวนลงในกระทะ

ระบุพิธีการ  ในโบราณกาลจะประกอบพิธี ๒ วัน เป็น
พิธีการช่วงเย็น มีการสวดมนตร์พระพุทธมนต์ (สวดมนต์ไหว้พระเย็น) ในวันขึ้น ๑๓ เย็น เดือน ๖ พระเจริญพระพุทธมนต์เจ็ดตำนานแล้วก็พระธรรมฯ

พิธีการรุ่งอรุณ วันขึ้น ๑๔ เย็น เดือน ๖ ครั้งก่อนกำลังจะถึงเวลากวน จะมีพิธีการพราหมณ์และก็พิธีการพระสงฆ์รวมกัน และก็จะกระทำการกวนจนถึงเสร็จ ในเรื่องที่มีการกวนเยอะแยะหลายกระทะ เพียงพอรุ่งอรุณวันขึ้น ๑๕ เย็น เดือน ๖ จัดมอบให้เป็นพุทธบูชาแล้วก็มอบพระ
ในตอนนี้นิยมทำเสร็จข้างในวันเดียวหมายถึงวันขึ้น ๑๔ เย็น เดือน ๖ ช่วงเวลาเช้าจะมีการเจริญพระพุทธมนต์ และก็พิธีการต่างๆทั้งยังพิธีการพราหมณ์รวมทั้งพุทธ ต่อจากนั้นก็จะประกอบพิธีกวนไปจนถึงเสร็จ ซึ่งบางทีอาจสำเร็จในช่วงเวลากลางคืน เพียงพอเช้าวันขึ้น ๑๕ เย็น เดือน ๖ ก็จะประกอบพิธีมอบให้เป็นพุทธบูชา มอบพระรวมทั้งจ่ายแจกแก่ผู้ร่วมพิธีการหรือคนทั่วๆไป

สาระประเพณีไทย 
ขนบธรรมเนียมกวนข้าวทิพย์จะเสร็จได้จำต้องอาศัยความเชื่อถือความศรัทธาที่ยังมีอยู่ของพสกนิกรทั่วๆไป และก็หัวหน้าในชุมชนที่จะร่วมมือกันสงวนจารีตประเพณีนี้ไว้ เนื่องจากว่าจำเป็นต้องใช้ความร่วมแรงร่วมมือพร้อมใจของพลเมืองจำนวนไม่ใช่น้อย สำหรับเพื่อการจัดแจง การจัดหาวัสดุอุปกรณ์สำหรับเพื่อการกวน แรงงานสำหรับในการกวน รวมทั้งการจัดเตรียม โดยเฉพาะเงินที่ใช้เพื่อการจัดซื้อหาข้าวของต่างๆเยอะๆ ด้วยเหตุผลข้างต้นในขณะนี้บางวัด บางท้องที่ก็เลยเลิกขนบธรรมเนียมกวนข้าวทิพย์นี้ไป เนื่องจากขาดความพร้อมเพรียงในหัวข้อต่างๆ

อ้างอิง:
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย: 
https://www.lovethailand.org/travel/th/
ที่เที่ยวกรุงเทพ ที่เที่ยวกาญจบุรี ที่เที่ยวยะลา ที่เที่ยวปัตตานี ที่เที่ยนราธิวาส
ประเพณีไทย ประเพณีภาคเหนือ ประเพณีภาคกลาง ประเพณีภาคใต้
อาหารภาคเหนือ ประเทศไทย
 

แสดงความคิดเห็น