คนไทยเชื้อสายจีนแต่งนิยายจีนเก่งรึเปล่า เทียบกับคนไทยทั่วไป
ตั้งกระทู้ใหม่
คนไทยที่มีครอบครัวเป็นชาวจีนอพยพมาที่ไทยหลายรุ่น เขียนนิยายจีนเก่งขึ้นแค่ไหน เทียบกับคนไทยที่ไม่เกิดในครอบครัวจีน
17 ความคิดเห็น
เธอจะเทียบไปทำไมรึ
ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย ตรรกกะอะไรนี่ คนไทยเชื้อสายจีนไม่ใช่คนจีน วัฒนธรรม ความเชื่อ ไม่ได้เหมือนคนจีน ต่อให้บรรพบุรุษเขาอพยพมาจากจีน เมื่อเวลาผ่านไปวัฒนธรรมความเชื่อต่างๆ มันก็เปลี่ยน มันก็ไปหลอมรวมกับไทย ไม่ใช่ว่ามีเชื้อจีนแล้วต้องรู้เรื่องเมืองจีนสักหน่อยไหม
ทำไมต้องเทียบอ่ะคะ แต่งเก่งหรือไม่เก่งมันอยู่ที่สกิลและการหาความรู้หรือเปล่า ไม่ใช่ว่ามีเชื้อจีนแล้วต้องแต่งนิยายจีนเก่งเสมอไปนะคะ ถ้าคุณไม่รู้แล้วหาความรู้เพิ่มต่อให้ไม่ได้มีเชื้อสายมันก็แต่งได้แหละ ไม่เทียบเนอะ!
ไม่น่าจะเกี่ยวนะ คนเขียนเก่งต่อให้ไม่มีเชื้อสายจีนเลยก็เก่ง ขอแค่ขยันหาข้อมูล ไม่ว่าใครก็เขียนได้ทั้งนั้นแหละ จากใจเลยนะ คนไทยเชื้อสายจีนไม่ได้รู้เรื่องอะไรในจีนเท่าไหร่หรอก เกิดในในไทยก็ใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนไทยนี่แหละ
ไม่ครับ ผมนี่แหละคนหนึ่งทีี่ง่อยการเขียนแนวนี้ที่สุด
มันเกี่ยวเทียบได้อะไรตรงไหน ในเมื่อทักษะการเขียนอ่านมันอยู่ที่บุคคล แถมคนไทยก็คือไทย อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เป็นไทยมากกว่าอยู่แล้ว
ไม่เกี่ยว แต่อาจจะได้เปรียบเรื่องภาษา ที่แน่นอนว่าคงจะรู้เยอะกว่าคนไทยทั่วไปอยู่ล่ะ
นิยายจีนที่ฮิต ๆ กันทุกวันนี้มันจีนกลางอะครับ เชื้อสายจีนในไทยเรานี่แต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน ไหหลำ จีนกลางน้อยโคตร (แถมความรู้ที่ได้จากทางบ้านนี่ก็แค่คำบางคำกะรู้ธรรมเนียมวันไหว้เจ้า ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายขนาดนั้น แล้วแต่ด้วยว่าบ้านไหนเคร่งไม่เคร่ง บางบ้านช่างแม่งกะประเพณีทำตัวประหนึ่งไทยแท้เลยก็มี) ถ้าจะเอามาอิงแต่งนิยายได้จริง ๆ ก็พวกสำนวนท่าทีการพูดกับ Character มั้งครับ ได้นิดเดียว ส่วนใหญ่ถ้าจะแต่งก็ต้องทำการบ้านเอามากกว่า
เราเป็นคนไทยเชื้อสายจีน 100% ก็เขียนเก่งแบบปกตินะคะ
ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ชอบเม้นต์นี้จังเลยค่ะ
อ่านแล้วนะ ทำให้หัวเราะได้เลยด้วย
สวัสดีค่ะ มัณทนา
แบบที่คุณว่า(เก่งเป็นปรกติ) หรือในแบบที่คุณเป็น(เป็นเชื้อสายจีน 100 %)นี้นะคะ อาจจะความโชคดีที่คุณเกิดมามีพรสวรรค์แน่ ๆ เลยด้วย คุณจึงเขียนเก่งได้เป็นปรกติ
(เพราะหลาย ๆ ที่เขาเป็นเชื้อสายจีน เขาก็ไม่เก่งได้ในปรกติของเขานะคะ แต่เขาต้องฝึก ต้องเรียนรู้ ต้องอ่านมาเยอะ ต้องหาข้อมูล ต้องฝึกภาษา คือต้องทำงานหนักเพื่อได้ศิลปะการเขียนที่ดีนี้มาค่ะ)
คือจริงแล้วนะคนที่มีพรสวรรค์ ไม่ว่าจะเกิดมาเชื้อสายใด เขาก็จะเก่งได้อย่างแน่นอนค่ะ(คือคงไม่เฉพาะสายเลือดจีนนะคะ)
เพียงแต่ในวัฒนธรรมจีนส่วนใหญ่ มีการยึดถือวัฒนธรรมที่เขาทั้งหลายรักที่จะปลูกฝังลูกหลานของตนในการที่ต้องรัการเล่าเรียน ในเรื่องของศิลป์ ศิลปะในแขนงต่าง ๆ ไม่ว่าเรื่องวาด เรื่องเขียน การรักการอ่าน หรือแม้การตีความจากสิ่งต่าง ๆ โดยรอบในธรรมชาติเป็นต้น คือสอนให้ตีความในรูปแบบปรัชญา คือสอนให้มองทุกอย่างให้เป็นศิลป์ ให้เห็นเป็นธรรม ให้เห็นเป็นธรรมชาติ ให้เป็นความสวยงามตามธรรมชาติ ที่สิ่งต่าง ๆ นั้นเป็น และทั้งหมดนี้...คือเกิดเป็นธรรมชาติของผู้มีศิลป์นะคะ
ทั้งนี้ บ่อย ๆ จึงการเกิดเป็นปราชญ์
(หรือเกิดเป็นเซียนขึ้นมาหลายยุค หลายชั่วคน)
ทั้งหมดนี้ จึงยังคงมีอยู่...และสืบสานกันช้านานมา คือทั้งหมดนี้คือเป็นคล้ายวัฒนธรรมของชนชาวจีน ที่มีการยึดถือในเรื่องของศิลป์ ศิลปะ ในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องของงานเขียน งานวาดนั้นดูจะเป็นศิลปะที่คนชีนยึดถือในการที่จะปลูกฝังเยาวชนของเขาเป็นสำคัญ และทั้งหมดนี้เขาได้ทำตาม ๆ กันมาหลาย ๆ ชั่วคน ทั้งหมดนี้ ที่อาจจะแตกต่างจากชนชาติอื่น ๆ แบบนั้นนะคะ
เราเป็นคนไทยเชื้อสายจีน 100% ก็เขียนเก่งแบบปกตินะคะ
ทั้งนี้คุณน่าจะมีพรสวรรค์ด้วยค่ะ
แบบนี้แล้ว สายเลือดจีน(เพียงแต่มีผสมหลายสายเลือดเข้าไป)ด้วยกัน(เจ้าของเม้นต์ แต่ก็รู้สึกด้วยว่าเลือดของจีนก็ยังเข้มอยู่ค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า) คงต้องกล่าวคำว่า (ซูฮก) ขอแสดงความยินดีด้วยกับคุณด้วยค่ะ
ทักษะการเขียนและแต่งนิยายเป็นเรื่องของส่วนบุคคล
มันเอาชาติพันธ์ุเทียบความเก่งกันได้ด้วยเหรอ
ไม่มั่นใจว่าเจ้าของกระทู้จะสื่ออะไร
แต่ที่แน่ๆ เจ. เค. โรว์ลิง ไม่ใช่ชาวไทยเชื้อจีนและชาวไทยแท้แน่นอน
และฉันก็อยากขายดีแบบนาง
เราว่าไม่น่าเกี่ยวสิ่งสำคัญคือประสบการณ์ของคนๆนั้นๆ เพราะการกลั่นกรองออกมาให้เป็นนิยายจีนสำนวนโบราณแต่คนไทยก็ต้องอ่านแล้วเข้าใจมันก็ต้องค้นคว้าหาความรู้มาประกอบทั้งนั้น ให้คนจีนมาแต่งนิยายจีนให้เป็นภาษาไทยก็ต้องผ่านการกลั่นกรองสำนวนเช่นกัน
อ่านแล้วจู่ๆ ก็นึกถึงพวกร้านอาหารกับกิจการต่างๆ ที่คนจีนก่อตั้งไว้ ผ่านไป 3-4 รุ่นมักคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไปไม่ได้ หลายเจ้าที่ต้องขาดคนสืบทอด เพราะลูกหลานไม่อิน/ไม่ชอบกิจการที่ทำอยู่ หรือไม่ครอบครัวก็ไม่ต้องการให้ลูกหลานลำบากก็เลยไม่สอนวิชาให้ สุดท้ายก็ล้มหายตายจากกันไป
เมื่อเป็นอย่างนี้ คนไทยเชื้อสายจีนที่ไม่อินกับความเป็นจีนก็มีเยอะแยะ หลายคนไม่ได้สืบทอดประเพณีจีนของบรรพบุรุษแล้วด้วยซ้ำ คงเหลือไว้เพียงพิธีการไม่กี่อย่างกับคำเรียกบุคคลในครอบครัว ซึ่งก็เป็นไปตามแต่ละเชื้อสายบรรพบุรุษ ไม่ใช่จีนแมนดารินแผ่นดินใหญ่/ที่ สนพ.ไทยนิยมนำนิยายมาตีพิมพ์ในปัจจุบัน
การเขียนก็เหมือนกัน ไม่ว่าจะเชื้อชาติไหน อาศัยอยู่ในประเทศใด จะเขียนนิยายดีหรือไม่ดี มันอยู่ที่การค้นคว้าและฝีมือของแต่ละคน คนไทยเชื้อสายจีนก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเขียนนิยายจีนได้ กระทั่งนักเขียนจีนที่เขียนนิยายจีนก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเขียนดีและเชี่ยวชาญ
ดังนั้น...เปรียบไปทำไมเหรอ? เปรียบแล้วจะรู้สึกว่าเก่งกว่าหรือด้อยกว่าหรืออย่างไร?
ปล.รู้นะว่ากิจการการค้า/ขายอาหารมันคนละบริบทกับงานเขียน เปรียบกันไม่ได้ แต่มันอดคิดถึงไม่ได้จริงๆ
ปล.2 จขกท.จะกลับมาตอบกระทู้มั้ยนะ หรือจะเหมือนนอนเมมคนอื่นๆ ที่มาไข่ทิ้งไว้ให้คนเมนต์แล้วก็หายไป นานทีจะมีคำถามที่สงสัยและอยากได้คำตอบน่ะนะ
เอ่อ... มันเกี่ยวด้วยเหรอครับ???
ผมคิดว่าไม่น่าเกี่ยวข้อง ขนาดทุกวันนี้คนไทยเชื้อสายจีนมากกว่า 90% ยังพูดภาษาจีนไม่ได้เลย
ผมว่าขึ้นอยู่กับเวลาในการเขียนที่มีมาก ความขยัน และสมองที่จะเรียบเรียงไวยากรณ์มากกว่า และผมก็เห็นมีหลายคนที่ปั่นงานวันนึงได้หลายตอน แถมเป็นตอนที่มีเนื้อหายาวด้วย ไม่ใช่มีเพียงแค่หายใจฟืดเดียวก็อ่านจบแล้ว
เราเศษ 1/4 จีนเรายังไม่เขียนนิยายจีนและไม่มีทักษะนั้นเลยด้้วย
นี่ก็เสี้ยวจีนเหมือนกัน จะบอกว่าชอบอ่านนิยายจีนมาก ๆ อาจเป็นเพราะโหยหาอดีตของบรรพบุรุษหรือเปล่า น่าคิดนะ
มีอาตี๋ที่ไม่รู้เรื่องเช็งเม้ง ตรุษจีน ฯลฯ (ตัวจีนอย่าไปถาม) แซ่ก็ไม่รู้ออกเสียงถูกรึเปล่า
แวะเข้ามาฟังเฉย ๆ ค่ะ
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?