Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ใครเคยล้มบ้างคะ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่

ใครเคยล้มในโซเชียลบ้างคะ ประมาณว่าพิมพ์แสดงความคิดเห็นอะไรสักอย่างที่ผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคน จนโดนทัวร์ลง โดนรุมด่าหยาบๆแรงๆ มีวิธีแก้ไขอย่างไรได้บ้างคะ

แสดงความคิดเห็น

>

16 ความคิดเห็น

omen 1 ธ.ค. 66 เวลา 23:40 น. 1

Own it


ยอมรับมันครับผม


ไม่ใช่หมายถึงเถียงหัวชนฝา

แต่คือพยายามทำความเข้าใจตนเองก่อนว่าตอนนั้นเราคิดอะไร

มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ตัวเราพิมพ์เช่นนั้น


และอะไรที่ทำให้เราเลปี่ยนความคิดไป?



อย่างเช่นความเห็นของผมต่อต้านการทำแท้ง


แนวสายดลกเสรีนั้นสามารถไม่พอใจและด่าผมได้


แต่จุดยืน ของตนเองมันต้องมีว่า แนวคิดเหตุผลของเรายังคงเดิมไหม เมือ่ได้เจอแนวคิดของอีกฝ่ายที่มาว่าเราแล้ว?

ไม่ได้แนะนำให้หัวแข็งไม่ยอมเปลี่ยนความคิดเห็นครับ


แต่ให้ลองพิจารณาว่าเหตุผลของอีกฝ่ายนั้นสมเหตุสมผลกว่าของเราหรือไม่?



ผมว่าการเติบโตทางแนวคิดของเราต้องออกไปให้โดนว่า โดนด่านี่ล่ะครับ


หากเรียนปริญญานี่คือวิธีการของนักวิชาการ

ที่จะโดนอาจารย์ต่างๆซักถาม

เราต้องตอบทุกอย่างที่อาจารย์ถามมาให้ได้ด้วยเหตุผลว่าทำไมเราถึงมีแนวคิดเช่นนี้ในการทำวิทยานิพนธ์ของเรา



มันมีสาเหตุอยู่ที่นักวิชาการ อาจารย์ต่างๆจะดูหยิ่งๆครับ


เพราะพวกเขาผ่านการซักถามขนาดหนักมาจนเป็นคนที่กล้าแกร่งในการยืนยันความคิดตนเองมากกว่าคนทั่วไป

0
หมอชมม่าน 2 ธ.ค. 66 เวลา 00:22 น. 2

ทำเหมือนหมอชลนานครับ พยายามพูดเบี่ยงเบนประเด็น ชักแม่น้ำทั้งให้ให้คนไขว้เขว ให้ดูเหมือนว่าเราไม่ได้ผิด แล้วเราจะไม่รู้สึกผิดเองครับ

0
ำดไ 2 ธ.ค. 66 เวลา 01:10 น. 3

แคร์ทำไมกับทัว ทัวเฮียๆก็มีอยู่เยอะ ก็แค่คนมาถกเถียงกัน ถ้าเอาเราอยู่ในแสงแค่ขอโทษให้มันจบๆ อย่าเอาพิมเสมไปแลกกับเกลือ แต่ถ้าให้ที่มึดเหมือนกันก็จัดซิ ยอมทำมะเขืออะไร


ผ่านมาเยอะทำทัวแหกโค้งก็มาก คิดว่าเป็นการฝึกฝีมือ นักเขียนต้องมองให้เป็นหลายมุม แล้วแถต้องเก่งด้วย ถ้าคุณไต่ตรองดีแล้วไม่มีผลกระอะไรมากมาย แนะนะให้ตอบโต้ คิดเสียว่าเป็นการโต้วาที

0
Zeren Z. 2 ธ.ค. 66 เวลา 03:00 น. 4

มันมีผลกระทบในแง่ร้ายกับคนอื่นไหมคะ ถ้ามีก็ขอโทษและแก้ไข ถ้าไม่มีก็ช่างหัวมันไปค่ะ


เราแสดงคคห.ในที่แจ้ง ก็ต้องเตรียมใจไว้สำหรับเจอคนที่ไม่เห็นด้วยกับเราเป็นเรื่องปกติ ความเห็นไม่ตรงกันก็จะเกิดการโต้แย้ง ถกเถียง เป็นเรื่องธรรมดา คนบางคนก็แก่วัด อีโก้สูง สักแต่จะเมนต์อวดรู้ โชว์ตัวอีโก้เองจนไม่คิดว่าจะกระเทือนถึงความรู้สึกใครบ้าง ก็ปล่อยให้เขาอวดไป ถือว่าทำบุญให้กับคนที่หาความสุขในชีิวิตไม่ได้ ซึ่งถ้าอ่านข้อความโต้แย้งต่าง ๆ แล้วจิตเสื่อมก็ไม่ต้องอ่านค่ะ


ไม่มีอะไรที่จะทำร้ายให้เราจิตตก เครียด และเป็นกังวลได้เท่ากับความคิดกังวลของตัวเราเอง ยิ่งอ่านก็จะยิ่งคิด เพราะฉะนั้นไม่ต้องสนใจ ไม่ต้องอ่าน วางมือถือแล้วเอาตัวเองออกมาจากโลกโซเซี่ยลบ้าง แล้วจะรู้ว่าคอมเมนต์ในโซเซี่ยลมันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ไม่มีค่าอะไรจะให้เราต้องไปใส่ใจขนาดนั้นค่ะ


หาคนคุยด้วยรอบตัวที่มีนิสัยชอบเติมพลังบวกให้คนอื่น หาคนไม่ได้ก็ไปหาแมวก็ได้ คุยตลกโปกฮากันไปก็จะทำให้หายเครียดได้เร็วยิ่งขึ้นค่ะ

0
ไอโอของโรจน์ 2 ธ.ค. 66 เวลา 07:43 น. 5

หน้าด้านเหมือนวิโรจน์ หรือรังสิมันต์ โรม ก็พอ โดนจับได้ว่าทำไอโอ หรือตั๋วปารีส โกหกหน้าด้านๆ ชักศึกเข้าย้าน มีหลักฐานคามือ ก็ทำเป็นไม่ตอบ บ่ายเบี่ยง ใช้ตรรกะวิบัติเถียงแถๆ กลับไปเรื่อยๆ อย่าลืมอ้างสิทธิเสรีภาพ ความเสมอภาคและประชาธิปไตย จะได้ดูสูงส่งและเป็นผู้ถูกต้องเสมอ

0
สหายนักเขียน 2 ธ.ค. 66 เวลา 09:30 น. 6

ถือเป็นบทเรียนชีวิต และสอนตัวเองให้รู้ว่า ต้องเผือกเรื่องชาวบ้านอย่างมีสติ อย่าปากไวมือลั่น เดี๋ยวจะสำนึกผิดไม่ทัน

0
Hoshisora 2 ธ.ค. 66 เวลา 15:18 น. 7

ถ้าเรื่องไหนเราพลาดจริง ก็ยอมรับคับ มันจะทำให้เราโตขึ้น


แต่ถ้าเรื่องไหนเราถูก ก็สู้เต็มที่คับ เถียงมาเถียงกลับ ด้วยหลักฐานและข้อเท็จจริง


แต่ใดๆ คือ คุณควรรู้ว่า ควร "หยุด" ตอนไหน


ถ้าเป็นดราม่าในเฟส เต็มที่เลยผมให้ 1 วัน คือถ้า 1 วันยังเถียงกันไม่จบ ไม่ว่าใครจะถูกจะผิด ก็จะปิดการแจ้งเตือนไปเลย คือหลังจากนั้นไม่ว่าใครจะโพสต์อะไรอีกก็จะไม่ตามแล้ว ปล่อยให้มันจบๆ ไป


เพราะถ้าคุณไม่ทำงั้น วันๆ ก็ไม่ต้องทำไรคับ ได้แค่ตามล้างตามเช็ดเรื่องพวกนี้ล่ะ คนบางคน ก็ไม่ได้ฉลาดพอที่จะรู้ว่าตัวเองไม่ฉลาด เพราะงั้นเค้าก็จะเถียงเราไปเรื่อยๆ เถียงแพ้เรื่องนึงก็จะหาเรื่องอื่นมาเถียงต่อ ไปจบไม่สิ้นสักที


เพราะงั้นถ้ามันหยุดได้ ก็หยุดที่เราคับ ช่างหัวมันบ้าง ชีวิตจะสงบสุขขึ้นเยอะคับ

0
White Frangipani 2 ธ.ค. 66 เวลา 17:37 น. 8


ใครเคยล้มบ้างคะ

สวัสดีค่ะ คุณเจ้าของกระทู้


เม้นต์นี้เข้ามาช่วยตอบให้คุณเป็นอีกหนึ่งเสียงนะคะ

(และเม้นต์นี้ ก็ดูน่าจะเป็นเม้นต์ที่ยาวมาก ตามปรกติค่ะ เพราะเหตุการณ์ที่คุณถามเข้ามานี้นะคะ มีองค์ประกอบมากมายทั้งในสาเหตุของการเกิด...และเพื่อการหลีกหลี่ยง หรือปกป้องนะคะ)


จากคำถามที่เป็นหัวข้อประเด็นของคุณนะคะ คือ ใครเคยล้มบ้างคะ แท้จริงแล้วนะ คำว่า ล้ม ซึ่งคำว่าล้ม ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของคนนี้นะคะ ดูจะเป็นอะไรที่ร้ายแรงพอดูนะคะ สำหรับผู้ที่ถูกกระทำ


คำว่า คนล้ม จากการที่ถูกกระทำ ก็คือไม่ต่างจากเขาคนนั้น ๆ ยํ่าแย่ทั้งจิตใจและร่างกายนะคะ คือเขาผู้นั้นถูกกระทำ...ในแบบทัวร์ลง ในแบบถูกยํ่่ายีด้วยคำพูดผ่านการพิมพ์ ด้วยคำต่าง ๆ ที่อาจจะเป็นคำที่ทำร้ายจิตใจของเขา จนเขามีอันล้มลง ซึ่งในเหตุการณ์เช่นนี้นะคะ เพียงหลับตาลง และระลึกลงไปเพื่อมองภาพ ก็สามารถเห็นได้ว่าเป็นอะไรที่ยํ่าแย่ และเลวร้ายมาก ๆ ที่คนหลายยๆๆๆ คนในวันนี้กระทำต่อกันค่ะ


คนเรานี้หนา สามารถทำร้ายกันและกันได้ทุกวิธี นั้นเป็นความจริง หากเมื่อใดที่คนเรานะที่ไร้ซึ่งจิตสำนึก และไร้ซึ่งสติ และเขาเหล่านั้นอยากจะทำร้ายกันนะ คนเรานี้สามารถใช้ทุกอย่างเป็นอาวุธได้ เพื่อการทำร้ายกัน จริงด้วยดิเนาะ แย่จริงๆ

(ไม่ต่างเดรฉานจริง ๆ ด้วย ทำร้ายกันด้วยวิธีต่าง ๆ นานา ทั้งที่เกิดมาในธรรมชาติที่เป็นสัตว์มนุษย์ ซึ่งแท้จริงในธรรมชาติของสัตว์มนุษย์นะมีจิตสำนึก มีสติมาด้วย แต่นะ ก็ไม่เสมอไปที่ธรรมชาติอันดีนี้มันทำงาน ทั้งนี้เพราะทุกอย่างเป็นธรรมชาติด้วยเช่นกัน การที่จิตสำนึก หรือสติในคนไม่ทำงาน นั้นก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ เป็นธรรมดาด้วยเช่นกัน แต่ผลที่อออกมา มันทำให้ทุกอย่างแย่เนาะ และในเหตุการณ์ดังกล่าวนี้หรือ ก็เป็นสาเหตุทำให้ผู้คนมากมายถูกทำร้ายจิตใจจนยํ่าแย่ และเมื่อจิตใจยํ่าแย่ แน่นอนร่างกายก็พลอยยํ่าแย่ตามไปด้วย เพราะร่างกายกับจิตใจนะ มันมีส่วนร่วมกันชนิดเลี่ยงไม่ได้ บางคนเจอดราม่าหนัก ๆ ถูกทำร้ายจิตใจด้วยคำที่ยํ่าแย่จนนอนไม่ได้ กินไม่ได้ เกิดเป็นอาการโรคเครียด เป็นความกดดัน เป็นโรคร้ายลุกลาม )


ใครเคยล้มบ้างคะ


คำตอบที่มีให้คุณที่เป็นหนึ่งเสียงนี้นะคะ คือโดยส่วนตัวไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ คืออาการล้ม เพราะการถกเถียง ด้วยคำต่าง ๆ ผ่านการเม้นต์ การพิมพ์ หรือผ่านการสื่อสารผ่านตัวหนังสือนะคะ โดยส่วนตัวไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ และ ไม่รู้สึกว่าผู้ที่เราสนทนาด้วยนั้นต้องการทำร้ายเราเพื่อให้เราล้ม หรือเพื่อให้เราเจ็บ เพราะเขาขาดสติ หรือเพราะเขาทั้งหลายไร้จิตสำนึกนั้นไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ


อาจจะมีบ้างเป็นธรรมดาที่มีการถกเถียง มีการดีเบท มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมอง ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่คนเราเห็นต่างกันได้ แต่ในรูปแบบที่ว่าเขาทั้งหลายป่าเถื่อน อมหิตผิดมนุษย์มนา และใช้คำต่าง ๆ ได้ผิดมนุษยษ์เพื่อทำร้ายเรา จนเราล้ม นั้นไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ


อาจจะเพราะเรามีภูมิต้านทานดี ก็อาจจะมีส่วนค่ะ ยิง แทงยังไม่เข้า อันลมปากของคนหรื๊อจักทำร้ายเราได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตรงนี้กล่าวเล่น ๆ สนุก ๆ เพราะอารมณ์ดีเท่านั้นนะคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png


คือโดยรวมแล้ว ในเหตุดังที่ว่า ถกเถียงกันจนเราล้ม...นั้นไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ


ถ้าหากรู้สึกว่าการถกเถียงนั้น ๆ เริ่มจะหลุดประเด็น และพูดกันไม่รู้เรื่อง ก็คือหยุดค่ะ ถือคติที่ว่าเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่องได้ ไม่เข้าใจกันได้ สื่อสารกันไม่รู้เรื่องก็ต้องหยุด และต่างคนต่างอยู่ คิดเช่นนี้ก็จบค่ะ และจบในที่นี้ คือไม่มีอะไรติดค้างจิตใจกันนะคะ หรือเขาจะติดค้างกับเรานั้นก็เรื่องของเค้า เราไม่เกี่ยวแล้ว คือเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง ยอมรับความเห็นที่อาจจะมีความแตกต่างจากกันไม่ได้ ก็จบ คือเราเองจบค่ะ


สรุปคคือ ไม่เคยล้มเพราะลมปากของคนค่ะ

(ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะอยากจะช่วยออกความคิดเห็นว่า เพราะเธอด้าน เพราะเธอหนาก็ได้นะ ฮ่า ฮ่า ฮ่าhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png แต่จริงแล้วหากจะใช้คำที่ไพเราะ และถูกต้องกว่า คือ เพราะเธอมีภูมิต้านทานดีนะคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่าhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png)


ด้วยที่มีหลักความคิดดังที่ว่า ถ้าจะต้องล้มเพียงลมปากของคนนะ เรานะจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรกัน เพราะแท้จริงแล้วนะชีวิตนี้นะ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ มีองค์ประกอบมากมายนะ คือเราต้องหนักแน่น เราต้องมีเหตุผลเป็นของตนเอง เราต้องมีจุดยืนที่มั่นคงเป็นของตัวเอง นั้นต้องมีอยู่เป็นพื้นฐาน เป็นสำคัญ ในการดำรงไปในทุกวันนะ


คือคิดเช่นนี้ค่ะ เข้าใจด้วยว่าคนเราปรกติแล้วนะ ผู้ที่มีจิตสำนึก เขาจะสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ เขาทั้งหลาย หรือเรา ๆ จะมีโอกาสพูด คุยกันมากมายเพียงไรก็ไม่มีวันที่จะทำให้คู่สนทนาล้มได้อย่างแน่นอน หากแต่การถก การเถียง การแลกเปลี่ยน การดีเบทจากผู้ที่มีหลักการ ผู้ที่มีประสบการณ์ ผู้ที่มีเหตุผล จากผู้รู้ จากผู้ที่มีสตินะ ยิ่งเราถกกันมากเพียงไรยิ่งจะเกิดเป็นความรู้ ยิ่งเกิดเป็นความสนุกสนาน สว่างไสว


แต่ถ้าผู้ที่เขาไม่มีสิ่งเหล่านี้อยยู่เป็นองค์ประกอบ ไม่มีอยู่เป็นแก่นสารในตัวเขา แน่นอนเถียงไปก็เสียเวลาเปล่า เสียเวลาของชีวิต ไม่คุ้มกันนะ คือคิดเช่นนี้แล้ว ก็ทิ้งห่างไปค่ะ


ใครเคยล้มในโซเชียลบ้างคะ


คำตอบโดยส่วนตัว คือไม่เคยเกิดขึ้นค่ะ


ประมาณว่าพิมพ์แสดงความคิดเห็นอะไรสักอย่างที่ผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะไม่ถูกใจใครหลายๆคน จนโดนทัวร์ลง โดนรุมด่าหยาบๆแรงๆ มีวิธีแก้ไขอย่างไรได้บ้างคะ


ในกรณีที่คุณยกมานี้นะคะ หากเจอปัญหาเช่นนี้ ก็คงต้องยอมรับค่ะ ยอมรับว่า เราเองที่เดินหลงทางเข้าไปในป่าดงดิบ ฮ่า ฮ่า ฮ่า


คือหากเราเองที่ไม่รู้ จึงเกิดความผิดพลาด เข้าใจด้วยว่าผู้ที่รู้จริงนะคะ เป็นธรรมชาติของเขานะ ที่เขาจักปรานีผู้ไม่รู้ ในธรรมชาติของผู้รู้เขาจะอธิบาย เขาจะแบ่งปัน เขาจะบอกเล่าแนะนำ ชี้แนะ และเขาจักมีภูมิต้านทานที่ดี ที่จะรับฟังทุกอย่างได้ ด้วยการเปิดใจ ให้โอกาส ด้วยเหตุผล ทั้งหมดนี้เป็นธรรมชาติของผู้รู้จริงนะคะ คือเขาผู้รู้นะ เขาจะไม่ทำร้ายใครได้เลย ยิ่งเขาพบเจอผู้ที่ด้อยกว่า เจอผู้ที่ไม่รู้ เขาจักยิ่งมีพลังที่จักแบกหามผู้ที่ไม่รู้ และเป็นธรรมชาติของผู้รู้จริงนะคะ เพราะเขาเป็นผู้รู้


ผู้รู้จริง ในที่นี้จะยกตัวอย่างนะคะ เช่น พระพุทธเจ้านะคะ ท่านเป็นผู้รู้จริง ท่านเป็นผู้ที่สว่างจริง สว่างแล้ว ท่านจึงมีเมตตา มีความปรานี มีการอโหสิกรรมได้ มีการอภัยทาน มีการรับฟัง สามารถยอมรับรู้ได้ถึงความแตกต่างนานา จากผู้คนรอบด้าน คือทั้งหมดนี้คือธรรมชาติของผู้รู้ ทั้งหมดนี้มีเกิดขึ้นได้จริงในผู้คน ที่มีอาการรู้...จริงนะคะ


ด้วยสาเหตุที่เข้าใจกลไกของการเป็นไป...ในแบบที่กล่าวมานี้ จึงรับได้ว่า เขาทั้งหลายที่สามารถทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับความเจ็บปวดได้ ผ่านวาจา ผ่านคำต่าง ๆ นานา ได้นั้น แท้จริงมีสาเหตุมาจากเขาทั้งหลายเองค่ะ ที่ไม่รู้จริง และเขาเองที่มืดมนตกตํ่า อาการของผู้ที่ไม่รู้ คืออาการตื้น เขิน คับแคบในความรู้สึก และเขาทั้งหลายก็อัดอั้นกดเก็บ เดือดดาล มีความทรมานอยู่ภายในตัวตนของเขาเองเป็นแก่นสาร และแน่นอนเขาก็รอวันที่จะมีใคร ๆ ผ่านมาเป็นเหยื่อ เพื่อให้เขาได้ใช้เป็นสื่อระบาย...เพื่อปลดปล่อย จึงเกิดเป็นการถกเถียงชนิดไม่สามารถรับฟังกันและกันได้ในกลุ่มคนเหล่านี้ไงคะ คือทั้งหมดนี้เป็นกลไกที่ต่อเนื่อง เป็นธรรมชาติที่เกี่ยวพันกันจริงนะคะ


ด้วยที่เข้าใจว่าในธรรมชาติของผู้ที่รู้จริง...เขาจะรู้ได้ว่า ผู้ที่ไม่รู้ คือผู้ที่ต้องการคำแนะนำ ต้องการคำบอกเล่า ต้องการกำลังใจ หากเราไม่รู้ และหากเราผิดพลาดเขาจะไม่มีวันซํ้าเติมหรือเหยียบซํ้า หยามหมิ่นเราได้ ให้เราต้องได้รู้สึกยํ่าแย่ หรือถึงขั้นต้องให้เราล้มลงอย่างแน่นอนค่ะ


คือเมื่อเข้าใจได้แบบนี้ชัดเจนดีแล้ว จึงเกิดเป็นภูมิต้านทานขึ้นมาเตือนเราตลอดเวลาว่า ภายใต้การสนทนานั้น ๆ จักนำเราไปพบเจออะไร....?


คือจากจุดเริ่มเลย...เมื่อเราเองชัดเจนในทุกการกระทำของตัวเราเอง คือเรามีคำตอบของเราเองนั้น มีอยู่แล้ว...ดังที่กล่าวมาเบื้องต้นค่ะ


คือเมื่อรู้ว่าเราคุยอยู่กับผู้รู้...เราก็จะรู้สึกได้ว่า แม้การที่เรา ๆ จะต้องคุยกันนาน ๆ ยาว ๆ มีการแลกเปลี่ยน มีถกเถียง มีดีเบทมากมาย แต่ผลที่ได้คือสิ่งดี ๆ เราก็สามารถคุยกันได้เรื่อย ๆ บ่อย ๆ แม้เราจะโง่ หรือแกล้งโง่ เราจะปล่อยโง่ เขาผู้รู้ก็จะไม่ทำร้ายเรา เขาจะไม่มีวันทำร้ายเรา นั้นเป็นธรรมชาติของผู้รู้ หากแต่จะเกิดเป็นความสุขสนุกสนาน ได้ความรู้ด้วยค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นผล...ในการคุยกับผู้รู้ ซึ่งเป็นธรรมชาติพื้นฐานนะคะ


หากแต่...เมื่อเรารู้ว่า เราคุยอยู่กับผู้ที่ไม่รู้จริง...แน่นอน ที่ว่าเซ็นส์ของเรา ก็จะสร้างภูมิต้านทานให้เราเองถอย...คือถอดใจ ถอยใจ ถอยห่างที่จะเอ่ยใด ๆ ออกไปค่ะ เพราะแม้จะเอ่ยอะไรออกไป ก็ไม่มีประโยชน์ หากแต่จะทำให้เป็นเชื้อไฟที่เขาจะเผามันเล่นเป็นความบันเทิงของเขาเอง ทั้งนี้เพราะเขาไม่รู้ และแน่นอน เขาไม่รู้ถึงผลที่แท้จริงของมัน เมื่อเจอแบบนี้ ก็ถอยค่ะ


และเมื่อเราเองที่รู้...และต้องถอย...ปัญหาที่จะเกิดเป็นความยํ่าแย่ จนเราเองต้องล้มเพราะคนเหล่านั้น ก็จะไม่เกิดค่ะ

(คือจริงแล้วนะ ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราเองนะคะ หากจะเปรียบกับการทำสิ่งใด ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวตนว่าเราทำอะไรอยู่ คือเราต้องมีสติ ต้องไม่นำพาตัวเราเองเข้าป่าดงดิบ จึงจะปลอดภัยค่ะ เข้าป่าดงดิบนะ หากโชคร้ายเกิดหลงทางออกไม่ได้ แน่นอนนานวันเข้า มีอดข้าวอดนํ้า มีล้มลุกคลุกคลาน อาจจะเอาชีวิตไม่รอด ตายอย่างทรมานได้ อันตรายเนาะhttps://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/yy-02.png)


ทั้งหมดนี้คือวิธีคิด วิธีทำ วิธีปกป้องตนเอง เพื่อที่จักไม่นำตัวเราเองเข้าไปให้ผู้ไม่รู้จริงเขายํ่ายีเราเล่นเป็นความบันเทิงค่ะ


คือเพียงมีสติ ทุกอย่างก็ไม่ยากค่ะ


หากจะเปรียบนะคะ


“คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล” หมายถึงการเลือกคบคนต้องพิจารณาให้ดีถ้าคบคนไม่ดีมาเป็นเพื่อน คนไม่ดีก็จะชักนำ พาเราไปในทางที่ไม่ดี


หรือ


“คุยกับคนพาล คนพาลเขาก็จะพาเข้าป่า เข้ารก หรือพาไปหาเรื่องผิดกัน คุยกับบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาความรู้ พบเจอความสว่าง” หมายถึงการเลือกคนคุยต้องพิจารณาให้ดีด้วย ถ้าคุยกับคนไม่ดี ไม่มีสติ ไม่มีเหตุผล ไม่มีหลักการ คนไม่ดีก็จะนำพาเราไปพบเจอเหตุการณ์ เรื่องราวในทางเสียหาย เสียใจ เศร้่าหมองป็นผลลัพธ์


คือไม่ต่างกันค่ะ คือการที่จะพูดคุยอะไร กับใคร หากไม่รู้จักกันดีพอมาก่อน ต้องเลือกคนที่จะคุยด้วย คือเราต้องมีสติรู้ว่าเราคุยอยู่กับใคร


คือการดีเบท การถกเถียง การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านคำ ผ่านประโยคต่าง ๆ มากมายในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นผ่านหน้าจอคอม ผ่านโทรศัพท์ หรือหน้าต่อหน้ากัน ตราบที่เรามีสติก็ไม่มีปัญหาค่ะ


เมื่อที่เรามีสตินะ ทุกคำพูด ทุกการกระทำ ทุกคำ ทุกประโยคนะคะ จะเกิดเป็นสิ่งที่ดี ๆ และให้พลังดี ที่เราได้ และให้แก่กันและกัน ผู้ที่มีส่วนร่วมด้วย เป็นธรรมดาค่ะ คือผู้ที่มีสติ มีเหตุผล มีหลักการรวม ๆ คือเขาเป็นผู้รู้จริง คนกลุ่มนี้จะคุยกันอย่างไรก็ไม่มีวันเกิดเป็นการทำร้ายกันขึ้นได้ อย่างแน่นอนค่ะ


เพราะฉะนั้นที่สำคัญในการปกป้องตัวเองเพื่อไม่ให้พบเจอเหตุที่คุณยกมานี้ คือการที่เราเองต้องมีสติรู้ว่าเราคุยอยู่กับใคร และใครที่เราต้องระวังที่จะต้องไม่คุยด้วยนั้น ก็เป็นอีกเรื่องที่เราเลือกที่จะใช้ได้ดีค่ะ


เพราะบางครั้งคนบางคน เขาก็คุยกันไม่ได้ นั้นเป็นความจริงชนิดเลี่ยงไม่ได้นะคะ


ทั้งหมดยาว ๆ นี้ เป็นคำตอบให้คุณจากคำถาม ที่คุณถามเข้ามาค่ะ และคำตอบนี้หรือ ก็นำมาช่วยตอบ หรือแบ่งปันให้คุณ จากประสบการณ์ในส่วนบุคคลค่ะ

https://www0.dek-d.com/assets/article/images/sticker/jj-02.png

0
Anonymous 2 ธ.ค. 66 เวลา 22:23 น. 9

ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ จะจดจำไว้เป็นบทเรียนและนำไปปรับใช้ต่อไปในอนาคตค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

0
สื่อศิลป์ 3 ธ.ค. 66 เวลา 12:30 น. 10

เคยโดนที่พันทิปทีนึง ตอนนั้นเพิ่งเข้าไปเล่นบอร์ดพันทิป ห้องกีฬาผมรำคาญเห็นทะเลาะกันเรื่องแมนยู ลิเวอร์พูลกันทุกวัน ผมเลยตั้งกระทู้ห้องกีฬาควรมีน้ำใจนักกีฬาบอลจบทุกอย่างก็ควรจบ ทำไมต้องทะเลาะตามจิกตามกัดอะไรกันขนาดนี้ เท่านั้นล่ะครับได้เรื่อง คอมเม้นท์ส่วนใหญ่จะเป็นทำนองว่าผมเป็นอิแอบทีมนั้นทีมนี้มาเนียนด่าแมนยูลิเวอร์พูล ช่วงแรกๆคอเม้นท์ยังอยู่แค่หลักร้อย ผมยังตอบคอมเม้นท์บ้าง


ผ่านไปสองวันผมกลับมาดูตอมเม้นท์พุ่งไปสามพันกว่า ผมไล่อ่านคร่าวๆหลังๆกลายเป็นแมนยูลิเวเอร์พูลเข้ามาทะเลาะกันเองอีก ผมคลิกปิดจอเลย ผ่านไปอาทิตย์ผมกลับไปดูกระทู้ผมกลายเป็นกระทู้แนะนำไปซะงั้น คอมเม้นท์พุ่งไปเก้าพันกว่า ทำเอาผมไม่กล้ากดเข่้าไปดูเลยแจ้งแอดมินให้เขาลบกระทู้ผมแทน


จริงเรื่องตรงนี้ต้องอดทนอย่างเดียว วิธีแก้ไขคือแจ้งแอดมินหรือทีมงานที่ดูแลบอร์ด ถ้าไม่ใช่ทีมงานเนียนเล่นเอง เขาก็จัดการให้หมดล่ะครับเพียงแต่มันต้องใช้เวลากว่ารีพอร์ทจะไปถึงทีมงานหลายวันอยู่ จำให้ขึ้นใจเลยว่าไม่มีแอดมินที่ไหนชอบให้ใครมาทำบอร์ดเขาเลอะเทอะ เขาได้รับแจ้งเขาก้กวาดหมดไม่เก็บไว้หรอก


แต่ปัญหามันอยู่ที่คนถูกด่ามักจะอดทนไม่พอตอบโต้แรงๆกลับไปก่อนที่แอดมินจะเก็บกวาด การถูกด่าฝ่ายเดียวกับการถูกด่าแล้วตอบโต้....มันคนละเรื่องกันเลย ถูกต่อยฝ่ายเดียวถือเป็นทำร้ายร่างกาย แต่ถ้าถูกต่อยแล้วชกตอบก็จะกลายเป็นทะเลาะวิวาท การจัดการของตำรวจคดีทำร้ายร่างกายกับคดีทะเลาะวิวาท มันเหมือนกันที่ไหนมันคนเรื่องกันเลยใช่มั้ยล่ะครับ


กรณีในบอร์ดก็เช่นกัน ถูกด่าฝ่ายเดียวกับด่าตอบโต้ แอดมินก็ทำงานไม่เหมือนกัน


ก็ฝากไว้ให้พิจารณากันเท่านี้ครับ

0
mxry_jxne 4 ธ.ค. 66 เวลา 07:06 น. 12

ออกมาขอโทษค่ะ บางทีเราไม่ตั้งใจ แต่สังคมเห็นแบบนี้ไปแล้ว เราเลยต้องยอมรับค่ะ ว่าสิ่งที่เราพิมพ์สร้างความไม่สบายใจให้คนบางกลุ่ม แต่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องแคร์ทุกคนบนโลกค่ะ

0
ด้อนแคร์ 4 ธ.ค. 66 เวลา 20:03 น. 13

เคยจ้า ในทวิตเตอร์เลย แหล่งรวมพวกปสด ทวิตบ่นเมนไร้สาระในแอคตัวเองเงียบๆ ไม่ติดแท็กไรทั้งนั้น มีอีเสร่อที่ไหนไม่รู้มาดิ้น เรียกพวกมันมาโควทด่า สันดานแต่ละตัวปากฮีหมาทั้งแก๊ง แต่โนสนโนแคร์ กุไม่ขอโทษ ใครจะทำไมกุ อยากให้ขอโทษนัก ก็ให้แม่มันมากราบตีนกุก่อน ไล่บล็อคมันยกฝูง ไม่เสียเวลาเห่าแข่งกับหมา ทำไมต้องแคร์ ใครที่ไหนก็ไม่รู้ รู้จักหรอก็ไม่ อยู่ๆมาหาเรื่องด่าคนอื่นหยาบคายไร้มารยาท บอกเลยว่าอย่าแคร์กับคำพูดคนในเน็ตมาก คนบ้าโรคจิตมันเยอะ เล่นโซเชียลอยู่ในพื้นที่ตัวเอง ก็ทำให้ตัวเองสบายใจ ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้ถูกใจใคร

0
OChaDesu 6 ธ.ค. 66 เวลา 00:12 น. 14

เอาแบบ คนอยู่บนโลกนี้มานานนะ

1.ดูก่อนครับว่า -ทัวร์ที่ว่า มันทัวร์คุณภาพหรือทัวร์กักขฬะ

2.ถ้าเป็นทัวร์คุณภาพ ก็ยอมรับก่อนครับว่าเราผิดจริง 2.1 ก็ขอโทษไปครับ แต่ไม่ต้องอธิบายอะไรเยอะ มันจะมีพวกซ้ำโผล่มา 2.2จำไว้แล้วอย่าทำอีก ใช้สติให้มากขึ้น รอบคอบมากขึ้นในครั้งต่อไป ทุกคนก็เลยพลาดกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะรู้ตัวไหม 3.ถ้าเป็นทัวร์กักขฬะก็ช่างแม่มครับ เพราะมันกักขฬะ

จบ

0
☀Little red fox in January snow☀ 6 ธ.ค. 66 เวลา 13:30 น. 15

เคยค่ะ แต่ไม่อยากใช้คำว่าล้ม เพราะมันเป็นอารมณ์ประมาณว่า ความคิดเห็นของเราเป็นแค่ส่วนน้อย ที่ไปค้านความเห็นส่วนใหญ่ ก็เลยโดนถล่มมากกว่า พอเจอเหตุการณ์แบบนั้นก็ต้องเลือกว่าจะทำยังไงต่อ ซึ่งก็มีหลายวิธีการ เช่น จะเถียงต่ออย่างไม่ลดละ เพราะเรายังมีแรงและพร้อมปะทะ (ด้วยเหตุผล) หรือถ้าอีกฝ่ายดูยังไงๆ เขาก็เชื่อในสิ่งที่เขาเชื่อ ก็หยุด แล้วก็ขอแยกย้าย จบอย่างสงบ หรือปล่อยเบลอไปเลย หรือลบคอมเม้นต์ ส่วนตัวเราตอนนั้นเลือกวิธีที่สอง คือ ขอแยกย้าย เพราะคุยกันไป ยังไงทั้งเราและอีกฝั่งก็ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนความคิดอยู่ดี เพราะงั้นจบแล้วแยกย้ายดีกว่า อาจจะต่างกันมั้ยไม่รู้นะคะ เรากล้าทำแบบนั้นเพราะเราเชื่อว่ายังมีคนที่เห็นด้วยแบบเรา

0
มีใบไหมค้าา 6 ธ.ค. 66 เวลา 19:14 น. 16

ไม่เชิงล้ม เคยโดนทักมาขอ educate ครั้งนึง นานละ ตอนนั้นงงอยู่เลยตอบค่ะๆไป มานึกได้ทีหลังว่านางกล้าทำได้ไง ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่กล้าสั่งสอนคนแปลกหน้าเฉย สงสัยนึกว่าตัวเองเป็นครูมั้ง คราวหน้าใครทักมาแบบนี้อีก จะถามก่อนว่ามีใบไหม ถ้าไม่มีไม่ต้องมั่นหน้ามาสั่งสอนชั้น ไม่รับฟังค่า555555555555555

0