Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

[แบบสำรวจ-ไร้สาระ]ท่านเคยดองเค็มนิยายนานทที่สุดเท่าไร

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
ของผม.... 1 ปีอ่ะ
PS.  - -" รู้ไหม...โลซานมีขายที่ไหน... ไม่รู้อ่ะดิ... เซเว่นไง

แสดงความคิดเห็น

28 ความคิดเห็น

zato 5 มี.ค. 49 เวลา 12:48 น. 1

1 อาทิตย์ - -" ไม่เคยดองง่ะ


PS.  การถอยไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าเป็นการถอยเพื่อกลับสู่จุดเริ่มต้นไม่ใช่ถอยเพื่อล้มเลิกความตั้งใจ...ซาโต๋ =_="
0
เฟลอร์ เดอลากูร์ 5 มี.ค. 49 เวลา 13:03 น. 5

3 อาทิตย์ ดองสุดๆ แต่เมื่อกี้เพิ่งไปอัพมาค่ะ ดีใจ


PS.   ผลงาน"ทุกอย่างจบลงที่...ความรักของเรา(ฟิคแฮร์รี่)และI promise...(ฟิคแฮร์รี่)และอาการบ้าHarry 126 ประการและระหว่างเรา...มันเป็นเส้นขนานและผลงานล่าสุดซุปเปอร์สตาร์ที่รัก(ฟิคแฮร์รี่)
0
KonunK 5 มี.ค. 49 เวลา 13:15 น. 9

ผมยังไม่มีสูตรการดองเลย  ช่วยบอกหน่อยสิครับ  เอาดองหวาน  ดองเค็ม  ดองเปรี้ยว  ดองเผ็ด  ดองขม 

ถ้าดองโดยไม่ใช้สูตรมันจะเสียคุณลักษณะนักเขียนนะครับ


PS.  นักเขียนสร้างคน คนสร้างชาติวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส KonunKจะออกมาเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน เดินไปเดินมา คิดนั้นคิดนี้เพลินไม่ควรทิ้งขยะเรี่ยราด เพราะจะทำให้บ้านเมืองสกปรกไม่น่าอยู่
0
คนเดินเท้า 5 มี.ค. 49 เวลา 13:23 น. 10

เหอๆ...ไม่เคยดองนะ เคยแต่หยุดการอัพชั่วคราว...(เออ นั่นแหละเค้าเรียกว่า ดอง - -")

 

มากสุดก็เดือนนึงค่ะ


PS.  [[Constant Shadows: ข้าจักพิทักษ์มั่น]]...ก็แค่คนๆ หนึ่งที่อยากจะเรียนจบสักที
0
snowy_cat 5 มี.ค. 49 เวลา 13:26 น. 11

เรื่องปัจจุบัน..ดองไว้..4 เดือนค่ะ - - แต่ต่อทีก็ครั้งละ 2-3 บรรทัดนะ แต่ดองนิยายที่ลงเว็บเนี่ย..ก็ประมาณ 2 อาทิตย์นะคะ ไม่ก็เคยครั้งนึง 1 เดือน...แต่ว่าเราแต่งก่อนแล้วทะยอยมาลงเลยไม่ค่อยเท่าไหร่ (พอลงหมดสิ ทีนี้จะดองสักปี เหอๆๆ)... แต่ถ้าเรื่องอื่นล่ะก็ ดองเป็นปีแล้วเหมือนกันนะคะ ..(เค็มจริงๆ - -..)


PS.  ณ ดินแดนสีขาวโพลนอันปกคลุมไปด้วยหิมะ ครั้งนั้นยังมีสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆอยู่สีขาวปุยของมันพลางตาให้ไม่มีใครมองเห็นตัวของมันมันได้แต่ร้องไห้เฝ้ารอใครคนหนึ่งมาพบและฟังคำขอของมัน"อย่าลืมไปอ่านนิยายนะฮึกๆ"
0
namwanjung 5 มี.ค. 49 เวลา 13:27 น. 12

ประมาณเดือน สองเดือนค่ะ


PS.  อย่ารีบไป .. ซักวันทุกอย่างจะ .. ค่อย ๆ .. ดีขึ้น .. เมื่อ .. ถึง "เวลา"
0
7XIN 5 มี.ค. 49 เวลา 13:45 น. 13

ปามาน 3 มั้งไม่ก็นานก่านั้น เพราะอยู่ในช่วงเอนอ่ะ


PS.  The Hell is my paradise....You think like me?
0
jeut 5 มี.ค. 49 เวลา 15:39 น. 17

ก้อเกือบๆ2เดือนอ่ะ

ถ้าไม่มีกิจส่วนใหญ่ก้อไม่ค่อยอยากจะดอง

เพราะคนอ่านยิ่งไม่ค่อยจะมีอยู่

ถ้าดองไว้นานก้อยิ่งไม่มีคนอ่านเลยอ่ะ


PS.  ความรักทำให้คนตาบอด เพราะฉะนั้นเวลาจะรักก็ต้องคิดให้ดีๆเสียก่อน ว่าเราจะยอมตาบอดให้กับคนคนนึ้หรือไม่
0
0123 5 มี.ค. 49 เวลา 16:02 น. 18

ตอนที่ 12 ความเปลี่ยนแปลง 5 กิ่งก้านใบ

หลายวันถัดมาฉันกลับไปพบพี่สาวอีกครั้งหนึ่ง ฉันคุยกับเธอว่า ฉันตัดสินใจคบกับเพื่อนชายในฐานะมากกว่าเพื่อนผู้ชายทั่วไป พี่สาวก็ไม่ว่าอะไร แล้วบอกว่าพี่สาวเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป ทำให้ฉันอาจจะคิดไม่ดีกับพี่สาว แต่ฉันก็บอกพี่สาวไปว่าฉันยังรักและเคารพพี่สาวอยู่เสมอ พี่สาวยังคงเป็นพี่สาวของฉันตลอดเวลา พี่สาวได้ฟังดังนั้นก็ถามฉันว่า ขอพี่สาวกอดได้ไหม ฉันพยักหน้า พี่สาวกอดฉันอย่างแผ่วเบากลิ่นหอมๆจากตัวพี่สาวกลิ่นอ่อนที่สัมผัสถึงความอ่อนโยน น้ำตาแห่งความยินดีไหลลงอาบแก้มของพี่สาว พี่สาวรำพันออกมาว่า นึกว่าฉันจะไม่มาพี่สาวอีกแล้ว ฉันได้แต่ปลอบพี่สาวว่า ฉันยังรักพี่สาวเสมอแม้ว่าพี่สาวจะทำอะไรไปก็ตาม ฉันเข้าใจว่าพี่สาวรักฉัน ฉันถามพี่สาวไปว่า ฉันควรทำตัวอย่างไรดี พี่สาวแนะนำว่า ก็ควรทำตัวปกติเหมือนเดิม ก็ทำเหมือนตอนที่ฉันมีแฟนเป็นเพื่อนหญิง ฉันถามพี่สาวว่า แล้วฉันต้องแต่งเป็นผู้หญิงหรือเปล่า พี่สาวสวนกลับพร้อมขำเล็กน้อย ถามว่าแล้วฉันอยากแต่งไหมละ แล้วเพื่อนชายของฉันเขาอยากให้แต่งไหม ฉันบอกพี่สาวไปว่า เพื่อนชายของฉันเขาบอกว่าฉันแต่งตัวอย่างไรก็ได้ ขอให้ฉันเป็นฉันก็พอ แต่ถ้าถามใจตัวเองดูก็อยากแต่งอยู่แต่เขินๆ

พี่สาวจึงแนะนำให้แต่งเป็นผู้ชายปกติไป ถ้าจะแต่งเป็นผู้หญิงก็เลือกชุดน่ารักใส่ ที่ไม่ดูน่าเกลียดมาก เช่น เสื้อยืดรัดรูปลายน่ารักๆสีหวานๆ ใส่กับกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนสีหวานหรือจะเป็นกางเกงขาสามส่วนก็พอ เพราะฉันยังเด็กแต่งแบบนี้ไม่น่าเกลียด แต่ถ้าจะไปใส่กระโปรงหรือเสื้อลายลูกไม้แขนตีโป่ง คงจะไม่เหมาะ ฉันก็ขอบคูรพี่สาวสำหรับคำแนะนำพร้อมหอมแก้มทีนึง ฉันถามว่า เพื่อนชายเขาขอกอดฉันจูบฉัน ฉันจะยอมให้เขากอดจูบได้ไหม พี่สาวว่า จะได้ก็พอได้อยู่แต่อย่าให้เอิกกระเริกจนเกินไปจะไม่งาม เมื่อถึงวันเปิดเทอมฉันนัดกับเพื่อนชายเดินจูงมือกันไปเรียน บ้างก็กอดคอกัน ถึงแม้ในใจฉันยังตะขิดตะขวงใจไปบ้าง แต่ฉันก็คงปรับตัวได้ในเร็ววัน ฉันขอร้องแกมบังคับเพื่อนชายว่า ห้ามบอกใครว่า ฉันกับเขาเป็นแฟนกัน ฉันกลัวโดนเพื่อนล้อ เขาก็รับปาก ส่วนเรื่องจดหมายรักของเขา เขาบอกกับฉันว่า เขาจะปฏิเสธจดหมายรักทั้งหมด โดยบอกว่ามีแฟนแล้ว ฉันจึงย้ำเตือนไปอีกทีว่า ห้ามบอกใครเด็ดขาดว่า เป็นแฟนกับฉัน เขาจึงพูดมาว่า ตกลงยอมรับเขาเป็นแฟนแล้ว ฉันจึงรู้สึกตัวว่า ฉันพูดผิดไป แต่ก็พยักหน้ารับไป แต่ก็เอ่ยปากบอกว่า แต่ข้อห้ามอื่นๆยังคงอยู่เหมือนเดิม

เขาถามกลับว่าแล้ว เขาขอจูบได้ไหม ฉันบอกไม่ได้ เขาก็หันมาหอมฉันฟอดนึง ฉันอุทาน ร้อง แน๊ะ ตุ้ยท้องเขาไปทีนึงแล้วบอกว่า เดี๋ยวใครเห็น เขาก็ย้อนบอกว่า ก็ปล่อยให้คนเห็นเขาเห็นไปสิ ฉันก็ออกอาการงอนหน้าแดง ยกแขนเขาที่พาดบ่าออกแล้วเดินหนี เขาก็เดินมายิ้มๆ ร้องโอ๋ๆ แต่ช้าแต่คนดี้ดคนดีอย่างอนนะครับ ถ้าหายงอนจะหอมอีกทีนึง ฉันก็ร้องไปว่า บ้าหรอ ไม่ให้หอมแล้ว ไม่ต้องมาเดินใกล้เลย เขาก็ถามว่าฉันโกรธเขาหรือ ฉันพยักหน้าบอกว่าใช่ แต่ไม่พูด ฉันก็แกล้งไม่พูดกับเขาตลอดทั้งวัน แต่เวลาไปไหนมาไหน ก็ไปด้วยกัน ตอนเย็นฉันกับเขาไปเล่นฟุตบอล แต่ด้วยยังงอนเขาทำให้ฉันเล่นพลาดโดนสกัดล้ม เขาวิ่งมารับฉันล้มไปด้วยกัน เขากอดฉันไว้ในอ้อมอกเขา พอลุกขึ้นมาฉันเห็นเขาเป็นแผลถลอกที่แขน ฉันจึงพาเขาไปทำแผลใส่ยา ฉันก็บ่นไปว่า ไม่น่าจะมาเจ็บเนื้อเจ็บตัวแทนฉันเลย เขาก็บอกฉันว่า เขาพร้อมจะปกป้องฉันเสมอ ไม่อยากให้ฉันได้รับบาดเจ็บ ฉันก็ยิ้มๆ เขาถามว่า ฉันหายงอนแล้วหรอ ฉันบอกว่า ถ้าไม่หายโกรธคงไม่มาทำแผลใส่ยาให้แบบนี้ เขาก็ร้องไชโย แต่ฉันก็แกล้งแตะแผลเขาแรงๆ เขาร้องโอ๊ย แล้วถามว่า ทำไมทำแรงจัง ฉันตอบไปว่าหมั่นไส้คนบ้างคน

ความสัมพันธ์อันน่าแปลกประหลาดของฉันกับเพื่อนชายเป็นไปอย่างสนิทสนม โดยไม่มีใครทันสังเกตุเห็นความผิดปกติมากนัก อาจจะมีคนสงสัยแค่ว่า ดูฉันกับเพื่อนชายสนิทกันมากแต่เพื่อนชายก็ตอบแทนฉันว่า ก็เป็นเพื่อนซี้เพื่อนตายกันก็สนิทกันแบบนี้ ทำให้ลดความสงสัยของเพื่อนรอบข้างไปได้ ในช่วงวันหยุดเรียน ฉันกับเพื่อนชายมักนัดกันไปเล่นกีฬา ชุดที่ฉันใส่จะเป็นแนวชุดผูเหญิงใส่ เป็นเสื้อกล้ามรัดๆ กางเกงวอร์มรัดรูปขาสามส่วน ส่วนเพื่อนชายจะแต่งตัวหลวมๆ เสื้อกล้ามตัวใหญ่ กางเกงขาสั้นขาบานๆ หลังจากเล่นกีฬาเสร็จฉันกับเพื่อนชายจะอาบน้ำร่วมกัน โดยที่ฉันกับเพื่อนชายจะช่วยกันถูสบู่หรือสระผมให้แก่กันและกัน กล้ามเนื้อเป็นมัดๆของเขา แผ่นหลังแผ่นอกที่ผายออกมา ขนที่ขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกายดูน่าหลงไหล ส่วนตัวฉันกล้ามไม่ใหญ่ไม่โตเท่าใด อกยังไม่ผายเสียงยังไม่แตกขนหน้าแข้งเพิ่งจะโผล่มานิดหน่อย เพื่อนชายบอกกับฉันว่า เขาชอบฉันที่ทรวดทรงแบบนี้ไม่อยากให้กล้ามเป็นมัดๆแบบเขา ฉันจึงเก็บคำของเขาไว้ในใจ ฉันยอมให้กอดจูบขณะอาบน้ำเป็นบางครั้งพอให้หายเหนื่อย แล้วค่อยจัดแจงแต่งตัวไปหาอะไรทานกัน วันหนึ่งช่วงปลายเทอมฉันลองถามเขาว่า

ถ้าฉันอยากเป็นผู้หญิงเพื่อเขาเขาจะว่าอะไรไหม จะยอมให้ฉันเป็นไหม เพื่อนชายบอกว่า เขาก็คิดเหมือนกัน อยากให้ฉันดูใสๆเด็กๆแบบนี้ แต่ถ้าจะเป็นแบบผู้หญิงมีหน้าอกเขาไม่ชอบ อยากให้ฉันดูดีมีผิวเนียนๆไม่มีขนหน้าแข้งหรือขนหน้าหน้าอก ฉันรับฟังแล้วเก็บเอาใส่ใจไว้ เขาคิดไว้แค่แต่งชุดเด็กผู้หญิงก็พอ แต่ถ้ารูปร่างของฉันล่ำสันแบบชายเขาก็ไม่อยากให้แต่งชุดแบบผู้หญิง ฉันถามเขาว่า สมมติว่าฉันจะใส่กระโปรงเขาจะรังเกียจไหม เพื่อนชายหัวเราะบอกว่า ถ้าใส่แล้วสวยก็ใส่มาสิจะรอดู ฉันบอกเพื่อนชายว่า ฉันอยากใส่กระโปรงอยู่ แต่ทรงผมไม่เข้ากับชุด หัวเกรียนๆใส่กระโปรง เพื่อนชายนึกภาพตามแล้วหัวเราะออกมา ฉันจึงหน้าบึ้งงอนใส่เขา เพื่อนชายเสนอว่าก็ใส่เป็นหมวกปิดไว้คงพอพรางตาได้ ฉันเห็นดีด้วย ฉันอธิบายเพื่อนชายที่ฉันต้องการใส่กระโปรงหรือชุดผู้หญิงเพราะเวลาอยู่ที่สาธารณะเกิดโดนกอดหรือหอมขึ้นมาจะได้ดูไม่น่าเกลียด เขาก็พยักหน้ารับเห็นดีด้วย แต่ปัญหาของฉันตอนนี้คือยังไม่มีชุดผู้หญิงสักชุด จะไปซื้อก็ยังไม่กล้า อยากให้เพื่อนชายไปช่วยเลือกช่วยซื้อที เขาตอบตกลงว่ามีเงินเมื่อไร จะไปเลือกซื้อชุดกัน



ตอนที่ 13 เปลือกนอก

เริ่มต้นวันหยุดปิดเทอมฉันขออนุญาติที่บ้านไปค้างกับเพื่อนชายเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์เพื่อทำการบ้านปิดเทอม วันแรกฉันกับเพื่อนชายนัดกันไปเลือกซื้อเสื้อผ้า เมื่อไปถึงร้านใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความตื่นเต้น ถึงแม้ว่าฉันจะเคยมาเดินเลือกชุดเด็กผู้หญิงกับเพื่อนหญิงบ้างแล้วก็ตาม แต่ความประหม่าก็ยังมีอยู่เพราะครานี้ฉันจะเป็นคนใส่เอง ฉันเข้าไปร้านเสื้อผ้ากับเพื่อนชายสองคน ตอนแรกก็เลือกดูเสื้อผ้าสำหรับเด็กผู้ชายทั่วไปแล้วค่อยๆขยับเปลี่ยนไปดูชุดสำหรับเด็กผู้หญิง ด้วยความกลัวว่าใครจะว่าหรือมอง แต่ปรากฏว่า ไม่มีใครจะมาสนใจฉันกับเพื่อนชายที่เดินเลือกดูอยู่เลย มีแต่พนักงานขายมองดูอยู่ห่างๆ ฉันเลือกได้สองสามชุดเป็นชุดลำลอง ตัวหนึ่งเป็นผ้ายืดธรรมดาแต่ทรงรัดรูปแขนกุดสีฟ้าอ่อนกับกระเปรงผ้าขาสามส่วนสีฟ้าๆเขียวๆ ชุดที่สองเป็นเสื้อเชิ๊ตแขนสั้นตัวเล็กสีขาวซิบหลังใส่กับ mini-skirt สีเหลืองอ่อนมีจีบรอบและชายกระโปรงเป็นลูกไม้ ชุดสุดท้ายเป็นเสื้อสายเดี่ยวลายขวางสลับสีแดงดำกับกระโปรงทรงนักเรียนสีน้ำเงินผ้ายีนส์ยาวเกือบถึงข้อเท้า พอฉันกับเพื่อนชายเลือกได้แล้วฉันก็หยิบเข้าไปลองเสื้อถึงตอนนี้คนขายเขาเห็นผิดสังเกตุจึงเดินเข้ามาถามว่า

ซื้อไปใส่เองหรือเปล่าหรือคะ ฉันตกใจเล็กน้อย แต่ตามที่เตี๊ยมกับเพื่อนชายมา ฉันตอบไปว่า หนูซื้อไปเองค่ะ ทั้งคำว่าหนู ทั้งคำว่าค่ะ ออกจากปากของฉันไปด้วยความประหม่าและเขิน ที่ไม่ชินกับคำพูดของเด็กผู้หญิงที่เอ่ยออกไป คนขายมองมาอย่างเอ็นดูแล้วยิ้มๆ บอกว่า ถ้ามีปัญหาอะไร ก็เรียกได้นะคะ ฉันถอนหายใจโล่งอกที่คนขายเขาไม่พูดว่ากระทบกระเทียบ อะไรกับฉัน แล้วฉันก็เดินเข้าไปในห้องลองเสื้อ ฉันลองเสื้อผ้าชุดแรก แต่ไม่แน่ใจว่าจะเหมาะกับฉันไหม ฉันจึงแง้มๆประตูกวักมือเรียกเพื่อนชาย แล้วเปิดประตูอย่างๆอายๆ แล้วถามเพื่อนชายว่าชอบไหม เพื่อนชายทำหน้าทำตาทะเล้นบอกกลับมาว่า ชุดก็ดูน่ารักดี แต่ท่าทางของคนใส่ยังไม่ได้ ฉันได้ฟังดังนั้นก็งอนค้อนเพื่อนชายไปทีนึงแล้วรับปิดประตูโดยไว เปลี่ยนเป็นชุด กระโปรงยาวกับเสื้อเชิ๊ต ฉันลองใส่เสื้อแต่รูดซิบหลังไม่ได้เลยค้างไว้มาลองใส่กระโปรงดูก่อน แล้วก็แง้มประตูออกมาอีกรอบเรียกเพื่อนชายมาบอกว่า ช่วยเข้ามารูดซิบให้หน่อย รูดไม่ถึงซิบอยู่ด้านหลัง เพื่อนชายก็ทำหน้าทำตาเหลอหลา มองซ้ายมองขวา ดูคนขายหันไปทางอื่นแล้วย่องเข้าไปในห้องลองเสื้อ ฉันหันหลังให้เพื่อนชาย เพื่อนชายก็จัดแจงรูดซิบเสื้อให้

แต่มือไม้สั่นเล็กน้อย ฉันมองในกระจกเห็นสีหน้าเพื่อนชายกำลังคร่ำเคร่งกับการรูดซิบและติดตะขอ ฉันถามเพื่อนชายว่า ทำไมเสื้อเปียกๆ เขาตอบแก้เกี้ยวไปว่า ห้องลองเสื้อเล็ก ร้อน พอเพื่อนชายรูดซิบเสร็จแล้ว ฉันถามเขาว่าสวยไหม เขาก็บอกว่าสวยดี แล้วเพื่อนชายก็จะเดินออกไป แต่ฉันร้องว่า อย่าเพิ่งไปเพราะต้องรูดซิบให้ฉันอีกรอบ พอรูดซิบเสร็จฉันก็ไล่เพื่อนชายออกนอกห้องลองเสื้อ เพื่อนชายจึงบ่นว่า ใช้งานเสร็จก็ไล่เลยนะ ขออยู่ต่อเลยได้ไหมเผื่อจะต้องช่วยอะไรอีก จะได้ไม่ต้องเรียก ฉันก็พยักหน้ารับบอกไปว่า ก็ได้แค่ห้องลองเสื้อแคบๆไม่ร้อนแล้วหรือ เพื่อนชายตอบทันทีว่า เขาทนได้ เหลือชุดสุดท้ายเป็นเสื้อสายเดี่ยวกับ mini-skirt ฉันกำลังจะสวมทับเหมือนที่ลองกับสองชุดแรก แต่เพื่อนชายเสนอว่า ไม่ถอดเสื้อและกางเกงลองละครับ ฉันถามกลับไปว่า จะดีหรือ เขาตอบว่าดีสิครับ แล้วฉันก็ถอดเสื้อเหลือท่อนบนเปลือยเปล่าก่อนจะใส่เสื้อสายเดี่ยวลายขวางลงไป พอฉันหยิบกระโปรงมาใส่แล้วค่อยถอดกางเกงออก เขาทำสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยแล้วพยายามจะก้มมองดูใต้กระโปรง แต่ฉันรีบเอามือจับกระโปรงไว้ แล้วถามเขาว่าดูอะไร ปกติอาบน้ำด้วยกันเห็นจนชินแล้วไม่ใช่หรอ เขาแซวมาว่า

ดูแบบนี้ตื่นเต้นกว่า ฉันก็กระทุ้งท้องเขาไปทีนึงเขาร้องโอ๊ยออกมาดังพอประมาณแล้วฉันก็เปลี่ยนชุดกลับ เพื่อนชายก็ยังแกล้งเอามือกุมท้องไว้ไม่ยอมออกไป สักพักมีเสียงคนขายมาเคาะถามฉันว่ามีอะไรหรือเปล่า ฉันบอกคนขายไปว่า ไม่มีอะไรคะ คนขายถามต่อว่า เขาได้ยินเสียงคนร้องเลยมาดู ฉันก็ดุเพื่อนชายไป เขาก็ว่าสวนกลับมาว่าใครเริ่มก่อนละ คนขายถามย้ำอีกทีว่า มีอะไรให้ช่วยไหม ฉันบอกว่า หฯุลองเสร็จแล้วค่ะกำลังจะออกไป แล้วฉันก็เปิดประตูห้องลองเสื้อออกไป เจอคนขายมองจ้องเขม็งอยู่เห็นเพื่อนชายอยู่ข้างหลัง คนขายถามเพื่อนชายว่า เขาเข้าไปทำอะไรในห้องลองเสื้อ ห้องลองเสื้อให้ใช้ทีละคน ฉันแก้ตัวแทนเพื่อนชายว่า ฉันให้เขาเข้ามาช่วยรูดซิบเสื้อให้ คนขายทำเสียงดุไม่พอใจว่า แล้วใส่พอดีตัวไหมคะ แล้วจะรับกี่ชุดดีคะ ฉันกับเพื่อนชายมองหน้าปรึกษากันแล้วตอบคนขายไปว่า หนูซื้อทั้งหมดเลยค่ะ คนขาย ยิ้มออกมาแล้วบอกว่า ขอบคุณที่อุดหนุนค่ะ ฉันกับเพื่อนชายถอนหายใจโล่งอก กลัวโดนคนขายว่า หลังจากออกจากร้านเสื้อผ้ามา ฉันถามความเห็นเพื่อนชายว่า ควรซื้อกางเกงในแบบเด็กผู้ด้วยไหม เพื่อนชายก็ถามว่า อยากใส่ไหม ก็ลองใส่ดูสิ ฉันกับเพื่อนชายก็เดินๆดู

เห็นร้านหนึ่งลดราคากางเกงในเหลือ 7 ตัวร้อยฉันจึงเดินเข้าไปเลือกๆ ตอนแรกเพื่อนชายจะไม่เดินเข้าไปกับฉัน แต่ฉันขอร้องแกมบังคับเดินจูงมือเข้าไปเลือก ได้มาเจ็ดตัวเจ็ดสีเอาไว้ใส่วันละตัว กางเกงในเป็นเนื้อผ้านุ่มๆเนียนๆลื่นๆมีจีบรอบดูพองๆโป่งๆ ไม่เหมือนกางเกงในเด็กผู้ชาย บางตัวมีลายลูกไม้แซมตามตะเข็บ เสร็จแล้วฉันกับเพื่อนชายก็กลับบ้านเพื่อนชาย เพื่อนชายแซวว่าจะรีบกลับไปใส่หรอ ฉันตุ้ยท้องไปอีกที บอกว่า ใครจะเห่อขนาดนั้น ต้องเอาไปซักก่อน แล้วที่รีบกลับจะได้ไปทำการบ้านปิดเทอมให้เสร็จเพราะบอกที่บ้านไว้ว่ามาทำการบ้าน จะได้ไม่เสียคำพูด อย่างน้อยถ้าไม่เสร็จก็เกือบเสร็จก็ยังดี แต่ถ้าไม่คืบหน้าเลย ที่บ้านคงไม่ให้มาอีกแน่ เพื่อนชายรับเสียงอ่อยๆว่า คร๊าบผม ทราบแล้วครับ แต่ที่จริงแล้วใจฉันก็อยากจะไปเปลี่ยนเป็นชุดเด็กผู้หญิงใส่กระโปรงอยู่เหมือนกัน



ขอบคุณสำหรับคำแนะนำติชม ทำให้เรื่องดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่หมกมุ่นจนเกินไป ใครมีข้อเสนอแนะอย่างไรก็โปรดชี้แนะด้วย



ตอนที่ 14 ความเปลี่ยนแปลง 6 ดอกไม้ประดับ

วันนี้เป็นอีกวันนึงที่ฉันมาค้างบ้านของเพื่อนชาย เวลากลางคืนฉันจะใส่ชุดนอนปกติของฉันที่นำมาจากบ้าน ส่วนเวลากลางวันฉันจะใส่ชุดเด็กผู้หญิงพร้อมทั้งหัดท่าทางกริยาแบบเด็กผู้หญิง คำพูดคำจาก็เลียนแบบเด็กผู้หญิงบ้าง แต่เพื่อนชายของฉันไม่ชอบให้ฉันพูดคำแบบนั้นเวลาอยู่กับเขา เพราะใจจริงแล้วเขาก็ชอบอะไรที่ดูเป็นผู้ชายมากกว่า ตอนนี้ฉันชอบการใส่กระโปรงมาก ความรู้สึกโล่งสบายที่ได้รับ ทำให้ฉันรู้สึกไม่อยากกลับไปใส่กางเกงอีก การยืนจากที่จะยืนท่าไหนแบบไหนก็ได้ ก็ต้องเปลี่ยนมายืนขาชิดติดกัน เวลาจะเดินขึ้นเดินลงบันได ก็ต้องคอยปิดๆ เวลาของตกจะก้มเก็บของจากของเดิม ก้มลงไปตรงก้นชี้โด่ง หรือนั่งกางขาก้มลงเก็บก็ไม่ได้เพราะถ้าใส่กระโปรงสั้นจะโป๊เห็นกางเกงใน ถ้าเป็นกระโปรงยาวถึงแม้จะนั่งได้แต่ก็ติดกระโปรง ต้องนั่งยองๆขาชิดติดกันแล้วย่อตัวลงไปเก็บของ เวลานั่งกับพื้นบ้านก็เปลี่ยนจากนั่งขัดสมาธิ มาเป็นนั่งพับเพียบหรือนั่งเข่าขิดแบบท่าเทพพระบุตรเทพธิดา แต่จะเมื่อย ถ้าใส่กระโปรง mini-skirt ด้วยท่าขัดสมาธิ กระโปรงจะร่นมาถึงโคนขาเลยทีเดียว จากนั่งธรรมดาบนเก้าอี้นั่งถ่างขากว้างแค่ไหนก็ไม่เป็นไร ต้องมานั่งขาชิด หรือถ้าจะนั่งไขว่ห้าง

ก็ต้องไขว้ขาก่อนแล้วค่อยนั่งลงไป แต่ถ้าไปนั่งอยู่แล้วเปลี่ยนไขว่ห้างขณะนุ่ง mini-skirt ก็จะโป๊อีกเหมือนกัน พวกแหวนกำไลต่างๆ ฉันก็คุ้ยเอาของเก่าๆมาใส่ประดับ เพื่อนชายฉันก็แซวบอกว่า ฉันก็น่ารักเหมือนเด็กผู้หญิงต่างตรงที่ฉันผมสั้นทรงนักเรียนชาย ไม่อย่างนั้นคงคิดว่าฉันเป็นเด็กผู้หญิงแล้วก็จะไม่สนใจ ไม่จีบมาเป็นแฟนด้วยแน่ๆ แล้วฉันถามกลับไปว่า ทำไมถึงให้แต่งชุดแบบนี้ละ เพื่อนชายตอบมาว่า เขาชอบตรงที่เป็นฉันไม่ใช่อาภรณ์เครื่องแต่งกาย ว่าแล้วเพื่อนชายก็ขอฉันหอมทีหนึ่ง ฉันก็ยืนแก้มให้ บางครั้งยืนอยู่ห่างกัน เพื่อนชายจะขอหอมก็ทำปากจุ๊บๆ แล้วฉันก็จัเอียงแก้มให้ ซ้ายทีขวาที และบางทีเพื่อนชายก็จะให้ฉันหอมแก้มกลับด้วย ซึ่งฉันก็ทำตามด้วยความยินดี ส่วนเวลาเข้าห้องน้ำปกติฉันก็ยืนฉี่โดยถลกกระโปรงขึ้น แต่ถ้าเป็นกระโปรงยาวเวลาถลกกระโปรงแล้วยืนฉี่บางทีน้ำกระเซ็นมาเลอะขอบกระโปรงเป็นดวงๆ ทำให้ฉันต้องถลกขึ้นสูงมากบางทีก็จับไม่อยู่สุดท้าย ฉันก็ลองนั่งฉี่ดูโดยปลดกางเกงในไปที่หัวเข่าแล้วค่อยนั่งยองๆฉี่ ปรากฏว่าได้ผลดี บางทีถึงแม้ไม่ได้ใส่กระโปรงยาวฉันก็นั่งฉี่เหมือนกัน แต่เวลานั่งฉี่เสร็จออกมาจากห้องน้ำเพื่อนชายจะแซวว่า

วันนี้นั่งหรือยืนฉี่โดยฟังจากเสียงน้ำกระเซ็น ไม่ก็แซวว่า วันนี้มีน้ำตกหรือน้ำไหล ตอนแรกฉันก็เขินแต่พอโดนแซวบ่อยครั้งฉันก็ชิน บางทีออกไปข้างนอกใส่กระโปรงแล้วเดินเข้าห้องน้ำชายด้วยความเคยชิน แล้วไปยืนกับโถฉี่ ทำให้เป็นที่ฮือฮา มีเสียงคนแซว ว่าเป็นสาวเป็นนางทำไมยืนฉี่ ตอนหลังฉันก็ตัดปํญหาโดยการนั่งฉี่ให้ชิน หรือไม่พยายามเข้าห้องน้ำข้างนอก เวลาไปเดินข้างนอกกับเพื่อนชาย เวลาแต่งชุดเด็กผู้หญิงจะเดินจูงมือ ควงแขน โอบเอว อย่างไม่เขินสายตาชาวบ้านชาวช่อง หลังจากครบกำหนดสัปดาห์นึง การบ้านทำไปได้พอสมควร ฉันก็กลับบ้านโดยลืมเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดผู้ชาย ฉันจึงแวะไปหาพี่สาว พอพี่สาวเปิดประตูออกมาเห็นเด็กผู้หญิงใส่หมวกปีกกว้างเสื้อสายเดี่ยวกระโปรง mini-skirt ก็ถามว่า หนูมาหาใครคะ ผิดห้องหรือเปล่า ฉันเล่นเปลี่ยนเสียงเล็กน้อย ก่อนตอบไปว่า ไม่ผิดห้องค่ะ หนูมาหาพี่สาว พี่สาวของหนูเขาอยู่ห้องนี้มานานแล้วค่ะ พี่สาวก็ทำหน้างง พร้อม รำพันว่า พี่สาวไม่เคยรู้จักฉันแล้วพี่สาวก็อยู่ห้องนี้มานาน แล้วก็ไม่เคยรู้จักหนูมาก่อนด้วย ฉันถอดหมวกออกพร้อมบอกพี่สาวว่าเป็น ฉันเอง พี่สาวร้องว๊ายตกใจ เอามือกุมหน้าอก ฉันถามพี่สาวว่า

จำฉันไม่ได้จริงๆหรอ พี่สาวบอกว่า เป็นไงมายังไงถึงแต่งชุดนี้มาละคะ พี่จำแทบไม่ได้ ถ้ามองผ่านๆไม่ได้เห็นหน้า แล้วก็ชวนฉันเข้าไปในห้อง พี่สาวถามสาเหตุถึงการแต่งตัวเป็นชุดเด็กผู้หญิงแถมเปรี๊ยวอีกต่างหาก ฉันก็เล่าว่าไปค้างบ้านเพื่อนชายมาหนึ่งอาทิตย์ พี่สาวคาดคั้นฉันว่า เพื่อนชายทำอะไรมิดีมิร้ายฉันบ้างไหม ฉันบอกพี่สาวไปว่า เพื่อนชายไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปกว่าที่ทำปกติ และบอกต่อไปว่า ฉันลืมเปลี่ยนชุดกลับ พร้อมอยากจะอวดพี่สาวด้วยเลยแต่งชุดนี้มาหาพี่สาว แล้วจะเปลี่ยนเป็นชุดธรรมดากลับบ้าน พี่สาวถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงว่า ฉันทานยาด้วยหรือไม่หรือแต่งอย่างเดียว ฉันบอกพี่สาวไปว่า ฉันและเพื่อนชายไม่ได้ติดยาเสพติด พี่สาวไม่ต้องห่วง พี่สาวพูดออกมาว่า ยาที่พี่สาวถามไม่ได้หมายถึงยาเสพติดแต่หมายถึงพวกยาคุมน่ะ ฉันถามพี่สาวว่า ทำไมฉันต้องทานยาคุมด้วยละ พี่สาวก็บอกว่า ถ้าไม่ทานก็ไม่เป็นไร ฉันได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ หลังจากนั้นในงานกีฬาสีของโรงเรียน ฉันเห็นรุ่นพี่ ม.ปลาย ที่ฉันรู้จักปกติเห็นพี่เป็นผู้ชาย แต่ในงานรุ่นกลับแต่งตัวเป็นผู้หญิงแถมมีหน้าอกด้วย ฉันจึงเข้าไปถามรุ่นพี่ว่า รุ่นพี่ไปทำอะไรมาถึงมีหน้าอกราวกับหญิงสาว

รุ่นพี่บอกว่าส่วนหนึ่งก็หน้าอกเขา อีกส่วนก็ยัดเอา ฉันจึงถามด้วยความสนใจว่า แล้วพี่มีหน้าอกได้ยังไงละ รุ่นพี่ตอบกลับมาว่า เธอทานยาคุมกับพวก hormorne เพศหญิง ทานมานานแล้ว ฉันถามรุ่นพี่ไปว่า ทานมานานแค่ไหน รุ่นพี่จึงตอบมาว่า เริ่มทานขนาดอายุเท่ากับฉัน รุ่นพี่อธิบายว่า ยาคุมนี่ทานเพื่อทำให้ผิวเนียนไม่หยาบกร้านไม่เป็นสิว ดูมีน้ำมีนวล แล้วรุ่นพี่ก็บอกชื่อยามาให้ ฉันได้แต่ฟังไว้เก็บไว้คิดในใจไม่ปรึกษาใครแม้แต่พี่สาวและเพื่อนชายเพราะคิดว่าคงไม่เห็นด้วยและคัดค้าน ในที่สุดฉันตัดสินใจไปซื้อยาคุมมาทาน ด้วยไม่อยากมีรูปร่างเป็นผู้ชายไปมากกว่านี้ กลัวจะใส่ชุดผู้หญิงแล้วไม่สวยแล้วเพื่อนชายจะไม่ให้ใส่ ฉันจึงแอบเพื่อนชายไปซื้อทานโดยไม่ปรึกษาเขาก่อน ที่ร้านขายยาเภสัชกรถามฉันว่าซื้อไปให้ใครทาน ฉันตอบไปว่าซื้อไปให้พี่สาวทาน โดยไม่บอกว่าซื้อไปทานเองกลัวเภสัชกรจะไม่ขายยาให้ เภสัชกรถามต่อมาว่า แล้วพี่สาวเคยทานมาก่อนหรือไม่ ฉันจึงตอบไปว่า ไม่เคยทาน เภสัชกรจึงอธิบายวิธีทานยาคุมให้ฉันฟังเพื่อฉันจะได้ไปอธิบายพี่สาวได้ถูก พร้อมบอกว่าถ้าพี่สาวไม่เข้าใจให้อ่านเอกสารกำกับยา ฉันรับยาคุมมาด้วยความตื่นเต้น

พร้อมคิดในใจว่า หวังว่ายาคุมจะทำให้ฉันไม่สามารถเป็นผู้ชายเต็มตัวได้ และยังคงความเป็นเด็กไว้



บทแทรก 14 ความทุกข์ทรมาน

หลังจากฉันทานยาคุมเม็ดสีชมพูไปได้ไม่กี่วัน ฉันมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัวแบบไมเกรน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงมาจากยาคุมที่ฉันทานเข้าไป แต่ฉันก็ยังไม่เลิกคิดจะทาน เพราะยาเม็ดนึงไม่ใช่ถูกราคาเม็ดละเกือบสิบบาท อาการที่เป็นอยู่ เป็นประมาณอาทิตย์กว่าๆ หลังจากทานยาคุมเข้าไป ความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก ความทรมานตลอดอาทิตย์ที่ผ่านมากำลังลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ฉันคิดว่าเมื่อฉันทานหมดแผงแล้วฉันจะไปซื้อมาทานต่อโดยไม่หยุดรออีกเจ็ดวันแบบผู้หญิงเพราะรอบเดือนฉันไม่มีมานี่นา ฉันคิดดังนั้นก็ตกลงปลงใจทำ ความเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างอย่างที่ควรจะเป็นกำลังจะเลือนหายไปจากชีวิตฉัน หนวด เครา ขนหน้า ขนหน้าแข้ง เสียงแตกๆ กำลังจะจากไป แล้วสิ่งที่ฉันได้ตอบแทนมาละ คุ้มค่าแค่ไหน อย่างมากคือความพอใจชอบใจของฉันเอง ตั้งแต่วันที่ฉันเลือกทานยาคุมเข้าไป ชีวิตฉันจะไม่กลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว และนี่เป็นสิ่งที่ฉันปรารถนามาตั้งแต่เด็ก เมื่อฉันโตขึ้น ฉันจะเป็นผู้หญิงแสนสวย วิถีชีวิตที่ฉันละทิ้งไปนานในที่สุดฉันได้กลับมาแล้ว ฉันไม่รู้ว่าอนาคตฉันจะเจออะไรทุกข์ระทมแค่ไหน แต่ฉันพร้อมที่รับชะตากรรมที่ฉันเลือก แม้ความสูญเสียจะมากเหลือคณานับก็ตาม ...



เรื่องนี้คิดว่าจบแค่นี้ เพราะหลังจากนี้ไม่รู้จะจินตนาการยังไงดี เพราะไม่มีข้อมูลของการกินยาคุมหรือ hormone ถ้าจะเขียนต่อคงต้องมีผู้อนุเคราะห์เล่าประสบการณ์การทานยาพวกนี้ให้ฟังเพื่อประกอบการเขียนเรื่องคงจะได้อ่านต่อ



ตอนที่ 15 ความตื่นตระหนก

วันเวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำไม่ไหลกลับเปรียนดั่งชีวิตฉันไม่ไหลกลับเช่นสายน้ำและกาลเวลา ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่ฉันรู้สึกได้เองและไม่ทันได้รู้สึกค่อยๆก้าวเข้ามาจากวัยเด็กสู่วัยรุ่น ขนตามร่างกายเริ่มขึ้นประปรายโดยที่ฉันไม่ทันสังเกตุเห็น วันหนึ่งฉันโดนเพื่อนชายกอดทำให้ฉันรู้สึกเจ็บๆบริเวณหน้าอกแถวหัวนม เวลาฉันเอามือไปจับจะรู้สึกแข็งๆเหมือนมีแผ่นอะไรอยู่ใต้หัวนม เพื่อนชายบอกฉันว่านี่เป็นอาการของนมแตกพาน แสดงว่าฉันกำลังเปลี่ยนแปลงจากเด็กสู่วัยรุ่น เพื่อนชายถามฉันต่อว่า แล้วขนละขึ้นหรือยัง ฉันบอกว่าไม่ทันสังเกตุ พอเพื่อนชายทักฉันจึงรู้สึกได้ว่า ทั้งขนหน้าแข้ง ขนตรงที่ลับมีขึ้นมาพอสมควรถึงแม้ไม่ยาวมากนัก เพื่อนชายขออนุญาติฉันเปิดให้เขาดูขนของฉันหน่อย แต่ฉันไม่ยอมด้วยความอาย ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนฉันกับเพื่อนชายอาบน้ำด้วยกันเสมอแต่นั่นเพราะฉันยังเด็กฉันจึงไม่คิดอะไร เพื่อนชายถามต่อไปว่าแล้วเช้าๆ X นั่นของฉันขันหรือยัง ฉันก็สงสัยว่าอะไรของฉันจะขัน ฉันจึงตอบไปว่า ฉันไม่ใช่ไก่จะได้ขันตอนเช้าๆ เพื่อนชายบอกว่าไม่ใช่ แล้วชี้มาที่กางเกง ฉันก็สงสัยบอกว่า ชี้อะไร ฉันทำหน้างงๆ ในที่สุดเพื่อนชายก็ทนไม่ไหวถามออกมาตรงๆว่า

อวัยวะเพศชายของฉันเช้าๆ มันลุกขึ้นมาแข็งโด่หรือไม่ ฉันก็ตอบไปว่า ไม่นี่นา ไม่เห็นว่ามันจะแข็งเลย เพื่อนชายก็ทำหน้าสงสัยให้ฉันลองไปสังเกตุดูดีๆ แล้วเขาก็จับฉันยกแขนขึ้นมองลอดผ่านเข้าไปดูว่า ขนรักแร้ของฉันขึ้นมาหรือยัง แล้วเขาก็ล้อๆฉันว่า ขนรักแร้ของฉันขึ้นแล้ว ฉันก็อายรีบหุบแขนลงทันทีแล้วอุทานไปว่า นึกว่าเล่นอะไร เขาจะขอดูรักแร้อีกข้างหนึ่ง แต่ฉันไม่ยอมให้ดู ขนหน้าแข้งที่ขึ้นเบาบางถึงจะไม่มากดกดำแบบเพื่อนชายแต่ก็มีขึ้นหยุมหยิมดูแรกรุ่น เพื่อนชายรำพึงออกมาว่า สงสัยต้องหาเวลาสำรวจร่างกายฉันบ้างแล้วว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ทำให้ฉันรู้สึกกลัว กลัวเพื่อนชายจะจับได้ว่าฉันแอบทานยาคุม ลูกกระเดือกของฉันโตขึ้นเล็กน้อยฉันพยายามพูดเสียงเบาๆ เพื่อบังคับไม่ให้เสียงแตกและน้ำเสียงไม่ให้แหบแห้งโดยการพูดบีบเสียง ฉันกลัวว่าวัยรุ่นจะพรากสิ่งเหล่านี้ไปจากวัยเด็กของฉัน ฉันดูเพื่อนร่วมชั้นเรียนหลายคนเริ่มเป็นสิวหรือบ่นเรื่องสิว แต่บนใบหน้าฉันก็ไม่มีสิว ทั้งๆที่ฉันไม่ค่อยรักษาความสะอาดบนใบหน้าเทาใดนัก สบู่ล้างหน้า โฟมล้างหน้า หรือแม้แต่โลชั่น ฉันก็ไม่เคยใช้น้ำเปล่าก็เพียงพอสำหรับการล้างหน้าสำหรับฉัน ในขณะเพื่อนบางคนใช้ทั้ง สบู่

ทั้งโฟม ล้างแทบจะทุกชั่วโมงสิวก็ยังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ฉันเริ่มสังเกตุว่าเพื่อนชายของฉันมีขนขึ้นตามริมฝีปากกับคางด้วย แม้จะนิดหน่อยแต่ก็สากๆแข็งๆ เพื่อนชายบอกว่าเขาโกนสองสามวันต่อครั้ง เมื่อฉันไปที่บ้านเพื่อนชายฉันซื้อกลอนประตูห้องน้ำมาให้เพื่อนชายซ่อมประตูหลังจากที่เสียมานาน ฉันบอกเพื่อนชายว่าฉันไม่อยากอาบน้ำร่วมกันอีกถ้าไม่จำเป็นเพราะเริ่มโตขึ้นแล้วฉันก็รู้สึกอายเขา แต่สาเหตุจริงๆแล้ว ฉันกลัวเพื่อนชายจะสังเกตุเห็นความแตกต่างระหว่างร่างกายของฉันกับร่างกายของเขาที่เติมโตไม่เหมือนกัน หัวนมฉันเริ่มหายเจ็บแล้ว แต่หัวนมกลับดูใหญ่โตขึ้นเล็กน้อยและมีสีแดงๆ ผิดกลับหัวนมของเพื่อนชายที่แนบสนิทกับหน้าอกแล้วสีออกจะไปทางสีดำ ฉันพยายามพรางหัวนมไม่ให้ใครสังเกตุเห็นโดยใส่เส



ขึ้นไปข้างบน&nbsp &nbsp &nbsp 





Papaya

กำลังหัดเมาธ์



เข้าร่วม: 20 Mar 2004

ตอบ: 46

ที่อยู่: ถ้าผมมีปืน 2 กระบอกผมจะแบ่งให้คุณกระบอกหนึ่งเพราะเราจะได้มีกันและกัน

ตอบเมื่อ: Th Jan 06, 2005 7:10 am&nbsp &nbsp เรื่อง: ต่อ&nbsp 



--------------------------------------------------------------------------------



ตอนที่ 15 ความตื่นตระหนก

วันเวลาผ่านไปเหมือนสายน้ำไม่ไหลกลับเปรียนดั่งชีวิตฉันไม่ไหลกลับเช่นสายน้ำและกาลเวลา ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่ฉันรู้สึกได้เองและไม่ทันได้รู้สึกค่อยๆก้าวเข้ามาจากวัยเด็กสู่วัยรุ่น ขนตามร่างกายเริ่มขึ้นประปรายโดยที่ฉันไม่ทันสังเกตุเห็น วันหนึ่งฉันโดนเพื่อนชายกอดทำให้ฉันรู้สึกเจ็บๆบริเวณหน้าอกแถวหัวนม เวลาฉันเอามือไปจับจะรู้สึกแข็งๆเหมือนมีแผ่นอะไรอยู่ใต้หัวนม เพื่อนชายบอกฉันว่านี่เป็นอาการของนมแตกพาน แสดงว่าฉันกำลังเปลี่ยนแปลงจากเด็กสู่วัยรุ่น เพื่อนชายถามฉันต่อว่า แล้วขนละขึ้นหรือยัง ฉันบอกว่าไม่ทันสังเกตุ พอเพื่อนชายทักฉันจึงรู้สึกได้ว่า ทั้งขนหน้าแข้ง ขนตรงที่ลับมีขึ้นมาพอสมควรถึงแม้ไม่ยาวมากนัก เพื่อนชายขออนุญาติฉันเปิดให้เขาดูขนของฉันหน่อย แต่ฉันไม่ยอมด้วยความอาย ถึงแม้ว่าเมื่อก่อนฉันกับเพื่อนชายอาบน้ำด้วยกันเสมอแต่นั่นเพราะฉันยังเด็กฉันจึงไม่คิดอะไร เพื่อนชายถามต่อไปว่าแล้วเช้าๆ X นั่นของฉันขันหรือยัง ฉันก็สงสัยว่าอะไรของฉันจะขัน ฉันจึงตอบไปว่า ฉันไม่ใช่ไก่จะได้ขันตอนเช้าๆ เพื่อนชายบอกว่าไม่ใช่ แล้วชี้มาที่กางเกง ฉันก็สงสัยบอกว่า ชี้อะไร ฉันทำหน้างงๆ ในที่สุดเพื่อนชายก็ทนไม่ไหวถามออกมาตรงๆว่า

อวัยวะเพศชายของฉันเช้าๆ มันลุกขึ้นมาแข็งโด่หรือไม่ ฉันก็ตอบไปว่า ไม่นี่นา ไม่เห็นว่ามันจะแข็งเลย เพื่อนชายก็ทำหน้าสงสัยให้ฉันลองไปสังเกตุดูดีๆ แล้วเขาก็จับฉันยกแขนขึ้นมองลอดผ่านเข้าไปดูว่า ขนรักแร้ของฉันขึ้นมาหรือยัง แล้วเขาก็ล้อๆฉันว่า ขนรักแร้ของฉันขึ้นแล้ว ฉันก็อายรีบหุบแขนลงทันทีแล้วอุทานไปว่า นึกว่าเล่นอะไร เขาจะขอดูรักแร้อีกข้างหนึ่ง แต่ฉันไม่ยอมให้ดู ขนหน้าแข้งที่ขึ้นเบาบางถึงจะไม่มากดกดำแบบเพื่อนชายแต่ก็มีขึ้นหยุมหยิมดูแรกรุ่น เพื่อนชายรำพึงออกมาว่า สงสัยต้องหาเวลาสำรวจร่างกายฉันบ้างแล้วว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง ทำให้ฉันรู้สึกกลัว กลัวเพื่อนชายจะจับได้ว่าฉันแอบทานยาคุม ลูกกระเดือกของฉันโตขึ้นเล็กน้อยฉันพยายามพูดเสียงเบาๆ เพื่อบังคับไม่ให้เสียงแตกและน้ำเสียงไม่ให้แหบแห้งโดยการพูดบีบเสียง ฉันกลัวว่าวัยรุ่นจะพรากสิ่งเหล่านี้ไปจากวัยเด็กของฉัน ฉันดูเพื่อนร่วมชั้นเรียนหลายคนเริ่มเป็นสิวหรือบ่นเรื่องสิว แต่บนใบหน้าฉันก็ไม่มีสิว ทั้งๆที่ฉันไม่ค่อยรักษาความสะอาดบนใบหน้าเทาใดนัก สบู่ล้างหน้า โฟมล้างหน้า หรือแม้แต่โลชั่น ฉันก็ไม่เคยใช้น้ำเปล่าก็เพียงพอสำหรับการล้างหน้าสำหรับฉัน ในขณะเพื่อนบางคนใช้ทั้ง สบู่

ทั้งโฟม ล้างแทบจะทุกชั่วโมงสิวก็ยังขึ้นมาไม่หยุดหย่อน ฉันเริ่มสังเกตุว่าเพื่อนชายของฉันมีขนขึ้นตามริมฝีปากกับคางด้วย แม้จะนิดหน่อยแต่ก็สากๆแข็งๆ เพื่อนชายบอกว่าเขาโกนสองสามวันต่อครั้ง เมื่อฉันไปที่บ้านเพื่อนชายฉันซื้อกลอนประตูห้องน้ำมาให้เพื่อนชายซ่อมประตูหลังจากที่เสียมานาน ฉันบอกเพื่อนชายว่าฉันไม่อยากอาบน้ำร่วมกันอีกถ้าไม่จำเป็นเพราะเริ่มโตขึ้นแล้วฉันก็รู้สึกอายเขา แต่สาเหตุจริงๆแล้ว ฉันกลัวเพื่อนชายจะสังเกตุเห็นความแตกต่างระหว่างร่างกายของฉันกับร่างกายของเขาที่เติมโตไม่เหมือนกัน หัวนมฉันเริ่มหายเจ็บแล้ว แต่หัวนมกลับดูใหญ่โตขึ้นเล็กน้อยและมีสีแดงๆ ผิดกลับหัวนมของเพื่อนชายที่แนบสนิทกับหน้าอกแล้วสีออกจะไปทางสีดำ ฉันพยายามพรางหัวนมไม่ให้ใครสังเกตุเห็นโดยใส่เสื้อกล้ามหรือไม่ก็เสื้อยืดไว้ในชุดนักเรียน ถึงแม้ว่าจะร้อนแต่เพื่อความปลอดภัย เพราะเคยมีเพื่อนในห้องคนหนึ่งสังเกตุเห็นหน้าอกฉันมีจุดนูนขึ้นมา แล้วหันมาจิ้มทันที ฉันเจ็บจนร้องจ๊าก เพราะจุดที่โดนจิ้มตรงกัวหัวนมพอดี และดูท่าทางเพื่อนจะตกใจไม่แพ้กัน เพื่อนถามฉันว่าอะไรอยู่ตรงนั้น ทำไมต้องตกใจขนาดนั้น ฉันเกือบพูดไปว่า เป็นเพราะหัวนมมันเจ็บ

โชคดีที่นึกทัน จึงตอบไปว่า สร้อยคอมีพรัห้อยอยู่ ไม่อยากให้ใครมาจิ้มซี้ซั๊ว แล้วฉันก็ล้วงสร้อยคอออกมาให้เพื่อนชมดู เพื่อนหยิบมาดูแล้วไม่ว่าอะไร ฉันจึงต้องหาอะไรมาปิดหัวนม พอดีได้กระดาษเทปกาวมาม้วนหนึ่งจึงเดินซุกเข้าไปในห้องน้ำปลดกระดุมแล้วตัดเทปกาวยาวประมาณนิ้วเศษแปะเข้าไปที่หัวนมทั้งสองข้าง แต่พอกลับมาถึงบ้านดึงออกนี่เจ็บน้ำตาเล็ดไปอีกสองรอบ เพื่อนชายว่าฉันทำตัวห่างเหินจากเขา ทำให้เพื่อนชายรู้สึกน้อยใจ แต่ฉันให้เหตุผลไปว่า ที่ฉันแยกกับเขาอาบน้ำเพราะตอนนี้ฉันเริ่มโตขึ้นไม่ใช่เด็กอีกต่อไป ทำอะไรก็เลยรักนวลสงวนตัว เพื่อนชายได้ฟังก็หัวเราะแล้วก็เข็กหัวฉันไปหนึ่งที บอกว่าทำไมถึงเพิ่งจะมาคิดตอนนี้ละ เมื่อก่อนไม่เห็นจะเป็นไร แก้ผ้าอาบน้ำด้วยกัน จนเห็นทุก X ส่วนหมดแล้ว เพื่อนชายได้ฟังก็นิ่งเงียบไป ฉันจึงเข้าไปโอบเพื่อนชายจากด้านหลัง แล้วบอกว่า ฉันกับเพื่อนชายยังเป็นแฟนอยู่เหมือนเดิม ฉันกอดรัดเพื่อนชายแน่นขึ้น จนทำให้เจ็บหน้าอกบริเวณหัวนม ฉันจึงได้แต่หวังว่า อะไรของฉันทิ่มหลังเขาอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะสงสัย แต่ฉันจะบอกไปว่า เป็นเพราะสร้อยคอที่ฉันใส่อยู่ หลังจากเพื่อนชายติดกลอนประตูเสร็จ

ฉันจึงสบายใจไม่ต้องกังวลว่าใครจะเห็นร่างกายฉันตอนอาบน้ำอีก



ตอนที่ 16 ส่งท้ายปีเก่า

จนแล้ววันหนึ่งช่วงปีใหม่ซึ่งเป็นวันหยุดยาว ฉันกับเพื่อนชายไปเที่ยวงาน count down กันแล้วฉันก็เลยมาค้างที่บ้านเพื่อนชายหลังจากงานจบ โดยก่อนไปงานฉันกับเพื่อนชายแวะมาเปลี่ยนชุดนักเรียนเป็นชุดลำลองเพื่อไปในงาน ฉันอาบน้ำเป็นคนแรก พอฉันอาบน้ำเสร็จนุ่งผ้าขาวม้าออกมา โดยใช้ผ้าเช็ดตัวคลุมหัวไหล่ปิดช่วงอกไว้ เพื่อนชายรออาบน้ำต่อจากฉันดึงผ้าเช็ดตัวออกจากไหล่ฉันเข้าไปอาบน้ำด้วย ฉันรีบปิดหน้าอก กอดอกไว้ทำเป็นว่าหนาวสั่นแล้วรีบเดินไป เพื่อนชายก็สงสัยในท่าทีของฉันเหมือนกัน แต่ไม่คิดอะไรเดินเข้าห้องน้ำไป ฉันโล่งอกที่เพื่อนชายไม่ทันเห็นอะไร ฉันจึงรีบแต่งตัวในชุดเสื้อบางสีขาวทรงคุณยาย โดยใส่เสื้อเกาะอกสีเนื้อไว้ข้างใน เหตุที่ฉันใส่เกาะอกได้ถึงแม้จะไม่มีหน้าอกก็ตามเพราะเสื้อเกาะอกตัวเล็กแล้วเป็นแบบยางยืด ทำให้ไม่หลุดเวลาใส่ยกเว้นจะมีใครมาดึงเสื้อเกาะอกขนาดกว้างหนึ่งคืบออกไป แล้วฉันก้เลือกใส่ mini-skirt สีแดงดำลายสก็อต ขณะฉันกำลังใส่ถุงน่องสีขาวอยู่เพื่อนชายก็ออกมาจากห้องน้ำในสภาพเปลือยเปล่า เห็นฉันนั่งหันหลังให้เขาอยู่ เขารีบดึงผ้าเช็ดตัวที่พาดบ่ามาปิดของสงวนไว้ ฉันหันไปมองเพื่อนชาย เพื่อนชายจึงบอกกับฉันว่า

นึกว่าเด็กผู้หญิงที่ไหนแวะมาเยี่ยม เพื่อนชายไม่คิดว่าฉันจะแต่งได้น่ารักขนาดนี้ ฉันก็อายหน้าแดงไปรอบหนึ่ง เพื่อนชายถามฉันว่า กำลังทำอะไรอยู่แต่งตัวใกล้เสร็จหรือยัง ฉันตอบเพื่อนชายไปว่า ใกล้เสร็จแล้วกำลังใส่ถุงน่อง เพื่อนชายทวนคำ ถุงน่อง ด้วยความสงสัย เพราะไม่เคยเห็นฉันใส่ ฉันบอกเพื่อนชายไปว่า ลองซื้อมาใส่ดู แล้วถามกลับไปว่า ดีไหม แล้วยืนหมุนตัวรอบนึงให้เขาชม เพื่อนชายดูแล้วชมว่า น่ารักจริงๆ ถ้าเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆ เขาคงเมินไม่มองแล้วละ ฉันมองเห็นอะไรตุงๆใต้ผ้าเช็ดตัว ฉันจึงถามเขาว่าซ่อนอะไรไว้หลังผ้าเช็ดตัว เพื่อนชายทำหน้าตางงๆแล้วบอกฉันว่า ไม่มีอะไรซ่อนไว้ ฉันบอกเขาไปว่า เขาโกหก เห็นๆอยู่ว่ามีอะไรตุงๆ แล้วฉันก็ดึงผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวเพื่อนชายออกก่อนที่เขาจะตอบ ฉันรีบดังเพราะกลัวว่าเขาจะเอาของไปซ่อน หลังผ้าเช็ดตัวหลุดไปฉันเห็นเป้าของเพื่อนชายเป็นแท่งค่อนข้างกลมยาวพอประมาณตรงปลายหัวสีแดงๆและลำต้นสีดำเมี่ยม ฉันถามเพื่อนชายว่าเป็นโรคอะไรหรือเปล่า ทำไม X นั่น ถึงชี้ได้ขนาดนี้ เพื่อนชายถามกลับว่า ไม่รู้จริงๆหรือ แล้วก็บอกว่า ไม่บอกดีกว่า แล้วก็ขอตัวเข้าห้องน้ำไปอีกรอบ ไม่กี่นาทีเพื่อนชายก็เดินออกมา

โดยไม่มีอะไรตุงอีก ฉันจึงถามเพื่อนชายว่า หายแล้วหรอ ไปทำอะไรมาละ ไม่ได้ยินเสียงน้ำเลย เพื่อนชายตอบว่าไปเล่นว่าวมา ฉันทวนคำ เล่นว่าว ในห้องน้ำมีว่าวให้เล่นด้วยหรือ เล่นยังไง สอนหน่อย ถ้าทีหลังเล่นอีกพาไปดูที ฉันตอบด้วยความซื่อ เพื่อนชายบอกว่า วันนี้เล่นไม่ไหวแล้ว ต้องรอวันอื่น แล้วต้องไปงานข้างนอกอีกเสียเวลาเยอะแล้วจะไปสายไม่ทันงาน พุดจบเพื่อนชายจัดแจงแต่งตัวด้วยความฉับไวในชุดเสื้อกล้ามลายตาข่าย กับกางเกงขาสั้นแบบนักฟุตบอล แล้วก็ควงฉันออกไปเที่ยวงาน ในงานคนเยอะมากต้องเดินเบียดเสียดกันตลอด ฉันกับเพื่อนชายต้องเดินจูงมือกันหลงตลอดเวลา พองานเริ่มฉันยืนดูอยู่สักพักรู้สึกว่ามีคนเอามือล้วงเข้าไปใต้กระโปรงฉัน ตอนแรกฉันเข้าใจว่า เป็นมือคนเดินผ่านไปมาโดนเข้าโดยบังเอิญ แต่พอสักพักหนึ่ง มือที่ล้วงผ่านไปผ่านมาก็เปลี่ยนมาเป็นขยำอย่าเมามือ ฉันสะดุ้งเล็กน้อยพยายามมองหาว่าใครล้วง พอฉันหันกลับไปมอง มือที่ล้วงและขยำก็ถอนไป ฉันมองไม่เห็นใครผิดสังเกตุ ฉันจึงเดินเขยิบหนีไป แต่ไปได้ไม่ไกลเพราะคนแน่นมาก ผ่านไปไม่นานฉันก็รู้สึกว่ามีคนมาล้วงอีกคราวนี้ล้วงเข้าไปดึงเกงเกงในแล้วพยายามใช้นิ้วเกลี่ยไล่ไปตามร่องก้น

ฉันรู้สึกขนลุกซู่จะร้องก็ร้องไม่ออก ได้แต่ดึงแขนเพื่อนชายพร้อมน้ำตาเริ่มเล็ดไหลออกมา เพื่อนชายหันกลับมาเห็นฉันร้องไห้น้ำตานองหน้า จึงตกใจถามฉันว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันกลืนน้ำลาย ก่อนตอบไปว่ามีคนลวนลามฉัน เพื่อนชายจึงดึงฉันไปอยู่ข้างหลังเขาอีกด้านหนึ่งตรงข้ามกับด้านที่ฉันอยู่แล้วพยายามมองหาคนทำอนาจารแต่ไม่พบใครผิดสังเกตุ ได้แต่เห็นคนเดินผ่านไปมา เพื่อนชายจึงปลอบฉันโดยดึงฉันเข้าไปกอดไว้ในอ้อมแขนเขา ให้ฉันอยู่ภายใต้วงล้อมของเขา แต่ฉันบอกเพื่อนชายว่า ฉันไม่มีอารมณ์ดูแล้ว จึงชวนเพื่อนชายกลับบ้าน เพื่อนชายขอร้องฉันขอดูต่ออีกนิด เพราะงานเพิ่งจะเริ่มไปได้ไม่นาน ฉันจึงบอกเพื่อนชายไปทั้งๆที่งอนและน้อยใจน้ำตาที่ยังไม่หลุดไหลว่า ถ้าเขาไม่กลับ ฉันจะกลับเอง แล้วขอกุญแจบ้านเพื่อนชายมา เพื่อนชายทำท่าหัวเสียไม่พอใจ พยายามอ้อนวอนฉัน แต่ฉันไม่พูดอะไร เดินจากไปพร้อมบอกว่า ฉันจะกลับบ้านฉันก็ได้ไม่ไปค้างแล้ว เพื่อนชายจึงวิ่งมาดึงฉันไว้ บอกว่าจะไปส่ง ฉันนิ่งเงียบเดินไปไม่พูดไม่จา เพื่อนชายพยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ฉันไปค้างกับเขา เพื่อนชายพูดอยู่นานจนพาฉันขึ้นเมล์ พอฉันรู้สึกอีกทีฉันมาอยู่บ้านของเพื่อนชาย เพื่อนชายเดินจูงฉันเข้าบ้านไป

ฉันอาบน้ำเปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนแล้วเข้านอนแต่ความเศร้าในใจยังเหลืออยู่ เพื่อนชายอาบน้ำเสร็จแล้วมานอนข้างฉัน ฉันบอกเพื่อนชายไม่ให้นอนใกล้ด้วยยังงอนอยู่ แล้วฉันหยิบหมอนข้างมากั้นเอาไว้ เพื่อนชายก็เงียบอย่างเข้าใจ นอนลงโดยมีหมอนข้างกั้นอยู่ พร้อมบอกราตรีสวัสดิ์นอนหลับฝันดี หายเศร้าไวๆ ฉันนิ่งเงียบ สักพักนึงแต่ฉันยังไม่หลับ พอฉันอารมณ์เย็นลง ฉันหันไปมองเพื่อนชายเห็นเพื่อนชายกำลังหลับสนิท ไม่อยากปลุก เลยไปกระซิบข้างหูเพื่อนชายเบาๆว่า ราตรีสวัสดิ์ ขอบคุณสำหรับวันนี้ แล้วจุ๊บที่แก้มเพื่อนชายเบาๆหนึ่งที กลัวจะปลุกเขาตื่น แต่ไม่รู้ว่าเพื่อนชายจะได้ยินหรือเปล่า แต่ฉันเห็นรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเพื่อนชาย แล้วฉันก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

0
b l u e _ s i n e 5 มี.ค. 49 เวลา 16:36 น. 20

ประมาณเดือนกว่าๆอะ คอมเสีย


PS.  บางครั้ง.. โชคชะตาก็ชอบกลั้นแกล้งคนหน้าตาดี อยากเช่นที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ กร๊ากๆๆๆ
0