สาระเรื่องปืน [1]
ตั้งกระทู้ใหม่
สืบเนื่องจากกระทู้ที่547567 ของคุณกระต่ายโลหิต เลยได้รู้ว่าจริงๆแล้ว ชาวบอร์ดนักเขียนหลายๆท่านยังมีความเข้าใจผิดเรื่องเกี่ยวกับอาวุธที่เรียกว่าปืนกันอยู่พอสมควรเลยทีเดียว
คราวนี้กระผม นายSadoZ จึงขอบังอาจเอาข้อมูลที่มีอยู่มาบอกกล่าวให้ทุกๆคนทราบก็แล้วกันนะครับ
มาเริ่มกันจากคำถามที่ว่า “ปืนคืออะไร”
ตอบ:อาวุธไงล่ะ...... (วิ่งหลบบาทาคนในบอร์ด)
ย้อนไปยังสมัยโบราณ มนุษย์ยังเร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ หากินโดยการล่าสัตว์ด้วยอาวุธที่ทำขึ้นจากก้อนหิน...... เฮ้ย! ย้อนนานเกินไปแล้ว กลับมาหน่อย.... นั่น น่าน ผ่านยุคสำริดมานั่นล่ะ โอเคเราเข้าสู่ยุคประวัติศาสตร์แล้ว..... หยุด.... บอกให้หยุดก็หยุดเซ่!!!! พักที่นี่ก่อน
คริสตศตวรรษที่11
ตอนนี้เราอยู่ที่ประเทศจีน ยุคที่พญามังกรยังผงาดอยู่เหนือแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาล ที่นี่ล่ะครับ ต้นกำเนิดของปืน
อ้าวๆ อย่ามองผมแบบนั้นสิ นั่นไงครับ เห็นกระบอกไม้ไผ่นั่นไหม...... ครับ มันไม่ใช่ปืนหรอก แต่มันคืออะไรน่ะเหรอ? ให้เวลาคิดสี่วินาที
สี่
สาม
สอง
หนึ่ง
มันคือ พลุ ครับ
ขอปากเหวอว่าถึงบางอ้อกันหน่อยเถอะพี่น้อง...... เข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่า พลุกับปืน มีส่วนสำคัญเหมือนกันหนึ่งอย่าง
ก็คือ ดินปืน หรือดินระเบิด นั่นเอง
ในส่วนนี้ไม่ได้มีการบันทึกไว้ว่าชาวจีนคนไหนเกิดหัวหมอ คิดเจ้าส่วนผสมจาก ดินประสิว กำมะถัน และถ่านไม้เอามาจุดไฟเล่นจนระเบิดเปรี้ยงปร้างสร้างความสนุกสนานให้ชาวบ้านชาวช่อง (แถมด้วยความไม่สงบของประชากรชาวโลกในอีกหลายร้อยปีต่อมา)
และในศตวรรษที่13 ชาวตะวันตกก็ได้มาพบกับเจ้าดินปืนที่ประเทศจีนนี่ล่ะ
ในตอนแรกนั้น พวกฝรั่งเขาก็ไม่ได้เอาดินปืนไปทำอะไรมากกว่าจีนนักหรอกครับ ก็ทำดอกไม้ไฟให้เด็กเล่นไปเรื่อย จนกระทั่งมีคนหัวหมอคิดขึ้นมาว่า X เจ้าของเสียงดังตูมตามเนี่ย ถ้าส่วนประกอบมันเป็นของแข็งล่ะก็ มีหวังได้เจ็บกันระนาวแหงๆ (หัวคิดสร้างสรรค์ดีนี่ลุง...)
และนั่น คือที่มาของปืนกระบอกแรก
สมัยต้นๆ ปืนยังไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายนัก ในที่นี้ผลหมายถึงปืนพกนะครับ ปืนใหญ่น่ะ ใช้ยากยังไงใครก็รัก.... เพราะมันทลายกำแพงเมืองได้สะใจเขากัน จนบรรดาเจ้าเมืองถอดใจเลิกเสียเวลาสร้างกำแพงเมืองมาให้เป็นเป้าซ้อมยิง แล้วหันมาคิดแผนการรบแบบอื่นแทน
แต่ขอให้ทำความเข้าใจไว้ว่า การบรรจุกระสุนของปืนในยุคโบราณน่ะ มันไม่ได้สะดวกสบายอย่างปัจจุบัน พูดง่ายๆคือ “ปืนพก” ยุคแรกสุดเป็นเพียงท่อนโลหะกลวงๆ ปลายข้างหนึ่งตันมีรูเล็กๆให้จุดไฟ เวลาจะยิงทีก็ต้องใส่ดินปืนลงไปก่อน เอาไม้ยาวๆกระทุ้งจนแน่น แล้วหยอดลูกเหล็กกลมๆซึ่งก็คือกระสุนลงไป กระทุ้งอีก แล้วค่อยหย่อนสายชนวนจุดไฟจากรูเล็กๆนั่น ดินปืนมันถึงจะระเบิดตูม ให้ลูกกระสุนพุ่งไปตามบุญตามกรรมเพราะไม่มีศูนย์เล็ง
....กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ.... ลูกธนูของอีกฝ่ายก็ปักอกไปเรียบร้อยแล้วครับ
แต่ในเมื่อคนมันจะคิด มันก็ต้องคิดออกมาจนได้นั่นล่ะครับ หลังจากปล่อยให้ทหารถูกขวานเฉาะหัวมาหลายร้อยปี จึงได้มีประสุนแบบปลอกโลหะที่มีทั้งแก๊ปชนวน ดินระเบิด และหัวกระสุนรวมอยู่ในนัดเดียวกันแบบไมโล 3 in 1 ที่เราได้ใช้กันในปัจจุบัน แต่ก็คงเดาได้ง่ายๆว่า เจ้ากระสุนปืน 3 in 1 ยุคแรกๆนี่ มันก็ไม่ได้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ยิงมากไปกว่าคนถูกยิงนักหรอกครับ เพราะกระสุนแบบนี้จะบรรจุจากทางท้ายลำกล้อง ถ้าเผลอๆปืนทำมาไม่ดี ปิดล็อคท้ายลำกล้องไม่สนิท เวลายิงกระสุนพุ่งไปหาเป้าหมายได้จริง แต่คนยิงจะได้ปลอกพุ่งกระแทกหน้าแถมมาด้วย ตามหลักของกฎแห่งกรรมที่พวกเราได้เรียนมาในวิชาพุทธศาสนา
หลังจากได้กระสุนที่บรรจุได้สะดวกสบายมาแล้ว ก็ได้เวลาพัฒนาตัวปืนให้ยิงได้เร็วขึ้นแล้วล่ะครับ อนึ่งปืนในสมัยนั้นมันยังยิงได้ทีละลูก เวลาจะรบกันใครยิงไวกว่าก็รอด ครั้นจะพกไปทีละหลายๆกระบอก ก็ใช่ว่ามันจะเบา ช่วงแรกๆก็เลยมีคนคิดว่า ถ้าเราเอาลำกล้องหลายๆลำกล้องมาติดกันแล้วขยับเล็งทีละลำกล้อง แต่ว่าแบบนั้นก็ต้องมานั่งขยับปืนเล็งใหม่ทุกครั้งอีก สุดท้ายจึงมีคนคิดเอาลูกโม่มาใช้ โดยใส่กระสุนลงในลูกโม่ แล้วก็หมุนมันขึ้นมายิงทีละนัดด้วยลำกล้องเดียว ปรากฏว่าดี ก็เลยเป็นที่ติดอกติดใจใช้กันเรื่อยมา เพราะมันทำงานเป็นระบบ ถึงจะเจอลูกกระสุนด้าน(ซึ่งคงจะเจอกันบ่อย เพราะข้าวของส่วนผสมที่ใช้ก็ยังไม่มีมาตรฐานกันนัก) ก็สามารถหมุนเอาลูกต่อไปขึ้นมายิงได้โดยไม่ต้องเปิดลำกล้องหยิบเข้าหยิบออกให้วุ่นวาย
แต่เอาเข้าจริง ปืนลูกโม่มาเสร็จสมบูรณ์เอาในยุคบุกเบิกของอเมริกา สมัยนั้นเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างที่เห็นกันในหนังคาวบอยนั่นล่ะครับ แต่ละคนพกปืนยิงกันเปรี้ยงปร้าง ในยุคนี้เองที่เหมือนจะตกลงกันได้ว่า ปืนลูกโม่ประบอกหนึ่งจะบรรจุได้6นัด เพราะเป็นขนาดที่พอเหมาะสำหรับพกพา และกระสุนก็ใหญ่พอจะยิงกันโป้งเดียวจอด จึงได้ชื่อเรียกอีกชื่อว่า Six gun
แต่เนื่องจากความพอดีมันอยู่ที่พอใจ ถ้าไม่พอใจดีเท่าไหร่ก็ยังไม่พอ ประมาณร้อยปีต่อมาก็มีการพัฒนาปืนสั้นที่บรรจุกระสุนได้มากกว่าลูกโม่ขึ้นมาอีก จนเกิดปืนที่บรรจุกระสุนซ้อนๆกันอยู่ในแมกกาซีน เมื่อยิงนัดแรกเสร็จก็จะดีดปลอกออก แล้วใช้สปริงส่งนัดใหม่มาเข้ารังเพลิง เป็นจุดเริ่มต้นของปืนออโต้ (ชื่อจริงๆควรจะเป็น Semi Automatic หรือ กึ่งอัตโนมัติ) แต่ก็เหมือนกับสิ่งประดิษฐ์ทุกอย่างในโลก พอสร้างได้แรกๆมันก็ยังใช้ไม่ค่อยดีหรอกครับ มีขัดลำอะไรไปเรื่อย จนกระทั่งได้นายจอห์น บราวนิ่ง มาออกแบบจนทำงานได้ดี แล้วขายต่อให้บริษัทโคล์ทไปทำขายได้สตางค์ไป
เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับที่มาของอาวุธที่เรียกว่าปืน โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่ามันก็คืออาวุธสงครามที่พัฒนามาจากของเล่นเราดีๆนี่เอง เลยพลอยคิดไปทุกครั้งว่า มนุษย์เราถ้าลองจะทำอะไรแล้ว ก็สามารถทำได้ไปเสียหมด โดยเฉพาะเรื่องการรบราฆ่าฟัน จะเอาชัยเหนือคนอื่นแล้วล่ะก็ ดูท่าจะชื่นชอบกันเสียนักเชียว เลยพาลไปนึกทุกทีว่า ต่อไปเราอาจมีศิลปะการต่อสู้ที่พัฒนามาจากการโดดยาง หรืออาวุธสงครามทลายโลกที่ได้มาจากการเดินกะลาก็เป็นได้
แต่ถึงจะเคยเป็นของเล่นมาก่อน ปืน ก็เป็นอาวุธที่สร้างความเสียหายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนมากมาย ดังนั้นจำกันไว้ด้วยนะครับว่า ปืนเป็นอาวุธ ไม่ใช่ของเล่น กระสุนที่พุ่งออกไปนั้น ฆ่าคนตายจริงๆ ไม่สามารถชุปชีวิตให้ฟื้นมาได้ด้วยItemใดๆทั้งนั้น โปรดจำให้ขึ้นใจไว้ก่อนจะหยิบปืนขึ้นมาใส่มือ
(สำหรับในบอร์ดนี้ คงจะเป็นมือตัวละครกันล่ะมั้ง ^ ^”)
จบกันเสียทีสำหรับหัวข้อในกระทู้นี้ ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าที่เขียนๆมานั้นจะอ่านเข้าใจกันหรือเปล่า ดังนั้นถ้ามีข้อสงสัยอะไร หรือพิมพ์ผิดตรงไหน(แอบหลอกชาวบ้านตรวจให้ซะงั้น) ก็บอกมาได้เลยครับ ผมจะพยายามไปหาคำตอบมาให้
16 ความคิดเห็น
สาระค่ะสาระ
แต่ขี้เกียจอ่าน อ่านไม่จบ ไม่สนปืน ชอบธนูมากกว่านะ
PS. บางทีชีวิตหลังความตายอาจจะมีความสุขกว่าตอนนี้ก็ได้นะ
ขยันมากมาย - -b
เอาไปหนึ่งโหวตครับพี่
โฮกกกกกกกกกกกก
พลาด......
จัดหน้าพลาด
รู้สึกอ่านยากไปเลย ขออภัยครับ Y o Y
สาระครับ สาระ
ธนูยากกว่าปืนซะอีกท่านหลิน ชิชะ - -+
PS. Yet if there be any on whom the shadow of our curse has not yet fallen, I should find at least a few to follow me, and should not go hence as a beggar that is thrust from the gates.
สาระค่ะ (แต่ก็ขี้เกียจอ่านเหมือนกัน= =")
มีคนเค้าบอกมาว่า "ปืน ไม่มีคำว่าขอโทษ พอมันลั้นไปแล้ว ชีวิตดับสูญทันที เอาคืนมาไม่ได้" (ฟังแล้วขนลุก บรึ๋ยยย..)
PS. little-->devil หึๆๆ แบล็ค ปีศาจตัวน้อยมาแล้วจ้า
สาระมากมาย >_<
PS. ใครอ่านขอสองบาท ดูผ่านๆขอสองพัน อ่านกันมันส์ขอสองหมื่น อุ๊ยมือลื่น...กระทบหัวคนแต่ง
โอ้ววววว ในที่สุดก็เจอจนได้ คนที่รู้ลึกซึ้งถึงแก่นเรื่องปืน
อืมๆ หาได้ยากยิ่ง
PS. ท้ากกกกกกกกษิณ!!!!! ( เป็นเกย์!!!!!)
ถึงพลาดแต่ก็อ่านง่าย อ่านจบได้โดยไม่ยาก ... อ๊ากกกก อยากจะเอาของมาบูชา ขอบคุณท่านมากจริงจริ๊ง =/ \= ~~!!
แอบฮาแหละ ฮ่ะๆ ท่านเขียนได้น่าสนใจอ่านได้เรื่อยๆไม่น่าเบื่อหรือวิชาการเกินไปจริงๆนะ ^^~
ขอเซฟ + โหวตเข้าคลังล่ะครับ ..
มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับปืน หรืออาวุธอื่นๆก็เอามาแบ่งปันให้พวกเราชาวเด็กน้อย(?) ได้มีความรู้ประดับสมองและให้ตัวละครลูกน้อยของพวกเราหยิบอาวุธขึ้นมาใช้เล่นอีกนะคร้าบบบ ^w^~
เซฟก่อนล่ะ >w</!!
PS. น้ำมันหมด ... ทำไงดีล่ะ [[http://my.dek-d.com/kurchizz/story/view.php?id=127312]]
สาระ และสาระ  =[]=  แกมีสาระกะเข้าเป็นด้วยรึ
หึหึหึ  ^^
สาระ O-o
โหวตให้แล้วนะค้า ^_^
PS. Girls are not powerless anymore...
โห พี่ดอส ไปหามาจากไหนเนี่ย OoO
PS. สิ่งมีชีวิตที่หลับไหลอยู่ในมุมในหลืบของบอร์ด....~ เหอๆ ถูกใจอีกแล้ว มันอดไม่ไหวใจแตกอีกแล้ว สกัดยังไงก็เอาไม่อยู่ ควบคุมไม่อยู่ มันอู้หู..ซะทุกราย ^///^
ถ้าจะใช่ดี... ท่านช่วยซื้อมาให้ข้าน้อยซักกระบอกสิ - -+++
PS. พระเจ้าตา สั่งสอนสุดสาครมาว่า 'อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนหน้าเหลี่ยม'
อืมน่าสนใจจอร์จดีจิงๆพี่น้อง
อืม.............
PS. เพราะถูกฆ่าเลยต้องแก้แค้น=ผู้คนที่สูญเสียคนที่รักไป เพราะฆ่าเค้าเลยต้องชดใช้=สิ่งที่ผู้ใหญ่ทำเด็กต้องเป็นคนชดใช้ แล้วแบบนี้สันติสุขจะมีหรือ?=ในเมื่อต่างฝ่ายอยากมีชีวิตรอด การผจญภัยเริ่มต้นแล้ว
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?