Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

ข้อเตือนใจ สำหรับสาวๆ ... ที่บ้า "แบรนด์เนม"

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


          ของสวยๆ งามๆ แบรนด์เนมหรูหรา ทั้งกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า รวมทั้งแอสเซสเซอรี่ เครื่องประดับต่างๆ ยิ่งแบรนด์ดัง ทั้ง ปราด้า กุชชี่ หลุยส์วิตตอง อามานี่ เวอร์ซาเช่ และอีกมากมายหลายแบรนด์ดัง ล้วนแต่เป็นสิ่งยั่วยวนชวนให้สาวๆหลงใหลได้ปลื้มไปกับแบรนด์ดังเหล่านี้ หญิงสาวๆ จำนวนไม่น้อยต้องเข้าสู่ภาวะ "ติดแบรนด์เนม" จนเกือบจะต้องเสียทั้งตัวและเสียทั้งใจ

          เหมือนกับ "มิโกะ" สาวสวยวัย 26 ปี ที่ชอบแต่งหน้าแต่งตัว เธอเป็นว่าที่มหาบัณฑิตโครงการสตรีและเยาวชนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มิโกะกล้าเล่าอย่างไม่อายเพราะต้องการให้เป็นอุทาหรณ์สอนใจแก่คนบ้าแบรนด์ทั้งหลาย

          มิโกะเล่าถึงชีวิตการติดแบรนด์เนมว่า ตั้งแต่เด็กเวลาไปซื้อของกับพ่อแม่ก็จะเข้าห้างสรรพสินค้าตลอด พอโตขึ้นมาเข้าสู่วัยเรียนก็จะติดนิสัยซื้อของมียี่ห้อในห้างสรรพสินค้า อย่างเครื่องเขียนก็จะใช้ของซาริโอ เสื้อผ้า รองเท้าก็จะมียี่ห้อหมด ไม่เคยเดินตลาดนัดเลย อีกอย่างก็ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะครอบครัวทำธุรกิจก่อสร้างและฟาร์มโคนม เวลาซื้อพ่อแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร บางครั้งก็อ้อนให้พ่อแม่ซื้อให้บ้าง แต่ละเดือนใช้เงินซื้อสินค้าแบรนด์เนมไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท

          "ช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย ถือว่าเป็นช่วงที่ใช้จ่ายเงินซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า และข้าวของต่างๆ มากที่สุด เพราะตอนที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 พ่อสงสาร เห็นว่าต้องใช้จ่ายเงินเกี่ยวกับเรื่องเรียนมาก กลัวว่าจะไม่มีเงินใช้ในยามฉุกเฉิน จึงให้บัตรเครดิต ซึ่งเป็นบัตรเสริมมาใช้ 3 บัตร วงเงินบัตรละ 50,000 บาท ชีวิตในช่วงที่มีบัตรเครคิตรู้สึกว่ามีความสุขมาก ใช้จ่ายเงินได้สะดวกขึ้น อยากได้ของอะไรก็ใช้บัตรเครดิตรูดอย่างเดียว จำได้ว่าเคยซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า วันเดียวก็เป็นเงินหลายหมื่นบาท ส่วนที่ซื้อของมากนั้น เพราะไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี อย่างซื้อกระเป๋า ตัดสินใจซื้อหนึ่งใบ แต่พอเห็นอีกใบก็อดใจไม่ไหว จึงซื้อทั้งหมดเลยสองใบ อีกอย่างเวลาไปซื้อของก็จะเดินคนเดียว จะไม่ชวนเพื่อนไปด้วย เพราะกลัวเพื่อนจะขัดใจไม่ให้ซื้อของที่ชอบ" มิโกะอธิบาย

          มิโกะบอกด้วยว่า เคยช็อปปิ้งสูงสุดมากถึงหนึ่งแสนบาทต่อเดือน เพราะเวลาชอบอะไรก็จะใช้บัตรรูดทันที รูดจนบัตรเต็มวงเงินทุกใบ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่ได้เป็นคนจ่ายเงินเอง พอพ่อแม่รู้ว่าใช้บัตรเครดิตต่อเดือนเป็นเงินมากถึงหลักแสน พ่อจึงเรียกไปคุยและไม่ให้ใช้บัตรเครดิตอีก จึงรู้สึกน้อยใจพ่อแม่

          ประจวบเหมาะช่วงที่เธอน้อยใจพ่อ แม่ สาวสวยคนนี้ก็เรียนจบพอดี เธอจึงเดินหน้าหางานทำด้วยตนเองโดยไม่ขอความช่วยเหลือจากครอบครัว "พอจบก็ไปทำงานเกี่ยวกับงานบริการลูกค้าได้เงินเดือน 7,500 บาท เห็นเงินเดือนแรกรู้สึกทั้งดีใจและท้อใจคิดว่าไม่พอใช้แน่นอน เพราะในอดีตแค่ช็อปปิ้งวันเดียวก็หมดเงินไปเป็นหมื่นแล้ว"ด้วยนิสัยที่ชอบช็อปปิ้ง ใช้เงินเก่งไม่เพียงแต่ทำให้เธอต้องเสียเงินนับแสนบาท แต่น่าตกใจไปกว่านั้น เธอเกือบจะต้องเสียตัว เพราะเพียงแค่อยากจะได้เงินมาจับจ่ายซื้อของ

          "ช่วงที่ทำงานมีเพื่อนมาชวนให้ไปทำงาน เพื่อนบอกว่าเป็นงานสบายแค่ไปทานข้าวกับผู้ใหญ่อย่างเดียวก็ได้เงินมาใช้แล้ว จึงไม่ได้คิดอะไรมากและหลงเชื่อเพื่อนตัดสินใจไปทำงาน เพราะอยากได้เงินมาใช้จ่ายเพียงอย่างเดียว แต่พอไปทำจริงๆ ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะมันไม่ใช่แค่ทานข้าวอย่างเดียว ต้องนอนกับผู้ใหญ่ด้วยถึงจะได้เงินมาใช้ แต่ถือว่าโชคดีที่วันนั้นไม่ถูกเลือก ผู้ใหญ่เลือกผู้หญิงคนอื่นไปแทน เลยรอดพ้นจากการเสียตัว" มิโกะเปิดใจ

          จุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอลดการช็อปปิ้งของแพงและไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายได้นั้น มิโกะ เล่าว่า หลังจากบอกให้พ่อแม่รู้ว่าเกือบต้องเสียตัว เพราะอยากได้เงินไปใช้จ่ายซื้อของ ท่านก็เสียใจและบอกว่าไม่ให้ทำแบบนั้นอีก เห็นพ่อแม่เสียใจแล้วรู้สึกเศร้าและเสียใจมาก จึงตัดสินใจลดการซื้อของราคาแพงและไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัวอีกต่อไป คิดว่าสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียนและเป็นคติเตือนใจว่าจะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจอีกแล้ว

          "ทุกวันนี้ชีวิตก็มีความสุขดี ใช้จ่ายเงินเฉพาะเงินเดือน และจะเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้ยามจำเป็น ของใช้ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นของแบรนด์เนม เสื้อผ้าก็ซื้อตามตลาดนัด แต่จะเลือกชุดที่ใส่แล้วเหมาะกับเรามากกว่า ราคาถูกๆ ก็สวยได้ ที่ผ่านมาก็คงไม่โทษใคร แต่เป็นเพราะทำตัวเองมากกว่า จึงอยากจะฝากเตือนเยาวชน คนรุ่นใหม่สมัยนี้ว่าอย่าใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย เวลาจะใช้เงินต้องคิดไตร่ตรองให้ดี อย่าตามใจตัวเองและแฟชั่นมากเกินไป ต้องคิดอยู่เสมอว่าพ่อแม่หาเงินมาด้วยความยากลำบาก และไม่ควรทำให้พ่อแม่เสียใจจากการกระทำของเรา" มิโกะฝากถึงคนรุ่นใหม่

          หวังว่าวัยรุ่นวัยโจ๋อีกหลายคนที่ยังหลงใหลอยู่กับการติดแบรนด์เนม ใช้จ่ายเงินเกินตัว เมื่อเห็นตัวอย่างของ "มิโกะ" แล้วควรจะกลับตัวกลับใจหันมาใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ความสุขที่แท้จริงคงไม่ไกลเกินเอื้อม





ข้อมูลจาก

ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

แสดงความคิดเห็น

>

8 ความคิดเห็น

Pooh_pp12 7 มิ.ย. 50 เวลา 22:36 น. 2

เราก็มีนะของแบรนด์เนมนะแต่มีน้อยมากแค่3ชิ้นและใช้อย่างถนอมสุด ๆ เพราะได้มาอย่างยากลำบาก


PS.  ดวงดาวอยู่ในอ้อมกอดของท้องฟ้า แต่ดวงใจอยู่ในอ้อมกอดของความรัก
0
สมน้ำหน้า 8 มิ.ย. 50 เวลา 17:23 น. 4

ก็ดีแล้วหนิ
ใช้เข้าไปดิของแบรนด์
เอาแต่แบรนด์มาอวดว่ามีเงิน
ทั้งๆที่ความจริงที่บ้านไม่มีจะกิน
โง่

0
เหอๆ ประเทศไทย 8 มิ.ย. 50 เวลา 21:15 น. 5

เหอะๆๆ มันก็มีนะ พวกผู้หญิงที่หาเสี่ย เพื่อจะเอาตังมาอัพเกรตตัวเองน่ะ
สิ้นคิด เงิน คือ พระเจ้า ชีจึงยอมทำทุกอย่าง

0
ขนนกสีฟ้า 8 มิ.ย. 50 เวลา 21:58 น. 6

เราก็ชอบใช้ของแบรนด์นะ แต่ไม่บ้ามาก
ส่วนใหญ่พี่ชายชอบซื้อมาให้อ่ะ ก็แบบ
พยายามเก็บอย่างดีอ่ะ


PS.  - จำเป็นด้วยหรอที่ต้องมีเหตุผล สาเหตุที่คนฆ่าคนคืออะไรยังไม่รู้เลย แล้วเหตุผลที่คนช่วยคน จะมีคำอธิบายตามหลักเหตุและผลได้ยังไง
0
GBOELEFR 22 ม.ค. 54 เวลา 17:10 น. 7

เรามีนาฬิกาอย่างเดียวเก็บเงินซื้อเอง ค่อนข้างเเพงสำหรับเด็กมอต้นTT'
เเต่เพื่อนบอกเหมือนละร้อยอะ เสียใจมาก
55555555555555555555


PS.  • I LUV JANG GEUN SUK & SHINee <3 •
0