Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

คำถามน่าถีบ

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่
บทความนี้หาได้พูดถึงคำถามกี่ยวกับจักรยานไม่ แต่พูดถึงคำถามบางอันที่ต้องดูให้ดีว่าผู้ถูกถามเป็นใคร ไม่เช่นนั้นอาจโดนตื้บ คำถามหนึ่งคือคำถามที่ผมทิ้งไว้ท้ายบทคามเรื่อง “64=65 บ้านเธอสิ” อีกคำถามหนึ่งเป็นคำถามที่ผมได้ยินมาตั้งแต่สมัยยังเด็กเกี่ยวกับการหายไปของเงิน

คำถามแรกคือ จุดเป็นสิ่งที่ไม่มีขนาด ไม่มีความความกว้าง ไม่มีความยาว เส้นประกอบด้วยจุด แล้วทำไมเส้นถึงมีความยาวหว่า?

คำถามที่สองเป็นเรื่องของชายสามคนที่วานให้เด็กช่วยไปซื้อของอย่างหนึ่งซึ่งมีราคา 30 บาท โดยพวกเขาออกเงินไปคนละ 10 บาท ด้วยความที่ชายทั้งสามเป็นลูกค้าประจำ แม่ค้าจึงลดราคาให้ 5 บาท ระหว่างเดินทางกลับ เด็กก็เห็นว่าเงิน 5 บาทมันแบ่งกันไม่ลงตัวจึงคิดที่จะคืนให้ชายสามคนคนละหนึ่งบาทแล้วเก็บไว้เอง 2 บาทในฐานะค่าแรง เราสรุปได้ว่าชายแต่ละคนจ่ายเงินคนละ 9 บาท รวมเป็น 27 บาท รวมเงินที่เด็กอีก 2 บาทก็เป็น 29 บาท ทั้งที่เดิมมีเงิน 30 บาท เงินหายไปไหนหนึ่งบาท?

เป็นอย่างไรครับ เริ่มมึนหรือยัง ถ้ายังก็คิดไปก่อนจนกว่าจะมึน หากมึนแล้วก็เริ่มอ่านต่อได้เลยครับ

คำถามแรกมันดูแปลก ๆ นะ อย่างที่พวกเราเข้าไปแสดงความคิดเห็นในบทความเรื่อง “64=65 บ้านเธอสิ” หากเรานำเส้นตรงท่อนหนึ่งมา สมมุติว่ายาว x ถ้าเราตัดเป็น 2 ท่อนเท่า ๆ กัน ก็จะได้ความยาวท่อนละ \displaystyle{\frac{x}{2}} หากเราตัดเป็น 1,000,000 ท่อนเท่า ๆ กัน ก็จะได้ความยาวท่อนละ \displaystyle{\frac{x}{1,000,000}} แต่หากเราบดจนป่นเป็นจุด ก็จะได้ว่าจุดแต่ละอันยาว 0 นำมาต่อกันยังไงให้ยาว x เหมือนเดิมหว่า หากงงจนตื้อทนไม่ไหวแล้วอย่าเพิ่งอ่านต่อ ตั้งสติให้ดีก่อน เดี๋ยวมึนมากอาเจียรใส่คอมพิวเตอร์พังได้ ก่อนอื่นมาดูก่อนว่าอะไรคืออะไร จุดรู้จักกันแล้ว เส้นก็รู้จักกันแล้ว ทีนี้ก็ต้องรู้จักส่วนของเส้นตรง ส่วนของเส้นตรงคือท่อนตรงกลางที่ได้จากการตัดด้วยกรรไกรสองทีที่ไม่ใช่ที่เดิม หรือสองทีสองที่ ที่ต้องบอกเพราะบางคนดันตัดสองทีที่เดียวกันก็เลยทำให้เส้นตรงกลายเป็นรังสีสองอัน ความยาวก็พูดได้เฉพาะความมยาวของส่วนของเส้นตรงซึ่งได้จากระยะห่างระหว่างจุดปลายสองจุด จะไปมองว่าความยาวนี้เกิดจากความยาวของจุดมารวมกันก็เห็นจะไม่เข้าท่า ถือว่าจับแพะมาชนแกะ หรือมั่วนิ่มนั่นเอง

เอาหละทีนี้ก็มาดูเรื่องที่สองกันเลย ผู้ชายสามคนจ่ายเงินคนละ 10 บาท แม่ค้าลดให้ 5 บาท เด็กส่งเงินคืนให้คนละบาทเก็บไว้เอง 2 บาท ผู้ชายจ่ายคนละ 9 บาท รวมเป็น 27 บาท รวมกับเงินที่เด็กอีก 2 บามท ทั้งหมด 29 บาท หายไปไหนบาทหนึ่งหว่า เรื่องนี้เราต้องค่อย ๆ ตัดตัวลวงออก ซึ่งตัวลวงที่ชัดเจนที่สุดก็คือเด็กเจ้าปัญหาที่บังอาจงุบงิบเงินไป 2 บาท หากเด็กบ้านั่นไม่อมเงินไป เรื่องก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะชายแต่ละคนก็จะได้เงินทอน \displaystyle{\frac{5}{3}} บาท หรือ \displaystyle{1\frac{2}{3}} บาท แต่ละคนก็จะจ่ายแค่ \displaystyle{8\frac{1}{3}} บาท รวมสามคนก็เป็น 25 บาท รวมกับที่เด็กอีกศูนย์บาททั้งหมดก็มี 25 บาท เฮ้ยทีนี้หายไป 5 บาทเลย แย่ยิ่งกว่าเก่าอีก งั้นให้เด็กอมเงินให้หมดเลยดีกว่า ชายสามคนก็จะจ่ายคนละ 10 บาท รวมเป็น 30 บาท ที่เด็กอีก 5 บาท จะบ้าตาย เกินมาได้ยังไงตั้ง 5 บาท

แน่นอนครับสสารย่อมไม่ไปไหน เพียงแต่ย้ายที่ ครั้งหนึ่งครูที่สอน ร.ด. ที่กองพันทหารราบที่ 11 แถวบางเขนเขาโต้แย้งว่า มันจะจริงได้ยังไงที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าสสารไม่สูญหายไปจากโลก ลองดูธงที่ยานอพอลโลเอาไปปักไว้ที่ดวงจันทร์ซิ่ มันหายไปจากโลกชัด ๆ ผมขอตัวและขอเชิญชวนให้ผู้อ่านไปเอาหัวโขกกำแพงคอนกรีตซักพักนะครับ

สิ่งที่เราควรพูดถึงก็คือเงินที่ออกจะเท่ากับเงินที่เข้า หรือเงินที่ถูกจ่ายจะเท่ากับเงินที่ได้รับ ผู้ชายจ่ายเงินรวม 30 บาท แม่ค้าได้เงิน 25 บาท เด็กได้ 2 บาท ชายแต่ละคนได้เงินคืนคนละบาท ก็จะได้ 30 บาทเป็นรายได้รวม หรือจะมองว่าชายสามคนจ่ายคนละ 9 บาท ก็เป็นรายจ่ายรวม 27 บาท แม่ค้าได้ 25 บาท เด็กได้ 2 บาท การจะนำตัวเลขที่ไม่เกี่ยวกันมารวมกันแบบมั่วนิ่มย่อมเกิดปัญหานั่นเอง

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเอาของที่ไม่เกี่ยวกันมาเกี่ยวกัน เช่น อาจมีคนดูสมการ
5 \times 0 = 0
แล้วย้าย 0 จากทางซ้ายมาหาร กลายเป็น
\displaystyle{5 = \frac{0}{0}}
ทำอย่างนี้ก็จะได้ \displaystyle{2 = \frac{0}{0}} แล้วในที่สุดก็กลายเป็น 5 = 2 นี่เองที่ทำให้นักคณิตศาสตร์ถือว่าการหารด้วยศูนย์เป็นสิ่งที่ไม่นิยาม หรือไม่อนุญาตให้หารด้วยศูนย์นั่นเอง

ท้ายสุดก็ขอทิ้งคำถามประหลาดที่ไม่เกี่ยวกับตัวเลข แต่มันมีคำตอบนะครับ

อะไรเอ่ยคูณกับช้างแล้วได้หมู หรือ ช้างคูณอะไรเท่ากับหมู


PS.  ถ้าจะแอด แอดที่เมล shcool-of-chocolate@hotmail.com นะ

แสดงความคิดเห็น

6 ความคิดเห็น

unlean 28 ก.ค. 50 เวลา 20:18 น. 4

เราตอบข้อสุดท้ายได้อะน่ะ  ขาอ่ะ  เพราะจำนวนขาของช้างกับขาของหมูมันเท่ากันอ่ะ


PS.  การชอบใครสักคนนั้นมันไม่ใช่เรื่องยาก แต่การให้เขาหันมามองเรานั้นช่างยากยิ่ง
0
กดกด 31 ก.ค. 50 เวลา 09:12 น. 5

ขอตอบข้อแรกน่ะ
ตอบ เงินหนึ่งบาทไม่หายไปไหนหรอกแท้ที่จริงมันลงตัวพอดีนั่นคือ
เงิน 30 บาท ซื้อของ 25 เหลือ 5 บาท เด็กชายเก็บไว้ 2 บาท แจกเด็กสามคนคนล่ะ 1 บาท 3 คน เป็น 3บาท ครบพอดี
ที่บอกว่าชายสามคนจ่ายคนล่ะ 9 บาทนั้นมันผิด

0
มนุดอะจิถามได้ 4 ส.ค. 50 เวลา 20:05 น. 6

ไม่เข้าใจเลยโค-ตรงง ไม่เข้าใจค.ห.ที่5อะ ผิดยังงัย ก้อจ่ายคนละ 10 ได้คืนมาคนละ 1 บาท ก้อเท่ากับ 10-1=9 อะ งงโว้ย ไม่คิดแล้ว งงงง

0