โรคงูสวัด
โรคงูสวัด (Herpes zoster) โรคงูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ "วีแซดวี" (varicella-zoster virus) เป็นคนละโรคกับ โรคเริม คนที่เป็นโรคงูสวัดจะต้องเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน เมื่อภูมิต้านทานอ่อนแอลงจึงกลายเป็นโรคงูสวัดและโรคงูสวัดจะเป็นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นในชีวิตนี้ ซึ่งต่างกับโรคเริมที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้อีก (ยกเว้น ผู้ที่มีความต้านทานต่ำมาก ๆ เช่น เอดส์อาจกลับมาเป็นโรคงูสวัดซ้ำได้อีก)
อาการ
จะมีอาการปวดมากเจ็บแสบร้อนบางคนคันร่วมด้วยเป็นไข้ได้ บางคนปวดจนทรมานมาก นอนไม่หลับ กลุ่มของตุ่มน้ำในนี้จะเริ่มแห้ง และตกสะเก็ดจางหายไปใช้ระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน
ลักษณะผื่น
ระยะแรกจะรู้สึกปวดแสบปวดร้อน หรือคันบริเวณที่เป็น ต่อมา 1-2 วัน จะเห็นมีกลุ่มของตุ่มน้ำใสเกิดขึ้น อยู่บนพื้นผิวหนังที่มีสีแดง และกลุ่มของตุ่มน้ำใสนี้จะวางเรียงตัวกันเป็นเส้นตามแนวของเส้นประสาทที่ผิวหนัง (ตามแนว dermatome) เพราะฉะนั้น จะเห็นเป็นทางขวางตามลำตัวด้านหน้า ด้านหลัง รอบเอว ตามแนวเส้นประสาทตามยาวที่แขนและขา หรือตามแนวเส้นประสาทที่บริเวณใบหน้า นัยน์ตา หู ศีรษะ เป็นต้น งูสวัด ไม่สามารถจะพันตัวเรา จนครบรอบเอวได้เพราะแนวเส้นประสาทของตัวเรา จะมาสิ้นสุดที่บริเวณกึ่งกลางลำตัวเท่านั้น ในคนธรรมดาที่มีภูมิต้านทานปกติ งูสวัดจะไม่ลุกลามเข้ามาแนวกึ่งกลางลำตัวไปอีกซีกหนึ่ง ของร่างกาย (ยกเว้นในกรณีที่มีภูมิต้านทานต่ำ เช่น โรคเอดส์ เป็นต้น ถ้าเกิดเป็นงูสวัด ก็อาจเป็นข้ามแนวกึ่งกลางลำตัวไปอีกซีกหนึ่งของร่างกายได้ หรือเป็นงูสวัดทั่วร่างกายได้)
อาการต่อเนื่อง
อาการปวดตามแนวเส้นประสาทระยะจากที่โรคงูสวัดหายแล้ว (post herpetic neuralgia) คืออาการปวดเจ็บแสบร้อนตามแนวเส้นประสาทนี้ ถึงแม้ว่า ผื่นงูสวัดหายไปแล้ว แต่ก็ยังคงมีอาการปวดแสบร้อนอยู่ บางท่านเป็นอยู่หลายเดือนทำให้ทรมานพอสมควร มักพบในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป
อาการแทรกซ้อน
สำหรับอาการแทรกซ้อนที่สำคัญคือ อาการปวดเกิดขึ้นภายหลังจากผื่นหายหมดแล้ว มักเกิดกับผู้สูงอายุที่เป็นงูสวัดบริเวณประสาทสมองคู่ที่ 5 อาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผื่น หรือโรคแทรกซ้อนทางตา เช่นตาอักเสบ เส้นประสาทตาอักเสบ หรือ แผลที่กระจกตา ในกรณีของผู้ป่วยที่ภูมิต้านทานต่ำ เช่น เป็นโรคเอดส์ หรือผู้ป่วยที่ได้รับยากดอิมมูน อาจมีการกระจายของผื่นทั่วตัวได้ แพทย์บางท่านอาจจะให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสชนิดรับประทานเป็นเวลาประมาณ 5-10 วันร่วมด้วย ทั้งนี้ต้องอยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา
วิธีรักษาโรคงูสวัด
- รักษาตามอาการคือ กินยาระงับอาการปวด อาการคัน เช่น พาราเซตามอล ไอดาแรค พอนสแตน คลอเฟนนิรามีน ฯลฯ
- ยาต้านไวรัส ซึ่งราคาค่อนข้างแพงมาก ควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ เฉพาะทางด้านผิวหนัง แต่ได้ผลดีมาก ช่วยระงับอาการได้รวดเร็ว และทำให้ระยะเวลา ของโรคสั้นลง เช่น กลุ่มยาอะไซโคลเวียร์ โซวิแรกซ์ วาลเทรกซ์ แฟมซิโคลเวียร์ ไวลิม ไวโรแรกซ์ เป็นต้น
- ยาทากลุ่มฆ่าเชื้อไวรัส เป็นกลุ่มยาอะไซโคลเวียร์
- ยาทาพวกเสลดพังพอน ใช้ทาระงับอาการได้ดีพอสมควร ราคาไม่แพง
การปฏิบัติตน
งูสวัด เป็นโรคที่เชื่อว่าไม่ติดต่อ เป็นแล้วหายไปเองได้ เพียงแต่รักษาแผลให้สะอาด ในระยะเป็นตุ่มน้ำใสที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเกลืออุ่นๆ หรือ กรดบอริก 3% ปิดประคบไว้ เมื่อผ้าแห้งก็ชุบเปลี่ยนใหม่ ทำเช่นนี้วันละ 3-4 ครั้งๆ ละประมาณ 15 นาที ในระยะตุ่มน้ำแตกมีน้ำเหลืองไหลต้องระมัดระวังการติดเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้าสู่แผลได้ ควรใช้น้ำเกลือสะอาดชะแผลแล้วปิดด้วยผ้าก๊อสที่สะอาด ถ้า ปวดแผลมากรับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล
ในรายเป็นมากหรือรุนแรงจะต้องเข้ารับการตรวจรักษากับแพทย์ทันที เช่น ผู้ป่วยสูงอายุที่มีอาการปวดและอับเสบรุนแรง ในคนที่มีภูมิต้านทานต่ำจากการได้ยากดภูมิต้านทานไว้ ได้แก่ ยาฆ่าเซลล์มะเร็ง หรือจากการได้รับการฉายรังสี หรือในผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งของตอมน้ำเหลือง เป็นต้น การรับประทานอาหารที่เกี่ยวกับโรคที่คุณเป็นนั้น สามารถรับประทานได้ทุกอย่างไม่มีข้อห้าม ยกเว้นแต่ของหมักดองที่ควรจะงด
สูตรยา
ให้นำด่างทับทิม ผสมน้ำอุ่น และเช็ดตามตุ่มแผลต่างๆเพื่อฆ่าเชื้อ และให้นำว่านหางจระเข้ ทาหลายๆรอบ และให้ใช้ด้วยผงวิเศษตราร่มชูชีพปะตามแผล ก่อนว่านหางจรเข้แห้ง (สูตรนี้จะทำให้แผลเริ่มแห้งภายใน1-4 วัน) ซึ่งด้วยสรรพคุณ ของว่านหางจรเข้แล้ว จะทำให้ไม่เกิดแผลเป็น
* ช่วงแผลแห้งจะเกิดอาการคัน ซึ่งถ้าเกาอาจเกิดเป็นแผลเป็นได้
11 ความคิดเห็น
ขอบคุณสำหรับความรู้
ขอบคุนค่า
ยายเราก้อเป็นเหมือนกานอ่ะ
แต่แผลหายแล้ว
แกบอกว่าแต่ยังเจ็บข้างในอยู่
ยังงัยก้อขอบคุนน้า
จ้า มีอารายต้องแบ่งปันกันน๊า อิอิ
ขอบคุณจ้า ที่เอาความรู้ดีดีมาให้อ่านนะ
เราเคยเปนอ่า
แต่เรายังไม่แก่น้า- -*
โคดทรมาน เจบๆ แสบๆ
ปะมานเดือนนึงอ่าหายสนิท ^^
เค ยเปน เเล้ ว
ทรมาน ท้อง เ สีย ปวด ท้อง
ปว ดหัว เปน ไข้
ไม่ไห วอะ
อย่า ไ ปเป็น เล้ย ย  ย  ระวัง ตัวกัน ด้ว ย
เราเป็นอยู่อ่ะแสบที่สุด แสบจนทำให้นอนไม่หลับเลยอ๋อออแล้วช่วยบอกหน่อยน่ะว่าต้องงดอาหารอะไรบ้าง8
เราก้อเคยเป็นคับเมื่อปีที่ผ่านมาเรีมแรกอาการจะปวดมากคับปวดข้างหลังโดยไม่รุ้สาเหตุแล้วก้อเป็นผื่นแดงๆๆประมาณสี่ห้าวันหลังจากปวดหลังก้อเลยให้เพื่อนดูว่าเป็นอะไรเพื่อนบอกว่าเป็นงูสวัดคับเพราะเขาเคยเป็นแล้วเพื่อนก็แนะนำเราไปเป่ากับคนเฒ่าคนแก่แถวบ้านอะคับประมาณสามวันหายแปลกมากเลยเป็นวีธีทางไสยศาต์อะคับแต่หายจรีงๆๆนะระยะเวลาที่เป็นเขาห้ามกีนของหมักของดองนะคับเพราะเชื้อจะลามและไม่หายผมก้อมีเรื่องเล่าแค่นี้แหละคับทานยาตามโรงพยาบาลไม่เห็นหายเลยอะ
เราก๊เปนเหมือนกัลแต่ยังไม่หายเลย
แต่ทำไมมันขึ้นที่นิ้วเราด้วยอ่ะแต่ส่วนใหญ่ขึ้นที่คอปวดมากๆๆแต่ก๊ใกล้หายแล้วให้คนแก่เป่าให้แสบๆๆๆมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
แกรักษาอาการงูสวัดได้นะครับ
leejangmeng.com/ยาสมุนไพรจีน/ยาแก้เริม-งูสวัด-ไฟลามทุ่ง.html
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการจะลบความคิดเห็นนี้หรือไม่ ?