Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

อ้วนมาหลายปี มาผอมอีกทีก็ปีสี่สะแล้วฮะ [ในที่สุดก็พบทางสว่าง]

ตั้งกระทู้ใหม่
ตั้งกระทู้ใหม่


อ้วนมาหลายปี มาผอมทั้งที ก็ตอนปีสุดท้าย

เฮ้ออออ [ในที่สุดก็พบทางสว่าง]





        
สวัสดีครับมิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน เฮ้ย!!! ไม่ใช่!!! เรียกเราว่าพีมนะคับ อายุ 21ปีแล้ว ตอนนี้เรียนปีสี่ มนุษอิ้ง ตามหัวข้อเลย เราเป็นคนที่อ้วนมาตั้งแต่มอต้นเลยก็ว่าได้แบบว่าทั้งอ้วนทั้งดำ บังเอิญว่าเป็นลูกครึ่ง [แม่อีสานพ่อใต้] ทั้งผิวทั้งหน้าก็เลยได้มาอย่างลงตัว


ที่มาเขียนกระทู้เนี่ย พีมไม่ได้จะมารีวิว คนอ้วน ที่ลดน้ำหนัก แล้วหล่อ แล้วสวยนะฮะ บอกก่อน แต่ก่อนหน้าตายังไง ปัจจุบัน ก็..................ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นคับ



อ้วนนนอย่างกับหมูเลย !!!! แบบนี้ พีมก็เลยต้องเริ่มลด นน.แล้วละฮะ ใช้มาหลายวิธีเลย ทั้งได้ผลและไม่ได้ผล มาดูกันเถอะว่าพีมทำไงบ้าง












กินให้น้อยลง :

 ปากมันหิว ท้องก็ย่อยเร็วจริงๆ [คิดในใจ] คือกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม เวลากินข้าวก็ตั้งเบิ้ลสามจานเลยนะ โดยเฉพาะตอนที่มาเรียนมหาวิทยาลัย ที่ กทม มีห้องส่วนตัว มีครัวเสร็จสรรพ -หมูพีมก็เลยหอบหิ้วข้าวสารและของกินต่างๆมาตุนไว้มากมาย เหมือนกับโกดัง และที่พีคสุดครับ คือหุงข้าวกินเองด้วยฮะ เพราะคิดว่ากินที่ร้าน แล้ว แม่งไม่อิ่ม หุงเองดีกว่าาาา55555


ออกกำลังกาย :

คนน้ำหนักเกือบร้อยคงไม่เข้าใจหรอกฮะ กับคำๆนี้ เพื่อนๆก็เอาแต่ถามคำถามนี้ทั้งนั้น อ้วนแล้ว เมิงไม่ลดละวะ.................#คือตอบตรงๆว่าถ้าลดง่ายตรูลดไปแล้วเว้ยยยย

พีมลองมาแทบทุกวิธีแล้ว ทั้งบังคับตัวเองและให้คนอื่นบังคับ แต่ผลที่ได้คือ......มากสุดแค่สามวัน !!!!! หลังจากนั้นก็มาบุกอาหารตรงหน้าอย่างบ้าคลั่งเหมือนเดิม

เริ่มจากตอนเข้าปีหนึ่งปีสอง มีรุ่นพี่ในเอกนี่แหละคับ ช่วยเคี่ยวเข็ญ ลากดึงไปฟิตเนส แต่พีมก็หาข้ออ้างมาสารพัด ไม่ว่างบ้าง มีอ่านสอบบ้าง กลับบ้านบ้าง เอาจริงๆคือขี้เกียจจ!!!!! เพราะเคยไปเล่นกลับมาแล้วเดี้ยงเลยอะ ทั้งเหนื่อยทั้งเมื่อย เกลียดห้องฟิตเนสไปเลยครับช่วงนั้น


พอรุ่นพี่เขาอ่อนใจก็เลยปล่อยเลยตามเลยครับ คราวนี้จากที่น้ำหนักเกือบแตะร้อย ก็ทะยานพุ่งทะลุเป้า พีมก็กลายร่างเป็นหมูดำ นน.ร้อยสิบโล O.O คือช่วงนั้น เริ่มอึดอัดมาก หายใจไม่คล่องเลย เดินไปไหนนิดเดียวนี่คือเหนื่อยมาก โดยเฉพาะเหงื่อนี่ยิ่งกว่าไปอาบน้ำมาเลยครับ!!!!! =_=







เดินกลับจากสะพานซังฮี้ : 

เริ่มมาใช้วิธีการนี้ก็ตอนขึ้นปีสอง โชคดีคือได้ผลจากการซ้อมฝึกรับน้องไปบ้างฮะ คือซ้อมเต้นหนักสุด ซ้อมแม่งทุกวัน ซ้อมเช้าซ้อมเย็น คือกินไปเท่าไหร่ก็ย่อยหมด ช่วงนั้นก็เลยรู้สึกว่าตัวเบาในสัปดาห์ต่อมา ก็เลยตัดสินใจไปลองขึ้นตาชั่งดู หลังจากที่ห่างมาตั้งแต่มัธยม [กลัวตัวเลขจริงๆ] แต่ปรากฎว่า!!!!!!!!!!!!!!!!!!   เห้ยยยยยยยยยยO.O 104.6 กก

พระเจ้า!!!!!! น้ำหนักกรูลดครับพี่น้องงงง ช่วงนั้นเลยแบบว่าโคตรดีใจและหึกเหิมมากอะคับ ไปไหนก็มีแต่เพื่อนทักว่า เฮ้งงเมิงเพรียวขึ้นวะ -เราก็ยิ้มๆเขินประหนึ่งว่า ลดได้เหลือ 65แล้วว  เอ่อลืมบอกว่าพีม สูง 167 นะฮะ เรียกว่าไม่ได้เตี้ย และไม่ได้สูง แต่พอบวกน้ำหนัก ก็เลยเป็นหมูเลย จากนั้นเพื่อนในกลุ่มก็ชวนไปนั่งเล่นบนสะพานซังฮี้ฮะ รับบรรยากาศเย็น -เราก็ว่าอื้ม เมื่อวานนั่งรถเมล์ผ่านเห็นมีคนนั่งเยอะดี ก็เลยตอบตกลง และพวกเราก็เลยเลือกที่จะเดินจากมอไปทันที เหนื่อย และเมื่อยอีกแล้วครับท่าน มันไม่ไกลนะ แต่อ้วนไง เลยอึดอัดและเหนื่อยง่าย แต่พอถึงบนสะพานแล้วมันก็รู้สึกดีขึ้น ได้ลมเย็นๆ นั่งชิวๆ สนุกดีเหมือนกันฮะ พอนั่งสักพัก เพื่อนก็เลยชวนเดินกลับหออีก จริงๆผมก็เหนื่อยแล้วนะ แต่ก็ไม่อยากขัดศรัทธามัน ก็เลยตกลงปลงใจไปตามระเบียบ แต่ที่แย่กว่านั้น เพราะวันต่อมามันก็ชวนทำแบบเดิมอีก


คือเดินกลับจากมอไปสะพาน แล้วเดินจากสะพานกลับหอที่จรัญ TOT   แต่ก็สู้วะ เพื่อเพื่อนเลยนะเว้ยย  และก็เผื่อ นน.จะลดอีกด้วย

จนภายมาได้เกือบสองอาทิตย์ ผ่านพ้นเทศกาลรับน้องไป พีมก็เลยได้โอกาสมาชั่งนน.ดู ลึกๆก็หวังว่าตัวเลขคราวนี้คงจะ เหลือสองหลักสักทีนะ หึหึและแล้วววววววววววว 


มันก็............... 103.2 กก.   คือเห้ไรวะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  สองอาทิตย์ที่เดินกลับ ลดลงไปแค่โลเดียว แน่นอนว่าหลังจากวันที่ชั่ง พีมก็เลยล้มเลิกที่จะใช้วิธีนี้อีกเลย ผมเฟลมากอะ ทั้งเหนื่อยทั้งน้อยใจวะ!!!!! พอกันที ในเมื่อเลิกอ้วนไม่ได้ ก็ปล่อยมันนไป Let it go กันเลยทีเดียว









อดอาหารและกินผักต้ม : 

วิธี้นี้มีเพื่อนในเอกแนะนำมาฮะ คือบอกว่าดารามักใช้วิธีกันเวลาที่ต้องการควบคุมนน. ตอนแรกก็ไม่สนใจหรอกคับ คือ กินอร่อยๆทุกวันจู่ๆจะให้มาอด คงยากวะ แต่จนกระทั่งเทศกาลกินเจฮะ พอดีว่าอยากทำบุญบ้างเผื่อฟลุ๊คตื่นมาแล้วผอม ก็เลยกินบ้าง โชคดีที่พีมเป็นคนอ้วนที่ถูกโรคกับผักเลยไม่ค่อยมีปัญหา กินไปกินไป เฮ้ยยมันอร่อยดีนี่หว่าาา 555555  พอหมดเทศกาลก็เลยยังซื้อมาต้มกินต่อ พอไปชั่ง นน.ลดเว้ยยยยยย  คราวนี้แหละได้ เลขสองหลักสมใจละคับบ 99.6 ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ห้าโล กับการกินผัก ไม่ต้องเหนื่อยวิ่ง ไม่ต้องเหนื่อยเข้ายิม ก็เลยคิดว่าวิธีนี้น่าจะเหมาะตัวเองแล้วละ แต่พอกินไปแบบเดิมต่ออีกอาทิตย์นึงปรากฎว่า นน.มันยังคงที่อะครับ เริ่มใจเสียอีกแล้ว คือทนกินข้าวกับผักต้ม น้ำพริกมาตั้งหลายวันทำไมถึงไม่แสดงผลเลยวะเฮ้ย พอไปถามเพื่อนฮะ มันก็ฟาดกะบาลเข้าให้ บอกว่า ต่อให้เมิงกินไปอีกเป้นปีก็ไม่ลด เพราะสิ่งที่ทำให้เมิงอ้วนมันคือ ข้าวสามจานที่ยัดลงท้องไปต่างหาก - คะวายยย!!!!!




คราวนี้แหละฮะ -หมูตอนก็เลยบรรลุทางธรรม !!!!!!! เอาวะ!! สักวันจะต้องผอมให้ได้ อดเป็นอด ตั้งใจจะกินข้าวแค่วันละมื้อเท่านั้น [อย่าทำตามนะฮะอันตรายมาก] ถามว่าทำได้ยังไง ไม่หิวหรอ? ใช้การนอนเข้าช่วยสิฮะ เวลาไปเรียนก็จะกินแค่มื้อเที่ยง!!! กลับมาก็นอนนนนเลยย หลับๆลืมๆไปว่าหิววว พรุ่งนี้ก็ค่อยกินนน ส่วนวันหยุด ก็พยายามนอนให้ดึกๆเข้าไว้ฮะ เพราะดึกๆต่อให้หิวแค่ไหนก็ขี้เกียจลงไปซื้อ เซเว่นไกลอยู่! และตอนกลางวันก็จะนอนให้นานที่สุด ตื่นมาช่วงเย็นๆ ก็ค่อยไปหาข้าวกินเอา สุดๆไปเลยกับความพยายาม 555555555

และผลที่ได้รับนั้นคือ นน. อีกแล้วครับท่าน คือ คราวนี้ลงมากที่สุดเลย อะ ถึง 92 ทั้งที่ใช้เวลาไปแค่อาทิตย์กว่าเอง แต่ยอมรับฮะ ว่าร่างกายที่โทรมมาก ไม่มีแรงจะไปไหนเลย เพลียๆทั้งวัน ไปเรียนก็เบลอๆไม่รู็เรื่องเลย มือและเท้านี่สั่นจนเพื่อนรู้สึกได้อะ แต่ยังไงละ มันผอมจริงก็เลยต้องยอมแลกวะ!!!!!!!!  ทำต่อได้อีกอาทิตย์ นน.ก็แตะมาที่ 89 ฮะ บอกเลยว่ายิ้มจนแก้มปริ ถึงแม้ว่าสภาพหนังหน้าจะดำคล้ำสุดๆ ปากนี่แห้งมากเลยฮะ ทั้งๆที่ก็กินน้ำเยอะอยู่นะ แถมปวดหัวบ่อยมาก หงุดหงิดด้วย ช่วงนั้นจึงเลือกที่จะอยู่คนเดียวบ่อยๆ หมักหมมกับตัวเองจนป่วยหนักเลยฮะ นอนซมไข้เกือบสองอาทิตย์ ทั้งเหนื่อยทั้งตัวร้อนทั้งอาเจียน ท้องก็ปวด มันผสมกันไปหมด ยอมรับเลยฮะตอนนั้น คิดว่า ตาย กรูตายแน่!!!!!! เพือนก็เลยต้องลำบากไปหาข้าวหายามาให้กินยกใหญ่ เพื่อบำรุงให้หมูกลับมาแข็งแรง พีมเลยรู้ว่าวิธีนี้ แม่งเสี่ยงเกินไปจริงๆ ก็เลยกลับมากินข้าวปกติ แต่ก็เลือกกินเฉพาะที่ไม่อ้วน เน้นผัก เน้นผลไม้ส่วนใหญ่

น้ำหนักเลยขึ้นๆลงๆ อยู่ที่เลขเก้า











ยาลดน้ำหนักของคลีนิค :


บอกแบบไม่โกหกฮะ แต่ก่อนไม่เคยมีความคิดนี้เข้าในหัวฮะ แต่ช่วงปิดเทอมก่อนขึ้นปีสี่คือไปสมัครงานฮะ แล้วคือเขาไม่รับเลย ทั้งๆที่ก่อนไปเราก็ถามแล้วว่า พี่ครับ เลือกหุ่นไม่ เขาก็บอกว่าไม่ แต่พอนัดไปดูตัว ก็เอาแต่เซย์โนทุกร้าน เสียใจมากคับ คือเขาบอกเราว่าเต็มแล้ว แต่เลือกรับคนผอมที่มาสมัครหลังเราเข้าทำงาน!!!! โคตรน้อยใจตัวเองอะ กลัวไปหมดทุกอย่าง กลัวว่าอีกไม่นานจะต้องไปฝึกงานของมหาวิทยาลัยแล้ว จะหาที่ฝึกได้ไหม จบไปจะมีงานทำไหม????  ความคิดอยากลดน้ำหนัก อยากผอมจึงกลับมาอีกฮะ แต่คราวนี้ได้เจอกับเพื่อนคนนึงต่างคณะ ซึ่งสนิทกันพอสมควร เห็นมันมาเล่าให้ฟังว่าน้องในเอก เนี่ย แต่ก่อนหุ่นเท่าพีมเลย แต่พอลองกินยาของมันที่เอามาจากคลีนิคอะ สามเดือนเท่านั้น จากไซส์ สองxL ก็เหลือไซส์ เอ็ม O.O คืออึ้งมากฮะ บร๊ะเจ้าาาาา น้องแม่งลดโหดไปนะ


แน่นอนว่าพีมที่กำลังคิดมาก จึงสนใจยาของเพื่อนเลยทันที แต่ใจนึงก็กลัวนะฮะว่าจะมีผลข้างเคียงหรือจะโยโย่ป่าววะ ไม่ใช่พอเลิกกินแล้วกลับมาหนักกว่าเดิมนะเว้ยย เหมือนเพื่อนมันก็ดูออกอะคับ มันเลยบอกว่าให้ลองไปกินสักชุดก่อน กินวันสลับวันก็ได้ ถ้ามีอาการอะไรแปลกก็ให้บอกมัน แล้วจะให้เงินคืน  [มีการรับประกันคุณภาพด้วยนะเนี่ย] พีมก็เลยว่าเอาก็เอาวะ ไหนๆก็แค่ชุดเดียว ถ้ามีอาการก็ค่อยมาเอาเงินคืน หึหึ [แอบงก] ยาที่ได้มาเป็นยาชุดฮะ กินเช้าสองเม็ด[แคปซูล] ก่อนนอนอีกสองเม็ด 

วันแรกที่กินคือรู้สึกได้เลย ว่าร้อนๆฮะ เหงื่อนี่ออกมาท่วมเลยอะ ข้าวก็กินปกตินะฮะ แต่พอกินไปสักมื้อเหมือนมันจะอยู่ได้นานขึ้น ไม่ค่อยหิว [หรือคิดไปเอง] ไม่ปวดหัว ไม่ขาสั่น ไม่หน้ามืด แต่สิ่งที่เป็นคือเหงื่อฮะ ออกมาอย่างกับท่อน้ำแตก แบบว่านอนกลางคืนแล้วตื่นมาตอนเช้า นี่เตียง ผ้าห่ม ผ้าปู นี่เปียกมากกกก ตกใจนึกว่านอนฉี่ใส่ที่นอนที่ไหนได้ เหงื่อครับเหงื่อ !!!! [เปิดแอร์นอน] ตกใจกลัวตายฮะ เลยรีบคว้าโทรศัพท์ไปหาคนขายมัน ถามว่ากรูเหงื่อออกอย่างกับน้ำตก ยาเมิงทำอะไรวะเนี่ยยยย  ส่วนมันก็หัวเราะลั่นแล้วบอกว่า มันเป็นการเผาผลาญไขมันในร่างกายนะ และพีมอ้วนมากเลยผลาญเยอะไปหน่อย และวันนั้นมันก็คะยั้นคะยอให้ไปลองชั่งน้ำหนักดู -เราก็ไม่บ้าจี้หรอกฮะ คือกินไปแค่วันเดียวจะลดเลยหรือไง ตลก?








ผ่านมาห้าวันละหะ เหงื่อนี่ยังคงย้อยแบบสุด นั่งเฉยๆก็ออก อาบน้ำเสร็จมานั่งตากแอร์ก็ออก แค่รำคาญมากฮะ ช่วงนั้นจะออกไปข้างนอกนี่ต้องเตรียมผ้าขนหนูไปไว้เช็ดได้เลย เพื่อนๆในแก๊งค์ก็เอาแต่แซวว่า พีมเมิงไปอาบน้ำมาหรอ??? [อาบน้ำพ่องงงง!!!!!] ช่วงนั้นตั้งเพิ่งแอร์ 20 องศาอย่างเดียวเลยฮะ แต่สิ่งที่สัมผัสได้อีกอย่าง เรื่องกินฮะ มันไม่ค่อยหิวเลย แถมยังรู้สึกขี้เกียจลงไปเจอแดดร้อนๆอีก วันนั้นทั้งวันพีมเลย เอาแต่เล่นคอม ทำการบ้าน อ่านการ์ตูนอยู๋แต่ในห้อง จนกระทั่งมารู้สึกตัวอีกทีก็สี่ทุ่ม คือ นี่กรูยังไม่ได้กินข้าวเลยนี่หว่า เริ่มเอะใจแล้วฮะ จึงโทรไปถามเพื่อนอีกตามเคย แต่คราวนี้มันกลับตอบมาเสียงไม่พอใจ [กรูทำไรผิด] มันตะคอกให้ไปกินข้าวเดี๋ยวนี้เลย มันบอกว่ากลายพีมตายอยู่ในห้อง ถ้ายังไม่กินข้าวกินปลาอีกก็เลิกกินไปเลยยานะ -เราก็จ๋อยครับ เดินไปหาข้าวกินอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว





และพอมาถึงร้านข้าวพี่ที่สนิทกัน ก็ทักขึ้นมาทันที ว่า เฮ้ยยไปทำไรมา ทำไมผอม? ในใจก็เลยคิดว่า เอาอีกแล้ว ทักว่าผอมอีกแล้ว ทักแบบนี้ทีไร ได้กลับมาอ้วนทุกที -เราก็เลยยิ้มๆ บอกว่าไม่ผอมหรอก แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยออกไปไหนแดดร้อนนนน พอกินข้าวเสร็จ -เราก็เลยตะหงิดใจอยากจะชั่งนน.ดู ตอนแรกกะจะให้ครบอาทิตย์ก่อนไงแล้วค่อยชั่ง แต่มันก็ทำใจไม่ได้จริงๆ ล้วงเหรียญแล้วกระโดดขึ้นไปบนตาชั่งทันที  ปรากฎว่า..................85.4 นน. อึ้งตะลึงงง!!!ไปพักใหญ่เลยย  พยายามข่มอารมณ์ไว้ ไม่จริงใช่ไหม ตาชั่งเสียป่าววะเนี่ยยยย!!!!!





เลยตัดสินใจวิ่งไปชั่งอีกตัวนึง ปรากฎว่า มันเท่าเดิม ชัวร์แล้วละ นน.ลดจริงๆแล้วละ จำได้ดีเลยว่าโทรไปโม้ทุกคนยกใหญ่เลย ว่ากรูนน.เหยียบเลขแปดแล้วเว้ยยยยย แถมไม่เหนื่อยไม่โทรมไม่อดด้วยย  รู้สึกปลื้มกับยาจริงๆนะฮะตอนนั้น เลยโทรสั่งกับเพื่อนคนเดิมอีกสามชุด กะกินให้ได้เดือนนึง [ชุด=อาทิตย์] และก็กินมาเรื่อยๆฮะ ข้าวปลาก็กินปกติ น้ำหนักก็ลงเรื่อยๆ ช่วงนั้นคือรู้เลยว่าผอมลงจริง เพราะกางเกงหลวมไปสองนิ้ว จึงเริ่มมีแรงฮึกสู้แบบเต็มสปรีทเลย หาทุกวิธีที่จะลดน้ำหนักไม่ให้กลับไปอ้วนอีก [คือกลัวโยโย่จากยาไงฮะ] ก็เลยไปเจอบล็อกหนึ่งที่พี่อะไรน่า..จำชื่อไม่ได้=_= แต่เขียนไว้ดีมากเลยคับ แกบอกว่าแกใช้บาลดเหมือนกัน แต่ใช้อย่างมีสติ ถึงเวลาเลิกควรเลิกฮะ จะได้ไม่อันตราย และก็หันมาเข้ายิม และควบคุมอาหารช่วยอีกทาง จะทำให้ผอมอย่างถาวร ทันใดนั้นเอง -พีมคนนี้ก็เลยตั้งปณิธานว่า จะใช้ยาจนน้ำหนักเหลือ80 หลังจากนั้นก็จะหยุด และจะเข้ายิมทุกๆวันหลังเลิกเรียน ส่วนอาหารก็จะเน้นกินผักต้ม ลดข้าวให้น้อยลง !!!!!!!  






รูปตามลำดับ
















คือสรุปว่าเอาทุกวิธีที่เคยทำมา มาช่วยกันหมดฮะ ยกเว้นวิ่งบนสะพาน เพราะไม่ค่อยมีเวลาจริงๆ  ทำมาได้เดือนกับอีกอาทิตย์นึง ยาลอตแรกหมดแล้วฮะ ก็เลยพักไปอาทิตย์นึง ให้ไตได้พักก่อน ไปชั่งนน.อีกแล้วววว [จริงๆก็ชั่งมาตลอดแหละฮะ มีลดบ้าง ค้างที่เดิมบ้าง แต่ไม่ขึ้น]แน่นอนว่าคราวนี้-พีมสมหวังแล้ววววว 79.8 นน. ค่อนข้างจะพอใจกับตัวเลขมากฮะ









ไปไหนมาไหนตอนนี้ก็มีแต่คนทักมากขึ้น คือผอมลงชัดจากเดิมมากคับ ตัวเองนี่รู้ดีเพราะเสื้อผ้านี่ใส่ยากมากก แต่เอาเอวเข้าเยอะมาก เสื้อนี่ที่เคยใส่แล้วพอดีตัว ตอนนี้ก็หลอมย้วยไปหมดฮะ  เอว จาก 43 เหลือ 37 แน่นอนว่าเห้นผลขนาดนี้ ต่อให้พีมต้องทำยังไง พีมก็ไม่ยอมกลับไปนน.ร้อยโลอีกแน่ๆ เข็ดหลาบจริงๆ 













ปัจจุบัน ยาชุดยังติดตัวอยู่บ้างนะฮะ แต่ไม่ค่อยได้กินแล้วว  คือจะกินถ้าวันไหนมีงานเลี้ยงหรือวัดเกิดเพื่อนไรแบบนี้ ถ้ารู้ตัวว่าจะกินเยอะ ก็จะดักไว้ก่อน เคยหยุดกินยามาเกือบสองอาทิตย์ด้วยนะฮะ นน.ไม่ลด และไม่ขึ้น ค้างที่เดิม และก็ไม่มีอาการใดๆ [แต่ก็ไม่แนะนำนะ มันอันตรายอยู่แหละฮะ] [คงไม่มีใครดราม่ากับผมใช่ไหม TT]











ตอนนี้ พีมน้ำหนัก 70 ฮะ เพิ่งช่างเมื่อวาน ส่วนเอวเหลือ 34-35 ค่อนข้างพอใจมากฮะ แต่ยังคงหาเวลาไปฟิตเนสตลอดนะฮะ แต่คงไม่บ่อยเหมือนแต่ก่อน เพราะวุ่นๆเรื่องโปรเจคจบและฝึกงาน ส่วนเรื่องกินก็ยังคุมแบบเดิม ไม่ค่อยลำบากเมื่อแรกๆ เพราะร่างกายเริ่มปรับตัวได้ ยาก็ไม่ต้องเพิ่งเหมือนแต่ก่อนทุกวัน เหงื่อก็ลดลง จนเหมือนคนทั่วไปแล้ว [พูดเหมือนเราไม่ปกติ] นับระยะเวลาที่กินยา มาถึงตอนนี้ ก็สี่เดือนเข้าห้าเดือนแล้วฮะ ลดไป ทั้งหมด 20กว่ากิโลได้ และตั้งใจว่าจะเหลือสัก 65 หรือ 60 กำลังพอดี ยังไงก็เอาใจช่วยหมูพีมด้วยนะฮะ ^___^







สุดท้ายนี้ พีมไม่ได้จะมาโฆษณาหรือรีวิวอะไร แต่อยากจะเป้นกำลังให้กับคนที่อ้วนและพยายามลดมาแทบทุกวิธ๊แล้วเหมือนพีม ยังไงก็อย่าเพิ่งหมดหวังนะฮะ เราอาจจะล้มเหลวแต่ไม่ใช่ว่าเราจะไม่มีทาง ดังนั้นความพยายามนี่แหละจะช่วยเราเองครับ ลองเอาวิธีต่างๆที่เคยทำมาประยุกต์ดูก็ได้นะฮะ เดินทางสายกลาง ไม่ตึงเกินไป หรือไม่หย่อนเกินไป ทำใน-ส่วนที่พอดี รับรองฮะว่ามันจะต้องเห็นผล


FB : https://www.facebook.com/khunpepo.ruchphet


เอาเป็นว่าพีมขอจบเรื่องราวของตัวเองแค่เท่านี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอุทาหรณ์และเป็นกำลังใจให้คนที่อยากลดน้ำหนักทุกคนฮะ ^O^

P.S. ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ด้วยนะฮะ

แสดงความคิดเห็น